ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัย ราชมงคล ล้านนา ปัจจุบันทำงานเป็นอาจารย์ประจำ และใช้เวลาว่างในการทำช่อง Youtube "แมวนูน" ในการรีวิว Gadget และ เครื่องเล่นเกมใหม่ ๆ เพื่อเติมเต็มความชอบส่วนตัวที่มีมาตั้งแต่เด็ก ๆ และติดตามข่าวเกมเป็นประจำ ทั้ง PlayStation, Nintendo, XBOX อีกทั้งยังชอบดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือและการ์ตูน
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
"เมาส์" ถือเป็นอุปกรณ์ไอทีประเภทหนึ่งที่จำเป็นต้องใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก ซึ่งเมาส์ที่นิยมใช้กัน ณ ตอนนี้จะมีเมาส์แบบ Optical ที่ใช้การสะท้อนแสง เพื่อสั่งการเลือกไอเทมต่าง ๆ และเมาส์ที่เชื่อมต่อแบบ USB ผ่านการทำงานทาง Wi-Fi และ Bluetooth หรือบางรุ่นจะเป็นแบบไม่ต้องใช้ USB โดยเมาส์เหล่านี้ไม่ต้องใช้แผ่นรองเมาส์
Logitech เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ทำเกี่ยวกับ Accessory คอมพิวเตอร์มานาน อย่างเมาส์ของทางแบรนด์ก็มีจุดเด่นที่ความคงทน ใช้ง่าย ไม่ยุ่งยากในการติดตั้ง แถมยังสะดวกสบายและสัมพันธ์กับสรีรศาสตร์ อีกทั้งยังมีระบบการรับประกันที่ยาวนานโดยเมาส์บางตัวสามารถใช้ได้ยาวนานถึง 5 ปี และมีศูนย์บริการอย่างเป็นทางการในประเทศไทย สามารถติดต่อและเคลมได้สะดวกเพียงแค่นำเมาส์ไปที่ร้านค้าเท่านั้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นก็คือตัวเมาส์และคีย์บอร์ดจนอาจจะเรียกได้ว่าเป็นสินค้าที่มีมาตรฐานที่ดีมาก ๆ เลยแบรนด์หนึ่งครับ
เมาส์ Logitech ที่เราเห็น ๆ กันทั่วไปมีหลากรุ่นหลายลักษณะ แต่แยกออกอย่างกว้าง ๆ ได้เป็นแบบไร้สายกับแบบมีสาย ซึ่งแต่ละแบบก็จะเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป ดังนั้น เพื่อให้ได้สินค้าตรงตามความต้องการ ลำดับแรกเรามาทำความเข้าใจถึงจุดสำคัญของการเลือกเมาส์กันก่อนดีกว่าครับ
เมาส์แบบไร้สายถือเป็นเมาส์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะใช้งานสะดวก เชื่อมต่อง่าย ไร้สายระโยงระยางกวนใจ แน่นอนว่า Logitech เองก็ขึ้นชื่อในเรื่องนี้เช่นกัน โดยจะแบ่งออกเป็น 3 แบบหลัก ๆ ดังนี้
สำหรับใครที่ชอบพกพาโน้ตบุ๊กออกไปทำงานนอกสถานที่ เราขอแนะนำเมาส์ Logitech ระบบ Wireless 2.4 GHz เลยครับ เพราะระบบนี้จะใช้ตัวรับสัญญาณ (Dongle) เสียบเชื่อมต่อกับเครื่องโน้ตบุ๊ก แล้วรับสัญญาณไร้สายเชื่อมต่อกับเมาส์อีกทีหนึ่งนั่นเอง ซึ่ง Logitech ก็ได้ออกแบบตัว Dongle มาให้มีขนาดเล็กพิเศษ ทำให้สามารถเสียบทิ้งไว้กับตัวคอมพิวเตอร์ แล้วเคลื่อนย้ายไปตามที่ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย
ข้อดีคือ ความเสถียรของสัญญาณที่ไม่ขาดเนื่องจากมีการเชื่อมต่อกับตัว Dongle ตลอดเวลาซึ่งแตกต่างจากระบบ Bluetooth ที่อาจจะมีการ Lag หรือการขาดหายของสัญญาณได้ แต่ในทางกลับกันการเลือกใช้เมาส์แบบมี USB Dongle จะทำให้เราต้องเสีย Port ไปหนึ่ง Port เพื่อเชื่อมต่อเมาส์ ซึ่งสำหรับคนที่ใช้โน้ตบุ๊กที่มีพอร์ตจำกัดอาจจะรู้สึกไม่ค่อยสะดวกเท่าไรนัก ต้องทำการหา USB Hub มาต่อเพิ่ม
ระบบ Unifying ถูกคิดค้นโดย Logitech เพื่อเชื่อมต่อเมาส์ Logitech ที่รองรับระบบ Unifying เข้ากับอุปกรณ์ไร้สายอื่น ๆ หลายชิ้นเข้าด้วยกัน โดยสามารถเชื่อมต่อร่วมกันได้สูงสุดถึง 6 เครื่องต่อ 1 USB ทำให้เหลือช่องสำหรับอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นอีกได้ และความสามารถของเมาส์ประเภทนี้จะคล้ายกับระบบบลูทูธ (Bluetooth) แต่มีความประหยัดพลังงานและมีการตอบสนองที่ดีกว่ามาก ไม่มีปัญหาดีเลย์มากวนใจอย่างแน่นอน
และอีกหนึ่งในข้อดีของการใช้อุปกรณ์แบบ Unifying คือการทำงานประสานกันของ Mouse และ Keyboard โดยไม่เปลือง USB Port เพื่อเชื่อมต่อผ่าน USB Dongle ได้ทั้งสองอุปกรณ์หรือมากกว่า อีกทั้งการทำงานยังมีการ Sync กันระหว่างอุปกรณ์ เช่น ไฟประดับที่มี Pattern ของแสงไฟ RGB ที่สัมพันธ์กันทั้งตัว Mouse และ Keyboard นั่นเองครับ
เมาส์ที่มีลักษณะอเนกประสงค์มากก็คือเมาส์ที่มีการเชื่อมต่อแบบบลูทูธ (Bluetooth) เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อได้กับหลากหลายอุปกรณ์และสามารถใช้งานได้ทันทีทั้งกับตัวแท็บเล็ต, สมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ก ไปจนถึงทีวี แถมไม่มีตัว Dongle ที่สร้างปัญหาให้กับการใช้งานหากเกิดการสูญหาย แต่ในทางกลับกัน การเชื่อมต่อแบบ Bluetooth นั้น หากคุณภาพของตัวรับส่ง Bluetooth ของอุปกรณ์ของคุณไม่ได้มาตรฐานก็อาจจะทำให้เกิดการขาดหายหรือการหน่วงของสัญญาณได้
หากต้องการความแม่นยำไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือว่าการทำงาน การเชื่อมต่อแบบมีสายก็ยังเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในการเลือกเมาส์ ด้วยการเชื่อมต่อลักษณะนี้ การทำงานก็จะไหลลื่น ไม่มีทั้งการ Lag และการขาดหายของสัญญาณ แต่ในทางกลับกัน เมาส์แบบมีสายก็มีข้อต้องพิจารณาคือ กินไฟจากตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำการเชื่อมต่อ ซึ่งหากเป็นเครื่องที่มีอายุแบตเตอรี่ไม่ยาวนานมาก อาจจะต้องพกปลั๊กไฟไปทำงานในที่ต่างๆ ซึ่งอาจจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไร และยังมีเรื่องของสายเมาส์ที่อาจทำให้ไม่สะอาดตาอีกด้วย
เชื่อว่าหลายคนต้องเคยนั่งทำงานหรือใช้คอมพิวเตอร์ในสถานที่ที่ห้ามใช้เสียงหรือมีผู้คนเป็นจำนวนมาก ทำให้คุณรู้สึกไม่อยากใช้เมาส์เพราะกลัวเสียงคลิกจะไปรบกวนผู้อื่น แต่ปัญหานี้จะหมดไปหากคุณเลือกเมาส์ Logitech แบบไร้เสียง หรือ Silent Mouse ซึ่งเมาส์แบบไร้เสียงจะทำให้คุณสามารถใช้งานเมาส์ได้อย่างอุ่นใจ เนื่องจากเมาส์ชนิดนี้จะไม่มีเสียงเวลาคลิก ไม่ว่าจะใช้แรงในการคลิกเพียงใดก็ตาม แต่คุณอาจจะไม่ชินกับการใช้เมาส์ Logitech แบบไร้เสียงในช่วงแรก ๆ เท่าไรนัก เพราะน้ำหนักในการคลิกจะแตกต่างจากเมาส์ทั่วไป แต่เมื่อใช้งานจนชินแล้วคุณอาจจะถูกใจจนไม่อยากกลับมาใช้เมาส์ธรรมดาอีกเลยครับ
ในปัจจุบัน เมาส์มีทั้งรูปแบบชาร์จได้ซึ่งมีข้อดีคือไม่ต้องใช้ถ่าน มีน้ำหนักเบา แต่อาจจะสร้างปัญหาได้หากไม่ได้เตรียมการชาร์จไว้หรือแบตเตอรี่เสื่อม และรูปแบบใช้ถ่านซึ่งมีข้อดีคือ เปลี่ยนถ่านได้เรื่อย ๆ ใช้งานได้เร็วโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย ๆ สำหรับหลายคนอาจจะรู้สึกชอบน้ำหนักของเมาส์ที่มีถ่าน เพราะจัดได้ถนัดกว่า กระชับกว่า แต่ในทางกลับกันหากใช้พกพาเดินทางบ่อย ๆ อาจเพิ่มน้ำหนักในกระเป๋าทำงานของเราได้ ก่อนซื้อลองพิจารณาว่าคุณอยากได้เมาส์ที่มีการใช้พลังงานแบบใดและอายุการใช้งานของเมาส์ต่อการชาร์จหรือการเปลี่ยนถ่านหนึ่งครั้งอยู่ได้นานเท่าใดด้วยนะครับ
เซนเซอร์ของเมาส์ Logitech มีอยู่ 4 ระบบ ได้แก่ เมาส์แบบใช้แสง (Optical), เมาส์แบบเลเซอร์ (Laser Grade Tracking), เมาส์แบบอินฟราเรด(Invisible Laser Tracking) และเมาส์แบบใช้เทคโนโลยี Darkfield ซึ่งแต่ระบบจะแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ไปดูเลยกันครับ
สำหรับคนที่ใช้แผ่นรองเมาส์เป็นประจำอยู่แล้ว ขอแนะนำให้ลองเมาส์ระบบใช้แสงหรือ Optical กันดูครับ ซึ่งเป็นการใช้แสงหรือออปติคอลในการตรวจจับความเคลื่อนไหวของเมาส์ โดยการอ่านค่าตามแสง LED ที่ติดตั้งอยู่ด้านในตัวเครื่อง ทำให้เมาส์ชนิดนี้มีราคาไม่แพงและหาซื้อได้ง่าย แต่ระบบนี้ก็มีข้อด้อยคือ แสงไฟ LED ของ Optical Mouse ไม่ได้เข้มข้นมากนัก ทำให้ไม่สามารถฉายได้บนทุกพื้นผิว หากใช้เมาส์แบบ Optical บนพื้นผิวที่มีความลื่นหรือมันวาว ตัว Cmos Sensor จะไม่สามารถจับสัญญาณของแสงได้ดีนัก ทำให้การใช้งานส่วนใหญ่ของเมาส์ในลักษณะนี้ยังต้องการแผ่นรองเมาส์เป็นอุปกรณ์เสริมครับ
เมาส์ชนิดนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาลบล้างข้อด้อยของเมาส์แบบ Optical มีระบบการทำงานคล้ายคลึงกัน แต่จะปรับเปลี่ยนระบบการจับการเคลื่อนไหว ซึ่งเรียกกันว่า Laser Grade Tracking (LGT) กล่าวคือ แทนที่จะจับการเคลื่อนไหวจากแสงด้านบนเหมือนระบบ Optical แต่กลับออกแบบให้ปรับมุมแสงเลเซอร์จากการสะท้อนกลับ (สังเกตได้จากรูปภาพข้างบนด้านขวา) ซึ่งทำให้เมาส์จับความเคลื่อนไหวได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
แต่สำหรับใครที่ยังไม่พอใจเรื่องความไวและความเสถียรของเมาส์อยู่ล่ะก็ Logitech ยังมีเมาส์ระบบอินฟราเรด (Invisible Laser Tracking) ซึ่งสามารถใช้งานได้บนพื้นผิวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นกระจกหรือพื้นมันเงาก็ใช้งานได้อย่างลื่นไหลโดยไม่ต้องพกแผ่นรองเมาส์ไปทุกที่เลยครับ
ตัวเลเซอร์ Darkfield ของ Logitech สามารถใช้งานได้ทุกพื้นผิวแม้แต่กับผิวที่เป็นกระจก โดยการทำงานจะเป็นการตรวจจับอนุภาคของฝุ่นขนาดเล็กที่เราไม่สามารถมองด้วยตาเปล่า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการส่องกล้องขนาดเล็กที่ใช้ในห้องทดลอง แล้วส่งสัญญาณกลับมาที่ตัวเมาส์เพื่อทำการ Track การเคลื่อนไหว หากคุณกำลังมองหาเมาส์ที่ใช้ได้กับโต๊ะกระจกโดยที่ไม่ต้องการใช้แผ่นรองเมาส์ เมาส์ที่รองรับ Darkfield เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เมาส์ที่มีระบบนี้ก็จะมีราคาสูงกว่าระบบอื่น ๆ ตามมาด้วยครับ
หากคุณใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำ การพิจารณาใช้เมาส์แบบ Trackball เป็นทางเลือกที่ดีกว่าในแง่สุขภาพ เนื่องมาจากการใช้ Trackball ไม่ต้องเคลื่อนข้อมือ เพียงแค่ใช้เพียงนิ้วมือเท่านั้น แตกต่างจากการใช้เมาส์ที่ต้องใช้ทั้งข้อมือและแขนซึ่งทำให้เกิดการเกร็งของกล้ามเนื้อ จึงเป็นการช่วยลดอาการเมื่อยล้าที่ข้อมือ (Wrist-based RSI) และยังเหมาะกับการทำงานหรือการเล่นเกมเป็นเวลานานได้ดีมาก เพราะช่วยบรรเทาความเมื่อยล้าได้ดี แถมยังไม่จำเป็นต้องใช้แผ่นรองเมาส์และยังสามารถใช้งานในพื้นที่ที่จำกัดได้อีกด้วย
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | ราคา | คะแนน | |
---|---|---|---|---|---|
1 | Logitech เมาส์ Logitech รุ่น MX Master 3 | 3,990 บาท ราคาค่อนข้างสูง | Working Mouse ตัวท็อป ใช้งานได้นาน ลดอาการปวดข้อมือ | ||
2 | Logitech เมาส์ Logitech รุ่น MX Anywhere 3 | 2,590 บาท ราคาค่อนข้างสูง | เชื่อมต่อได้ 2 รูปแบบ สำหรับสายทำงานทั้งที่บ้านและออฟฟิศ | ||
3 | Logitech เมาส์ Logitech รุ่น G Pro x Superlight | 4,350 บาท ราคาค่อนข้างสูง | ออกแบบมาเพื่อเล่นเกมโดยเฉพาะ น้ำหนักเบาเพียง 63 กรัม | ||
4 | Logitech เมาส์ Logitech รุ่น G Pro | 3,250 บาท ราคาค่อนข้างสูง | เกมเมอร์นิยมเลือกใช้ ปรับ DPI ได้สูงถึง 25,600 DPI | ||
5 | Logitech เมาส์ Logitech รุ่น M590 | 1,299 บาท ราคาปานกลาง | ใช้งานแบบเงียบ ๆ ไม่รบกวนใคร ด้วยเทคโนโลยี SilentTouch | ||
6 | Logitech เมาส์ Logitech รุ่น Pebble M350 | 649 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | มีให้เลือกใช้งานหลากหลายสี เหมาะสำหรับคนมือเล็กหรือผู้หญิง | ||
7 | Logitech เมาส์ Logitech รุ่น POP | 809 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | ใช้งานได้ทั้งผู้ที่ถนัดซ้ายและขวา ใช้งานพร้อมกันได้ 3 เครื่อง | ||
8 | Logitech เมาส์ Logitech รุ่น G304 | 1,390 บาท ราคาปานกลาง | เมาส์เล่นเกมคุณภาพ ราคาดี ปรับ DPI ได้ถึง 12,000 DPI | ||
9 | Logitech เมาส์ Logitech รุ่น G502 Hero | 1,399 บาท ราคาปานกลาง | ฟังก์ชันครบครัน ใช้งานปุ่มได้มากถึง 11 ปุ่ม ปรับแต่งน้ำหนักได้ | ||
10 | Logitech เมาส์ Logitech รุ่น G102 Lightsync | 600 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและความสวยงาม ราคาเข้าถึงง่าย |
เรียกได้ว่าเป็นเมาส์แบบ Working Mouse ที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานโดยเฉพาะกับ MX Master 3 โดยความพิเศษของเมาส์รุ่นนี้คือ มีการดีไซน์ลักษณะเมาส์ที่มีเอกลักษณ์ ปรับให้เข้ากับสรีระของฝ่ามือ ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน พร้อมทั้งยังย้ายปุ่ม Scroll มาไว้บริเวณนิ้วโป้ง ช่วยลดการขยับข้อมือเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานครับ
นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้พร้อมกัน 3 เครื่อง ช่วยให้การทำงานลื่นไหล สลับไปใช้อุปกรณ์อื่นได้ สามารถปรับระดับ DPI ได้ตั้งแต่ 200 - 4,000 DPI อีกทั้งยังมี Software Logitech Option ที่ช่วยปรับแต่งปุ่มของเมาส์ให้ใช้งานเข้ากับโปรแกรมต่าง ๆ เช่น Microsoft, Adobe, Chrome หรือ Zoom เป็นต้น ใช้งานได้นานถึง 70 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
Logitech MX Anywhere 3 เป็นเมาส์แบบไร้สายที่สามารถใช้งานได้หลากหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน, ออฟฟิศ หรือสถานที่ต่าง ๆ มาพร้อมเซนเซอร์ Darkfield ที่มีความแม่นยำสูงช่วยให้ใช้งานได้กับพื้นผิวหลาย ๆ แบบ ทั้งยังถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก กะทัดรัด และเข้ากับฝ่ามือ ทำให้ขณะใช้งานไม่มีอาการเมื่อยเกิดขึ้น โดยสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งแบบ Wireless และ Bluetooth ครับ
ในด้านของฟังก์ชันการใช้งานตัวเมาส์มีปุ่มทั้งหมด 6 ปุ่มและลูกกลิ้งแบบ MagSpeed ช่วยให้การเลื่อนขึ้นลงมีความแม่นยำ สามารถปรับแต่งได้ใน Software ของ Logitech และยังเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกัน 3 เครื่อง สลับไปมาได้แบบไม่มีสะดุด มาพร้อมฟังก์ชันการชาร์จเร็วผ่าน USB-C เพียง 1 นาทีใช้งานได้ 3 ชั่วโมง แต่ถ้าชาร์จเต็มจะใช้งานได้นานถึง 70 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้งครับ
สำหรับใครที่กำลังมองหาเมาส์เล่นเกมน้ำหนักเบา มีความเสถียรสูง เราขอแนะนำ Logitech G Pro X Superlight รุ่นนี้เลยครับ เพราะเป็นเมาส์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ โดยตัวเมาส์จะมาพร้อมเซนเซอร์ HERO 25K ที่มีความแม่นยำและรวดเร็วในทุก ๆ วินาที เชื่อมต่อไร้สายแบบ Lightspeed ทำให้มีความเสถียรเหมือนกับเมาส์แบบมีสาย
ด้วยความที่เป็นเมาส์เล่นเกมจึงมีน้ำหนักเพียง 63 กรัม ซึ่งถือว่าเบามาก ๆ สำหรับการเล่นเกม สามารถปรับค่า DPI ได้สูงถึง 25,600 DPI และมีการดีไซน์มาแบบเรียบหรู ไม่มีไฟ RGB เหมือนเมาส์เล่นเกมรุ่นอื่น ๆ ใช้งานได้นาน 70 ชั่วโมง แต่มีข้อควรระวังในการใช้งานเล็กน้อย เนื่องจากพื้นผิวเป็นวัสดุแบบ PTFE ผู้ใช้จึงควรหาแผ่นรองเมาส์มาใช้งานควบคู่เพื่อให้เมาส์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
เมาส์เกมมิ่งอีกหนึ่งรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงนักแข่งหลายคนเลือกใช้กับ Logitech G Pro ตัวเริ่มต้น ที่ใช้เซนเซอร์ HERO 25K ซึ่งมีความแม่นยำ รวดเร็ว และประหยัดพลังงาน โดยสามารถปรับค่า DPI หรือความไวเมาส์ได้ตั้งแต่ 100 - 25,600 DPI และมีความเร็ว 400 IPS น้ำหนักเบาเพียง 80 กรัม ช่วยให้คุณใช้งานได้แบบลื่นไหล ขยับเมาส์ได้อย่างอิสระ
นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีไฟ Lightsync RGB บริเวณโลโก้ตรงกลางตัวเครื่องที่สามารถปรับแต่งสีและเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ได้ตามต้องการ ทำให้เมาส์รุ่นนี้มีความสวยงาม โดดเด่น ถูกใจเกมเมอร์และโปรเพลเยอร์หลายคน อีกทั้งยังมีปุ่มการใช้งานมากถึง 8 ปุ่ม พร้อมการปรับแต่ง ตั้งค่าปุ่มต่าง ๆ ด้วยโปรแกรม Logitech Option อีกด้วย
Logitech M590 หรือ Logitech Mouse Wireless M590 Multi Device Silent เป็นเมาส์ที่มีความพิเศษเรื่องของเสียง เพราะในรุ่นนี้ทางผู้ผลิตได้ใช้เทคโนโลยีพิเศษอย่าง SilentTouch ที่ช่วยให้ขณะใช้งาน ปราศจากเสียงคลิกเมาส์ ทำให้ไม่รบกวนผู้อื่นบริเวณใกล้เคียง โดยสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งแบบ Wireless Unifying และ Bluetooth
นอกจากนี้ยังมีขนาดกะทัดรัด มาพร้อมเทคโนโลยีเซนเซอร์แบบ Logitech Advanced Optical Tracking ช่วยให้การเคลื่อนที่เมาส์มีความแม่นยำ เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์ได้ทั้ง macOS และ Windows ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเครื่องยังรองรับเทคโนโลยี Logitech FLOW™ ที่ช่วยในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้ทันทีโดยไม่ต้องฝากไฟล์ไว้บนเว็บไซต์
หากคุณเป็นคนที่มีลักษณะฝ่ามือเล็กหรือเป็นผู้หญิงแล้วต้องการเมาส์ที่สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ Logitech Pebble M350 ถือเป็นเมาส์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้ดีอีกหนึ่งรุ่น เนื่องจากเมาส์รุ่นนี้มีการดีไซน์มาแบบเรียบแบน น้ำหนักเบา จับถนัดมือและใช้งานง่าย เหมาะสำหรับคนฝ่ามือเล็กโดยเฉพาะ รวมทั้งยังมีสีสันให้เลือกหลากหลาย
ที่สำคัญคือ มาพร้อมเทคโนโลยี SilentTouch เช่นเดียวกับรุ่น M590 ที่ช่วยให้ขณะใช้งานมีเสียงคลิกเมาส์แบบเบามาก ๆ ลดเสียงได้มากถึง 90% เลยทีเดียว ทำให้ไม่รบกวนคนรอบข้าง นอกจากนี้ตัวเมาส์ยังมีโหมดประหยัดพลังงานอัตโนมัติมาให้อีกด้วย โดยจะเปิดโหมดประหยัดพลังงานเมื่อผู้ใช้หยุดการใช้งานเมาส์ ส่งผลให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานเมาส์ได้นานถึง 18 เดือนเลยครับ
Logitech POP เป็นเมาส์ที่มีดีไซน์คล้ายกับรุ่น Pebble M350 โดยจะมีความหนาเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย และมีจุดเด่นคือมีปุ่มตรงกลางเมาส์สำหรับเรียกใช้งานอีโมจิช่วยให้ตอบแชทหรือข้อความด้วยอีโมจิไวขึ้น โดยมีให้เลือกใช้งานด้วยกันถึง 3 สี ได้แก่ สีเหลือง Blast, สีม่วง Daydream และสีชมพู Heartbreaker สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง Bluetooth และ Wireless ผ่าน USB Logi Bolt
ในรุ่นนี้นั้นสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์เพื่อใช้งานได้ 3 อุปกรณ์พร้อมกัน และสลับอุปกรณ์ด้วยการกดปุ่มบริเวณใต้ตัวเมาส์ ใช้งานได้ยาวนานด้วยถ่าน AA 1 ก้อน ซึ่งจะใช้งานได้นานถึง 24 เดือน มาพร้อมเทคโนโลยี SilentTouch ทำให้ไม่รบกวนคนอื่นขณะใช้งาน หากกำลังหาเมาส์ที่ดีไซน์น่ารัก สีสันสดใส Logitech POP เป็นอีกรุ่นที่น่าใช้งานครับ
เมาส์เล่นเกมราคาประหยัด ใช้งานแบบไร้สายกับ Logitech G304 โดยเมาส์รุ่นนี้รองรับการปรับแต่งค่า DPI ได้ตั้งแต่ 200 - 12,000 DPI เล่นเกมได้แบบลื่น ๆ ไม่มีสะดุด ใช้งานได้นานถึง 250 ชั่วโมง ต่อถ่าน AA เพียงหนึ่งก้อน และสามารถปรับแต่งการใช้งานปุ่มของเมาส์ให้เข้ากับโปรแกรมต่าง ๆ ด้วย Software Logitech Gaming Software อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเมาส์ยังมีขนาดที่ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป น้ำหนักตัวเครื่องประมาณ 99 กรัม ซึ่งดีไซน์ส่วนใหญ่จะเป็นแบบเรียบ ๆ สีเดียวตลอดทั้งตัวเครื่อง โดยจะมีให้เลือกใช้งานอยู่ 4 สี ได้แก่ สีดำ, สีขาว, สีม่วง และสีฟ้า แต่จะมีสีพิเศษที่ได้ทำร่วมกับเกมออนไลน์ชื่อดังอย่าง League of Legends ซึ่งจะใช้ชื่อว่า Logitech G304 K/DA ถือเป็นเมาส์ที่น่าสะสมอีกหนึ่งรุ่นสำหรับสาวกเกม LOL ครับ
เมาส์รุ่นนี้เหมาะสำหรับคนที่มีฝ่ามือใหญ่โดยเฉพาะ โดยจะมีดีไซน์ที่แปลกตาจากเมาส์รุ่นอื่น ๆ และด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมีลักษณะยื่นออกมารองรับนิ้วโป้งเพื่อลดความเมื่อยล้าขณะใช้งาน ซึ่ง G502 Hero จะมีจุดเด่นคือสามารถปรับปริมาณน้ำหนักตัวเครื่องได้เอง โดยบริเวณใต้ตัวเครื่องจะมีแม่เหล็กหนัก 3.6 กรัม ผู้ใช้งานสามารถปรับตำแหน่งเพื่อเพิ่มความสมดุลให้กับตัวเมาส์
นอกจากนี้ยังสามารถกดปุ่มได้มากถึง 50 ล้านครั้ง พร้อมปรับแต่งการตั้งค่ามาโครปุ่มได้ทั้งหมด 6 ปุ่มผ่าน Software ของ Logitech อีกทั้งยังมีฟังก์ชัน Lightsync RGB ที่ปรับเปลี่ยน Effect และแสงสีต่าง ๆ ให้เหมือนกับการแสดงผลหน้าจอช่วยเพิ่มอรรถรสขณะใช้งาน ที่สำคัญ ตัวเมาส์ยังสามารถปรับค่า DPI ได้ตั้งแต่ 100 - 25,600 DPI และมีการรับประกันนานถึง 2 ปีครับ
เรียกได้ว่าเป็นเมาส์เริ่มต้นสำหรับเกมเมอร์เลยก็ว่าได้กับ Logitech G102 Lightsync ตัวนี้ เนื่องจากเป็นเมาส์ที่มีคุณสมบัติครบครัน ทั้งในเรื่องฟังก์ชันการใช้งานและความสวยงาม โดยตัวเครื่องจะเป็นสีขาวหรือสีดำตัดกับไฟบริเวณโลโก้และเส้นรอบตัวเมาส์ พร้อมรองรับเทคโนโลยี Lightsync เหมือนชื่อรุ่นช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับตัวเครื่องดูสวยงามมากยิ่งขึ้น
อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบาเพียง 85 กรัม ใช้งานได้ทั้งคนถนัดซ้ายและถนัดขวา ปรับความไวเมาส์ได้สูงสุดที่ 8,000 DPI และสามารถตั้งค่าปุ่มได้ถึง 6 ปุ่มผ่าน Software และเนื่องจากเป็นเมาส์แบบมีสายจึงทำให้ไม่ต้องกังวลในเรื่องของการใช้งาน แต่ด้วยลักษณะของเมาส์ที่มีขนาดเล็กและเรียว อาจทำให้ไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่มีลักษณะฝ่ามือใหญ่ครับ
พูดถึง Logitech แล้ว เหล่าชาวเกมเมอร์หรือคนที่อยู่ในวงการคอมพิวเตอร์นั้นน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่สำหรับมือใหม่ที่สนใจอาจจะยังมีคำถามต่าง ๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการซื้อของปลอมมา ในวันนี้ เรามีคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกันครับ
เพื่อความมั่นใจว่าเราจะได้เมาส์ Logitech ของแท้แน่นอน เราควรซื้อจากผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่น่าเชื่อถือ โดยตัวผลิตภัณฑ์ควรมีราคาสมเหตุสมผลเท่ากับราคาที่ตั้งไว้ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการหรือลดลงบ้างตามเทศกาลลดราคา ส่วนตัวกล่องผลิตภัณฑ์ต้องมีสติกเกอร์รับประกันของศูนย์ในไทย เมื่อทำการลดทะเบียนรับประกันตัว Serial Number สามารถลงทะเบียนได้ ไม่มีปัญหา และหากมีปัญหาต้องสามารถติดต่อร้านค้าทันทีเพื่อขอเปลี่ยนสินค้าครับ
สองรุ่นที่น่าพิจารณาในการนำมาเล่นเกมคือ Logitech G Pro Wireless เป็นเมาส์ไร้สายน้ำหนักเบา มีปุ่มเพิ่มมาสองข้างของเมาส์ มีการ Lag ต่ำมาก สามารถปรับเปลี่ยนไฟ RGB ผ่าน App Logitech G HUB และ Logitech G502 รูปแบบเมาส์มีสายที่มีความคงทน แข็งแรง ออกแบบมารองรับหลักสรีรศาสตร์ในการใช้งานด้วยมือขวา มีที่พักนิ้วโป้ง รวมถึงปุ่มสามารถจัดการเพิ่มได้ 12 ปุ่ม มีค่า Lag ต่ำและสามารถปรับน้ำหนักได้ด้วย
หากทำตัวรับสัญญาณหาย สามารถซื้อ USB Unifying Receiver ของ Logitech มาใช้แทนได้ โดยสามารถเชื่อมต่อกับเมาส์และคีย์บอร์ดได้พร้อมกับถึง 6 อุปกรณ์ด้วยการ Pair ซึ่งต้องมีการลง App ของ Logitech เสียก่อน หลังจากนั้นจึงทำการปิดและเปิดอุปกรณ์ที่เราทำการเชื่อมต่อ ตัวอุปกรณ์ก็จะทำการ Pair กับตัว USB Unifying Receiver อัตโนมัติเองครับ
แม้เมาส์จะเป็นเพียงอุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะกับเหล่าผู้ทำงานด้านการดีไซน์ โดยเฉพาะกับเมาส์ Logitech ที่ครองใจทั้งเหล่าเกมเมอร์และหนุ่มสาวออฟฟิศได้อย่างเหนียวแน่น ซึ่งถ้าหากคุณเลือกเมาส์ Logitech ที่ตอบโจทย์ลักษณะการใช้งานของตนเองได้อย่างครบถ้วน ก็จะเป็นเสมือนแรงผลักดันอย่างหนึ่งที่ให้การเล่นเกมหรืองานคุณสำเร็จลุล่วงได้อย่างราบรื่นครับ
อันดับที่ 1: Logitech|เมาส์ Logitech รุ่น MX Master 3
อันดับที่ 2: Logitech|เมาส์ Logitech รุ่น MX Anywhere 3
อันดับที่ 3: Logitech|เมาส์ Logitech รุ่น G Pro x Superlight
อันดับที่ 4: Logitech|เมาส์ Logitech รุ่น G Pro
อันดับที่ 5: Logitech|เมาส์ Logitech รุ่น M590
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ