mybest
แก้วหัดดื่ม

ให้ทุกการเลือกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ปิด
  1. TOP
  2. แม่และเด็ก
  3. อุปกรณ์ทานอาหารทารก
  4. 10 อันดับ แก้วหัดดื่ม ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 กันหก กันสำลัก
  • 10 อันดับ แก้วหัดดื่ม ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 กันหก กันสำลัก 1
  • 10 อันดับ แก้วหัดดื่ม ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 กันหก กันสำลัก 2
  • 10 อันดับ แก้วหัดดื่ม ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 กันหก กันสำลัก 3
  • 10 อันดับ แก้วหัดดื่ม ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 กันหก กันสำลัก 4
  • 10 อันดับ แก้วหัดดื่ม ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 กันหก กันสำลัก 5

10 อันดับ แก้วหัดดื่ม ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 กันหก กันสำลัก

เมื่อทารกมีอายุ 6 เดือนขึ้นไป จะเป็นช่วงวัยที่เริ่มฝึกรับประทานอาหารและน้ำดื่มนอกเหนือจากน้ำนมแม่ จึงเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่คุณแม่จะได้ฝึกให้เด็กดื่มน้ำจากแก้วน้ำได้เอง เพื่อฝึกฝนให้เด็กรู้จักช่วยเหลือตนเองต่อไป ซึ่งหนึ่งในอุปกรณ์ที่จำเป็นก็คือ “แก้วหัดดื่ม” ที่มีให้เลือกหลายรูปทรงเพื่อให้เหมาะกับช่วงวัยของเด็ก ทั้งแบบหลอด แบบจุกนม และยังมีหลากหลายคุณสมบัติเพื่อให้เด็ก ๆ ใช้งานได้ง่ายที่สุด

ในครั้งนี้ เราจะมาอธิบายถึงวิธีการเลือกแก้วหัดดื่ม เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่เลือกแก้วได้เหมาะกับวัยของลูก พร้อมเสริมคำแนะนำจากกุมารแพทย์โดยเฉพาะ อีกทั้งยังมี 10 อันดับ แก้วหัดดื่ม จากหลากหลายแบรนด์ดังที่ผ่านการเปรียบเทียบคุณสมบัติและเรื่องความปลอดภัยมาฝากกันอีกด้วย
อัปเดตล่าสุดเมื่อ 06/02/2024
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)
ผู้เชี่ยวชาญ
กุมารแพทย์
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)

นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านแพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จากมหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี พ.ศ. 2557 และได้รับวุฒิบัตรสาขากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จากมหาวิทยาลัยมหิดลเมื่อปี พ.ศ. 2563 มีประสบการณ์ในเขียนบทความและให้ความรู้ผ่านคลิปวีดีโอในเพจด้านสุขภาพ และประสบการณ์การทำงานด้านกุมารเวชศาสตร์ ทั้งการตรวจคนไข้ เป็นวิทยากรด้านกุมารฯ ที่ให้คำปรึกษาด้านการเลี้ยงดูแลโรคแก่แม่และเด็กในโรงพยาบาลเอกชนอีกหลายแห่ง ได้รับรางวัลตั้งแต่สมัยเรียน คือ รางวัลนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 6 ดีเด่นภาควิชากุมารฯ เมื่อปี พ.ศ. 2557 อีกทั้งยังมีประสบการณ์ใช้ทุนแผนกกุมารฯ (แพทย์พี่เลี้ยงกุมาร) ณ โรงพยาบาลสระบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2559 - 2560 และได้รับรางวัลแพทย์ประจำบ้านกุมารฯ ดีเด่นอันดับ 1 ถึง 2 ปีซ้อน เมื่อปี พ.ศ. 2561 และ 2562 นอกจากนี้ มีผลงานทางวิชาการมากมาย ดังนี้ - Tanaanunmongkol P, Phunsujaritthai P. ความแม่นยำของการใช้ Chest x-ray ในการดูตำแหน่งสายสวนสะดือ เปรียบเทียบการใช้สูตร ของ Shukla และ Dunn-method โดย Ultrasound (The Accuracy of Chest x-ray to Assess Umbilical Venous Catheter Position Compare between Shukla Formula and Dunn-method by Ultrasound). Thai Journal of Pediatrics. 2017;56(3):195-9. - Phuakpet K, Sanpakit K, Tanaanunmongkol P, Veerakul G, Vathana N, Narkbunnam N, Laohapansang M, Chuangsuwanich T. Survival and Treatment Outcome in Pediatric Hepatoblastoma: The Firstreport from Thailand. The Southeast Asian Journal of Tropical Medicine and Public Health.2017;48(2):161-172. - รางวัลผลงานวิจัยชมเชย ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล Tanaanunmongkol P. การศึกษาชนิดของนมที่ทารกน้ำหนักตัวน้อยมากได้รับภายหลังจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล (Type of Post-Discharge Infant Feeding in Very-Low Birthweight Infants), Department of Pediatrics, Faculty of Medicine Siriraj Hospital, Mahidol University, Bangkok, Thailand นอกเหนือไปจากผลงานทางด้านวิชาการและการประกอบวิชาชีพในปัจจุบันแล้ว ยังอธิบายและให้ความรู้และความเข้าใจแก่ผู้ปกครอง ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ รวมไปถึงบุคคลที่สนใและบุคคลทั่วไปเกี่ยวกับการดูแลและเลี้ยงเด็กในทุก ๆ ด้านเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและช่วยให้เด็กมีการเจริญเติบโตรอบด้าน ช่องทางติดต่อเพิ่มเติม : t.pongwut@gmail.com

ประวัติของ นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)
…อ่านต่อ
ชนกกานต์ เชาว์รุ่งรัตนะศิริ (กิ๊ฟ)
บรรณาธิการ
นักเขียนประจำ mybest
ชนกกานต์ เชาว์รุ่งรัตนะศิริ (กิ๊ฟ)

คุณกิ๊ฟเรียนจบ MBA จาก Colorado Technical University, USA และมีประสบการณ์การทำงานในสายงาน Marketing หลากหลายธุรกิจ รวมไปถึงงาน Product Manager ของธุรกิจไม้ปาติเคิล MDF บอร์ดที่ผลิตงานเฟอร์นิเจอร์ให้กับบริษัทใหญ่ ๆ ทั้งของไทยและต่างประเทศ เช่น Index living Mall, Modernform, SB Furniture และ Maica ทำให้คุณกิ๊ฟมีประสบการณ์และความรู้ในด้านเฟอร์นิเจอร์เป็นพิเศษ ปัจจุบันคุณกิ๊ฟเป็นคุณแม่ลูก 1 จึงมีความสนใจในเรื่องราวของแม่และเด็กเป็นพิเศษ และด้วยสายงานที่เคยทำจึงชอบศึกษาเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคและบริโภคทั่วไป รวมทั้งอ่านรีวิวสินค้าของแม่และเด็กในเวลาว่างอยู่ตลอด นอกจากนี้ คุณกิ๊ฟยังผ่านประสบการณ์ในการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพประเภทต่าง ๆ ให้กับลูกอีกด้วย

ประวัติของ ชนกกานต์ เชาว์รุ่งรัตนะศิริ (กิ๊ฟ)
…อ่านต่อ
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ

สารบัญ

แก้วหัดดื่มจำเป็นไหม ?

แก้วหัดดื่มจำเป็นไหม ?
แก้วหัดดื่ม คือ แก้วน้ำที่ถูกออกแบบมาให้ทารกหยิบจับได้ง่าย ดูดหรือดื่มน้ำได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้แรงมาก กันสำลักและมีความปลอดภัยต่อเด็ก บางรุ่นยังได้ถูกออกแบบมาให้กันหกหรือกันรั่วซึมได้ ซึ่งทำให้สะดวกต่อคุณแม่ด้วยเพราะเด็กในวัยนี้ยังมีกล้ามเนื้อมือไม่แข็งแรงอาจทำแก้วหลุดมือบ่อยครั้ง จึงช่วยลดการทำความสะอาดหรือลดโอกาสการเกิดน้ำหกได้ 

การใช้แก้วหัดดื่มมีประโยชน์ คือ ช่วยให้ทารกได้ฝึกการใช้กล้ามเนื้อมือ ทำให้เด็กสามารถยกแก้วน้ำดื่มได้ไวขึ้น มีการฝึกความสัมพันธ์ระหว่างการเคลื่อนไหวของมือและการทำงานของสายตา เพราะการดื่มน้ำจากแก้วต้องเด็กอาศัยการถือหูแก้วประกอบกับฝึกจังหวะการกระดกแก้วและกลืน หากเริ่มเร็วก็จะทำให้เด็กมีความคุ้นเคยได้เร็วกว่าเด็กที่มาฝึกทีหลัง นอกจากนี้เลิกขวดนมได้เร็วขึ้น ลดปัญหาช่องปากและฟันได้ และการใช้แก้วหัดดื่มยังปลอดภัยกว่าการใช้แก้วปกติกับหลอด เพราะส่วนใหญ่จะมีการออกแบบให้ตัวหลอดติดกับแก้วและทำจากวัสดุที่อ่อนนิ่ม ทำให้ลดโอกาสที่เด็กจะเล่นหลอดจนเป็นอันตรายต่อปากหรือตาได้

นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)
กุมารแพทย์
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)

การใช้แก้วหัดดื่ม สามารถเริ่มได้เมื่อทารกอายุประมาณ 4 เดือนขึ้นไป เพราะเป็นวัยที่เริ่มนั่งตัวตรงได้ คอตั้งตรงได้ และการหยิบจับจะเริ่มทำได้ดีขึ้น การดื่มน้ำท่านั่งจะช่วยลดการสำลักและปอดติดเชื้อจากการสำลักได้

วิธีการเลือกแก้วหัดดื่ม

แก้วหัดดื่มเป็นอุปกรณ์ที่ให้เด็กอ่อนใช้สำหรับหัดดื่มน้ำในช่วงวัยที่เริ่มมีพัฒนาการการกิน-ดื่ม ปัจจุบันมีขายกันอยู่หลายรูปแบบ แต่โดยหลัก ๆ สามารถจำแนกความแตกต่างได้จากลักษณะปากขวดและที่จับ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญช่วยให้เด็กดื่มน้ำได้ง่ายและเป็นเร็วขึ้น

1

เลือกแก้วหัดดื่มแบบจุกนมที่ทำจากวัสดุอ่อนนิ่ม มีหูจับ สำหรับทารกวัย 4 - 6 เดือน หรือเด็กอ่อนที่เริ่มต้นทานอาหาร

แก้วหัดดื่มชนิดนี้เหมาะจะใช้เป็นแก้วหัดดื่มขั้นต้นสำหรับเด็กที่เริ่มเปลี่ยนจากการดื่มนมจากขวดหรือจากเต้ามาเป็นการดื่มจากแก้ว รวมถึงการทานอาหารเหลว แต่ทั้งนี้ เด็กอ่อนบางคนที่คุ้นเคยกับการดื่มนมจากขวดนมนั้นจะคุ้นชินและปรับตัวกับการดื่มน้ำจากแก้วหัดดื่มชนิดนี้ได้ดีกว่าเด็กที่ดื่มนมจากเต้าแม่โดยตรงเพราะเด็กกลุ่มนี้จะไม่ชอบการดื่มน้ำหรือนมจากกรวยพลาสติกหรือยาง ช่วงเริ่มต้นคุณแม่อาจต้องใจเย็นแล้วค่อย ๆ ฝึก  โดยมีหลักการเลือกแก้วน้ำหัดดื่มสำหรับเด็กวัย 4 เดือน ดังต่อไปนี้

เลือกแก้วหัดดื่มแบบจุกนม เพื่อให้เด็กค่อย ๆ ปรับตัวจากการดูดขวดนมหรือเต้านมมาดื่มจากแก้ว

เลือกแก้วหัดดื่มแบบจุกนม เพื่อให้เด็กค่อย ๆ ปรับตัวจากการดูดขวดนมหรือเต้านมมาดื่มจากแก้ว
เด็กอายุ 4 เดือนจะเริ่มหยิบสิ่งของได้มากขึ้น กล้ามเนื้อคอแข็ง นั่งตัวตรงได้ดีขึ้น แนะนำแก้วหัดดื่มที่มีส่วนที่ใช้ดูดเป็นแบบจุกนม ซึ่งมีลักษณะของแก้วน้ำที่มีฝาปิดเป็นจุกสำหรับดื่มนมคล้ายกับจุกนมจากขวดนมหรือเต้านมที่เด็กอ่อนจะคุ้นชินกันดีอยู่แล้ว เหมาะกับเด็กที่อยู่ในวัยเพิ่งหัดทานอาหารและวัยหัดดื่ม เพราะในวัยนี้เป็นช่วงวัยที่พวกเขายังไม่รู้จักการใช้แรงดูดน้ำจากหลอด แก้วหัดดื่มชนิดนี้ไม่ต้องอาศัยแรงดูด เพียงแค่ยกแก้วหัดดื่มเอียงเล็กน้อย น้ำดื่มก็จะไหลลงสู่ปากขวดที่เป็นรูปกรวยขนาดเล็ก ออกแบบมาให้พอดีขนาดปากของเด็กเล็ก
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)
กุมารแพทย์
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)

การใช้แก้วหัดดื่มแบบจุกนมนั้น จุดประสงค์หลัก คือ เพื่อให้เด็กเกิดความคุ้นเคยในการหยิบจับอุปกรณ์ แต่หลักการดูดนั้นเหมือนขวดนมทั่วไป เพราะยังอาศัยการดูดเป็นหลักและยังดูดหลอดไม่ได้ หากต้องการใช้แนะนำให้ใช้เพียงแค่ช่วงอายุเริ่มต้นคือ 4 - 6 เดือน เพื่อให้คุ้นชินรูปทรงภาชนะและการจับถือ จากนั้นควรเปลี่ยนจุกดูดเป็นชนิดอื่น 

เลือกแก้วหัดดื่มที่วัสดุส่วนจุกดื่มอ่อนนิ่ม ทนความร้อนได้ดี และปราศจากสาร BPA

เลือกแก้วหัดดื่มที่วัสดุส่วนจุกดื่มอ่อนนิ่ม ทนความร้อนได้ดี และปราศจากสาร BPA

วัสดุส่วนจุกดื่มควรทำจากวัสดุยาง, ซิลิโคน, พลาสติกทนความร้อน เช่น Polypropylene (PP), PES (Polyethersulfone) และ PPSU (Polyphenylsulfone) ควรเลือกแก้วหัดดื่มที่ปราศจากสาร BPA เพราะสาร BPA มีผลต่อการเจริญเติบโต การสืบพันธุ์ ทำให้เด็กโตเป็นหนุ่มสาวเร็วกว่าวัย และมีผลต่อระบบประสาท การสร้างเซลล์สมอง ส่งผลให้เด็กมีอาการสมาธิสั้น 

นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)
กุมารแพทย์
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)

หลอดควรนุ่ม ไม่บางยวบ อาจเป็นซิลิโคน และไม่เป็นรอยจากการกัดง่ายเพราะเด็กในวัยนี้ยังคุมแรงดูดไม่ดี และอาจกัดมีรอยซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้

เลือกแก้วหัดดื่มรูปทรงกระบอกที่มีหูจับ 2 ด้านเพื่อให้เด็กจับได้ง่าย

เลือกแก้วหัดดื่มรูปทรงกระบอกที่มีหูจับ 2 ด้านเพื่อให้เด็กจับได้ง่าย

ด้วยความที่เป็นช่วงแรกของการหัดดื่มน้ำเอง คุณแม่จึงควรเลือกแก้วหัดดื่มทรงกระบอกที่มีหูจับซ้ายแล้วขวาเพื่อให้เด็กสอดมือเข้าไปในบริเวณหูจับได้อย่างสะดวก ช่วยประคองกันหลุดมือ ที่สำคัญ คือ ช่วยลดการนำความร้อนจากขวดนมสู่มือเด็ก ทั้งนี้ควรเลือกหูจับที่ผลิตจากวัสดุกันลื่น เช่น ยาง พลาสติกที่ไม่ลื่น เพื่อป้องกันของเหลวหกใส่ตัวจากการทำแก้วหลุดมือ ในเด็กที่แรงจับยังน้อยแนะนำให้เลือกแก้วที่มีหูจับ 2 มือเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการกะระยะเข้าปากและป้องกันการทำหก


อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตบางเจ้าได้ผลิตแก้วหัดดื่มสำหรับเด็กอ่อนที่สามารถถอดหูจับ หรือพับหูจับเก็บได้ ทำให้ง่ายต่อการพกพาในกระเป๋า และช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณแม่เมื่อต้องพกพาแก้วหัดดื่มเมื่อออกไปเที่ยวนอกบ้าน และยังสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานให้เหมาะสมกับวัยของเด็กได้

นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)
กุมารแพทย์
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)

สำหรับเด็กในวัยนี้ เรื่องรูปทรงของแก้วยังไม่มีความแตกต่างกันเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงไหนก็ตาม เนื่องมาจากในวัยนี้เด็กจะสามารถควบคุมแขนขาหรือกล้ามเนื้อมัดใหญ่ได้แล้วแต่ยังไม่สามารถควบคุมการงอนิ้วมือหรือกล้ามเนื้อมัดเล็กได้ดีเท่าทารกตอนปลาย (ทารกอายุ 8 - 9 เดือน) ทำให้ยังต้องอาศัยการช่วยประคองแก้วน้ำจากผู้ปกครองอยู่นั่นเอง นอกจากนี้ การเลือกแก้วหัดดื่มที่มีดีไซน์แปลกมากเกินไป จะทำให้หกง่าย เป็นการสอนให้เด็กจำและเคยชินกับการวางมือที่ผิดอีกด้วย

2

เลือกแก้วหัดดื่มแบบปากรูปกรวยพลาสติกหรือแก้วน้ำชนิด 360 องศา สำหรับเด็กอายุ 6 - 8 เดือนที่ยังใช้หลอดดูดน้ำไม่เป็น

สำหรับเด็กอายุ 6 - 8 เดือน จะเริ่มมีพัฒนาการการใช้กล้ามเนื้อปาก การกลืน ได้ดีมากขึ้น จึงเปลี่ยนมาใช้หลอดชนิดอื่นแทนแก้วหัดดื่มแบบจุกนมได้ การเลือกแก้วหัดดื่มสำหรับเด็กวัยนี้ควรพิจารณาเรื่องใดบ้าง สามารถดูรายละเอียดได้ดังต่อไปนี้

เลือกแก้วหัดดื่มรูปกรวยพลาสติก เพราะไม่ต้องอาศัยแรงดูด

เลือกแก้วหัดดื่มรูปกรวยพลาสติก เพราะไม่ต้องอาศัยแรงดูด

แก้วหัดดื่มชนิดปากรูปกรวย เป็นลักษณะมีฝาปิดเป็นรูปกรวยแหลมยื่นออกมาให้เข้าทรงกับรูปปากของเด็ก บริเวณปากกรวยจะทำจากพลาสติกแข็งซึ่งต่างจากแก้วหัดดื่มแบบจุกนมที่ตัวหลอดจะทำจากวัสดุอ่อนนิ่ม หลักการใช้งานของแก้วชนิดนี้ คือ เด็กสามารถยกแก้วน้ำดื่มได้โดยไม่หกเลอะเทอะ เหมาะกับเด็กในช่วงวัยที่ยังดื่มน้ำจากหลอดไม่เป็นเพราะแก้วหัดดื่มชนิดนี้ไม่ต้องอาศัยแรงดูด เพียงแค่ยกแก้วหัดดื่มเอียงเล็กน้อย น้ำดื่มก็จะไหลลงสู่ปาก

นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)
กุมารแพทย์
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)
แนะนำให้เริ่มใช้ได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนเพื่อฝึกและสร้างความเคยชินโดยค่อย ๆ เริ่มทีละมื้อนม เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไปจะเริ่มควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อปากและการดูดกลืนได้ดีขึ้น แต่จะเริ่มดูดหลอดได้เมื่ออายุ 8 เดือน ดังนั้นช่วง 6 - 8 เดือนนี้ แนะนำให้ใช้แก้วฝึกดื่มชนิดปากรูปกรวยและชนิด 360 องศา ขณะดื่มนมจากแก้วชนิดนี้เด็กจะไม่ต้องดูด เพียงแค่อมแล้วยกแก้วเพื่อให้น้ำนมไหลเข้าปากซึ่งจะช่วยฝึกการยกดื่มให้สัมพันธ์กับจังหวะการกลืนได้ ในช่วงแรกแนะนำให้ผู้ปกครองช่วยประคองแก้วเพื่อป้องกันน้ำนมไหลแรงเกินเนื่องจากเด็กอาจสำลักและกลัวการดื่มจากแก้วชนิดนี้ได้

เลือกแก้วหัดดื่ม 360 องศา ที่มีซีลแน่นและปรับปริมาณน้ำได้ เพื่อให้เด็กคุ้นเคยกับการกินน้ำจากแก้วและไม่สำลัก

เลือกแก้วหัดดื่ม 360 องศา ที่มีซีลแน่นและปรับปริมาณน้ำได้ เพื่อให้เด็กคุ้นเคยกับการกินน้ำจากแก้วและไม่สำลัก

แก้วหัดดื่ม 360 องศา ประกอบด้วย 3 ชิ้นส่วนคือ แก้ว ฝาพร้อมที่จับ และท็อปเปอร์ซิลิโคน โดยท็อปเปอร์ซิลิโคนจะช่วยปิดขอบแก้ว ป้องกันไม่ให้เครื่องดื่มหกออกมา ข้อดีของแก้วหัดดื่มชนิด 360 องศาคือ จะช่วยในเรื่องพัฒนาการของสุขภาพช่องปากของเด็ก เนื่องจากแก้วไม่มีจุกนม จึงไม่ส่งผลเสียใด ๆ ต่อฟันของเด็ก ทำให้ฟันของเด็กขึ้นอย่างแข็งแรงและสมบูรณ์ รวมถึงช่วยพัฒนากล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหว และการดื่มของเด็กได้ดี


วิธีการทำงานของแก้วหัดดื่ม 360 องศา คือ เมื่อเด็กกดท็อปเปอร์ด้วยริมฝีปาก ตัวซิลิโคนจะเปิดออกและน้ำจะไหลออกมา และเมื่อเด็กเอาริมฝีปากออกจากขอบแก้วท็อปเปอร์จะปิดเองอัตโนมัติ ถือเป็นแก้วหัดดื่มที่เสริมสร้างพัฒนาการดื่มของเด็กจากเต้านมหรือขวดนมไปสู่การดื่มจากแก้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเลือกแก้วหัดดื่ม 360 องศา ที่มีซีลแน่น ข้อต่อน้อย ไม่หนักจนหลุดมือ มีระบบสุญญากาศ แนะนำให้เลือกรุ่นที่หมุนปรับปริมาณน้ำที่ออกมาได้เพื่อช่วยลดการสำลัก และเพื่อให้เด็กได้รับน้ำปริมาณที่เหมาะสมตามขนาดช่องปาก 

นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)
กุมารแพทย์
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)
การดื่มจากแก้ว 360 องศานั้นจะใช้หลักการเดียวกันกับการดื่มน้ำจากแก้วทั่วไป แต่ข้อต่างคือเด็กต้องกัดหรือเอาริมฝีปากกดที่ขอบแก้วเพื่อให้ของเหลวไหลออกมา เป็นการฝึกเด็กให้ควบคุมจังหวะและปริมาณน้ำที่ไหลด้วยตนเอง เหมาะกับเด็กอายุ 8 เดือนขึ้นไปเนื่องจากจะเริ่มมีเหงือกที่แข็งแรงและมีฟันตัดงอกมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถควบคุมจังหวะการกดริมฝีปากให้สัมพันธ์กับปริมาณน้ำที่ไหลออกมาได้ ซึ่งในความเห็นของแพทย์นั้น หากลูกสามารถดื่มจากแก้วน้ำได้ แนะนำให้ใช้แบบแก้วน้ำได้เลย
3

เลือกแก้วหัดดื่มแบบหลอดดูดที่ทำจากซิลิโคน ยาง หรือพลาสติกที่ปราศจาก BPA สำหรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 8 เดือนขึ้นไป

เลือกแก้วหัดดื่มแบบหลอดดูดที่ทำจากซิลิโคน ยาง หรือพลาสติกที่ปราศจาก BPA สำหรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 8 เดือนขึ้นไป

แก้วหัดดื่มชนิดหลอดดูด เป็นลักษณะแก้วน้ำที่มีหลอดดูดนิ่ม เหมาะกับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 8 เดือนขึ้นไป เพราะเป็นการใช้ความสัมพันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อปาก ลิ้น และจังหวะการกลืน ซึ่งเด็กที่มีอายุ 8 เดือนจะเริ่มทำได้ดีในช่วงนี้ และกล้ามเนื้อเรียบที่นิ้วมือจะมีความแข็งแรง งอ จับหูแก้วได้ดีขึ้น ควรเลือกวัสดุของหลอดดูดที่ทำจากซิลิโคน ยาง หรือพลาสติกที่ปราศจาก BPA


แก้วหัดดื่มชนิดหลอดดูด เป็นแก้วที่เชื่อมต่อหลอดลงไปถึงภายใน มีฝาปิดมิดชิดแน่นหนาขึ้น ป้องกันการรั่วไหลได้เป็นอย่างดี เหมาะกับการพกพาไปใช้นอกสถานที่ ไร้กังวลว่าน้ำหรือนมจะหกเลอะกระเป๋า แก้วหัดดื่มแบบหลอดดูดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้สำหรับหัดดื่มโดยเฉพาะ บางรุ่นมีการขายแก้วหัดดื่มแยกกับหลอดดูดเผื่อกรณีที่เด็กกัดจนหลอดขาดหรือเมื่อใช้มานานแล้ว อาจมีเชื้อโรคสะสมได้หากทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ ก็สามารถหาอะไหล่ของหลอดดูดมาเปลี่ยนแทนการเปลี่ยนทั้งชุดได้ เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่ง


อย่างไรก็ตาม เด็กที่ไม่คุ้นชินกับการดูดมาก่อนจะไม่ค่อยชื่นชอบการใช้งานแก้วหัดดื่มแบบหลอดดูดนี้เท่าใดนักเพราะเป็นลักษณะที่ต้องใช้พลังการดูดสูง ตรงกันข้ามกับเด็กที่ดูดนมจากเต้ามาตลอด จะทำให้เด็กคุ้นชินกับการใช้พลังดูดจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเด็กที่กินนมจากเต้าเมื่อต้องปรับเปลี่ยนมาใช้งานแก้วหัดดื่มลักษณะนี้

นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)
กุมารแพทย์
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)
เด็กจะเริ่มใช้ชนิดหลอดดูดได้ตั้งแต่ 8 เดือน เป็นต้นไป โดยค่อย ๆ สลับจากชนิดปากรูปกรวยหรือชนิด 360 องศา จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นชนิดหลอดดูดเพียงอย่างเดียว เด็กมักจะยังไม่สามารถเลิกขวดนมได้ช่วงอายุนี้ จึงแนะนำให้ใช้แก้วหัดดื่มชนิดหลอดช่วงมื้อเย็นหรือก่อนนอนเพื่อฝึกให้เด็กคุ้นเคยกับการงดดูดขวดก่อนนอน จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มมื้อการใช้แก้วฝึกดื่มแทนขวดนม ระหว่างวันแนะนำให้ดื่มน้ำจากแก้วชนิดนี้และสามารถใช้ดื่มอาหารเหลวหรือน้ำซุปจากแก้วนี้ได้เช่นกัน ผู้ปกครองต้องใจแข็ง ไม่ให้ดูดขวดนมในมื้อที่เรากำหนดแม้ว่าลูกร้องขอและเก็บขวดนมให้พ้นสายตา
4

เลือกแก้วหัดดื่มแบบแก้วน้ำ สำหรับเด็กที่คุ้นชินกับการดื่มน้ำจากแก้ว หรือเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป

เลือกแก้วหัดดื่มแบบแก้วน้ำ สำหรับเด็กที่คุ้นชินกับการดื่มน้ำจากแก้ว หรือเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป
แก้วหัดดื่มแบบแก้วน้ำ จะมีหน้าตาคล้ายแก้วน้ำทั่วไป เป็นแก้วหัดดื่มที่มีใช้กันอยู่น้อยมากแต่ใช่ว่าจะไม่มีเลย แก้วน้ำแบบนี้เป็นชนิดที่ทำความสะอาดง่าย เหมาะกับเด็กที่คุ้นเคยกับการดื่มน้ำจากแก้วอยู่เป็นประจำ ซึ่งควรเลือกรุ่นที่ทำจากวัสดุที่มีคุณภาพ รับรองเรื่องความปลอดภัย สามารถใช้งานกับเด็กได้โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย ควรเลือกแก้วหัดดื่มแบบแก้วน้ำที่วัสดุทำจากพลาสติก ขอบแก้วต้องไม่คม หรือจะเลือกขอบแก้วที่ซีลยางเพื่อความอ่อนนุ่มก็ได้ เพราะเด็กในวัยนี้จะชอบกัดวัตถุที่เอาเข้าปากได้ซึ่งอาจกัดขอบแก้วจนบาดปากได้


อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของแก้วชนิดนี้อาจทำให้เด็กบ้วนน้ำหรือเทน้ำทิ้งจนหกเลอะเทอะได้ง่าย คุณแม่อาจต้องคอยประคองแก้วน้ำก่อนในช่วงแรก ๆ ที่ทำการฝึก นอกจากนี้อาจต้องคอยทำความสะอาดน้ำที่หกบ่อยครั้ง

นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)
กุมารแพทย์
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)

การดื่มน้ำจากแก้ว (Cup Feeding) นั้นสามารถเริ่มได้ตั้งแต่แรกเกิด เช่น ทารกแรกเกิดที่แม่มีปัญหาหัวนมสั้น เป็นต้น ในช่วงที่ทารกมีอายุ 6 เดือน สามารถให้ใช้แก้วหัดดื่มประเภทนี้ได้ เพื่อสร้างความคุ้นเคย สร้างภาพจำทารกใหม่ว่าขวดนมไม่ใช่อุปกรณ์ทานนมหลัก ช่วยฝึกกล้ามเนื้อมือ การทรงตัว คอ และหลัง การกะระยะ การกะจังหวะการกลืน ในช่วงแรกที่ทำการฝึกให้ผู้ปกครองช่วยประคองแก้วให้ตรงปากในช่วงแรกก่อนแต่ไม่ต้องออกแรงแทนเด็กทั้งหมด และเมื่ออายุ 11 - 12 เดือน เด็กก็จะเริ่มยกแก้วดื่มเองได้อย่างมั่นคงขึ้นแต่จะยังมีหกเลอะเทอะ เพราะกว่าเด็กจะดื่มได้โดยหกน้อยมากจะอยู่ช่วงอายุประมาณ 17 เดือนขึ้นไปนั่นเอง

5

เลือกแก้วหัดดื่มจากขนาดความจุให้เหมาะกับการใช้งาน

เลือกแก้วหัดดื่มจากขนาดความจุให้เหมาะกับการใช้งาน

แก้วหัดดื่มที่ขายกันทั่วไปเริ่มต้นที่ขนาดความจุ 200 มิลลิลิตร แต่การเลือกซื้อนั้นต้องคำนึงถึงการใช้งานเป็นสำคัญ โดยสิ่งแรกคือเลือกให้เหมาะกับช่วงวัยของเด็กที่จะใช้งาน และอาจซื้อเผื่ออนาคตได้ไม่เสียหาย เพราะยิ่งนานวันเด็กจะยิ่งเติบโตขึ้นทำให้ดื่มน้ำได้มากขึ้น นอกจากนี้ การตัดสินใจเลือกซื้อควรคำนึงถึงโอกาสและสถานที่ที่จะนำไปใช้งานด้วย


กล่าวคือ ถ้าคุณจะไปในที่ซึ่งสะดวกจะเติมน้ำก็ไม่จำเป็นต้องพกแก้วหัดดื่มขนาดใหญ่ให้หนักกระเป๋า แต่ควรพกแก้วหัดดื่มที่มีขนาดความจุประมาณ 150 มิลลิลิตรหรือเล็กกว่านั้นเล็กน้อยเพื่อบรรจุน้ำหรือนมให้ลูกดื่ม จากนั้นค่อยเติมเมื่อหมดลง แต่สำหรับการออกเดินทางนอกบ้านที่ไม่สะดวกเติมน้ำบ่อย ๆ หรือในช่วงหน้าร้อนที่เด็ก ๆ จะกระหายน้ำมากกว่าเดิม คุณแม่ควรเตรียมพกแก้วหัดดื่มขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการค่ะ ซึ่งแก้วหัดดื่มขนาด 300 มิลลิลิตรถือว่าเป็นขนาดที่กำลังดี

นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)
กุมารแพทย์
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)

แก้วฝึกดื่มมีหลายขนาด เช่น 5, 5.5, 6, 7,8, 12 ออนซ์ (Ounce, oz) เป็นต้น เราควรทราบปริมาณนมที่ทารกควรได้รับในแต่ละมื้อก่อน เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้องในการเลือกความจุภาชนะ ดังนี้


- เด็กแรกเกิด - 2 เดือน ควรได้รับนม 60 - 90 มล. ต่อมื้อ

- เด็กอายุ 2 - 4 เดือน ควรได้รับนม 90 - 150 มล. ต่อมื้อ

- เด็กอายุ 4 - 6 เดือน ควรได้รับนม 120 - 180 มล. ต่อมื้อ

- เด็กอายุ 6 - 9 เดือน ควรได้รับนม 150 - 180 มล. ต่อมื้อ

- เด็กอายุ 9 - 12 เดือน ควรได้รับนม 180 - 240 มล. ต่อมื้อ


ส่วนเด็กที่อายุมากกว่า 12 เดือน ควรเริ่มดูดหลอดจากกล่องหรือแก้วและดื่มจากแก้ว อีกทั้งยังควรเลือกภาชนะที่มีความจุพอดีกับปริมาณนมที่ตวงในแต่ละมื้อ และชงในปริมาณที่มากเล็กน้อยเผื่อทำหกหรือทารกแหวะนม ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ควรชงนมในปริมาณที่มากเกินหรือชงเผื่อดื่มหลายมื้อ เพราะนมอาจเสีย บูด หรือมีสิ่งสกปรกเจือปนก่อนถึงมื้อนม อีกทั้งน้ำหนักภาชนะจะมากเกินจำเป็นจนส่งผลให้เด็กยกดื่มได้ลำบาก อาจเมื่อยล้าหรือปฏิเสธการดื่มจากแก้วฝึกดื่มได้

6

เลือกแก้วหัดดื่มที่ทำจากวัสดุที่ปลอดภัยต่อเด็ก ปราศจาก BPA

เลือกแก้วหัดดื่มที่ทำจากวัสดุที่ปลอดภัยต่อเด็ก ปราศจาก BPA

แก้วหัดดื่มสำหรับเด็กส่วนใหญ่แล้วเป็นแบบที่ทำจากพลาสติก มีน้ำหนักเบา พกพาได้สะดวก ล้างทำความสะอาดง่าย สามารถต้มในน้ำเดือดหรือใช้อบในไมโครเวฟเพื่อฆ่าเชื้อได้ทันที โดยไม่ต้องคอยกังวลว่าน้ำจะรั่วหรือหล่นแตกนั่นเอง 


และเนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่เด็กใช้ดื่มของเหลวเข้าไปในร่างกาย จึงควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของวัสดุเป็นพิเศษ โดยให้เลือกแก้วหัดดื่มที่ระบุว่า BPA-Free เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน เนื่องจาก BPA เป็นสารเคมีที่อยู่ในพลาสติก สามารถก่อให้เกิดมะเร็ง และสร้างความผิดปกติให้กับเซลล์ในร่างกาย คุณพ่อคุณแม่จึงควรตรวจสอบวัสดุให้ดีก่อนซื้อ

นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)
กุมารแพทย์
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)

พลาสติกเป็นวัสดุที่นิยมใช้ผลิตแก้วหัดดื่มมากที่สุด เนื่องจากมีข้อดีคือ หาซื้อง่าย สีสันสดใส น้ำหนักเบา โอกาสตกแตกน้อย ส่วนข้อเสีย คือ อาจเกิดไบโอฟิล์มและรอยขีดข่วนง่าย และเมื่ออายุการใช้งานมากขึ้นอาจเสียรูปทรง มีรอยรั่ว รอยขีดข่วน หรืออาจมีสารเคมีเจือปนออกมาเมื่อได้รับความร้อน 


คำแนะนำของแพทย์คือ ควรเลือกพลาสติกทนความร้อน 3 ประเภทหลัก ๆ คือ Polypropylene (PP), PES (Polyethersulfone) และ PPSU (Polyphenylsulfone) ที่สำคัญควรมองหาคำว่า “BPA-FREE” เนื่องจาก Bisphenol A หรือ BPA นั้นเป็นสารรบกวนการพัฒนาระบบประสาท ทำให้มีพัฒนาการและการเรียนรู้ที่ช้า และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ในเด็กได้ ส่วนวัสดุอื่นที่นิยมคือแก้วและยาง สามารถใช้ได้แต่ควรเลือกที่รูปทรงแข็งแรง ไม่ตกแตกง่าย ไม่นำความร้อนสู่มือเด็กน้อย และน้ำหนักต้องไม่มากเกินไป

7

เลือกแก้วหัดดื่มรุ่นที่ฝาปิดแน่นหนา ไม่รั่วซึมเมื่อยกดื่ม

เลือกแก้วหัดดื่มรุ่นที่ฝาปิดแน่นหนา ไม่รั่วซึมเมื่อยกดื่ม

แก้วหัดดื่มสำหรับเด็กอ่อนส่วนใหญ่ผลิตมาให้มีฝาปิดล็อคแน่นหนา เพื่อป้องกันการรั่วซึมขณะยกขวดขึ้นดื่ม แต่ก็พบว่าแก้วหัดดื่มบางรุ่นที่ไม่ได้มีระบบล็อคป้องกันในจุดนี้ทำให้น้ำหรือนมไหลซึมมาเลอะขณะดื่มได้ ทำให้ลำบากคุณแม่ต้องมาคอยเช็ดทำความสะอาดเสียทุกครั้ง แล้วการรั่วซึมนี้ยังเป็นปัญหาใหญ่เมื่อคุณต้องพกพาแก้วหัดดื่มสำหรับเด็กไปใช้นอกสถานที่จนเกิดเหตุการณ์ว่าน้ำรั่วซึมออกมาเลอะกระเป๋าถือได้ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อแก้วหัดดื่มรุ่นใด ๆ ควรตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่าสินค้ารุ่นนั้น ๆ ออกแบบมาให้มีระบบป้องกันการรั่วซึมหรือไม่ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างสะดวกและราบรื่น

นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)
กุมารแพทย์
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)

ปัญหาที่พบมากในเด็กทารกที่ใช้อุปกรณ์หัดดื่ม คือ น้ำนมหกเลอะเทอะ เมื่อน้ำนมหกนั้น นอกจากจะสร้างความเปียกชื้นบนผิว เสื้อผ้าเด็กและพื้นบ้านแล้ว ยังอาจเกิดการไหม้ผิวหนังจากน้ำนมที่มีอุณหภูมิสูงอีกด้วย ที่สำคัญ ยังเพิ่มโอกาสเกิดการสำลักจากน้ำนมที่รั่วไหลเข้าจมูกและปากเด็ก ส่งผลให้เด็กกลัวและปฏิเสธการใช้แก้วหัดดื่มได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้เลือกรุ่นที่มีฝาปิดแน่นหนา ไม่รั่วซึมเมื่อยกดื่มเสมอ

8

เลือกแก้วหัดดื่มที่มีชิ้นส่วนน้อยและทำความสะอาดได้ง่าย

เลือกแก้วหัดดื่มที่มีชิ้นส่วนน้อยและทำความสะอาดได้ง่าย
แก้วหัดดื่มสำหรับเด็กได้รับการออกแบบมาให้ทารกดื่มได้ง่ายกว่าแก้วทั่วไป ดังนั้นจึงมีโครงสร้างซับซ้อน และมีซอกหรือข้อต่อต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก และเมื่อโครงสร้างมีความซับซ้อนมากขึ้น จำนวนชิ้นส่วนขนาดเล็กก็เพิ่มขึ้น ซึ่งจะสร้างความลำบากเมื่อต้องล้างทำความสะอาด โดยต้องใช้แปรงขนาดเล็กในการขัดถูตามซอกหรือข้อต่อต่าง ๆ ดังนั้น ควรเลือกแก้วที่มีดีไซน์เรียบง่าย ชิ้นส่วนไม่มาก เพื่อให้ไม่เป็นภาระต่อการล้างทำความสะอาด 

และอย่าลืมพิจารณาเรื่องคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อของผลิตภัณฑ์ ซึ่งอาจจะฆ่าเชื้อได้ด้วยวิธีการต้ม เอาเข้าฆ่าเชื้อในไมโครเวฟหรือการฆ่าเชื้อด้วยสารเคมี หากต้องการใช้แก้วหัดดื่มกับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี นอกจากนี้หากคุณแม่ต้องการลดภาระในการล้างทำความสะอาด อาจพิจารณาผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำความสะอาดในเครื่องล้างจานได้ 

นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)
กุมารแพทย์
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล (แบงค์)

การล้างทำความสะอาดแก้วหัดดื่ม ไม่ควรทำความสะอาดด้วยแปรงแข็ง ๆ หรือใช้ฝอยโลหะขัดเพราะจะเกิดเป็นรอยขีดข่วน และร่องรอยจะสะสมไบโอฟิล์มของแบคทีเรียและเชื้อโรคอื่น ๆ เลือกแก้วหัดดื่มที่มีคุณสมบัติในการทนความร้อน เพราะก่อนใช้ควรอุ่นหรือลวกน้ำร้อนเสมอดังเช่นขวดนม จนเด็กอายุประมาณ 1 ปี 

วิธีการเลือกใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?

10 อันดับ แก้วหัดดื่ม ยี่ห้อไหนดี กันหก กันสำลัก

เมื่อได้ทำความเข้าใจชนิดของแก้วหัดดื่มสำหรับเด็กไปแล้ว อันดับต่อไปเราจะมาแนะนำสินค้าให้กับคุณแม่ทั้งมือเก่ามือใหม่ได้เลือกซื้อกันหลายรูปแบบเลยค่ะ
เรียงจากความนิยม
ตัวกรอง
สินค้า
รูปภาพ
ราคาต่ำสุด
ราคา
คะแนน
รายละเอียด
ลักษณะปากขวด
เหมาะกับเด็กอายุ
จำนวนหูจับ
ความจุ
น้ำหนัก
ความกว้าง
ความยาว
ความสูง
วัสดุส่วนแก้ว
วัสดุส่วนหลอด
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้
เข้าเครื่องล้างจานได้
ปราศจากสาร BPA
1

Pigeon

Pigeon Straw Cup

Pigeon Pigeon Straw Cup 1

390 บาท

ราคาปานกลาง

แก้วหัดดื่มแบบ 2 in 1 ครบจบในขวดเดียว ดื่มง่าย ไม่ทำให้สำลัก

แบบจุกนม และ แบบหลอดดูด

8 เดือน

2 อัน

200 มล.

226 กรัม

ซิลิโคน

2

Bbox

Bbox Sippy Cup

Bbox Bbox Sippy Cup 1

290 บาท

ราคาปานกลาง

ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ปลอดภัยต่อร่างกาย ดื่มได้ทุกอิริยาบถ

แบบหลอดดูด

6 เดือน

2 อัน

240 มล.

สเตนเลสคุณภาพสูง

ซิลิโคน

3

Richell

Richell Aqulea

Richell Richell Aqulea 1

440 บาท

ราคาค่อนข้างสูง

มีปุ่มกดดันน้ำฝึกดูด พร้อมหูจับง่าย ถอดฝาใช้เป็นแก้วปกติได้

แบบหลอดดูด และ แบบแก้ว

6 เดือน

2 อัน

150 มล.

330 กรัม

105 มม.

85 มม.

100 มม.

เรซินโพลีเอสเตอร์ชนิดอิ่มตัว

Silicone Rubber

4

Camera

Camera Step 3

Camera Camera Step 3 1

295 บาท

ราคาปานกลาง

ทนความร้อนได้ดี มาพร้อมตัวล็อกพิเศษ ป้องกันน้ำหก พกพาสะดวก

แบบหลอดดูด

6 เดือน

22 อัน

260 มล.

165 กรัม

135 มม.

70 มม.

130 มม.

โพลีโพพีลีน

ซิลิโคน

5

Tommee Tippee

Tommee Tippee Easy Drink Sippee Cup

Tommee Tippee  Tommee Tippee Easy Drink Sippee Cup  1

297 บาท

ราคาปานกลาง

จุกซิลิโคนนุ่ม อ่อนโยนต่อเหงือก รูปทรงแก้วแบบเว้ายกดื่มง่าย

กรวยพลาสติก

7 เดือน

2 อัน

230 มล.

139.7 มม.

127 มม.

368.3 มม.

โพลีโพพีลีน

ซฺิลิโคน

6

HEORSHE

HEORSHE Dental Care Sippy Cup

HEORSHE HEORSHE Dental Care Sippy Cup 1

142 บาท

ราคาค่อนข้างต่ำ

จุกดูดมีความนุ่มและยืดหยุ่นสูง ช่วยรักษารูปฟันเด็กให้เรียงสวย

แบบหลอดดูด

6 เดือน

2 อัน

180 มล.

High Polymer Antibacterial Material

ซิลิโคน

7

BEABA

BEABA 3 in 1 Evolutive Training Cup

BEABA BEABA 3 in 1 Evolutive Training Cup  1

590 บาท

ราคาค่อนข้างสูง

ปรับใช้ได้ถึง 3 แบบ จับใช้สะดวก เนื้อนุ่ม ฝึกดื่มได้หลายช่วงวัย

แบบจุกนม, กรวยพลาสติก และ แบบแก้วน้ำ

4 เดือน

2 อัน

150 มล.

118 กรัม

123 มม.

83 มม.

145 มม.

ซิลิโคน

8

Dodolove

Dodolove Training Cup

Dodolove Dodolove Training Cup 1

58 บาท

ราคาต่ำ

ลวดลายสดใสน่ารัก ฝาเปิดปิดใช้งานสะดวก ดื่มง่าย ไม่ทำให้สำลัก

แบบหลอดดูด

6 เดือน

2 อัน

350 มล.

ไม่ระบุ

130 มม.

80 มม.

140 มม.

พลาสติก

ซิลิโคน

9

Kidsme

Kidsme Training Cup

Kidsme Kidsme Training Cup 1

690 บาท

ราคาสูง

พลาสติก Tritan ทนทานสูง ป้องกันรอยขีดข่วน และการตกแตก

แบบหลอดดูด

9 เดือน

2 อัน

240 มล.

Tritan

ซิลิโคน

10

Dr.Isla

Dr.Isla BY01 Water Bottle

Dr.Isla Dr.Isla BY01 Water Bottle 1

59 บาท

ราคาต่ำ

ดีไซน์ฝาครอบใช้งานง่าย วัสดุทนทาน ปลอดสารพิษ ราคาย่อมเยา

แบบหลอดดูด

2 อัน

250 มล.

Polycarbonate

ซิลิโคน

หากไม่พบผลิตภัณฑ์ที่กำลังมองหา สามารถส่งคำร้องขอเพิ่มในรายการได้
No.1

PigeonPigeon Straw Cup

Pigeon Straw Cup 1
Pigeon Straw Cup 2
อ้างอิง:moong-shop.com
Pigeon Straw Cup 3
อ้างอิง:moong-shop.com
ราคาอ้างอิง
390 บาท
ราคาปานกลาง
ราคาอ้างอิง
390 บาท
ราคาปานกลาง

แก้วหัดดื่มแบบ 2 in 1 ครบจบในขวดเดียว ดื่มง่าย ไม่ทำให้สำลัก

ความพิเศษของแก้วหัดดื่มของ Pigeon รุ่นนี้คือมีฝาสำหรับเปลี่ยน 2 ฝา ได้แก่ ฝาแบบจุกนมสำหรับเด็กอายุ 5 เดือนขึ้นไป ใช้ในการฝึกจิบน้ำซึ่งจะเป็นหัวคล้ายกับจุกนม แต่รูจุกจะมีความกว้างและใหญ่กว่าจุกของขวดนม ซึ่งตัวจุกจะเป็นรูปแบบกากบาทสำหรับการฝึกดื่มในช่วงเริ่มต้นโดยไม่ทำให้เด็กสำลักน้ำ ส่วนอีกฝาจะเป็นแบบหลอดสำหรับเด็ก 8 เดือนขึ้นไป ตัวหลอดทำจากซิลิโคนนิ่ม ไม่ทำร้ายเหงือกของเด็ก รวมถึงมีความโค้งงอในองศาที่พอเหมาะเพื่อให้เด็กฝึกดูดน้ำได้อย่างถนัด และยังมีฝาปิดสนิทเมื่อคว่ำหรือตะแคงไม่ทำให้น้ำรั่วไหลออกมา
ลักษณะปากขวดแบบจุกนม และ แบบหลอดดูด
เหมาะกับเด็กอายุ8 เดือน
จำนวนหูจับ2 อัน
ความจุ200 มล.
น้ำหนัก226 กรัม
ความกว้าง
ความยาว
ความสูง
วัสดุส่วนแก้ว
วัสดุส่วนหลอดซิลิโคน
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้
เข้าเครื่องล้างจานได้
ปราศจากสาร BPA
การจัดอันดับสินค้าใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?
No.2

BboxBbox Sippy Cup

Bbox Sippy Cup 1
อ้างอิง:shopee.co.th
Bbox Sippy Cup 2
อ้างอิง:shopee.co.th
Bbox Sippy Cup 3
อ้างอิง:shopee.co.th
Bbox Sippy Cup 4
อ้างอิง:shopee.co.th
ราคาอ้างอิง
290 บาท
ราคาปานกลาง

ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ปลอดภัยต่อร่างกาย ดื่มได้ทุกอิริยาบถ

หนึ่งในแก้วหัดดื่มที่ออกแบบมาเพื่อให้เด็กเล็กสามารถใช้ได้ในทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะเป็นท่านั่งหรือนอน โดยทางแบรนด์ Bbox ได้ออกแบบตัวแก้วให้มีฝาปิดสนิท ช่วยป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมและน้ำหกได้ดี มาพร้อมกับหลอดซิลิโคนเนื้อนิ่มที่มีตัวถ่วงน้ำหนัก เพื่อให้ดื่มได้ง่าย และป้องกันการสำลัก นอกจากนี้ยังมีหูจับ 2 ข้าง ทำให้เด็กจับได้ถนัดมือ ที่สำคัญคือ ตัวแก้วและหลอดผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ซึ่งปราศจากสารที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายอย่าง PP-BPA, Phthalates และ PVC free จึงมั่นใจได้ว่าใช้งานได้อย่างปลอดภัย

ลักษณะปากขวดแบบหลอดดูด
เหมาะกับเด็กอายุ6 เดือน
จำนวนหูจับ2 อัน
ความจุ240 มล.
น้ำหนัก
ความกว้าง
ความยาว
ความสูง
วัสดุส่วนแก้วสเตนเลสคุณภาพสูง
วัสดุส่วนหลอดซิลิโคน
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้
เข้าเครื่องล้างจานได้
ปราศจากสาร BPA
No.3

RichellRichell Aqulea

Richell Aqulea 1
อ้างอิง:richell.co.th
Richell Aqulea 2
อ้างอิง:richell.co.th
Richell Aqulea 3
อ้างอิง:richell.co.th
Richell Aqulea 4
อ้างอิง:richell.co.th
Richell Aqulea 5
อ้างอิง:richell.co.th
Richell Aqulea 6
อ้างอิง:richell.co.th
ราคาอ้างอิง
440 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

มีปุ่มกดดันน้ำฝึกดูด พร้อมหูจับง่าย ถอดฝาใช้เป็นแก้วปกติได้

จุดเด่นของแก้วหัดดื่ม Richell รุ่นนี้อยู่ตรงฝาแก้วน้ำโดยจะมีปุ่มกดสำหรับช่วยเด็กในการฝึกดูดน้ำ เมื่อกดปุ่มน้ำจะออกมาจากหลอด มาพร้อมหูจับที่ออกแบบมาให้เหมาะกับมือเด็ก สำหรับช่วยฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กของเด็กในการจับแก้วน้ำและยกดูดหรือดื่มเองได้อย่างคล่องตัว อีกทั้งตัวหลอดยังเป็นแบบสุญญากาศ จึงไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะหกเมื่อเด็กถือเอียงหรือคว่ำแก้ว ส่วนฐานรองด้านล่างแก้วหุ้มขอบด้วยซิลิโคนป้องกันไม่ให้ลื่นหรือเด็กปัดตก นอกจากนี้ ยังสามารถถอดฝาออกแล้วใช้เป็นแก้วน้ำปกติสำหรับฝึกให้เด็กยกดื่มได้ 

ลักษณะปากขวดแบบหลอดดูด และ แบบแก้ว
เหมาะกับเด็กอายุ6 เดือน
จำนวนหูจับ2 อัน
ความจุ150 มล.
น้ำหนัก330 กรัม
ความกว้าง105 มม.
ความยาว85 มม.
ความสูง100 มม.
วัสดุส่วนแก้วเรซินโพลีเอสเตอร์ชนิดอิ่มตัว
วัสดุส่วนหลอดSilicone Rubber
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้
เข้าเครื่องล้างจานได้
ปราศจากสาร BPA
No.4

CameraCamera Step 3

ราคาอ้างอิง
295 บาท
ราคาปานกลาง

ทนความร้อนได้ดี มาพร้อมตัวล็อกพิเศษ ป้องกันน้ำหก พกพาสะดวก

แก้วหัดดื่มที่ออกแบบมาเพื่อเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยตัวแก้วมีฝาปิดสนิท และหลอดซิลิโคนที่มีลูกตุ้มถ่วงน้ำหนัก ทำให้สามารถคว่ำแก้วได้โดยไม่ทำให้น้ำหก รวมทั้งยังช่วยป้องกันการสำลักได้ดี จึงดื่มได้ทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะเป็นท่านั่งหรือท่านอน อีกทั้งยังมีตัวล็อกพิเศษ สำหรับใช้กดเปิดและปิดฝา ช่วยให้ใช้งานได้ง่าย และพกพาสะดวก ที่สำคัญคือ ตัวแก้วผลิตจากวัสดุที่ได้มาตรฐานปราศจากสาร BPA จึงมั่นใจได้ว่าใช้งานได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ แก้วและหลอดยังทนความร้อนได้ดี สามารถนำไปต้ม ลวก และนึ่งได้
ลักษณะปากขวดแบบหลอดดูด
เหมาะกับเด็กอายุ6 เดือน
จำนวนหูจับ22 อัน
ความจุ260 มล.
น้ำหนัก165 กรัม
ความกว้าง135 มม.
ความยาว70 มม.
ความสูง130 มม.
วัสดุส่วนแก้วโพลีโพพีลีน
วัสดุส่วนหลอดซิลิโคน
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้
เข้าเครื่องล้างจานได้
ปราศจากสาร BPA
ราคาอ้างอิง
297 บาท
ราคาปานกลาง

จุกซิลิโคนนุ่ม อ่อนโยนต่อเหงือก รูปทรงแก้วแบบเว้ายกดื่มง่าย

แก้วหัดดื่มรุ่นนี้จะมีจุกดื่มทรงกรวยทำจากซิลิโคนนิ่มพิเศษ ที่มีความนุ่มและอ่อนโยนต่อเหงือกที่บอบบางของเด็ก มาพร้อมวาล์วป้องกันน้ำหกเมื่อเด็กเอียงหรือคว่ำแก้ว และน้ำจะไหลก็ต่อเมื่อเด็กยกดื่มเท่านั้น อีกทั้งที่จับยังออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสรีระมือของเด็กโดยเฉพาะ ทำให้ยกดื่มเองได้ง่าย โดยหัวจุกของแก้วรุ่นนี้มีรูกว้างเพียงพอที่จะใช้ดื่มซุปใสและข้น น้ำผลไม้ หรืออาหารเหลวได้ นอกจากนี้ ยังมีฝาครอบปิดป้องกันจุกดูดไม่ให้เปื้อนสิ่งสกปรกและเชื้อโรคได้ง่าย รวมถึงทุกชิ้นส่วนสามารถถอดล้างทำความสะอาด และนำไปฆ่าเชื้อโรคด้วยความร้อนได้

ลักษณะปากขวดกรวยพลาสติก
เหมาะกับเด็กอายุ7 เดือน
จำนวนหูจับ2 อัน
ความจุ230 มล.
น้ำหนัก
ความกว้าง139.7 มม.
ความยาว127 มม.
ความสูง368.3 มม.
วัสดุส่วนแก้วโพลีโพพีลีน
วัสดุส่วนหลอดซฺิลิโคน
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้
เข้าเครื่องล้างจานได้
ปราศจากสาร BPA
No.6

HEORSHEHEORSHE Dental Care Sippy Cup

HEORSHE Dental Care Sippy Cup 1
อ้างอิง:shopee.co.th
HEORSHE Dental Care Sippy Cup 2
อ้างอิง:shopee.co.th
HEORSHE Dental Care Sippy Cup 3
อ้างอิง:shopee.co.th
ราคาอ้างอิง
142 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ

จุกดูดมีความนุ่มและยืดหยุ่นสูง ช่วยรักษารูปฟันเด็กให้เรียงสวย

การดูดจุกนมเป็นเวลานานอาจทำให้ฟันของเด็กเสียรูปได้ การใช้แก้วหัดดื่มของ Heorshe จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี เพราะมีการออกแบบจุกดูดให้มีความนุ่มและยืดหยุ่นสูง เพื่อรักษารูปฟันของเด็กให้เรียงสวย ไม่เกยกัน รวมถึงช่วยลดปริมาณแก๊ส และป้องกันการสำลักน้ำได้ดี ที่สำคัญคือ ตัวแก้วและจุกดูดผลิตมาจากวัสดุ High Polymer จึงปราศจากแบคทีเรีย และสาร BPA ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเด็ก อีกทั้งยังทนต่อความร้อนได้ถึง 120 องศาเซลเซียส สามารถนำไปฆ่าเชื้อในไมโครเวฟ และนำเข้าเครื่องล้างจานได้
ลักษณะปากขวดแบบหลอดดูด
เหมาะกับเด็กอายุ6 เดือน
จำนวนหูจับ2 อัน
ความจุ180 มล.
น้ำหนัก
ความกว้าง
ความยาว
ความสูง
วัสดุส่วนแก้วHigh Polymer Antibacterial Material
วัสดุส่วนหลอดซิลิโคน
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้
เข้าเครื่องล้างจานได้
ปราศจากสาร BPA
No.7

BEABABEABA 3 in 1 Evolutive Training Cup

ราคาอ้างอิง
590 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

ปรับใช้ได้ถึง 3 แบบ จับใช้สะดวก เนื้อนุ่ม ฝึกดื่มได้หลายช่วงวัย

แก้วหัดดื่มที่สามารถปรับใช้ได้ 3 แบบ โดยมีหัวจุกสำหรับเปลี่ยนใช้งานตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นจุกดูดซิลิโคนนุ่มใช้สำหรับดูดนมหรือน้ำได้เหมือนขวดนมทั่วไป และกรวยพลาสติกที่มีรูด้านบนสำหรับยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเพื่อให้น้ำในแก้วไหลออกมาตามรู รวมทั้งยังสามารถถอดฝาออก เพื่อใช้เป็นแก้วน้ำยกดื่ม สำหรับเด็กที่ดื่มน้ำจากแก้วคล่องแล้ว โดยทุกส่วนทำจากวัสดุคุณภาพดี ปราศจากสารเคมีและสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเด็ก นอกจากนี้ ยังสามารถถอดชิ้นส่วนทำความสะอาด รวมถึงเข้าเครื่องล้างจานและเครื่องนึ่งฆ่าเชื้อได้

ลักษณะปากขวดแบบจุกนม, กรวยพลาสติก และ แบบแก้วน้ำ
เหมาะกับเด็กอายุ4 เดือน
จำนวนหูจับ2 อัน
ความจุ150 มล.
น้ำหนัก118 กรัม
ความกว้าง123 มม.
ความยาว83 มม.
ความสูง145 มม.
วัสดุส่วนแก้ว
วัสดุส่วนหลอดซิลิโคน
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้
เข้าเครื่องล้างจานได้
ปราศจากสาร BPA
No.8

DodoloveDodolove Training Cup

ราคาอ้างอิง
58 บาท
ราคาต่ำ

ลวดลายสดใสน่ารัก ฝาเปิดปิดใช้งานสะดวก ดื่มง่าย ไม่ทำให้สำลัก

Dodolove เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ผลิตของใช้สำหรับเด็กออกมาหลากหลาย และได้รับความนิยมมายาวนาน โดยแก้วหัดดื่มรุ่นนี้ได้ออกแบบมาให้มีลวดลายสดใสน่ารัก มาพร้อมฝาเปิดปิดที่ใช้งานได้ง่าย เพียงดันฝาเปิดหลอดก็จะเด้งขึ้นมาทันที และเมื่อดันฝาลงหลอดก็จะถูกพับเก็บลงไปพร้อมฝา อีกทั้ง ยังใช้หลอดที่มีความนิ่มอ่อนโยนต่อเหงือก และมีลูกตุ้มที่ปลายหลอด ทำให้ดูดได้ง่าย ช่วยป้องกันการสำลัก นอกจากนี้ ตัวหูจับยังออกแบบมาให้ถือได้สะดวก ไม่คม ไม่บาดมือ เด็กสามารถยกดื่มเองได้ เหมาะสำหรับเด็กอายุ 6 เดือน - 5 ขวบ
ลักษณะปากขวดแบบหลอดดูด
เหมาะกับเด็กอายุ6 เดือน
จำนวนหูจับ2 อัน
ความจุ350 มล.
น้ำหนักไม่ระบุ
ความกว้าง130 มม.
ความยาว80 มม.
ความสูง140 มม.
วัสดุส่วนแก้วพลาสติก
วัสดุส่วนหลอดซิลิโคน
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้
เข้าเครื่องล้างจานได้
ปราศจากสาร BPA
No.9

KidsmeKidsme Training Cup

Kidsme Training Cup 1
อ้างอิง:shopee.co.th
Kidsme Training Cup 2
อ้างอิง:shopee.co.th
Kidsme Training Cup 3
อ้างอิง:shopee.co.th
ราคาอ้างอิง
690 บาท
ราคาสูง

พลาสติก Tritan ทนทานสูง ป้องกันรอยขีดข่วน และการตกแตก

ความพิเศษของแก้วหัดดื่มรุ่นนี้คือการใช้วัสดุ Tritan ที่เป็นพลาสติกที่มีความทนทานสูง ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน การเกิดคราบ และการตกแตกได้ดี ซึ่งสามารถนำแก้วเข้าเครื่องล้างจาน และต้มฆ่าเชื้อด้วยความร้อนได้ โดยตัวแก้วและหูจับออกแบบมาให้มีรูปทรงเข้ากับขนาดมือของเด็ก ช่วยให้จับได้สะดวก มาพร้อมกับหลอดที่ด้านในเป็นแบบแข็ง แต่ด้านนอกเป็นแบบอ่อน จึงดูดได้ง่าย ไม่ทำให้รู้สึกเหนื่อย และไม่บาดเหงือก นอกจากนี้ ยังมีฝาเปิดปิดแบบ Flip-top ช่วยรักษาความสะอาด และป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมได้ดี พกพาสะดวก
ลักษณะปากขวดแบบหลอดดูด
เหมาะกับเด็กอายุ9 เดือน
จำนวนหูจับ2 อัน
ความจุ240 มล.
น้ำหนัก
ความกว้าง
ความยาว
ความสูง
วัสดุส่วนแก้วTritan
วัสดุส่วนหลอดซิลิโคน
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้
เข้าเครื่องล้างจานได้
ปราศจากสาร BPA
No.10

Dr.IslaDr.Isla BY01 Water Bottle

Dr.Isla BY01 Water Bottle 1
อ้างอิง:shopee.co.th
Dr.Isla BY01 Water Bottle 2
อ้างอิง:shopee.co.th
Dr.Isla BY01 Water Bottle 3
อ้างอิง:shopee.co.th
Dr.Isla BY01 Water Bottle 4
อ้างอิง:shopee.co.th
ราคาอ้างอิง
59 บาท
ราคาต่ำ

ดีไซน์ฝาครอบใช้งานง่าย วัสดุทนทาน ปลอดสารพิษ ราคาย่อมเยา

หากกำลังมองหาแก้วหัดดื่มที่มีราคาย่อมเยา แต่คุณภาพได้มาตรฐาน การเลือกแก้วหัดดื่มของ Dr.Isla รุ่นนี้สามารถตอบโจทย์ได้ดี เพราะตัวแก้วผลิตจากพลาสติก PC ที่มีความทนทาน ไม่แตกง่าย และปราศจากสาร BPA จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อร่างกายของเด็ก อีกทั้ง ยังมีตุ้มถ่วงน้ำหนักที่ปลายหลอด และฝาที่ออกแบบมาให้ปิดสนิท ช่วยให้ดื่มได้ง่าย ไม่ทำให้สำลัก และป้องกันการรั่วซึมได้ดี สามารถดื่มได้ทั้งท่านั่งและท่านอน นอกจากนี้ ยังมีฝาครอบสำหรับป้องกันสิ่งสกปรก ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้สะดวก เพียงแค่กดปุ่มตัวฝาและหลอดก็จะเปิดขึ้นมาพร้อมดื่มทันที 

ลักษณะปากขวดแบบหลอดดูด
เหมาะกับเด็กอายุ
จำนวนหูจับ2 อัน
ความจุ250 มล.
น้ำหนัก
ความกว้าง
ความยาว
ความสูง
วัสดุส่วนแก้วPolycarbonate
วัสดุส่วนหลอดซิลิโคน
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้
เข้าเครื่องล้างจานได้
ปราศจากสาร BPA

บทส่งท้าย

การใช้แก้วหัดดื่มก็เป็นพัฒนาการอีกขั้นที่เราจะละเลยไปไม่ได้ เพราะนี่คือการเจริญเติบโตตามวัย เด็ก ๆ จะได้ฝึกหัดช่วยตัวเอง รวมถึงได้ฝึกการใช้นิ้ว ใช้มือจับสิ่งของอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองต้องไม่ลืมคำนึงถึงความปลอดภัยของวัสดุและคุณสมบัติต่าง ๆ ด้วย โดยให้อ้างอิงจากวิธีการเลือกที่ทางเราได้แนะนำไปข้างต้นมาเป็นตัวช่วยในการเลือกซื้อ เพื่อให้ลูกได้แก้วหัดดื่มที่เหมาะสมกับช่วงวัยและได้ประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุด ตรงตามที่วัตถุประสงค์การใช้แก้วหัดดื่ม

TOP 5 แก้วหัดดื่ม แนะนำ

อันดับที่ 1: PigeonPigeon Straw Cup

อันดับที่ 2: BboxBbox Sippy Cup

อันดับที่ 3: RichellRichell Aqulea

อันดับที่ 4: CameraCamera Step 3

อันดับที่ 5: Tommee Tippee Tommee Tippee Easy Drink Sippee Cup

คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับ
คำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
  1. TOP
  2. แม่และเด็ก
  3. อุปกรณ์ทานอาหารทารก
  4. 10 อันดับ แก้วหัดดื่ม ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 กันหก กันสำลัก

บทความยอดนิยม

ค้นหาตามหมวดหมู่