ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
นพ.พงษ์วุฒิ ธนะอนันต์มงคล จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านแพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จากมหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปี พ.ศ. 2557 และได้รับวุฒิบัตรสาขากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จากมหาวิทยาลัยมหิดลเมื่อปี พ.ศ. 2563 มีประสบการณ์ในเขียนบทความและให้ความรู้ผ่านคลิปวีดีโอในเพจด้านสุขภาพ และประสบการณ์การทำงานด้านกุมารเวชศาสตร์ ทั้งการตรวจคนไข้ เป็นวิทยากรด้านกุมารฯ ที่ให้คำปรึกษาด้านการเลี้ยงดูแลโรคแก่แม่และเด็กในโรงพยาบาลเอกชนอีกหลายแห่ง ได้รับรางวัลตั้งแต่สมัยเรียน คือ รางวัลนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 6 ดีเด่นภาควิชากุมารฯ เมื่อปี พ.ศ. 2557 อีกทั้งยังมีประสบการณ์ใช้ทุนแผนกกุมารฯ (แพทย์พี่เลี้ยงกุมาร) ณ โรงพยาบาลสระบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2559 - 2560 และได้รับรางวัลแพทย์ประจำบ้านกุมารฯ ดีเด่นอันดับ 1 ถึง 2 ปีซ้อน เมื่อปี พ.ศ. 2561 และ 2562 นอกจากนี้ มีผลงานทางวิชาการมากมาย ดังนี้ - Tanaanunmongkol P, Phunsujaritthai P. ความแม่นยำของการใช้ Chest x-ray ในการดูตำแหน่งสายสวนสะดือ เปรียบเทียบการใช้สูตร ของ Shukla และ Dunn-method โดย Ultrasound (The Accuracy of Chest x-ray to Assess Umbilical Venous Catheter Position Compare between Shukla Formula and Dunn-method by Ultrasound). Thai Journal of Pediatrics. 2017;56(3):195-9. - Phuakpet K, Sanpakit K, Tanaanunmongkol P, Veerakul G, Vathana N, Narkbunnam N, Laohapansang M, Chuangsuwanich T. Survival and Treatment Outcome in Pediatric Hepatoblastoma: The Firstreport from Thailand. The Southeast Asian Journal of Tropical Medicine and Public Health.2017;48(2):161-172. - รางวัลผลงานวิจัยชมเชย ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล Tanaanunmongkol P. การศึกษาชนิดของนมที่ทารกน้ำหนักตัวน้อยมากได้รับภายหลังจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล (Type of Post-Discharge Infant Feeding in Very-Low Birthweight Infants), Department of Pediatrics, Faculty of Medicine Siriraj Hospital, Mahidol University, Bangkok, Thailand นอกเหนือไปจากผลงานทางด้านวิชาการและการประกอบวิชาชีพในปัจจุบันแล้ว ยังอธิบายและให้ความรู้และความเข้าใจแก่ผู้ปกครอง ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ รวมไปถึงบุคคลที่สนใและบุคคลทั่วไปเกี่ยวกับการดูแลและเลี้ยงเด็กในทุก ๆ ด้านเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและช่วยให้เด็กมีการเจริญเติบโตรอบด้าน ช่องทางติดต่อเพิ่มเติม : t.pongwut@gmail.com
คุณกิ๊ฟเรียนจบ MBA จาก Colorado Technical University, USA และมีประสบการณ์การทำงานในสายงาน Marketing หลากหลายธุรกิจ รวมไปถึงงาน Product Manager ของธุรกิจไม้ปาติเคิล MDF บอร์ดที่ผลิตงานเฟอร์นิเจอร์ให้กับบริษัทใหญ่ ๆ ทั้งของไทยและต่างประเทศ เช่น Index living Mall, Modernform, SB Furniture และ Maica ทำให้คุณกิ๊ฟมีประสบการณ์และความรู้ในด้านเฟอร์นิเจอร์เป็นพิเศษ ปัจจุบันคุณกิ๊ฟเป็นคุณแม่ลูก 1 จึงมีความสนใจในเรื่องราวของแม่และเด็กเป็นพิเศษ และด้วยสายงานที่เคยทำจึงชอบศึกษาเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคและบริโภคทั่วไป รวมทั้งอ่านรีวิวสินค้าของแม่และเด็กในเวลาว่างอยู่ตลอด นอกจากนี้ คุณกิ๊ฟยังผ่านประสบการณ์ในการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพประเภทต่าง ๆ ให้กับลูกอีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
การใช้แก้วหัดดื่มมีประโยชน์ คือ ช่วยให้ทารกได้ฝึกการใช้กล้ามเนื้อมือ ทำให้เด็กสามารถยกแก้วน้ำดื่มได้ไวขึ้น มีการฝึกความสัมพันธ์ระหว่างการเคลื่อนไหวของมือและการทำงานของสายตา เพราะการดื่มน้ำจากแก้วต้องเด็กอาศัยการถือหูแก้วประกอบกับฝึกจังหวะการกระดกแก้วและกลืน หากเริ่มเร็วก็จะทำให้เด็กมีความคุ้นเคยได้เร็วกว่าเด็กที่มาฝึกทีหลัง นอกจากนี้เลิกขวดนมได้เร็วขึ้น ลดปัญหาช่องปากและฟันได้ และการใช้แก้วหัดดื่มยังปลอดภัยกว่าการใช้แก้วปกติกับหลอด เพราะส่วนใหญ่จะมีการออกแบบให้ตัวหลอดติดกับแก้วและทำจากวัสดุที่อ่อนนิ่ม ทำให้ลดโอกาสที่เด็กจะเล่นหลอดจนเป็นอันตรายต่อปากหรือตาได้
การใช้แก้วหัดดื่ม สามารถเริ่มได้เมื่อทารกอายุประมาณ 4 เดือนขึ้นไป เพราะเป็นวัยที่เริ่มนั่งตัวตรงได้ คอตั้งตรงได้ และการหยิบจับจะเริ่มทำได้ดีขึ้น การดื่มน้ำท่านั่งจะช่วยลดการสำลักและปอดติดเชื้อจากการสำลักได้
แก้วหัดดื่มเป็นอุปกรณ์ที่ให้เด็กอ่อนใช้สำหรับหัดดื่มน้ำในช่วงวัยที่เริ่มมีพัฒนาการการกิน-ดื่ม ปัจจุบันมีขายกันอยู่หลายรูปแบบ แต่โดยหลัก ๆ สามารถจำแนกความแตกต่างได้จากลักษณะปากขวดและที่จับ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญช่วยให้เด็กดื่มน้ำได้ง่ายและเป็นเร็วขึ้น
แก้วหัดดื่มชนิดนี้เหมาะจะใช้เป็นแก้วหัดดื่มขั้นต้นสำหรับเด็กที่เริ่มเปลี่ยนจากการดื่มนมจากขวดหรือจากเต้ามาเป็นการดื่มจากแก้ว รวมถึงการทานอาหารเหลว แต่ทั้งนี้ เด็กอ่อนบางคนที่คุ้นเคยกับการดื่มนมจากขวดนมนั้นจะคุ้นชินและปรับตัวกับการดื่มน้ำจากแก้วหัดดื่มชนิดนี้ได้ดีกว่าเด็กที่ดื่มนมจากเต้าแม่โดยตรงเพราะเด็กกลุ่มนี้จะไม่ชอบการดื่มน้ำหรือนมจากกรวยพลาสติกหรือยาง ช่วงเริ่มต้นคุณแม่อาจต้องใจเย็นแล้วค่อย ๆ ฝึก โดยมีหลักการเลือกแก้วน้ำหัดดื่มสำหรับเด็กวัย 4 เดือน ดังต่อไปนี้
การใช้แก้วหัดดื่มแบบจุกนมนั้น จุดประสงค์หลัก คือ เพื่อให้เด็กเกิดความคุ้นเคยในการหยิบจับอุปกรณ์ แต่หลักการดูดนั้นเหมือนขวดนมทั่วไป เพราะยังอาศัยการดูดเป็นหลักและยังดูดหลอดไม่ได้ หากต้องการใช้แนะนำให้ใช้เพียงแค่ช่วงอายุเริ่มต้นคือ 4 - 6 เดือน เพื่อให้คุ้นชินรูปทรงภาชนะและการจับถือ จากนั้นควรเปลี่ยนจุกดูดเป็นชนิดอื่น
วัสดุส่วนจุกดื่มควรทำจากวัสดุยาง, ซิลิโคน, พลาสติกทนความร้อน เช่น Polypropylene (PP), PES (Polyethersulfone) และ PPSU (Polyphenylsulfone) ควรเลือกแก้วหัดดื่มที่ปราศจากสาร BPA เพราะสาร BPA มีผลต่อการเจริญเติบโต การสืบพันธุ์ ทำให้เด็กโตเป็นหนุ่มสาวเร็วกว่าวัย และมีผลต่อระบบประสาท การสร้างเซลล์สมอง ส่งผลให้เด็กมีอาการสมาธิสั้น
หลอดควรนุ่ม ไม่บางยวบ อาจเป็นซิลิโคน และไม่เป็นรอยจากการกัดง่ายเพราะเด็กในวัยนี้ยังคุมแรงดูดไม่ดี และอาจกัดมีรอยซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้
ด้วยความที่เป็นช่วงแรกของการหัดดื่มน้ำเอง คุณแม่จึงควรเลือกแก้วหัดดื่มทรงกระบอกที่มีหูจับซ้ายแล้วขวาเพื่อให้เด็กสอดมือเข้าไปในบริเวณหูจับได้อย่างสะดวก ช่วยประคองกันหลุดมือ ที่สำคัญ คือ ช่วยลดการนำความร้อนจากขวดนมสู่มือเด็ก ทั้งนี้ควรเลือกหูจับที่ผลิตจากวัสดุกันลื่น เช่น ยาง พลาสติกที่ไม่ลื่น เพื่อป้องกันของเหลวหกใส่ตัวจากการทำแก้วหลุดมือ ในเด็กที่แรงจับยังน้อยแนะนำให้เลือกแก้วที่มีหูจับ 2 มือเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการกะระยะเข้าปากและป้องกันการทำหก
อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตบางเจ้าได้ผลิตแก้วหัดดื่มสำหรับเด็กอ่อนที่สามารถถอดหูจับ หรือพับหูจับเก็บได้ ทำให้ง่ายต่อการพกพาในกระเป๋า และช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณแม่เมื่อต้องพกพาแก้วหัดดื่มเมื่อออกไปเที่ยวนอกบ้าน และยังสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานให้เหมาะสมกับวัยของเด็กได้
สำหรับเด็กในวัยนี้ เรื่องรูปทรงของแก้วยังไม่มีความแตกต่างกันเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงไหนก็ตาม เนื่องมาจากในวัยนี้เด็กจะสามารถควบคุมแขนขาหรือกล้ามเนื้อมัดใหญ่ได้แล้วแต่ยังไม่สามารถควบคุมการงอนิ้วมือหรือกล้ามเนื้อมัดเล็กได้ดีเท่าทารกตอนปลาย (ทารกอายุ 8 - 9 เดือน) ทำให้ยังต้องอาศัยการช่วยประคองแก้วน้ำจากผู้ปกครองอยู่นั่นเอง นอกจากนี้ การเลือกแก้วหัดดื่มที่มีดีไซน์แปลกมากเกินไป จะทำให้หกง่าย เป็นการสอนให้เด็กจำและเคยชินกับการวางมือที่ผิดอีกด้วย
สำหรับเด็กอายุ 6 - 8 เดือน จะเริ่มมีพัฒนาการการใช้กล้ามเนื้อปาก การกลืน ได้ดีมากขึ้น จึงเปลี่ยนมาใช้หลอดชนิดอื่นแทนแก้วหัดดื่มแบบจุกนมได้ การเลือกแก้วหัดดื่มสำหรับเด็กวัยนี้ควรพิจารณาเรื่องใดบ้าง สามารถดูรายละเอียดได้ดังต่อไปนี้
แก้วหัดดื่มชนิดปากรูปกรวย เป็นลักษณะมีฝาปิดเป็นรูปกรวยแหลมยื่นออกมาให้เข้าทรงกับรูปปากของเด็ก บริเวณปากกรวยจะทำจากพลาสติกแข็งซึ่งต่างจากแก้วหัดดื่มแบบจุกนมที่ตัวหลอดจะทำจากวัสดุอ่อนนิ่ม หลักการใช้งานของแก้วชนิดนี้ คือ เด็กสามารถยกแก้วน้ำดื่มได้โดยไม่หกเลอะเทอะ เหมาะกับเด็กในช่วงวัยที่ยังดื่มน้ำจากหลอดไม่เป็นเพราะแก้วหัดดื่มชนิดนี้ไม่ต้องอาศัยแรงดูด เพียงแค่ยกแก้วหัดดื่มเอียงเล็กน้อย น้ำดื่มก็จะไหลลงสู่ปาก
แก้วหัดดื่ม 360 องศา ประกอบด้วย 3 ชิ้นส่วนคือ แก้ว ฝาพร้อมที่จับ และท็อปเปอร์ซิลิโคน โดยท็อปเปอร์ซิลิโคนจะช่วยปิดขอบแก้ว ป้องกันไม่ให้เครื่องดื่มหกออกมา ข้อดีของแก้วหัดดื่มชนิด 360 องศาคือ จะช่วยในเรื่องพัฒนาการของสุขภาพช่องปากของเด็ก เนื่องจากแก้วไม่มีจุกนม จึงไม่ส่งผลเสียใด ๆ ต่อฟันของเด็ก ทำให้ฟันของเด็กขึ้นอย่างแข็งแรงและสมบูรณ์ รวมถึงช่วยพัฒนากล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหว และการดื่มของเด็กได้ดี
วิธีการทำงานของแก้วหัดดื่ม 360 องศา คือ เมื่อเด็กกดท็อปเปอร์ด้วยริมฝีปาก ตัวซิลิโคนจะเปิดออกและน้ำจะไหลออกมา และเมื่อเด็กเอาริมฝีปากออกจากขอบแก้วท็อปเปอร์จะปิดเองอัตโนมัติ ถือเป็นแก้วหัดดื่มที่เสริมสร้างพัฒนาการดื่มของเด็กจากเต้านมหรือขวดนมไปสู่การดื่มจากแก้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเลือกแก้วหัดดื่ม 360 องศา ที่มีซีลแน่น ข้อต่อน้อย ไม่หนักจนหลุดมือ มีระบบสุญญากาศ แนะนำให้เลือกรุ่นที่หมุนปรับปริมาณน้ำที่ออกมาได้เพื่อช่วยลดการสำลัก และเพื่อให้เด็กได้รับน้ำปริมาณที่เหมาะสมตามขนาดช่องปาก
แก้วหัดดื่มชนิดหลอดดูด เป็นลักษณะแก้วน้ำที่มีหลอดดูดนิ่ม เหมาะกับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 8 เดือนขึ้นไป เพราะเป็นการใช้ความสัมพันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อปาก ลิ้น และจังหวะการกลืน ซึ่งเด็กที่มีอายุ 8 เดือนจะเริ่มทำได้ดีในช่วงนี้ และกล้ามเนื้อเรียบที่นิ้วมือจะมีความแข็งแรง งอ จับหูแก้วได้ดีขึ้น ควรเลือกวัสดุของหลอดดูดที่ทำจากซิลิโคน ยาง หรือพลาสติกที่ปราศจาก BPA
แก้วหัดดื่มชนิดหลอดดูด เป็นแก้วที่เชื่อมต่อหลอดลงไปถึงภายใน มีฝาปิดมิดชิดแน่นหนาขึ้น ป้องกันการรั่วไหลได้เป็นอย่างดี เหมาะกับการพกพาไปใช้นอกสถานที่ ไร้กังวลว่าน้ำหรือนมจะหกเลอะกระเป๋า แก้วหัดดื่มแบบหลอดดูดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้สำหรับหัดดื่มโดยเฉพาะ บางรุ่นมีการขายแก้วหัดดื่มแยกกับหลอดดูดเผื่อกรณีที่เด็กกัดจนหลอดขาดหรือเมื่อใช้มานานแล้ว อาจมีเชื้อโรคสะสมได้หากทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ ก็สามารถหาอะไหล่ของหลอดดูดมาเปลี่ยนแทนการเปลี่ยนทั้งชุดได้ เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เด็กที่ไม่คุ้นชินกับการดูดมาก่อนจะไม่ค่อยชื่นชอบการใช้งานแก้วหัดดื่มแบบหลอดดูดนี้เท่าใดนักเพราะเป็นลักษณะที่ต้องใช้พลังการดูดสูง ตรงกันข้ามกับเด็กที่ดูดนมจากเต้ามาตลอด จะทำให้เด็กคุ้นชินกับการใช้พลังดูดจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเด็กที่กินนมจากเต้าเมื่อต้องปรับเปลี่ยนมาใช้งานแก้วหัดดื่มลักษณะนี้
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของแก้วชนิดนี้อาจทำให้เด็กบ้วนน้ำหรือเทน้ำทิ้งจนหกเลอะเทอะได้ง่าย คุณแม่อาจต้องคอยประคองแก้วน้ำก่อนในช่วงแรก ๆ ที่ทำการฝึก นอกจากนี้อาจต้องคอยทำความสะอาดน้ำที่หกบ่อยครั้ง
การดื่มน้ำจากแก้ว (Cup Feeding) นั้นสามารถเริ่มได้ตั้งแต่แรกเกิด เช่น ทารกแรกเกิดที่แม่มีปัญหาหัวนมสั้น เป็นต้น ในช่วงที่ทารกมีอายุ 6 เดือน สามารถให้ใช้แก้วหัดดื่มประเภทนี้ได้ เพื่อสร้างความคุ้นเคย สร้างภาพจำทารกใหม่ว่าขวดนมไม่ใช่อุปกรณ์ทานนมหลัก ช่วยฝึกกล้ามเนื้อมือ การทรงตัว คอ และหลัง การกะระยะ การกะจังหวะการกลืน ในช่วงแรกที่ทำการฝึกให้ผู้ปกครองช่วยประคองแก้วให้ตรงปากในช่วงแรกก่อนแต่ไม่ต้องออกแรงแทนเด็กทั้งหมด และเมื่ออายุ 11 - 12 เดือน เด็กก็จะเริ่มยกแก้วดื่มเองได้อย่างมั่นคงขึ้นแต่จะยังมีหกเลอะเทอะ เพราะกว่าเด็กจะดื่มได้โดยหกน้อยมากจะอยู่ช่วงอายุประมาณ 17 เดือนขึ้นไปนั่นเอง
แก้วหัดดื่มที่ขายกันทั่วไปเริ่มต้นที่ขนาดความจุ 200 มิลลิลิตร แต่การเลือกซื้อนั้นต้องคำนึงถึงการใช้งานเป็นสำคัญ โดยสิ่งแรกคือเลือกให้เหมาะกับช่วงวัยของเด็กที่จะใช้งาน และอาจซื้อเผื่ออนาคตได้ไม่เสียหาย เพราะยิ่งนานวันเด็กจะยิ่งเติบโตขึ้นทำให้ดื่มน้ำได้มากขึ้น นอกจากนี้ การตัดสินใจเลือกซื้อควรคำนึงถึงโอกาสและสถานที่ที่จะนำไปใช้งานด้วย
กล่าวคือ ถ้าคุณจะไปในที่ซึ่งสะดวกจะเติมน้ำก็ไม่จำเป็นต้องพกแก้วหัดดื่มขนาดใหญ่ให้หนักกระเป๋า แต่ควรพกแก้วหัดดื่มที่มีขนาดความจุประมาณ 150 มิลลิลิตรหรือเล็กกว่านั้นเล็กน้อยเพื่อบรรจุน้ำหรือนมให้ลูกดื่ม จากนั้นค่อยเติมเมื่อหมดลง แต่สำหรับการออกเดินทางนอกบ้านที่ไม่สะดวกเติมน้ำบ่อย ๆ หรือในช่วงหน้าร้อนที่เด็ก ๆ จะกระหายน้ำมากกว่าเดิม คุณแม่ควรเตรียมพกแก้วหัดดื่มขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการค่ะ ซึ่งแก้วหัดดื่มขนาด 300 มิลลิลิตรถือว่าเป็นขนาดที่กำลังดี
แก้วฝึกดื่มมีหลายขนาด เช่น 5, 5.5, 6, 7,8, 12 ออนซ์ (Ounce, oz) เป็นต้น เราควรทราบปริมาณนมที่ทารกควรได้รับในแต่ละมื้อก่อน เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้องในการเลือกความจุภาชนะ ดังนี้
- เด็กแรกเกิด - 2 เดือน ควรได้รับนม 60 - 90 มล. ต่อมื้อ
- เด็กอายุ 2 - 4 เดือน ควรได้รับนม 90 - 150 มล. ต่อมื้อ
- เด็กอายุ 4 - 6 เดือน ควรได้รับนม 120 - 180 มล. ต่อมื้อ
- เด็กอายุ 6 - 9 เดือน ควรได้รับนม 150 - 180 มล. ต่อมื้อ
- เด็กอายุ 9 - 12 เดือน ควรได้รับนม 180 - 240 มล. ต่อมื้อ
ส่วนเด็กที่อายุมากกว่า 12 เดือน ควรเริ่มดูดหลอดจากกล่องหรือแก้วและดื่มจากแก้ว อีกทั้งยังควรเลือกภาชนะที่มีความจุพอดีกับปริมาณนมที่ตวงในแต่ละมื้อ และชงในปริมาณที่มากเล็กน้อยเผื่อทำหกหรือทารกแหวะนม ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ควรชงนมในปริมาณที่มากเกินหรือชงเผื่อดื่มหลายมื้อ เพราะนมอาจเสีย บูด หรือมีสิ่งสกปรกเจือปนก่อนถึงมื้อนม อีกทั้งน้ำหนักภาชนะจะมากเกินจำเป็นจนส่งผลให้เด็กยกดื่มได้ลำบาก อาจเมื่อยล้าหรือปฏิเสธการดื่มจากแก้วฝึกดื่มได้
แก้วหัดดื่มสำหรับเด็กส่วนใหญ่แล้วเป็นแบบที่ทำจากพลาสติก มีน้ำหนักเบา พกพาได้สะดวก ล้างทำความสะอาดง่าย สามารถต้มในน้ำเดือดหรือใช้อบในไมโครเวฟเพื่อฆ่าเชื้อได้ทันที โดยไม่ต้องคอยกังวลว่าน้ำจะรั่วหรือหล่นแตกนั่นเอง
และเนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่เด็กใช้ดื่มของเหลวเข้าไปในร่างกาย จึงควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของวัสดุเป็นพิเศษ โดยให้เลือกแก้วหัดดื่มที่ระบุว่า BPA-Free เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน เนื่องจาก BPA เป็นสารเคมีที่อยู่ในพลาสติก สามารถก่อให้เกิดมะเร็ง และสร้างความผิดปกติให้กับเซลล์ในร่างกาย คุณพ่อคุณแม่จึงควรตรวจสอบวัสดุให้ดีก่อนซื้อ
พลาสติกเป็นวัสดุที่นิยมใช้ผลิตแก้วหัดดื่มมากที่สุด เนื่องจากมีข้อดีคือ หาซื้อง่าย สีสันสดใส น้ำหนักเบา โอกาสตกแตกน้อย ส่วนข้อเสีย คือ อาจเกิดไบโอฟิล์มและรอยขีดข่วนง่าย และเมื่ออายุการใช้งานมากขึ้นอาจเสียรูปทรง มีรอยรั่ว รอยขีดข่วน หรืออาจมีสารเคมีเจือปนออกมาเมื่อได้รับความร้อน
คำแนะนำของแพทย์คือ ควรเลือกพลาสติกทนความร้อน 3 ประเภทหลัก ๆ คือ Polypropylene (PP), PES (Polyethersulfone) และ PPSU (Polyphenylsulfone) ที่สำคัญควรมองหาคำว่า “BPA-FREE” เนื่องจาก Bisphenol A หรือ BPA นั้นเป็นสารรบกวนการพัฒนาระบบประสาท ทำให้มีพัฒนาการและการเรียนรู้ที่ช้า และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ในเด็กได้ ส่วนวัสดุอื่นที่นิยมคือแก้วและยาง สามารถใช้ได้แต่ควรเลือกที่รูปทรงแข็งแรง ไม่ตกแตกง่าย ไม่นำความร้อนสู่มือเด็กน้อย และน้ำหนักต้องไม่มากเกินไป
แก้วหัดดื่มสำหรับเด็กอ่อนส่วนใหญ่ผลิตมาให้มีฝาปิดล็อคแน่นหนา เพื่อป้องกันการรั่วซึมขณะยกขวดขึ้นดื่ม แต่ก็พบว่าแก้วหัดดื่มบางรุ่นที่ไม่ได้มีระบบล็อคป้องกันในจุดนี้ทำให้น้ำหรือนมไหลซึมมาเลอะขณะดื่มได้ ทำให้ลำบากคุณแม่ต้องมาคอยเช็ดทำความสะอาดเสียทุกครั้ง แล้วการรั่วซึมนี้ยังเป็นปัญหาใหญ่เมื่อคุณต้องพกพาแก้วหัดดื่มสำหรับเด็กไปใช้นอกสถานที่จนเกิดเหตุการณ์ว่าน้ำรั่วซึมออกมาเลอะกระเป๋าถือได้ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อแก้วหัดดื่มรุ่นใด ๆ ควรตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่าสินค้ารุ่นนั้น ๆ ออกแบบมาให้มีระบบป้องกันการรั่วซึมหรือไม่ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างสะดวกและราบรื่น
ปัญหาที่พบมากในเด็กทารกที่ใช้อุปกรณ์หัดดื่ม คือ น้ำนมหกเลอะเทอะ เมื่อน้ำนมหกนั้น นอกจากจะสร้างความเปียกชื้นบนผิว เสื้อผ้าเด็กและพื้นบ้านแล้ว ยังอาจเกิดการไหม้ผิวหนังจากน้ำนมที่มีอุณหภูมิสูงอีกด้วย ที่สำคัญ ยังเพิ่มโอกาสเกิดการสำลักจากน้ำนมที่รั่วไหลเข้าจมูกและปากเด็ก ส่งผลให้เด็กกลัวและปฏิเสธการใช้แก้วหัดดื่มได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้เลือกรุ่นที่มีฝาปิดแน่นหนา ไม่รั่วซึมเมื่อยกดื่มเสมอ
และอย่าลืมพิจารณาเรื่องคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อของผลิตภัณฑ์ ซึ่งอาจจะฆ่าเชื้อได้ด้วยวิธีการต้ม เอาเข้าฆ่าเชื้อในไมโครเวฟหรือการฆ่าเชื้อด้วยสารเคมี หากต้องการใช้แก้วหัดดื่มกับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี นอกจากนี้หากคุณแม่ต้องการลดภาระในการล้างทำความสะอาด อาจพิจารณาผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำความสะอาดในเครื่องล้างจานได้
การล้างทำความสะอาดแก้วหัดดื่ม ไม่ควรทำความสะอาดด้วยแปรงแข็ง ๆ หรือใช้ฝอยโลหะขัดเพราะจะเกิดเป็นรอยขีดข่วน และร่องรอยจะสะสมไบโอฟิล์มของแบคทีเรียและเชื้อโรคอื่น ๆ เลือกแก้วหัดดื่มที่มีคุณสมบัติในการทนความร้อน เพราะก่อนใช้ควรอุ่นหรือลวกน้ำร้อนเสมอดังเช่นขวดนม จนเด็กอายุประมาณ 1 ปี
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | ราคา | คะแนน | รายละเอียด | ||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลักษณะปากขวด | เหมาะกับเด็กอายุ | จำนวนหูจับ | ความจุ | น้ำหนัก | ความกว้าง | ความยาว | ความสูง | วัสดุส่วนแก้ว | วัสดุส่วนหลอด | สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้ | ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้ | ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้ | ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้ | เข้าเครื่องล้างจานได้ | ปราศจากสาร BPA | ||||||
1 | Pigeon Pigeon Straw Cup | 390 บาท ราคาปานกลาง | แก้วหัดดื่มแบบ 2 in 1 ครบจบในขวดเดียว ดื่มง่าย ไม่ทำให้สำลัก | แบบจุกนม และ แบบหลอดดูด | 8 เดือน | 2 อัน | 200 มล. | 226 กรัม | ซิลิโคน | ||||||||||||
2 | Bbox Bbox Sippy Cup | 290 บาท ราคาปานกลาง | ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ปลอดภัยต่อร่างกาย ดื่มได้ทุกอิริยาบถ | แบบหลอดดูด | 6 เดือน | 2 อัน | 240 มล. | สเตนเลสคุณภาพสูง | ซิลิโคน | ||||||||||||
3 | Richell Richell Aqulea | 440 บาท ราคาค่อนข้างสูง | มีปุ่มกดดันน้ำฝึกดูด พร้อมหูจับง่าย ถอดฝาใช้เป็นแก้วปกติได้ | แบบหลอดดูด และ แบบแก้ว | 6 เดือน | 2 อัน | 150 มล. | 330 กรัม | 105 มม. | 85 มม. | 100 มม. | เรซินโพลีเอสเตอร์ชนิดอิ่มตัว | Silicone Rubber | ||||||||
4 | Camera Camera Step 3 | 295 บาท ราคาปานกลาง | ทนความร้อนได้ดี มาพร้อมตัวล็อกพิเศษ ป้องกันน้ำหก พกพาสะดวก | แบบหลอดดูด | 6 เดือน | 22 อัน | 260 มล. | 165 กรัม | 135 มม. | 70 มม. | 130 มม. | โพลีโพพีลีน | ซิลิโคน | ||||||||
5 | Tommee Tippee Tommee Tippee Easy Drink Sippee Cup | 297 บาท ราคาปานกลาง | จุกซิลิโคนนุ่ม อ่อนโยนต่อเหงือก รูปทรงแก้วแบบเว้ายกดื่มง่าย | กรวยพลาสติก | 7 เดือน | 2 อัน | 230 มล. | 139.7 มม. | 127 มม. | 368.3 มม. | โพลีโพพีลีน | ซฺิลิโคน | |||||||||
6 | HEORSHE HEORSHE Dental Care Sippy Cup | 142 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | จุกดูดมีความนุ่มและยืดหยุ่นสูง ช่วยรักษารูปฟันเด็กให้เรียงสวย | แบบหลอดดูด | 6 เดือน | 2 อัน | 180 มล. | High Polymer Antibacterial Material | ซิลิโคน | ||||||||||||
7 | BEABA BEABA 3 in 1 Evolutive Training Cup | 590 บาท ราคาค่อนข้างสูง | ปรับใช้ได้ถึง 3 แบบ จับใช้สะดวก เนื้อนุ่ม ฝึกดื่มได้หลายช่วงวัย | แบบจุกนม, กรวยพลาสติก และ แบบแก้วน้ำ | 4 เดือน | 2 อัน | 150 มล. | 118 กรัม | 123 มม. | 83 มม. | 145 มม. | ซิลิโคน | |||||||||
8 | Dodolove Dodolove Training Cup | 58 บาท ราคาต่ำ | ลวดลายสดใสน่ารัก ฝาเปิดปิดใช้งานสะดวก ดื่มง่าย ไม่ทำให้สำลัก | แบบหลอดดูด | 6 เดือน | 2 อัน | 350 มล. | ไม่ระบุ | 130 มม. | 80 มม. | 140 มม. | พลาสติก | ซิลิโคน | ||||||||
9 | Kidsme Kidsme Training Cup | 690 บาท ราคาสูง | พลาสติก Tritan ทนทานสูง ป้องกันรอยขีดข่วน และการตกแตก | แบบหลอดดูด | 9 เดือน | 2 อัน | 240 มล. | Tritan | ซิลิโคน | ||||||||||||
10 | Dr.Isla Dr.Isla BY01 Water Bottle | 59 บาท ราคาต่ำ | ดีไซน์ฝาครอบใช้งานง่าย วัสดุทนทาน ปลอดสารพิษ ราคาย่อมเยา | แบบหลอดดูด | 2 อัน | 250 มล. | Polycarbonate | ซิลิโคน |
ลักษณะปากขวด | แบบจุกนม และ แบบหลอดดูด |
---|---|
เหมาะกับเด็กอายุ | 8 เดือน |
จำนวนหูจับ | 2 อัน |
ความจุ | 200 มล. |
น้ำหนัก | 226 กรัม |
ความกว้าง | |
ความยาว | |
ความสูง | |
วัสดุส่วนแก้ว | |
วัสดุส่วนหลอด | ซิลิโคน |
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้ | |
เข้าเครื่องล้างจานได้ | |
ปราศจากสาร BPA |
หนึ่งในแก้วหัดดื่มที่ออกแบบมาเพื่อให้เด็กเล็กสามารถใช้ได้ในทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะเป็นท่านั่งหรือนอน โดยทางแบรนด์ Bbox ได้ออกแบบตัวแก้วให้มีฝาปิดสนิท ช่วยป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมและน้ำหกได้ดี มาพร้อมกับหลอดซิลิโคนเนื้อนิ่มที่มีตัวถ่วงน้ำหนัก เพื่อให้ดื่มได้ง่าย และป้องกันการสำลัก นอกจากนี้ยังมีหูจับ 2 ข้าง ทำให้เด็กจับได้ถนัดมือ ที่สำคัญคือ ตัวแก้วและหลอดผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ซึ่งปราศจากสารที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายอย่าง PP-BPA, Phthalates และ PVC free จึงมั่นใจได้ว่าใช้งานได้อย่างปลอดภัย
ลักษณะปากขวด | แบบหลอดดูด |
---|---|
เหมาะกับเด็กอายุ | 6 เดือน |
จำนวนหูจับ | 2 อัน |
ความจุ | 240 มล. |
น้ำหนัก | |
ความกว้าง | |
ความยาว | |
ความสูง | |
วัสดุส่วนแก้ว | สเตนเลสคุณภาพสูง |
วัสดุส่วนหลอด | ซิลิโคน |
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้ | |
เข้าเครื่องล้างจานได้ | |
ปราศจากสาร BPA |
จุดเด่นของแก้วหัดดื่ม Richell รุ่นนี้อยู่ตรงฝาแก้วน้ำโดยจะมีปุ่มกดสำหรับช่วยเด็กในการฝึกดูดน้ำ เมื่อกดปุ่มน้ำจะออกมาจากหลอด มาพร้อมหูจับที่ออกแบบมาให้เหมาะกับมือเด็ก สำหรับช่วยฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กของเด็กในการจับแก้วน้ำและยกดูดหรือดื่มเองได้อย่างคล่องตัว อีกทั้งตัวหลอดยังเป็นแบบสุญญากาศ จึงไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะหกเมื่อเด็กถือเอียงหรือคว่ำแก้ว ส่วนฐานรองด้านล่างแก้วหุ้มขอบด้วยซิลิโคนป้องกันไม่ให้ลื่นหรือเด็กปัดตก นอกจากนี้ ยังสามารถถอดฝาออกแล้วใช้เป็นแก้วน้ำปกติสำหรับฝึกให้เด็กยกดื่มได้
ลักษณะปากขวด | แบบหลอดดูด และ แบบแก้ว |
---|---|
เหมาะกับเด็กอายุ | 6 เดือน |
จำนวนหูจับ | 2 อัน |
ความจุ | 150 มล. |
น้ำหนัก | 330 กรัม |
ความกว้าง | 105 มม. |
ความยาว | 85 มม. |
ความสูง | 100 มม. |
วัสดุส่วนแก้ว | เรซินโพลีเอสเตอร์ชนิดอิ่มตัว |
วัสดุส่วนหลอด | Silicone Rubber |
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้ | |
เข้าเครื่องล้างจานได้ | |
ปราศจากสาร BPA |
ลักษณะปากขวด | แบบหลอดดูด |
---|---|
เหมาะกับเด็กอายุ | 6 เดือน |
จำนวนหูจับ | 22 อัน |
ความจุ | 260 มล. |
น้ำหนัก | 165 กรัม |
ความกว้าง | 135 มม. |
ความยาว | 70 มม. |
ความสูง | 130 มม. |
วัสดุส่วนแก้ว | โพลีโพพีลีน |
วัสดุส่วนหลอด | ซิลิโคน |
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้ | |
เข้าเครื่องล้างจานได้ | |
ปราศจากสาร BPA |
แก้วหัดดื่มรุ่นนี้จะมีจุกดื่มทรงกรวยทำจากซิลิโคนนิ่มพิเศษ ที่มีความนุ่มและอ่อนโยนต่อเหงือกที่บอบบางของเด็ก มาพร้อมวาล์วป้องกันน้ำหกเมื่อเด็กเอียงหรือคว่ำแก้ว และน้ำจะไหลก็ต่อเมื่อเด็กยกดื่มเท่านั้น อีกทั้งที่จับยังออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสรีระมือของเด็กโดยเฉพาะ ทำให้ยกดื่มเองได้ง่าย โดยหัวจุกของแก้วรุ่นนี้มีรูกว้างเพียงพอที่จะใช้ดื่มซุปใสและข้น น้ำผลไม้ หรืออาหารเหลวได้ นอกจากนี้ ยังมีฝาครอบปิดป้องกันจุกดูดไม่ให้เปื้อนสิ่งสกปรกและเชื้อโรคได้ง่าย รวมถึงทุกชิ้นส่วนสามารถถอดล้างทำความสะอาด และนำไปฆ่าเชื้อโรคด้วยความร้อนได้
ลักษณะปากขวด | กรวยพลาสติก |
---|---|
เหมาะกับเด็กอายุ | 7 เดือน |
จำนวนหูจับ | 2 อัน |
ความจุ | 230 มล. |
น้ำหนัก | |
ความกว้าง | 139.7 มม. |
ความยาว | 127 มม. |
ความสูง | 368.3 มม. |
วัสดุส่วนแก้ว | โพลีโพพีลีน |
วัสดุส่วนหลอด | ซฺิลิโคน |
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้ | |
เข้าเครื่องล้างจานได้ | |
ปราศจากสาร BPA |
ลักษณะปากขวด | แบบหลอดดูด |
---|---|
เหมาะกับเด็กอายุ | 6 เดือน |
จำนวนหูจับ | 2 อัน |
ความจุ | 180 มล. |
น้ำหนัก | |
ความกว้าง | |
ความยาว | |
ความสูง | |
วัสดุส่วนแก้ว | High Polymer Antibacterial Material |
วัสดุส่วนหลอด | ซิลิโคน |
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้ | |
เข้าเครื่องล้างจานได้ | |
ปราศจากสาร BPA |
แก้วหัดดื่มที่สามารถปรับใช้ได้ 3 แบบ โดยมีหัวจุกสำหรับเปลี่ยนใช้งานตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นจุกดูดซิลิโคนนุ่มใช้สำหรับดูดนมหรือน้ำได้เหมือนขวดนมทั่วไป และกรวยพลาสติกที่มีรูด้านบนสำหรับยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเพื่อให้น้ำในแก้วไหลออกมาตามรู รวมทั้งยังสามารถถอดฝาออก เพื่อใช้เป็นแก้วน้ำยกดื่ม สำหรับเด็กที่ดื่มน้ำจากแก้วคล่องแล้ว โดยทุกส่วนทำจากวัสดุคุณภาพดี ปราศจากสารเคมีและสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเด็ก นอกจากนี้ ยังสามารถถอดชิ้นส่วนทำความสะอาด รวมถึงเข้าเครื่องล้างจานและเครื่องนึ่งฆ่าเชื้อได้
ลักษณะปากขวด | แบบจุกนม, กรวยพลาสติก และ แบบแก้วน้ำ |
---|---|
เหมาะกับเด็กอายุ | 4 เดือน |
จำนวนหูจับ | 2 อัน |
ความจุ | 150 มล. |
น้ำหนัก | 118 กรัม |
ความกว้าง | 123 มม. |
ความยาว | 83 มม. |
ความสูง | 145 มม. |
วัสดุส่วนแก้ว | |
วัสดุส่วนหลอด | ซิลิโคน |
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้ | |
เข้าเครื่องล้างจานได้ | |
ปราศจากสาร BPA |
ลักษณะปากขวด | แบบหลอดดูด |
---|---|
เหมาะกับเด็กอายุ | 6 เดือน |
จำนวนหูจับ | 2 อัน |
ความจุ | 350 มล. |
น้ำหนัก | ไม่ระบุ |
ความกว้าง | 130 มม. |
ความยาว | 80 มม. |
ความสูง | 140 มม. |
วัสดุส่วนแก้ว | พลาสติก |
วัสดุส่วนหลอด | ซิลิโคน |
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้ | |
เข้าเครื่องล้างจานได้ | |
ปราศจากสาร BPA |
ลักษณะปากขวด | แบบหลอดดูด |
---|---|
เหมาะกับเด็กอายุ | 9 เดือน |
จำนวนหูจับ | 2 อัน |
ความจุ | 240 มล. |
น้ำหนัก | |
ความกว้าง | |
ความยาว | |
ความสูง | |
วัสดุส่วนแก้ว | Tritan |
วัสดุส่วนหลอด | ซิลิโคน |
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้ | |
เข้าเครื่องล้างจานได้ | |
ปราศจากสาร BPA |
หากกำลังมองหาแก้วหัดดื่มที่มีราคาย่อมเยา แต่คุณภาพได้มาตรฐาน การเลือกแก้วหัดดื่มของ Dr.Isla รุ่นนี้สามารถตอบโจทย์ได้ดี เพราะตัวแก้วผลิตจากพลาสติก PC ที่มีความทนทาน ไม่แตกง่าย และปราศจากสาร BPA จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อร่างกายของเด็ก อีกทั้ง ยังมีตุ้มถ่วงน้ำหนักที่ปลายหลอด และฝาที่ออกแบบมาให้ปิดสนิท ช่วยให้ดื่มได้ง่าย ไม่ทำให้สำลัก และป้องกันการรั่วซึมได้ดี สามารถดื่มได้ทั้งท่านั่งและท่านอน นอกจากนี้ ยังมีฝาครอบสำหรับป้องกันสิ่งสกปรก ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้สะดวก เพียงแค่กดปุ่มตัวฝาและหลอดก็จะเปิดขึ้นมาพร้อมดื่มทันที
ลักษณะปากขวด | แบบหลอดดูด |
---|---|
เหมาะกับเด็กอายุ | |
จำนวนหูจับ | 2 อัน |
ความจุ | 250 มล. |
น้ำหนัก | |
ความกว้าง | |
ความยาว | |
ความสูง | |
วัสดุส่วนแก้ว | Polycarbonate |
วัสดุส่วนหลอด | ซิลิโคน |
สามารถถอดประกอบชิ้นส่วนได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคได้ | |
ฆ่าเชื้อด้วยการต้มได้ | |
เข้าเครื่องล้างจานได้ | |
ปราศจากสาร BPA |
การใช้แก้วหัดดื่มก็เป็นพัฒนาการอีกขั้นที่เราจะละเลยไปไม่ได้ เพราะนี่คือการเจริญเติบโตตามวัย เด็ก ๆ จะได้ฝึกหัดช่วยตัวเอง รวมถึงได้ฝึกการใช้นิ้ว ใช้มือจับสิ่งของอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองต้องไม่ลืมคำนึงถึงความปลอดภัยของวัสดุและคุณสมบัติต่าง ๆ ด้วย โดยให้อ้างอิงจากวิธีการเลือกที่ทางเราได้แนะนำไปข้างต้นมาเป็นตัวช่วยในการเลือกซื้อ เพื่อให้ลูกได้แก้วหัดดื่มที่เหมาะสมกับช่วงวัยและได้ประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุด ตรงตามที่วัตถุประสงค์การใช้แก้วหัดดื่ม
อันดับที่ 1: Pigeon|Pigeon Straw Cup
อันดับที่ 2: Bbox|Bbox Sippy Cup
อันดับที่ 3: Richell|Richell Aqulea
อันดับที่ 4: Camera|Camera Step 3
อันดับที่ 5: Tommee Tippee |Tommee Tippee Easy Drink Sippee Cup
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ