mybest
น้ำมันปลา

ให้ทุกการเลือกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ปิด
  1. TOP
  2. สุขภาพ
  3. อาหารเสริม
  4. 10 น้ำมันปลา ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 โอเมก้า 3 DHA และ EPA สูง
  • 10 น้ำมันปลา ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 โอเมก้า 3 DHA และ EPA สูง 1
  • 10 น้ำมันปลา ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 โอเมก้า 3 DHA และ EPA สูง 2
  • 10 น้ำมันปลา ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 โอเมก้า 3 DHA และ EPA สูง 3
  • 10 น้ำมันปลา ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 โอเมก้า 3 DHA และ EPA สูง 4
  • 10 น้ำมันปลา ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 โอเมก้า 3 DHA และ EPA สูง 5

10 น้ำมันปลา ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 โอเมก้า 3 DHA และ EPA สูง

น้ำมันปลาหรือ Fish Oil เป็นสารสกัดที่ได้จากส่วนต่าง ๆ ของปลา เช่น หัว หาง เนื้อ และหนัง โดยพบมากในปลาทะเลน้ำลึก มีกรดหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย รวมถึงมีสารอาหาที่ร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ ซึ่งกรดไขมันชนิดที่หลายคนคุ้นหูกันดีอย่างโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ก็มีอยู่ในน้ำมันปลาเช่นกัน โดยที่กรดไขมันทั้งสองนี้มีหน้าที่หลักในการลดไขมันในเลือด บำรุงสมอง ลดการอักเสบในร่างกาย เป็นต้น


บทความนี้เรามีวิธีการเลือกน้ำมันปลาให้เหมาะสมกับความต้องการด้านสุขภาพ พร้อมคำแนะนำจากเภสัชกรทั้งสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ คนท้อง วัยเรียนและวัยทำงาน และยังมี 10 อาหารเสริมน้ำมันปลา จากแบรนด์คุณภาพที่มีสารอาหารครบทั้ง DHA, EPA อีกทั้งบางแบรนด์ยังเพิ่มวิตามินต่าง ๆ เข้ามาเพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานอีกด้วย

อัปเดตล่าสุดเมื่อ 06/09/2023
ภญ.ภาณิกา เพชระบูรณิน (ป่าน)
ผู้เชี่ยวชาญ
เภสัชกร
ภญ.ภาณิกา เพชระบูรณิน (ป่าน)

คุณป่านจบการศึกษาจากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีประสบการณ์การทำงานมา 5 ปี ทั้งในสายงานโรงพยาบาลและร้านขายยา จึงมีโอกาสได้ใช้ความรู้ทางด้านยาและด้านสุขภาพที่ได้เรียนมาเพื่อแนะนำให้แก่ผู้ป่วยหรือผู้ที่มีปัญหาภาวะสุขภาพต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ ปัจจุบันคุณป่านทำงานในบริษัทที่ให้บริการด้านสุขภาพและความงาม โดยมีหน้าที่คอยส่งเสริมและสนับสนุนการทำงานของพนักงานหน้าร้าน เพื่อส่งต่อข้อมูลดี ๆ แก่บุคคลทั่วไปให้มีคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น นอกจากอาชีพสายงานโรงพยาบาลและร้านยาแล้ว คุณป่านยังมีความสนใจเรื่องสุขภาพและอาหารเสริมเพื่อดูแลสุขภาพตนเองและคนในครอบครัวอีกด้วย

ประวัติของ ภญ.ภาณิกา เพชระบูรณิน (ป่าน)
…อ่านต่อ
กองบรรณาธิการ mybest
บรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ mybest

มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน

ประวัติของ กองบรรณาธิการ mybest
…อ่านต่อ
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
เราไม่รับประกันผลลัพธ์หรือคุณสมบัติตามที่อธิบายไว้ในคู่มือการซื้อของเรา โปรดตรวจสอบรายละเอียดของแต่ละผลิตภัณฑ์ตามฉลากสินค้าของผู้จัดจำหน่าย

สารบัญ

น้ำมันปลาต่างกับน้ำมันตับปลาอย่างไร

น้ำมันปลาต่างกับน้ำมันตับปลาอย่างไร

น้ำมันปลาคือน้ำมันที่สกัดได้จากส่วนต่าง ๆ ของปลา โดยมักเป็นปลาในทะเลน้ำลึก เนื่องจากจะมีปริมาณกรดไขมันสูงมากกว่าปลาน้ำจืด โดยสารอาหารสำคัญในน้ำมันปลาจะประกอบด้วยกรดไขมันจำเป็นโอเมก้า 3 ซึ่งต้องได้รับจากอาหารที่มีประโยชน์ 2 ชนิด ได้แก่ EPA (Eicosapentaenoic Acid) และ DHA (Docosahexaenoic Acid) โดย EPA คือสารสำคัญที่ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี ปกป้องผิวจากรังสียูวีและยังมีสารต้านการอักเสบ ส่วน DHA คือกรดไขมันที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทและสมอง ทั้งในเรื่องความจำและการเรียนรู้


ส่วนน้ำมันตับปลาจะสกัดมาจากตับของปลาทะเลน้ำลึก ซึ่งนิยมใช้ปลาค็อด จึงมักเรียกว่า Cod Liver Oil โดยในน้ำมันตับปลาจะมีกรดไขมัน EPA และ DHA เหมือนกับน้ำมันปลา แต่จะมีปริมาณน้อยกว่า นอกจากนี้ น้ำมันตับปลาจะอุดมไปด้วยวิตามิน A และวิตามิน D ที่มากกว่า ซึ่งในการรับประทานนั้นจะไม่แนะนำให้รับประทานน้ำมันปลาและน้ำมันตับปลาร่วมกัน เพราะอาจทำให้ได้รับกรดไขมันมากเกินไปจนเกิดผลข้างเคียงได้

น้ำมันปลาช่วยอะไร เหมาะกับใครบ้าง

น้ำมันปลาช่วยอะไร  เหมาะกับใครบ้าง

น้ำมันปลามีประโยชน์มากมาย โดยสามารถยกตัวอย่างคุณประโยชน์ได้คร่าว ๆ ดังต่อไปนี้


1. น้ำมันปลามีข้อบ่งชี้ในการช่วยลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ ในผู้ที่มีภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง 
2. ช่วยป้องกันโรคหัวใจ เนื่องจากมีการศึกษาพบว่าน้ำมันปลาช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
3. ช่วยลดระดับไขมันที่เข้าไปสะสมจนเกิดภาวะไขมันพอกตับ
4. ช่วยบำรุงสมอง เพราะอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการบำรุงสมองและป้องกันภาวะสมองเสื่อม
5. ป้องกันการเกิดจอประสาทตาเสื่อม
6. ลดการอักเสบของข้อจากโรครูมาตอยด์

น้ำมันปลาจะเหมาะกับทุกคนที่ต้องการเสริมกรดไขมันจำเป็นในการบำรุงร่างกาย อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ที่มีภาวะไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์สูง โดยต้องรับประทานในขนาด 2 - 4 กรัมต่อวัน นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ เพราะมีการศึกษาแล้วว่าช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้ โดยจะแนะนำให้รับประทานวันละ 1 กรัม ทั้งนี้ ผู้รับประทานทุกกลุ่มควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ทุกครั้ง เพราะในบางรายอาจมีข้อจำกัดที่ควรหลีกเลี่ยง

วิธีการเลือกน้ำมันปลา

ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาให้เลือกกันหลายยี่ห้อ ทั้งจากแบรนด์ในประเทศและต่างประเทศ ผู้ทานสามารถเลือกน้ำมันปลาให้เหมาะกับความต้องการของร่างกายตนเองได้ โดยพิจารณาจากวัตถุประสงค์การใช้งาน ช่วงอายุ และส่วนผสมเพิ่มเติม ดังนี้

1

สำหรับผู้สูงอายุ เลือกน้ำมันปลาที่สกัดจากปลาทะเลน้ำลึก มี DHA และ EPA อัตราส่วน 3:2 และเสริมวิตามินอีเพื่อต้านอนุมูลอิสระ

ผู้สูงอายุสามารถรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลาได้ โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ให้ DHA และ EPA สูง และมาในรูปแบบแคปซูลซอฟต์เจลที่รับประทานได้ง่าย

เลือกน้ำมันปลาที่เป็นสารสกัดจากปลาทะเลน้ำลึกในแหล่งน้ำธรรมชาติ

เลือกน้ำมันปลาที่เป็นสารสกัดจากปลาทะเลน้ำลึกในแหล่งน้ำธรรมชาติ
น้ำมันปลาส่วนใหญ่สกัดได้จากปลาหลายชนิด เช่น ปลาแซลมอน, ปลาแมคเคอเรล, ปลาทูน่า, ปลาซาร์ดีน แต่หากจะให้ได้ประสิทธิภาพควรเลือกเป็นสารสกัดที่ได้จากปลาทะเลน้ำลึกในแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งน้ำเค็มในเขตเมืองหนาวอย่างประเทศนอร์เวย์ เพราะเป็นแหล่งน้ำทะเลที่สะอาดและมีสิ่งแวดล้อมที่ดี น้ำมันปลาที่ได้จึงอุดมไปด้วยสารอาหารและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า และสำหรับใครที่ไม่ชอบกลิ่นคาวปลา ก็สามารถเลือกซื้อน้ำมันโอเมก้า 3 ที่เป็นสารสกัดจากพืชแทนได้ เพราะนอกจากจะให้สารอาหารได้ที่ไม่ต่างกันแล้ว ผู้ที่ทานเจและมังสวิรัติยังสามารถทานได้ด้วย

เลือกสูตรที่มีปริมาณ EPA และ DHA เพียงพอสำหรับ 250 - 500 mg ต่อวัน ในสัดส่วน 3:2

เลือกสูตรที่มีปริมาณ EPA และ DHA เพียงพอสำหรับ 250 - 500 mg ต่อวัน ในสัดส่วน 3:2

การพิจารณาปริมาณของ EPA และ DHA เป็นเรื่องสำคัญ เพราะสารอาหารดังกล่าวเป็นส่วนประกอบหลักที่ช่วยออกฤทธิ์ในน้ำมันปลา ซึ่งสำหรับผู้สูงอายุนั้นควรเลือกรับประทาน DHA และ EPA รวมกันที่ขนาด 250 - 500 mg ต่อวัน แต่ในผู้ที่ต้องการใช้ในการบรรเทาอาการเรื่องข้อ ขนาดยาจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเลือกใช้ ซึ่งขนาดยาที่พบบ่อยในท้องตลาดมักมี EPA มากกว่า DHA ในอัตราส่วน 3:2 ทั้งนี้ ในผู้ที่ต้องการบำรุงสมองหรือดวงตาเป็นพิเศษ อาจพิจารณาเลือกผลิตภัณฑ์ที่มี DHA ปริมาณสูง แต่ต้องไม่เกินขนาดยาสูงสุดต่อวัน

เลือกสูตรที่เสริมส่วนผสมของวิตามินอี เพื่อช่วยคงสภาพของโอเมก้า 3 และต้านอนุมูลอิสระ

เลือกสูตรที่เสริมส่วนผสมของวิตามินอี เพื่อช่วยคงสภาพของโอเมก้า 3 และต้านอนุมูลอิสระ

การผสมวิตามินอีลงไปในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลา จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในแง่ของประโยชน์ที่จะได้รับ เช่น ฤทธิ์การต้านการอักเสบ เนื่องจากวิตามินอีจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันให้เซลล์ถูกทำลาย นอกจากนี้ วิตามินอียังมีส่วนช่วยลดการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidation) ที่จะทำให้น้ำมันปลาเสื่อมคุณภาพลง ทำให้สารอาหารต่าง ๆ ในน้ำมันปลาออกฤทธิ์ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


นอกจากปฏิกิริยาออกซิเดชันแล้ว แสงแดดหรือความร้อนก็อาจทำให้คุณภาพของน้ำมันปลาเสื่อมลงได้เช่นกัน จึงควรเลือกน้ำมันปลายี่ห้อที่บรรจุอยู่ในขวดทึบที่ป้องกันแสงแดดได้ และควรเก็บให้พ้นจากแสงแดดด้วยจะดีที่สุด

เลือกน้ำมันปลาที่มาในรูปแบบเม็ดเจลนิ่ม ทานง่าย ดูดซึมเร็ว

เลือกน้ำมันปลาที่มาในรูปแบบเม็ดเจลนิ่ม ทานง่าย ดูดซึมเร็ว

รูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลานั้นส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นรูปแบบแคปซูลซอฟต์เจล (Softgel Capsule) หรือแคปซูลนิ่ม โดยจะเป็นแคปซูลสีใสที่ผลิตจากเจลาติน มีลักษณะอ่อนนุ่ม ภายในบรรจุตัวยาไว้ จึงเหมาะกับผู้สูงอายุอย่างยิ่ง เนื่องจากสามารถกลืนได้ง่าย อีกทั้งยังมีอัตราการดูดซึมสารอาหารเข้าสู่ร่างกายที่สูงและรวดเร็ว ซึ่งโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 80 - 100% ภายใน 5 - 15 นาที นอกจากนี้ น้ำมันปลาในรูปแบบซอฟต์เจลยังสามารถกลบกลิ่นและรสชาติของตัวยาได้ดี ทำให้ผู้บริโภคที่ไม่ชอบกลิ่นคาวของปลาสามารถรับประทานได้อย่างสะดวกขึ้น

2

สำหรับคนท้อง เลือกน้ำมันปลาที่มี DHA ไม่ต่ำกว่า 300 mg และเสริมวิตามินอีหรือวิตามินดี เพื่อบำรุงครรภ์และกระดูก

อาหารเสริมน้ำมันปลาเหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ ด้วยคุณประโยชน์ต่าง ๆ ที่ช่วยบำรุงร่างกายทั้งแม่และทารกในครรภ์ ซึ่งมีหลักการเลือกผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาดังต่อไปนี้

เลือกสูตรที่มีปริมาณเพียงพอสำหรับ 500 - 1000 mg/วัน และมี DHA ไม่ต่ำกว่า 300 mg

เลือกสูตรที่มีปริมาณเพียงพอสำหรับ 500 - 1000 mg/วัน และมี DHA ไม่ต่ำกว่า 300 mg
สำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ขอแนะนำให้รับประทานน้ำมันปลาขนาด 500 - 1000 mg ต่อวัน โดยให้มี DHA อย่างน้อย 300 mg เนื่องจากมีการศึกษาว่า DHA นั้นมีส่วนช่วยป้องกันการคลอดก่อนกำหนด ลดความเสี่ยงของครรภ์เป็นพิษ รวมทั้งเพิ่มน้ำหนักตัวของทารกแรกเกิด โดยสามารถเริ่มรับประทานได้ตั้งแต่ทราบว่าตั้งครรภ์และรับประทานได้ต่อเนื่องไปจนถึงตอนให้นมบุตร ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนรับประทานเสมอ และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือ จะต้องระมัดระวังในการรับประทานโอเมก้า 3 ให้อยู่ในปริมาณที่ไม่เกินกว่าที่ร่างกายต้องการ

เลือกสูตรที่เสริมวิตามินอีและวิตามินดี เพื่อช่วยบำรุงครรภ์และบำรุงกระดูก

เลือกสูตรที่เสริมวิตามินอีและวิตามินดี เพื่อช่วยบำรุงครรภ์และบำรุงกระดูก

โดยทั่วไปในอาหารเสริมเพื่อบำรุงสำหรับคนตั้งครรภ์ อาจมีการใส่วิตามินอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับผู้ตั้งครรภ์ เพื่อให้ผู้รับประทานได้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากขึ้น ซึ่งวิตามินที่เหมาะสำหรับคนท้องที่พบบ่อยในอาหารเสริมน้ำมันปลา ได้แก่ วิตามินอีซึ่งจะที่ช่วยบำรุงครรภ์ให้ทารกแข็งแรง ลดภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือในบางผลิตภัณฑ์อาจมีการเสริมวิตามินดี ซึ่งมีส่วนเสริมสร้างและบำรุงกระดูกที่จำเป็นต่อหญิงตั้งครรภ์ 


ทั้งนี้ หากรับประทานอาหารเสริมที่รวมสารอาหารหลาย ๆ ตัว จำเป็นต้องพิจารณาขนาดของส่วนประกอบต่าง ๆ อีกครั้ง เพราะบางผลิตภัณฑ์อาจมีส่วนประกอบของสารอาหารเพียงเล็กน้อย และไม่เพียงพอต่อหญิงตั้งครรภ์ ดังนั้น ก่อนการเลือกใช้ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง

3

สำหรับวัยเรียนและวัยทำงาน เลือกน้ำมันปลาที่มี DHA และ EPA เหมาะกับช่วงวัยและเสริมวิตามินบีเพื่อบำรุงสมองและสายตา

วัยเรียนและวัยทำงานเป็นวัยที่ต้องใช้สมองและสายตาค่อนข้างมาก อาหารเสริมน้ำมันปลาจึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมสารอาหารเพื่อบำรุงสมองและบำรุงสายตาที่น่าสนใจ โดยมีวิธีการเลือกดังนี้

เลือกสูตรที่มีปริมาณ DHA และ EPA เหมาะกับช่วงวัยเพื่อบำรุงสมองและสายตา

เลือกสูตรที่มีปริมาณ DHA และ EPA เหมาะกับช่วงวัยเพื่อบำรุงสมองและสายตา
สารอาหารในน้ำมันปลาอย่าง DHA มีส่วนช่วยบำรุงสายตาได้ เนื่องจาก DHA เป็นส่วนประกอบสำคัญในเนื้อเยื่อชั้นในสุดของดวงตาหรือชั้นเรตินา โดยมีการศึกษาที่คาดว่าการรับประทานน้ำมันปลาช่วยให้การมองเห็นตอนกลางคืนดีขึ้น นอกจากนี้ DHA ยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในเซลล์สมอง ช่วยเรื่องความจำได้ดีและมีบทบาทในการเสริมสร้างระบบประสาทด้วย จึงตอบโจทย์วัยเรียนและวัยทำงานที่ต้องใช้ความจำ สมาธิและสายตาหน้าจอคอมนาน ๆ

จากการศึกษาขนาดที่เหมาะสมของ DHA และ EPA สำหรับเด็กคือ 120 - 1300 mg ต่อวัน ทั้งนี้ ขนาดที่แนะนำอาจแตกต่างกันออกไปตามวัตถุประสงค์ในการใช้ และอาจแบ่งเป็นเด็กเล็กกับเด็กโตที่อายุไม่เกิน 18 ปี ส่วนขนาดที่แนะนำสำหรับวัยทำงานคือ DHA และ EPA 250 - 500 mg ต่อวัน ทั้งนี้แนะนำให้อ่านฉลากของแต่ละผลิตภัณฑ์ก่อนเลือกใช้ทุกครั้ง

เลือกสูตรที่เสริมวิตามินบีเพื่อช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบสมอง

เลือกสูตรที่เสริมวิตามินบีเพื่อช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบสมอง
การใส่วิตามินบีเพิ่มเข้ามาในอาหารเสริมน้ำมันสามารถช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการบำรุงสมองและเสริมความจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิตามิน B 1-6-12 เพราะจะช่วยกระตุ้นและเสริมการทำงานของเอนไซม์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของสมอง รวมทั้งยังช่วยลดความอ่อนเพลีย ทำให้กระปรี้กระเปร่าและรู้สึกตื่นตัวด้วย ซึ่งเป็นพื้นฐานหลักในทุก ๆ เรื่องของการบำรุงสมอง จึงเหมาะสำหรับวัยเรียนและวัยทำงานที่ต้องใช้ความคิด ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ขนาดของวิตามินบีที่ใส่เพิ่มเข้ามาในแต่ละผลิตภัณฑ์นั้นจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์ ผู้บริโภคจึงค วรอ่านฉลากโภชนาการก่อนรับประทาน 
ภญ.ภาณิกา เพชระบูรณิน (ป่าน)
เภสัชกร
ภญ.ภาณิกา เพชระบูรณิน (ป่าน)

ในกรณีที่รับประทานน้ำมันปลาเสริมวิตามินบีอยู่แล้ว แต่อยากรับประทานอาหารเสริมวิตามินบีโดยเฉพาะเพิ่มอีกก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ควรพิจารณาก่อนว่าร่างกายยังได้รับวิตามินบีดังกล่าวไม่ถึงขนาดที่กำหนด เพื่อป้องกันการได้รับวิตามินบีที่มากเกินไป

4

เลือกน้ำมันปลาที่ไม่มีกลิ่นคาว ทานง่าย ปลอดภัย ปราศจากสารปรอทและตะกั่ว

เลือกน้ำมันปลาที่ไม่มีกลิ่นคาว ทานง่าย ปลอดภัย ปราศจากสารปรอทและตะกั่ว
อาหารเสริมน้ำมันปลาหลายแบรนด์มักจะมีปัญหากลิ่นคาวซึ่งเป็นอุปสรรคในการรับประทานของคนบางกลุ่ม ซึ่งมีสาเหตุมาจากการสกัดส่วนประกอบมาจากปลา บางแบรนด์จึงอาจจะมีการปรับปรุงสูตร เพื่อกลบกลิ่น เช่น ผลิตสูตรไร้กลิ่น (Odourless) โดยที่ยังคงคุณประโยชน์ของน้ำมันปลาที่มีส่วนประกอบของ DHA และ EPA อยู่เช่นเดิม นอกจากนี้ ในเรื่องของความปลอดภัยในผลิตภัณฑ์น้ำมันปลา โดยทั่วไปหากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ส่วนใหญ่จะสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย ปราศจากสารปนเปื้อน จึงควรพิจารณาและตรวจสอบการรับรองของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมทุกครั้งก่อนเลือกซื้อ
วิธีการเลือกใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?
เราไม่รับประกันผลลัพธ์หรือคุณสมบัติตามที่อธิบายไว้ในคู่มือการซื้อของเรา โปรดตรวจสอบรายละเอียดของแต่ละผลิตภัณฑ์ตามฉลากสินค้าของผู้จัดจำหน่าย

10 น้ำมันปลา ยี่ห้อไหนดี โอเมก้า 3 DHA และ EPA สูง

หลังจากได้ทราบถึงประโยชน์ของน้ำมันปลากันไปแล้ว อันดับต่อไป เรามาดูผลิตภัณฑ์น้ำมันปลา โอเมก้า 3 ที่น่าสนใจทั้ง 10 อันดับ กันดีกว่าค่ะ
สินค้า
รูปภาพ
ราคาต่ำสุด
ราคา
คะแนน

BEWEL

น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Salmon Fish Oil Plus Vitamin E

BEWEL น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Salmon Fish Oil Plus Vitamin E 1

167 บาท

ราคาต่ำ

ช่วยลดไขมันในเลือด บรรเทาการปวดข้อ บำรุงสายตาและสมอง

Real Elixir

น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Fish Oil

Real Elixir  น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Fish Oil 1

236 บาท

ราคาค่อนข้างต่ำ

บำรุงประสาท ผิวพรรณ ลดคอเลสเตอรอลและอาการเสื่อมของข้อ

BLACKMORES

น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Fish Oil 1000

BLACKMORES น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Fish Oil 1000   1

360 บาท

ราคาปานกลาง

ผสานโอเมก้า 3 กับวิตามินอี คุณสมบัติเด่น ปราศจากสารเจือปน

VISTRA

น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Salmon Fish Oil Plus Vitamin E

VISTRA น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Salmon Fish Oil Plus Vitamin E 1

266 บาท

ราคาปานกลาง

อุดมด้วยโอเมก้า 3 พร้อมวิตามินอี ลดไขมัน บำรุงสายตาและผิว

California Gold Nutrition

น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Omega-3 Premium Fish Oil

California Gold Nutrition น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Omega-3 Premium Fish Oil 1

246 บาท

ราคาค่อนข้างต่ำ

สกัดจากปลาหลากหลายสายพันธุ์ พร้อมทั้งช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์

NUTRILITE

น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Fish Oil Capsule

NUTRILITE น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Fish Oil Capsule 1

696 บาท

ราคาค่อนข้างสูง

สารสกัดคุณภาพ ผสานวิตามินอี ปราศจากวัตถุกันเสีย กลิ่นและสี

Giffarine

น้ำมันปลา โอเมก้า 3 500 มก.

Giffarine น้ำมันปลา โอเมก้า 3 500 มก. 1

200 บาท

ราคาค่อนข้างต่ำ

ประโยชน์จากปลาทะเล มีโอเมก้า 500 มก. เหมาะสำหรับเด็ก

Mega We Care

น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Fish Oil 1000 mg.

Mega We Care น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Fish Oil 1000 mg.  1

608 บาท

ราคาค่อนข้างสูง

สารสกัดเข้มข้นที่ดีต่อระบบสมอง หัวใจ และข้อ ไร้สารปนเปื้อน

Now

น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Fish Oil DHA-250/EPA 125

Now น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Fish Oil DHA-250/EPA 125 1

680 บาท

ราคาค่อนข้างสูง

โอเมก้า 3 สำหรับเด็ก ๆ ประโยชน์อัดแน่น บำรุงสมองและสายตา

Vitaxtrong

น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Omeflame X3000

Vitaxtrong น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Omeflame X3000   1

1,999 บาท

ราคาสูง

สูตรเข้มข้นสูง ขวัญใจนักเพาะกาย ต้านการอักเสบของกล้ามเนื้อ

หากไม่พบผลิตภัณฑ์ที่กำลังมองหา สามารถส่งคำร้องขอเพิ่มในรายการได้

BEWELน้ำมันปลา โอเมก้า 3 Salmon Fish Oil Plus Vitamin E

น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Salmon Fish Oil Plus Vitamin E 1
อ้างอิง:shopee.co.th
ราคาอ้างอิง
167 บาท
ราคาต่ำ
ราคาอ้างอิง
167 บาท
ราคาต่ำ

ช่วยลดไขมันในเลือด บรรเทาการปวดข้อ บำรุงสายตาและสมอง

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคุณภาพดีนำเข้าจากออสเตรเลีย และมีมาตรฐานการผลิตระดับสากลของ GMP น้ำมันปลาสูตรนี้อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ทั้ง DHA และ EPA ที่สกัดได้จากปลาทะเลลึกในประเทศไอซ์แลนด์ ปราศจากโลหะหนักและสารเจือปน จึงเหมาะกับผู้ใส่ใจในสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสารอาหารที่จำเป็น มาช่วยเสริมสร้างการทำงานของเซลล์สมองไม่ให้เสื่อมง่าย พร้อมกับบำรุงสุขภาพสายตาไปในตัว ที่สำคัญคือสามารถลดไขมันชนิดไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ตลอดจนช่วยบรรเทาอาการปวดข้ออักเสบ พร้อมผสมผสานคุณค่าจากวิตามินอี เพื่อบำรุงผิวพรรณให้เนียนนุ่มและสุขภาพดีอีกด้วยค่ะ

รายการสินค้าใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?

Real Elixir น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Fish Oil

ราคาอ้างอิง
236 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ

บำรุงประสาท ผิวพรรณ ลดคอเลสเตอรอลและอาการเสื่อมของข้อ

น้ำมันปลาจากแบรนด์ Real Elixir สกัดมาจากปลาทะเลน้ำลึก อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 และกรดไขมันดีที่ร่างกายต้องการ ซึ่งค่าความเข้มข้นยังพอเหมาะกับปริมาณการบริโภคต่อวัน ช่วยในเรื่องการลดระดับคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ บำรุงประสาท ผิวพรรณ และสมองให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยควรรับประทานพร้อมอาหาร หรือหลังอาหารทันที เพียงวันละ 1 เม็ด ก็เพียงพอต่อการบริโภคต่อวันแล้วค่ะ ในกลุ่มผู้ใช้จริงต่างบอกว่า เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ สั่งแล้วสั่งอีก ไม่ผิดหวังและช่วยลดอาการปวดของข้อเข่าได้ดี แม้จะเห็นผลช้า แต่ก็ไม่ใช่ยา จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายค่ะ

BLACKMORESน้ำมันปลา โอเมก้า 3 Fish Oil 1000

ราคาอ้างอิง
360 บาท
ราคาปานกลาง

ผสานโอเมก้า 3 กับวิตามินอี คุณสมบัติเด่น ปราศจากสารเจือปน

ด้วยคติ “ธรรมชาติคือ คำตอบของสุขภาพ” ของแบรนด์สัญชาติออสเตรเลียนี้ จึงเกิดเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาสูตรนี้ขึ้นมา ด้วยสารสกัดที่ได้จากปลาทะเลลึก มีกรดไขมันโอเมก้า 3 อย่างเต็มเปี่ยม ทั้งยังผสานเอาคุณสมบัติของวิตามินอีมาช่วยเสริมสรรพคุณในการบำรุงสมอง เส้นเลือดและร่างกายได้ดียิ่งขึ้น และมีส่วนสำคัญในการช่วยการไหลเวียนของเลือดอีกด้วย นอกจากนี้ ยังผ่านการตรวจสอบแล้วว่า ปราศจากสารปรอทและตะกั่ว จึงสามารถทานต่อเนื่องได้อย่างไร้กังวล เพราะไม่ทำให้เกิดการตกค้างสะสมในร่างกาย โดยแนะนำให้ทาน 1–3 เม็ดต่อวัน ขึ้นอยู่กับอายุ น้ำหนักตัวและอาการของแต่ละคนค่ะ

VISTRAน้ำมันปลา โอเมก้า 3 Salmon Fish Oil Plus Vitamin E

ราคาอ้างอิง
266 บาท
ราคาปานกลาง

อุดมด้วยโอเมก้า 3 พร้อมวิตามินอี ลดไขมัน บำรุงสายตาและผิว

น้ำมันปลาที่อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 มีครบทั้ง EPA และ DHA รวมถึงมีการผสานเอาคุณสมบัติของวิตามินอีมารวมไว้ด้วยกันทำให้อาหารเสริมกระปุกนี้ยิ่งโดดเด่นขึ้นไปอีก โดยวิตามินอีมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณ ผมและเล็บ และยังช่วยต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี เหมาะแก่การรับประทานในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ยังบรรเทาอาการเจ็บปวดตามข้อ การลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดและระดับคอเลสเตอรอล ทั้งยังบำรุงเซลล์สมองและสายตาอีกด้วย เรียกได้ว่า เป็นสินค้าคุณภาพดีเยี่ยมที่ราคาย่อมเยา จนสามารถครองใจผู้บริโภคจำนวนมากไว้ได้อย่างเหนียวแน่นเลยค่ะ

California Gold Nutritionน้ำมันปลา โอเมก้า 3 Omega-3 Premium Fish Oil

ราคาอ้างอิง
246 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ

สกัดจากปลาหลากหลายสายพันธุ์ พร้อมทั้งช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์

น้ำมันปลาเกรดพรีเมี่ยมกระปุกนี้สกัดกรดไขมันโอเมก้า 3 มาจากปลาทะเลหลายหลายชนิด เช่น ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน และปลาแอนโชวี่ อีกทั้งตัวแคปซูลยังทำมาจากเจลาตินที่ได้จากปลาทิลาเปียอีกด้วย เรียกได้ว่า มาจากธรรมชาติของท้องทะเลอย่างแท้จริง มีสรรพคุณในการช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล กระตุ้นการสร้างอิลาสตินและคอลลาเจน ช่วยให้ผิวพรรณไม่หย่อนคล้อย นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยในการลดความเครียด ทำให้สมองได้รู้สึกผ่อนคลายและปลอดโปร่ง ช่วยบำรุงสายตา แถมยังช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ

NUTRILITEน้ำมันปลา โอเมก้า 3 Fish Oil Capsule

น้ำมันปลา โอเมก้า 3 Fish Oil Capsule 1
อ้างอิง:amway.co.th
ราคาอ้างอิง
696 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

สารสกัดคุณภาพ ผสานวิตามินอี ปราศจากวัตถุกันเสีย กลิ่นและสี

น้ำมันปลาจากแอมเวย์สูตรนี้เป็นผลผลิตจากการคิดค้นนำสารสกัดจากปลาแซลมอนมาเป็นส่วนประกอบหลักกว่า 69.62% ที่ช่วยการันตีการส่งมอบกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 ให้แก่ผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังอุดมไปด้วยกรดไขมันหลักอย่าง DHA และ EPA ที่มาช่วยบำรุงสมอง การไหลเวียนโลหิตและสารสำคัญ ที่จำเป็นต่อร่างกาย เนื่องจากเป็นสารที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ จึงต้องมีอาหารเสริมนี้ช่วยอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ยังผสานคุณค่าของวิตามินอีที่มีในส่วนกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวพรรณสวยงาม ดูสุขภาพดี ที่สำคัญคือ ไม่มีวัตถุกันเสีย ปราศจากสารแต่งกลิ่นและสี เด็ก ๆ ก็สามารถทานได้ด้วยค่ะ

Giffarineน้ำมันปลา โอเมก้า 3 500 มก.

ราคาอ้างอิง
200 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ

ประโยชน์จากปลาทะเล มีโอเมก้า 500 มก. เหมาะสำหรับเด็ก

น้ำมันปลาจากแบรนด์ไทยที่โด่งดังทั้งในและต่างประเทศ โดยทางแบรนด์ได้เลือกใช้สารสกัดจากส่วนหัวและเนื้อของปลาทะเลน้ำลึก ประกอบด้วย EPA, DHA  และมีปริมาณโอเมก้าขนาด 500 มก. เหมาะสมต่อการบริโภคของเด็กเล็ก ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการบำรุงระบบประสาทและสมอง อีกทั้งทำให้มีสมาธิและความจำดีขึ้น นอกจากนี้ผู้ใหญ่ก็ยังสามารถทานได้ทุกเพศทุกวัย เพราะมีสรรพคุณครอบคลุมไปถึงการช่วยให้ระบบโลหิตไหลเวียนดีขึ้น ลดไขมันชนิดไตรกลีเซอไรด์ในเลือด จึงช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพร่างกายอย่างโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดได้ อีกทั้งยังช่วยบำรุงเล็บ ผม และผิวพรรณให้แลดูมีสุขภาพแข็งแรงด้วยค่ะ

Mega We Careน้ำมันปลา โอเมก้า 3 Fish Oil 1000 mg.

ราคาอ้างอิง
608 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

สารสกัดเข้มข้นที่ดีต่อระบบสมอง หัวใจ และข้อ ไร้สารปนเปื้อน

น้ำมันปลาสูตรนี้อาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีสำหรับวงการอาหารเสริม เพราะเป็นรุ่นยอดนิยมที่ขายกันมาอย่างยาวนาน ด้วยกรรมวิธีการคัดสรรสารสกัดน้ำมันปลาจากปลาทะเลน้ำลึกของประเทศไอซ์แลนด์ จนได้เป็นอาหารเสริมที่อุดมด้วยโอเมก้า 3 คุณภาพสูง ที่ช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงได้ ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์เป็นอย่างมาก ทั้งยังผ่านการทดสอบและรับรองว่า ไร้สารปนเปื้อนที่เป็นอันตราย ได้แก่ โลหะหนัก การแต่งกลิ่นและสีสังเคราะห์ รวมถึงสารกันบูด จึงเหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รับประทานต่อเนื่องเป็นเวลานานได้โดยไม่ทิ้งสารสะสมในร่างกายค่ะ

Nowน้ำมันปลา โอเมก้า 3 Fish Oil DHA-250/EPA 125

ราคาอ้างอิง
680 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

โอเมก้า 3 สำหรับเด็ก ๆ ประโยชน์อัดแน่น บำรุงสมองและสายตา

น้ำมันปลาจากประเทศสหรัฐอเมริกา มาในรูปแบบแคปซูลนิ่ม ทานง่าย แต่เข้มข้นด้วยสารสกัดคุณภาพจากน้ำมันปลา Anchovies ที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณประโยชน์จากทั้ง EPA และ DHA ครบถ้วน ทั้งยังมีโอเมก้า 3 ปริมาณ 500 มิลลิกรัมเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดไปถึง 1 ขวบ โดยสามารถเจาะเม็ดเจลและบีบผสมในอาหารหรือนมเพื่อป้อนเด็กได้ ช่วยเสริมสร้างระบบประสาท สมอง และดวงตา ทำให้เด็กมีพัฒนาการเรียนรู้ที่ดี มีสมาธิ และมีความจำดีขึ้น นอกจากนี้วัยผู้ใหญ่ก็สามารถเลือกทานได้เช่นกัน โดยสามารถเลือกทานได้ครั้งละ 2 เม็ด ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับปริมาณโอเมก้า 3 ที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายใน 1 วันค่ะ

Vitaxtrongน้ำมันปลา โอเมก้า 3 Omeflame X3000

ราคาอ้างอิง
1,999 บาท
ราคาสูง

สูตรเข้มข้นสูง ขวัญใจนักเพาะกาย ต้านการอักเสบของกล้ามเนื้อ

น้ำมันปลาจากแบรนด์นี้เป็นแบรนด์จากประเทศสหรัฐอเมริกา เรียกได้ว่า เหมาะกับผู้ที่ชอบออกกำลังกายเป็นอย่างมาก เพราะมีส่วนผสมของน้ำมันปลาที่เข้มข้นกว่าทุก ๆ แบรนด์ ด้วยค่าความเข้มข้นถึง 3,000 มิลลิกรัม ช่วยในการเสริมสร้าง พร้อมดูแลการอักเสบภายในกล้ามเนื้อ รวมถึงข้อต่อตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ทั้งยังมีโอเมก้าที่สูงถึง 75% แม้จะมีความเข้มข้น แต่ก็ทานง่าย ปราศจากกลิ่นคาวและมีแต่งกลิ่นด้วยรสเลมอน แต่เนื่องจากสินค้านี้มีค่าความเข้มข้นสูงมาก ผู้ที่มีภาวะโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ  ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน และควรออกกำลังกายให้พอเหมาะนะคะ

น้ำมันปลา กินตอนไหนดี

น้ำมันปลา กินตอนไหนดี

ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการรับประทานน้ำมันปลา เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ขอแนะนำให้รับประทานพร้อมอาหารหรือหลังอาหาร เพื่อเพิ่มการดูดซึมโอเมก้า 3 และช่วยลดอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ และแนะนำให้หลีกเลี่ยงการรับประทานน้ำมันปลาร่วมกับอาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากการรับประทานร่วมกันอาจทำให้ระดับไขมันในเลือดยิ่งสูงมากขึ้น 


นอกจากนี้ น้ำมันปลายังมีคุณสมบัติต้านการจับตัวของเกล็ดเลือดที่ทำให้เลือดหยุดไหล เพิ่มความเสี่ยงในการทำให้เลือดออกหรือเลือดหยุดไหลยาก จึงควรระมัดระวังในผู้ที่รับประทานยาต้านเกล็ดเลือด หรือในผู้ที่มีเลือดออกง่าย เช่น ผู้ที่มีแผลในกระเพาะอาหาร รวมถึงในผู้ที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด ควรหยุดรับประทานน้ำมันปลาอย่างน้อย 14 วันก่อนทำหัตถการ เพื่อป้องกันภาวะเลือดหยุดไหลยาก ที่สำคัญคือ ควรรับประทานน้ำมันปลาตามขนาดที่แนะนำ เพื่อป้องกันการเกิดอาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะในผู้ที่ได้รับน้ำมันปลามากเกินไป

บทส่งท้าย

จะเห็นว่า น้ำมันปลา โอเมก้า 3 มีประโยชน์หลายประการต่อร่างกาย ซึ่ง "กรดไขมันโอเมก้า 3" นี้เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยเสริมสร้างการทำงานในระบบร่างกายได้ดี และแม้อาหารเสริมน้ำมันปลาจะถือเป็นทางเลือกที่ดีของใครหลายคน แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะเหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถทานอาหารที่มีปริมาณของโอเมก้า 3 ตามที่ทางการแพทย์แนะนำได้เท่านั้น เพราะการทานอาหารจากปลาทะเลและพืชเพื่อเสริมสารประกอบที่จำเป็นเหล่านี้โดยตรงย่อมดีที่สุด ดังนั้น หากเป็นไปได้ ทางเราก็อยากแนะนำให้ทุกคนเลือกวัตถุดิบ หรืออาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างครบถ้วนตามหลักโภชนาการจะดีที่สุด

คำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
  1. TOP
  2. สุขภาพ
  3. อาหารเสริม
  4. 10 น้ำมันปลา ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 โอเมก้า 3 DHA และ EPA สูง

ค้นหาตามหมวดหมู่