ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
เซรั่มคือหนึ่งในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีเนื้อบางเบาและสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็วกว่าครีมบำรุงทั่วไป ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปรับสมดุลให้กับผิวหน้าแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาผิวได้ดีด้วย เช่น ผิวแห้งกร้าน เป็นสิว ริ้วรอย จุดด่างดำ รูขุมขนกว้าง เป็นต้น โดยเซรั่มจะมีให้เลือกด้วยกันหลายสูตร ซึ่งแต่ละสูตรจะมีเนื้อสัมผัสและส่วนผสมที่ต่างกัน เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานแต่ละสภาพผิวและปัญหาผิวได้
บทความนี้เราจะมาแชร์วิธีการเลือกเซรั่มให้เหมาะกับแต่ละปัญหาผิว พร้อมคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เซรั่มที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด และยังมี 10 อันดับ เซรั่มจากแบรนด์ดัง ทั้งสูตรชุ่มชื้นสูง สูตรลดริ้วรอย สูตรลดสิว หรือสูตรผิวกระจ่างใสมาแนะนำให้เพิ่มเติมด้วย
คุณหมอพีชจบการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยได้รับวุฒิบัตรตจวิทยา จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และประกาศนียบัตรตจศัลยศาสตร์ จากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี รวมไปถึงวุฒิบัตรเวชศาสตร์ชะลอวัย American Board of Antiaging (A4M) นอกจากนี้ ยังได้การรับรองเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้เครื่องเลเซอร์ เครื่องยกกระชับด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ คลื่นวิทยุ การฉีดโบทูลินุ่มท็อกซินลดริ้วรอย และสารเติมเต็มต่าง ๆ ที่ผ่านการรับรองของ FDA อีกด้วย ปัจจุบันคุณหมอพีชทำงานในโรงพยาบาลรัฐบาลและเอกชน โดยคอยให้คำปรึกษาทั้งโรคผิวหนัง การดูแลผิวพรรณ ออกแบบรูปหน้า ลดริ้วรอยและศาสตร์ชะลอวัย โดยส่วนตัวมีความสนใจด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับความงามและผลิตภัณฑ์เสริมความงามต่าง ๆ จึงยังคอยติดตามเสริมความรู้และวิทยาการในด้านนี้อยู่ตลอด
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
โดยหลัก ๆ แล้วจะต่างจากต่างจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าอื่น ๆ ในเรื่องเนื้อสัมผัส โดยเซรั่มจะมีเนื้อสัมผัสเหลวและบางเบากว่า จึงซึมเข้าสู่ผิวได้ดีกว่า
เซรั่มเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบหลักเป็นน้ำ จึงมีเนื้อสัมผัสเหลวและช่วยให้สารบำรุงผิวสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็วและล้ำลึกกว่าครีมที่จะมีเนื้อสัมผัสหนักกว่า อีกทั้งยังมีส่วนผสมที่เข้มข้น แต่เนื่องจากเซรั่มจะกักเก็บความชุ่มชื้นได้น้อยกว่า จึงขอแนะนำให้ใช้ควบคู่กันกับครีมเพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โดยปกติแล้วควรใช้เซรั่มหลังจากทำความสะอาดผิวหน้าและลงโทนเนอร์แล้ว เพื่อเป็นเตรียมผิวสำหรับการลงสกินแคร์ในลำดับถัดไป ซึ่งการเลือกเซรั่มให้มีประสิทธิภาพที่ดีนั้น หลัก ๆ แล้วจะต้องพิจารณาจากสภาพผิวตนเอง ร่วมกับการมองหาส่วนผสมที่ช่วยในการแก้ปัญหาผิว รองลงมาคือเนื้อสัมผัสและความสะดวกในการใช้งาน
นอกจากนี้ การใช้งานเซรั่มนั้นสามารถใช้ได้ทุกช่วงอายุและทุกสภาพผิว แต่กรณีคนที่มีปัญหาผิวหน้า เช่น เป็นสิว ผิวหมองคล้ำหรือมีริ้วรอยเยอะ จะแนะนำให้เลือกเซรั่มสูตรที่เน้นแก้ปัญหาดังกล่าวเป็นหลัก ส่วนคนที่ไม่ได้มีปัญหาผิวใด ๆ เป็นพิเศษก็สามารถใช้เซรั่มที่ช่วยบำรุงผิวในด้านหลาย ๆ ด้านได้ตามที่ต้องการ
เนื่องจากเซรั่มมีให้เลือกด้วยกันหลากหลายสูตร แต่ละสูตรก็จะช่วยบำรุงผิวและแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกเซรั่มให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด จึงต้องคำนึงถึงทั้งสภาพผิวและปัญหาผิวเป็นหลัก
สภาพผิวจะเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมา เช่น ผิวแห้งมักจะเกิดการระคายเคืองง่าย และผิวมันมักจะเป็นสิวง่าย เป็นต้น จึงควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวเพื่อให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ผิวแห้งจะมีความแห้งกร้านและสูญเสียความชุ่มชื้นง่าย จึงต้องเน้นสารให้ความชุ่มชื้นสูงเป็นหลักและเนื้อสัมผัสหนักเพื่อเคลือบผิวได้ดี
คนผิวหน้าแห้งจะมีชั้นผิวที่สูญเสียความชุ่มชื้นมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวมีความหยาบกระด้าง ขาดความชุ่มชื้น ดูแห้งกร้านและส่งผลให้เกิดริ้วรอยตามมาได้ง่าย ดังนั้นเซรั่มสำหรับคนผิวแห้งจึงควรเน้นส่วนผสมของสารกลุ่มเพิ่มความชุ่มชื้นสูงเป็นหลัก ได้แก่ ไฮยาลูรอน กลีเซอรีนและเซราไมด์ ซึ่งเป็นสารที่พบในชั้นผิวตามธรรมชาติ สามารถช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้ดี จึงช่วยลดความแห้งกร้านและลดการสูญเสียความชุ่มชื้นระหว่างวันได้
ในส่วนของเนื้อสัมผัสนั้นคนที่มีผิวแห้งควรใช้เซรั่มที่มีเนื้อสัมผัสหนักและเข้มข้น เพื่อให้สามารถเคลือบผิวได้ดีขึ้นเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิวได้นานขึ้น หรืออาจมองหาเซรั่มสูตรที่ออกแบบมาสำหรับผิวแห้งโดยเฉพาะไปเลยเพื่อเน้นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเป็นหลัก
ผิวมันจะมีความมันส่วนเกินมากกว่าปกติ ทำให้รูขุมขนกว้างและอุดตันง่าย จึงต้องเน้นส่วนผสมที่คุมมันได้ดีและเนื้อสัมผัสบางเบาเพื่อให้ซึมไว
คนผิวมันจะมีการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันมากผิดปกติ จนทำให้หน้ามันวาว รูขุมขนกว้าง และเกิดการอุดตันได้จนเป็นสิวได้ ดังนั้น การเลือกเซรั่มจึงควรเน้นส่วนผสมของสารกลุ่มลดความมันบนใบหน้าเป็นหลัก ได้แก่ Niacinamide Zinc และสารสกัดวิชฮาเซล เพื่อช่วยลดการผลิตน้ำมันและปรับสมดุลผิว รวมทั้งผลัดเซลล์ผิวเพื่อลดการอุดตันด้วย โดยสำหรับคนที่ผิวมันมาก แนะนำให้ใช้สูตรที่มีปริมาณสารควบคุมความมันในปริมาณความเข้มข้นสูงกว่าคนผิวมันทั่วไป
นอกจากนี้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นควรเลือกสูตรที่มีเนื้อสัมผัสบางเบาและสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว ไม่เคลือบปิดผิว เพื่อป้องกันการอุดตัน โดยเลือกเนื้อสัมผัสเป็นน้ำใสหรือสูตร Water-base และควรหลีกเลี่ยงสูตรเนื้อสัมผัสหนักหรือเข้มข้น
ผิวผสมต้องเน้นการปรับสมดุลให้ผิวเป็นหลักทั้งโซมผิวมันและผิวแห้ง ซึ่งการเติมสารให้ความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอจึงเป็นพื้นฐานสำคัญ
คนผิวผสมคือคนที่มีทั้งส่วนที่ผิวแห้งและผิวมันบนใบหน้า โดยบริเวณที่มันจะเป็น T-zone คือหน้าผาก จมูกและคาง ซึ่งจะมีรูขุมขนกว้างและเกิดสิวได้ง่าย ส่วนบริเวณที่แห้งคือ U-zone คือบริเวณแก้มทั้งสองข้างและกรอบหน้า ซึ่งจะมีความแห้งกร้าน บอบบางและเกิดการระคายเคืองได้ง่าย
การเลือกเซรั่มจึงควรเลือกสูตรที่มีคุณสมบัติครอบคลุม ทั้งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เติมน้ำให้ผิวและช่วยควบคุมความมัน เพื่อให้ผิวมีความสมดุลของความมันและความชุ่มชื้น โดยแนะนำให้มองหาสารให้ความชุ่มชื้นเป็นส่วนประกอบพื้นฐานหลัก เพื่อปรับไม่ให้ผิวผลิตไขมันทดแทนมากเกินไปและช่วยให้ความชุ่มชื้นบริเวณที่ผิวแห้ง
ส่วนเนื้อสัมผัสของเซรั่มจะแนะนำให้เลือกเนื้อเซรั่มเบาสบายแบบทั่วไปที่ทั้งสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีแต่เนื้อไม่หนักมากจนเกินไป และสามารถซึมเข้าผิวได้รวดเร็ว ให้สัมผัสสบายผิว แต่กรณีคนที่ผิวโซนมันและโซนแห้งต่างกันอย่างชัดเจน ขอแนะนำให้ใช้เซรั่ม 2 สูตรแยกคนละส่วนของใบหน้าไปเลยก็จะให้ประสิทธิภาพได้ตรงจุดกว่า
นอกจากสภาพผิวแล้วจะต้องพิจารณาปัญหาผิวร่วมด้วย โดยปัญหาผิวที่พบได้บ่อย ได้แก่ ผิวหมองคล้ำ มีจุดด่างดำ รูขุมขนกว้างและริ้วรอยบนใบหน้า เป็นต้น ซึ่งเซรั่มแต่ละสูตรจะมีส่วนผสมที่เน้นการแก้ปัญหาผิวต่างกัน ดังนี้
สารกลุ่มไวท์เทนนิ่งจะช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินได้ดี จึงลดสาหตุของการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำและปรับผิวให้สว่างใสขึ้น
คนที่มีผิวหมองคล้ำหรือมีสีผิวไม่สม่ำเสมอควรเลือกใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของสารกลุ่มไวท์เทนนิ่งและสารสกัดที่ให้ความกระจ่างใสอย่างวิตามินซีหรือสารสกัดชะเอมเทศ ซึ่งจะช่วยให้ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสและปรับสีผิวให้สว่างเท่ากันทั่วใบหน้า ทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ลดผิวหมองคล้ำจากแสงแดดได้
ส่วนคนที่มีปัญหาฝ้ากระและจุดด่างดำ ควรเลือกเซรั่มที่มีส่วนผสมของสารกลุ่มลดการสร้างเม็ดสีและการขนส่งเม็ดสี เช่น ไนอาซินาไมด์ ถั่วเหลือง กรดโคจิก หรือ Resorcinol ซึ่งสารเหล่านี้จะมีคุณสมบัติที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิว อันเป็นสาหตุของการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ กรณีคนที่มีปัญหาฝ้ากระเยอะ การใช้เซรั่มอาจมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ อาจจำเป็นต้องมีการทายารักษา การทำเลเซอร์หรือหัตถการต่าง ๆ ร่วมด้วย
สารผลัดเซลล์ผิวจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกออกเพื่อสร้างผิวใหม่ขึ้นมา ทำให้รูขุมขนเล็กลงได้
รูขุมขนกว้างเกิดจากการผลิตน้ำมันบนผิวมากเกินไปและมีการอุดตันของเซลล์ผิวเก่าทำให้รูขุมขนขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดสิวและผิวหน้าไม่เรียบเนียน ซึ่งเซรั่มที่เหมาะสมควรมีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิว ได้แก่ กรดผลไม้ (AHA) และกรดซาลิไซลิก (BHA) เป็นหลัก ซึ่งจะช่วยในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่มีการเรียงตัวกันแน่นขึ้น ช่วยให้รูขุมขนแคบลงและผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น
ทั้งนี้ จะต้องเลือกสารผลัดเซลล์ผิวให้เหมาะกับสภาพผิวด้วย หากเป็นคนผิวมันที่มีปัญหาสิวด้วย ควรเน้นส่วนผสมของ BHA เพราะจะช่วยลดสิวอุดตันและควบคุมความมันได้ดี ส่วนคนผิวแห้ง แนะนำให้ใช้ AHA โดยเริ่มต้นที่ความเข้มข้นต่ำ ๆ ก่อน เนื่องจากสารผลัดเซลล์ผิวมีฤทธิ์เป็นกรด จึงอาจเกิดการระคายเคืองได้ง่าย
เรตินอลและเปปไทด์เป็นตัวกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จึงเพิ่มความยืดหยุ่นและทำผิวให้แน่นขึ้น จึงช่วยให้ริ้วรอยจางลงได้
ริ้วรอยจะเกิดจากการที่ผิวมีความชุ่มชื้นลดลงและมีความยืดหยุ่นน้อย ทำให้ผิวไม่กระชับจนมีริ้วรอยปรากฏขึ้น ดังนั้นการเลือกเซรั่มจึงควรมองหาส่วนผสมของสารกลุ่มเรตินอล ซึ่งเป็นอนุพันธ์วิตามินเอที่สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและมีฤทธิ์ผลัดเซลล์ผิวแบบอ่อน ๆ จึงทำให้ริ้วรอยลดลง รวมถึงสารกลุ่มเปปไทด์ ซึ่งจะช่วยเติมเต็มบริเวณริ้วรอยบนใบหน้า ทำให้ผิวกระชับและอิ่มฟูขึ้น จึงช่วยให้ริ้วรอยลดลงได้
ทั้งนี้ การใช้เซรั่มเพื่อลดริ้วรอยจะต้องใช้งานเป็นประจำอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 3 - 6 เดือน จึงจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง และสามารถลดริ้วรอยที่เป็นร่องตื้น ๆ ได้ ส่วนที่เป็นร่องลึกหรือมีริ้วรอยจำนวนมากมาเป็นระยะเวลานาน แนะนำให้ทำหัตถการร่วมด้วยจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เซรั่มสูตรสำหรับปัญหาสิวโดยเฉพาะจะมีส่วนผสมเพื่อรักษาสิวโดยตรง เช่น สารที่ช่วยฆ่าเชื้อสิว สารลดการอักเสบของสิว จึงแก้ปัญหาสิวได้ตรงจุด
คนที่มีปัญหาสิว ไม่ว่าจะเป็น สิวผด สิวอุดตันหรือสิวอักเสบ ล้วนแต่มีกลไกการเกิดสิวที่มีสาเหตุแบบเดียวกัน คือ การมีไขมันสะสมบนชั้นผิวจนมีแบคทีเรียและทำให้รูขุมขนอักเสบได้ ฉะนั้น คนเป็นสิวจึงควรใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของสารกลุ่มต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบ ซึ่งจะแนะนำให้มองหาสูตรที่ระบุว่าเป็นสูตรคนที่มีปัญหาสิว เพราะจะมีการใส่ส่วนผสมเพื่อรักษาสิวมาให้แล้วอย่างเหมาะสมที่สุด
โดยส่วนใหญ่แล้วส่วนผสมในเซรั่มสูตรนี้จะเป็นสารที่ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ได้แก่ สารสกัดใบบัวบก น้ำมันทีทรี และซิงค์ ที่จะช่วยลดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวได้เพื่อลดการเกิดสิวซ้ำซาก รวมถึงสารที่ช่วยลดการอักเสบต่าง ๆ ได้แก่ สารสกัดวิชฮาเซล และว่านหางจระเข้ที่จะช่วยปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบของสิวและฟื้นฟูผิวจากสิวได้
เซรั่มสูตร Hypoallergenic เป็นสูตรเหมาะกับคนผิวบอบบางแพ้ง่ายโดยเฉพาะ ซึ่งผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่มีส่วนผสมของสารระคายเคืองที่ทำให้แพ้ได้
คนผิวแพ้ง่ายจะมีผิวที่บอบบางและไวต่อการกระตุ้นจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก ทั้งยังเกิดการระคายเคืองหรือมีการแพ้มากกว่าคนทั่วไป จึงจำเป็นต้องเลือกเซรั่มสูตรอ่อนโยนที่ไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง ซึ่งหากเป็นสูตรที่ระบุว่า Hypoallergenic ก็จะมั่นใจได้ระดับนึงแล้วว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการแพ้ได้น้อย เพราะจะได้รับการทดสอบทางการแพทย์แล้วว่าไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง โดยผิวบอบบางและแพ้ง่ายสามารถใช้งานได้
นอกจากนี้ และมีส่วนผสมที่ช่วยลดการอักเสบและปลอบประโลมผิว รวมถึงเสริมชั้นผิว เช่น ใบบัวบก, ว่านหางจระเข้, โพรไบโอติกและซิงค์ ที่จะช่วยลดการระคายเคืองและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ทั้งยังควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง เช่น สารผลัดเซลล์ผิว สารกลุ่มที่เป็นกรดและมีความเข้มข้นสูง รวมถึงแอลกอฮอล์ พาราเบนและน้ำหอม เป็นต้น
ช่วงอายุต่างกันจะมีสภาพผิวและปัญหาผิวที่ไม่เหมือนกัน จึงควรใช้ส่วนผสมให้เหมาะสมกับวัยเพื่อบำรุงได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพเพียงพอ
แต่ละช่วงอายุจะมีสภาพผิวและปัญหาผิวที่ต่างกัน เพราะยิ่งอายุมากขึ้นคอลลาเจนในผิวจะลดลง ทำให้ผิวแห้ง บอบบางเกิดการแพ้ได้ง่าย ปรากฏริ้วรอยชัดเจนขึ้น รวมทั้งมีความหย่อนคล้อยมากขึ้น ดังนั้น หากเป็ยไปได้ แนะนำให้ใช้เซรั่มที่เหมาะสมกับช่วงวัยไปเลย เพื่อช่วยให้ผิวตอบสนองต่อการบำรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนี้
・ช่วงอายุ 30 - 40 ปี ผิวจะเริ่มแห้งและขาดน้ำ หรือเริ่มเห็นเป็นริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ และรูขุมขนอาจดูไม่กระชับ ควรใช้เซรั่มที่เน้นให้ความชุ่มชื้น ช่วยต่อต้านริ้วรอยและป้องกันความหย่อนคล้อย
・ช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป ผิวจะแห้งกร้าน มีริ้วรอยลึก หย่อนคล้อยและมีฝ้ากระ ควรใช้เซรั่มลดริ้วรอยที่มีส่วนผสมช่วยเติมเต็มร่องลึก ให้ความชุ่มชื้นสูง และฟื้นฟูความเสื่อมของผิว
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | ราคา | คะแนน | รายละเอียด | |||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
คุณสมบัติเด่น | ปริมาณ | ส่วนผสมสำคัญ | เหมาะสำหรับสภาพผิว | เหมาะสำหรับการใช้งาน | สูตร Oil-free | สูตร Non-Comedogenic | ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง | ไม่มีแอลกอฮอล์ | ไม่มีพาราเบน | ไม่มีน้ำหอม | ||||||
1 | Cerave Cerave Skin Renewing Vitamin C Serum | 915 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | สูตร Vit C บริสุทธิ์เข้มข้น ปรับผิวกระจ่างใส ไม่ทำให้ผิวบาง | Whitening | 30 ml | Vitamin C(Ascorbic Acid), Ceramide | ผิวแห้ง, ผิวผสม, ผิวมัน, ผิวบอบบางแพ้ง่าย | กลางวัน | ||||||||
2 | Estee Lauder Estee Lauder Advanced Night Repair Synchronized Multi-Recovery Complex | 2,200 บาท ราคาปานกลาง | ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นในช่วงกลางคืน เหมาะเป็น Night Routine | Anti-Aging | 20 ml | Tripeptide-32, สารสกัดจากดอกคาโมมายล์, Squalane, Hyaluronic Acid | ผิวแห้ง, ผิวผสม, ผิวมัน, ผิวบอบบางแพ้ง่าย | กลางคืน | ||||||||
3 | Kiehl's Kiehl's Clearly Corrective Dark Spot Solution | 3,290 บาท ราคาค่อนข้างสูง | ลดเลือนรอยสิว จุดด่างดำ ฝ้าและกระ ผิวเรียบเนียนดูอิ่มน้ำ | Whitening | 30 ml | อนุพันธ์ Vitamin C, Salicylic Acid, Vitamin E, Pro-Xylane | ผิวแห้ง, ผิวมัน, ผิวผสม | ทั้งกลางวันและกลางคืน | ||||||||
4 | La Roche Posay La Roche Posay Retinol B3 Serum | 1,438 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | กระตุ้นคอลลาเจน มีส่วนช่วยให้ผิวเรียบเนียนแบบ Glass Skin | Anti-Aging | 30 ml | Retinol, Niacinamide | ผิวแห้ง, ผิวมัน, ผิวผสม | กลางคืน | ||||||||
5 | LANCOME LANCOME Advanced Genifique Youth Activating Concentrate | 3,600 บาท ราคาค่อนข้างสูง | เน้นการฟื้นฟูผิวคล้ำเสีย เนื้อเบาสบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ | Whitening, Moisturizing | 30 ml | Vitamin C, 7 Pre-Probiotic Fractions, Hyaluronic Acid | ผิวแห้ง, ผิวมัน, ผิวผสม | ทั้งกลางวันและกลางคืน | ||||||||
6 | L’OREAL PARIS L’OREAL PARIS Glycolic Bright Instant Glowing Serum | 679 บาท ราคาต่ำ | ผลัดผิวเก่าออกด้วยกรดผลไม้ อ่อนโยน ใช้ได้เป็นประจำทุกวัน | Whitening | 30 ml | Glycolic Acid, Vitamin C, Niacinamide | ผิวมัน, ผิวผสม | ทั้งกลางวันและกลางคืน | ||||||||
7 | L’Occitane L’Occitane Immortelle Overnight Reset Oil In Serum | 3,890 บาท ราคาค่อนข้างสูง | เน้นส่วนผสมหลักที่สกัดมาจากธรรมชาติ รูขุมขนกระชับ ซึมไว | Moisturizing | 30 ml | สารสกัดจาก Marjoram, Acmella Oleracea, Immortelle, น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน | ผิวแห้ง, ผิวแห้งมาก | ทั้งกลางวันและกลางคืน | ||||||||
8 | FYNE FYNE Skin Barrier Prebiotic Postbiotic Serum in Cream | 1,490 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | ลดอาการอักเสบ ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้ | Moisturizing | 50 ml | Caremide, Pre - Probiotic, Squalane, Hyaluronic Acid, สารสกัดใบบัวบก, สารสกัดคาโมมายล์, สารสกัดจากว่านหางจระเข้ | ผิวแห้ง, ผิวมัน, ผิวผสม, ผิวบอบบางแพ้ง่าย | ทั้งกลางวันและกลางคืน | ||||||||
9 | SULWHASOO SULWHASOO First Care Activating Serum | 3,100 บาท ราคาค่อนข้างสูง | ด้วยสารสกัดจากโสมเกาหลี บำรุงผิวดูอิ่มน้ำ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ | Anti-Aging | 60 ml | สารสกัดจากโสมเกาหลี, Hyaluronic Acid | ผิวแห้ง, ผิงมัน, ผิวผสม | ทั้งกลางวันและกลางคืน | ||||||||
10 | HER HYNESS HER HYNESS Bio Peptide Advanced Youth Glow Serum | 1,390 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | ลดการเกิดริ้วรอยใหม่ด้วยกรดอะมิโนเปปไทด์ บูสต์ผิวอิ่มฟู | Anti-Aging, Whitening | 30 ml | Amino Acid Peptide, Niacinamide, สารสกัดจากใบบัวบก, สารสกัดจากชะเอมเทศ, สารสกัดจากเปลือกวิลโลว์ | ผิวแห้ง, ผิวผสม, ผิวมัน, ผิวบอบบางแพ้ง่าย | ทั้งกลางวันและกลางคืน |
CERAVE Skin Renewing Vitamin C เซรั่มสูตร Whitening ด้วยส่วนประกอบหลักจาก Ascorbic Acid ซึ่งเป็นวิตามินซีบริสุทธิ์ที่มีความเข้มข้น มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูและปรับสภาพผิวที่หมองคล้ำจากแสงแดดให้ดูกระจ่างใสขึ้น อีกทั้งยังจัดเป็น Antioxidant ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิว ให้ผิวเรียบเนียน รูขุมขนดูกระชับขึ้น ตามด้วยส่วนผสมที่เป็นจุดเด่นของทางแบรนด์คือ Ceramide หลายขนาดโมเลกุล ฟื้นฟู Skin Barrier และเพิ่มความชุ่มชื้นด้วย Hyaluronic Acid สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว
คุณสมบัติเด่น | Whitening |
---|---|
ปริมาณ | 30 ml |
ส่วนผสมสำคัญ | Vitamin C(Ascorbic Acid), Ceramide |
เหมาะสำหรับสภาพผิว | ผิวแห้ง, ผิวผสม, ผิวมัน, ผิวบอบบางแพ้ง่าย |
เหมาะสำหรับการใช้งาน | กลางวัน |
สูตร Oil-free | |
สูตร Non-Comedogenic | |
ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง | |
ไม่มีแอลกอฮอล์ | |
ไม่มีพาราเบน | |
ไม่มีน้ำหอม |
เซรั่มตัวดังจาก Estee Lauder จัดอยู่ในไลน์ Anti-Aging ของแบรนด์ มาพร้อมกับ Moisturizer ด้วยกันถึง 3 ชนิด ฟื้นบำรุงผิวที่เคยแห้ง มีริ้วรอย ให้กลับมาดูอิ่มน้ำอย่างดูมีสุขภาพดี มีสารสกัดจากดอกคาโมมายล์, Squalane และส่วนผสมเอกสิทธิ์เฉพาะแบรนด์ อย่าง Tripeptide-32 ถือเป็น Anti-Aging อีกตัวที่กระตุ้นให้ผิวซ่อมแซมตัวเอง ปรับสมดุลให้ผิว เนื้อเซรั่มมีความเข้มข้นในระดับหนึ่ง แนะนำให้ใช้เป็น Night Routine โดยสูตรนี้ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังว่าไม่ทำให้ระคายเคือง สามารถใช้ได้เป็นประจำทุกวัน
คุณสมบัติเด่น | Anti-Aging |
---|---|
ปริมาณ | 20 ml |
ส่วนผสมสำคัญ | Tripeptide-32, สารสกัดจากดอกคาโมมายล์, Squalane, Hyaluronic Acid |
เหมาะสำหรับสภาพผิว | ผิวแห้ง, ผิวผสม, ผิวมัน, ผิวบอบบางแพ้ง่าย |
เหมาะสำหรับการใช้งาน | กลางคืน |
สูตร Oil-free | |
สูตร Non-Comedogenic | |
ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง | |
ไม่มีแอลกอฮอล์ | |
ไม่มีพาราเบน | |
ไม่มีน้ำหอม |
เป็นเซรั่มในไลน์ Spotless ที่หลายคนนึกถึงกันอยู่บ่อย ๆ กับ Clearly Corrective Dark Spot Solution จากแบรนด์ Kiehl's มีส่วนผสมของ Vitamin C ที่มีความเสถียรสูง ผสานเข้ากับ Salicylic Acid ทำหน้าที่ทั้งช่วยปรับให้ผิวดูกระจ่างใสควบคู่ไปกับการผลัดเซลล์ผิวเก่าออกอย่างอ่อนโยน มีส่วนช่วยให้จุดด่างดำ รอยดำ รอยแดง ฝ้า หรือกระดูจางลง ตามด้วย Vitamin E และ Pro-Xylane สกัดจากพืชที่พบได้ทางฝั่งยุโรป มีคุณสมบัติในการเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว เป็นผลให้ผิวหน้าดูนุ่มฟู เนื้อเซรั่มใส เกลี่ยง่าย มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ
คุณสมบัติเด่น | Whitening |
---|---|
ปริมาณ | 30 ml |
ส่วนผสมสำคัญ | อนุพันธ์ Vitamin C, Salicylic Acid, Vitamin E, Pro-Xylane |
เหมาะสำหรับสภาพผิว | ผิวแห้ง, ผิวมัน, ผิวผสม |
เหมาะสำหรับการใช้งาน | ทั้งกลางวันและกลางคืน |
สูตร Oil-free | |
สูตร Non-Comedogenic | |
ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง | |
ไม่มีแอลกอฮอล์ | |
ไม่มีพาราเบน | |
ไม่มีน้ำหอม |
คุณสมบัติเด่น | Anti-Aging |
---|---|
ปริมาณ | 30 ml |
ส่วนผสมสำคัญ | Retinol, Niacinamide |
เหมาะสำหรับสภาพผิว | ผิวแห้ง, ผิวมัน, ผิวผสม |
เหมาะสำหรับการใช้งาน | กลางคืน |
สูตร Oil-free | |
สูตร Non-Comedogenic | |
ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง | |
ไม่มีแอลกอฮอล์ | |
ไม่มีพาราเบน | |
ไม่มีน้ำหอม |
GÉNIFIQUE Serum จาก LANCOME ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มองหาสกินแคร์สำหรับฟื้นฟูผิวโดยเฉพาะ ด้วยส่วนผสมหลักคือ Vitamin C ในกลุ่ม Antioxidant ปกป้องผิวและลดการเสื่อมคอลลาเจนเดิมของผิว ช่วยลดการเกิดริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณ หน้าผาก ร่องแก้ม ถุงใต้ตา อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในแง่ Whitening ไปในตัว และที่ขาดไม่ได้เลยคือสารสกัดจาก 7 Pre-Probiotic Fractions ฟื้นฟูผิวที่อาจคล้ำเสียจากฝุ่นละอองหรือมลภาวะให้กลับมาแข็งแรง สามารถใช้ได้ทั้งตอนเช้าและตอนกลางคืนเนื่องจากเนื้อเซรั่มไม่เหนียวเหนอะหนะ
คุณสมบัติเด่น | Whitening, Moisturizing |
---|---|
ปริมาณ | 30 ml |
ส่วนผสมสำคัญ | Vitamin C, 7 Pre-Probiotic Fractions, Hyaluronic Acid |
เหมาะสำหรับสภาพผิว | ผิวแห้ง, ผิวมัน, ผิวผสม |
เหมาะสำหรับการใช้งาน | ทั้งกลางวันและกลางคืน |
สูตร Oil-free | |
สูตร Non-Comedogenic | |
ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง | |
ไม่มีแอลกอฮอล์ | |
ไม่มีพาราเบน | |
ไม่มีน้ำหอม |
Glycolic Bright Instant Glowing เป็นสูตรที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการป้องกันการเกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระที่เกิดจากแสงแดด ด้วยกรดผลไม้ในกลุ่มผลัดเซลล์ผิว อย่าง Glycolic Acid ผสานเข้ากับ Vitamin C และ Niacinamide ซึ่งทั้งคู่นอกจากจะมีคุณสมบัติในการปรับผิวให้ดูกระจ่างใสแล้วยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นไว้ให้ผิว เนื้อสัมผัสเหลว บางเบา ไม่ทำให้รู้สึกหนักหน้า ไม่ทำให้เมคอัพเป็นคราบหรือไหลเยิ้มระหว่างวัน ผ่านการทดสอบกับผู้เชี่ยวชาญแล้วว่าสามารถใช้ได้เป็นประจำทุกวันโดยไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง
คุณสมบัติเด่น | Whitening |
---|---|
ปริมาณ | 30 ml |
ส่วนผสมสำคัญ | Glycolic Acid, Vitamin C, Niacinamide |
เหมาะสำหรับสภาพผิว | ผิวมัน, ผิวผสม |
เหมาะสำหรับการใช้งาน | ทั้งกลางวันและกลางคืน |
สูตร Oil-free | |
สูตร Non-Comedogenic | |
ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง | |
ไม่มีแอลกอฮอล์ | |
ไม่มีพาราเบน | |
ไม่มีน้ำหอม |
คุณสมบัติเด่น | Moisturizing |
---|---|
ปริมาณ | 30 ml |
ส่วนผสมสำคัญ | สารสกัดจาก Marjoram, Acmella Oleracea, Immortelle, น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน |
เหมาะสำหรับสภาพผิว | ผิวแห้ง, ผิวแห้งมาก |
เหมาะสำหรับการใช้งาน | ทั้งกลางวันและกลางคืน |
สูตร Oil-free | |
สูตร Non-Comedogenic | |
ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง | |
ไม่มีแอลกอฮอล์ | |
ไม่มีพาราเบน | |
ไม่มีน้ำหอม |
คุณสมบัติเด่น | Moisturizing |
---|---|
ปริมาณ | 50 ml |
ส่วนผสมสำคัญ | Caremide, Pre - Probiotic, Squalane, Hyaluronic Acid, สารสกัดใบบัวบก, สารสกัดคาโมมายล์, สารสกัดจากว่านหางจระเข้ |
เหมาะสำหรับสภาพผิว | ผิวแห้ง, ผิวมัน, ผิวผสม, ผิวบอบบางแพ้ง่าย |
เหมาะสำหรับการใช้งาน | ทั้งกลางวันและกลางคืน |
สูตร Oil-free | |
สูตร Non-Comedogenic | |
ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง | |
ไม่มีแอลกอฮอล์ | |
ไม่มีพาราเบน | |
ไม่มีน้ำหอม |
SULWHASOO First Care Activating เซรั่มในไลน์ Anti-Aging ตัวดังจากทางแบรนด์ ด้วยสารสกัดจากโสมเกาหลีและสมุนไพรหลายชนิดที่เติบโตตามธรรมชาติ ผ่านการสกัดด้วยเทคโนโลยี Lymphanax™ ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะแบรนด์ คงไว้ซึ่งประสิทธิภาพที่ดีที่สุด มีส่วนช่วยให้ผิวเข้าสู่กระบวนการซ่อมแซมตัวเอง เพิ่มความเต่งตึง ช่วยให้ผิวดูกระชับขึ้น ตอบโจทย์ได้ดีสำหรับใครที่ต้องการเซรั่มป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย แม้เนื้อเซรั่มจะเข้มข้นทว่าสูตรใหม่นี้ซึมไวกว่าเดิม ไม่ต้องรอเซ็ตตัวนานก็สามารถลงสกินแคร์อื่นต่อได้ทันที
คุณสมบัติเด่น | Anti-Aging |
---|---|
ปริมาณ | 60 ml |
ส่วนผสมสำคัญ | สารสกัดจากโสมเกาหลี, Hyaluronic Acid |
เหมาะสำหรับสภาพผิว | ผิวแห้ง, ผิงมัน, ผิวผสม |
เหมาะสำหรับการใช้งาน | ทั้งกลางวันและกลางคืน |
สูตร Oil-free | |
สูตร Non-Comedogenic | |
ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง | |
ไม่มีแอลกอฮอล์ | |
ไม่มีพาราเบน | |
ไม่มีน้ำหอม |
Bio Peptide Advanced Youth Glow เซรั่มขวดนี้มีคุณสมบัติเน้นไปที่ป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่ด้วยกรดอะมิโนเปปไทด์ 3 ชนิด กระตุ้นกระบวนสร้างคอลลาเจน ผิวหน้าดูเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ ผิวดูอิ่มฟู ตามด้วยสารสกัดจากชะเอมเทศและสารสกัดจากว่านหางจระเข้เข้ามาเติมความชุ่มชื้น บูสต์ผิวให้กระจ่างใสขึ้นด้วยเทคโนโลยี The Cosmetic Drone™ ช่วยนำสารสำคัญในกลุ่ม Whitening เข้าตรงบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก เรียกได้ว่าเป็นสูตรที่ครอบคลุมการบำรุงผิวที่สำคัญ ๆ ในขวดเดียว ใช้ได้ทั้งผิวแห้ง, ผิวผสม หรือผิวบอบบางแพ้ง่าย
คุณสมบัติเด่น | Anti-Aging, Whitening |
---|---|
ปริมาณ | 30 ml |
ส่วนผสมสำคัญ | Amino Acid Peptide, Niacinamide, สารสกัดจากใบบัวบก, สารสกัดจากชะเอมเทศ, สารสกัดจากเปลือกวิลโลว์ |
เหมาะสำหรับสภาพผิว | ผิวแห้ง, ผิวผสม, ผิวมัน, ผิวบอบบางแพ้ง่าย |
เหมาะสำหรับการใช้งาน | ทั้งกลางวันและกลางคืน |
สูตร Oil-free | |
สูตร Non-Comedogenic | |
ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง | |
ไม่มีแอลกอฮอล์ | |
ไม่มีพาราเบน | |
ไม่มีน้ำหอม |
การเลือกเซรั่มต้องพิจารณาทั้งจากสภาพผิวและปัญหาผิวของผู้ใช้งานเป็นหลัก เนื่องจากเซรั่มแต่ละสูตรจะมีส่วนผสมและเนื้อสัมผัสที่ต่างกัน หลัก ๆ แล้วหากเป็นคนผิวแห้งควรใช้เซรั่มเนื้อหนักเพื่อคงความชุ่มชื้นให้กับผิว แต่หากเป็นคนผิวมันควรใช้เซรั่มเนื้อบางเบา ส่วนคนผิวแพ้ง่ายจะต้องหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่ทำให้เกิดการระคายเคืองอย่างสารผลัดเซลล์ผิว แอลกอฮอล์และพาราเบน เป็นต้น โดยเซรั่มจะนิยมใช้เป็นอันดับต้น ๆ ของขั้นตอนการบำรุงผิวเพื่อเตรียมผิวให้มีความชุ่มชื้น และยังช่วยแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ผิวแห้งกร้าน ริ้วรอย จุดด่างดำ และรูขุมขนกว้างได้ด้วย
อันดับที่ 1: Cerave|Cerave Skin Renewing Vitamin C Serum
อันดับที่ 2: Estee Lauder|Estee Lauder Advanced Night Repair Synchronized Multi-Recovery Complex
อันดับที่ 3: Kiehl's|Kiehl's Clearly Corrective Dark Spot Solution
อันดับที่ 4: La Roche Posay|La Roche Posay Retinol B3 Serum
อันดับที่ 5: LANCOME|LANCOME Advanced Genifique Youth Activating Concentrate
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ