ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
บทความนี้ เราจึงจะมาแนะนำวิธีการเลือกโดรนพร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ อีกทั้งยังได้รวบรวม 10 อันดับ โดรนรุ่นยอดนิยม จากหลากหลายแบรนด์ เช่น DJI, Aviator, PowerVision, Happymodel และอีกมากมาย เพื่อให้ทุกคนได้ลองอ่านแล้วเลือกซื้อกัน ที่สำคัญ ในตอนท้ายเรายังมีข้อมูลในการขึ้นทะเบียนโดรนและกฎหมายการขึ้นบินเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากกันอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้วไปติดตามกันได้เลยครับ
คุณแก้วจบจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มีความหลงใหลในด้านการถ่ายภาพ โดยผ่านงานการถ่ายภาพมาหลากหลายแนว ทั้ง Fashion, Architecture, Automobile, Product Still Life และอยู่ในสาขาอาชีพนี้มากว่า 10 ปี และหลังจากช่วงที่การใช้สมาร์ตโฟนถ่ายภาพได้รับความนิยมมากขึ้น คุณแก้วจึงได้มีโอกาสคลุกคลีในวงการนี้และได้ศึกษาอย่างจริงจัง จนได้เปิดเพจและเว็บไซต์ Mobile Photographer ขึ้นมาเพื่อสอนทั้งเทคนิคการถ่ายภาพให้กับผู้ที่สนใจและอัปเดตเทคโนโลยีวงการกล้อง โทรศัพท์ และอุปกรณ์ไอทีใหม่ ๆ อยู่ตลอด นอกจากเพจและเว็บไซต์แล้ว ปัจจุบันคุณแก้วยังได้ร่วมงานกับแบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลกมากมาย เช่น Samsung, OPPO, vivo, HUAWEI และ Realme อีกทั้งยังผ่านการรีวิวกล้องสมาร์ตโฟนมากว่า 50 รุ่น เคยขึ้นเวที Present สินค้ากับแบรนด์มากมาย รวมทั้งร่วมจัดงาน Workshop ถ่ายภาพให้กับลูกค้าของแบรนด์สมาร์ทโฟน นอกจากนี้ ยังเปิด Photography Course สอนการถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟนให้แก่ผู้ที่สนใจ และได้รับเชิญให้บรรยายหลักสูตรการสอนถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟนกับมหาวิทยาลัยชั้นนำอีกหลายแห่งอีกด้วย
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
จุดสำคัญในการเลือกโดรน คือ การเลือกจากระดับความเชี่ยวชาญ จุดประสงค์การใช้งาน และงบประมาณของตนเองค่ะ หลังจากที่ได้ทราบจุดสำคัญในการเลือกต่าง ๆ แล้ว หวังว่าทุกคนจะสามารถเล่นกับโดรนได้อย่างสนุกสนานนะครับ
แน่นอนว่าโดรนก็มีให้เลือกหลายรูปแบบรวมไปถึงขนาด ดังนั้น เพื่อให้คุณสามารถซื้อโดรนที่ตอบโจทย์ลักษณะการใช้งานของคุณมากที่สุด เราไปดูโดรนแต่ละขนาดกันดีกว่าว่า คุณเหมาะกับโดรนรูปแบบใด
โดรนจิ๋วหรือโดรนขนาดพกพา เป็นโดรนขนาดเล็กที่มีน้ำหนักโดยเฉลี่ยไม่เกิน 250 กรัม และมีขนาดประมาณฝ่ามือของเราเท่านั้น แต่เห็นเล็ก ๆ แบบนี้ ฟังก์ชันการใช้งานก็จัดเต็มไม่แพ้โดรนรุ่นใหญ่เลยทีเดียว เพราะปัจจุบันผู้ผลิตโดรนหลายยี่ห้อก็ได้เสริมในเรื่องของคุณภาพกล้อง การอัดวิดีโอและแบตเตอรี่ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ ยังบังคับง่ายและพกพาไปออกทริปได้สะดวก เหมาะกับนักเล่นโดรนมือใหม่หรือ Vlogger ที่ต้องการเก็บภาพและบรรยายกาศสวย ๆ แต่หากต้องการกล้องที่มีความละเอียดสูงกว่า HD 720p โดรนจิ๋วอาจจะยังไม่ตอบโจทย์เท่าไรครับ
อีกหนึ่งข้อสังเกตของโดรนที่มีขนาดไม่ถึง 250 กรัม นั้นก็คือคุณสามารถนำไปใช้งานในต่างประเทศได้โดยไม่ต้องทำเรื่องขอใบอนุญาต อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบให้ละเอียดก่อนว่ากฎหมายการบินโดรนของแต่ละประเทศนั้นมีข้อพิจารณาอย่างไรบ้าง ด้วยข้อบังคับนี้เอง ผู้ผลิตโดรนบางแบรนด์เช่น DJI ก็ได้ทำการผลิตโดรนในรุ่น DJI Mini ที่มีน้ำหนักเพียง 249 กรัม ออกมา เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ครับ
โดรนขนาดทั่วไปที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดี โดยจะมีน้ำหนักตั้งแต่ 250 กรัม จนถึง 1 - 2 กิโลกรัม สำหรับการใช้เพื่องานอดิเรก และอาจหนักถึง 25 กิโลกรัม สำหรับการวิจัย สำรวจหรือถ่ายทอดภาพผ่านทางรายการโทรทัศน์เลยทีเดียว แน่นอนว่าเมื่อมีขนาดใหญ่มากขึ้น คุณภาพของกล้องและฟังก์ชันการใช้งานจึงเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีความละเอียดอยู่ที่ 1080p หรือ 4K ทั้งยังสามารถบินตีลังกาได้รอบทิศทาง บินได้ไกล นานและนิ่งขึ้น มีสัญญาณค่อนข้างเสถียร ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์ผู้ผลิตด้วยเช่นกันครับ
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ใช้งานโดรนที่มีน้ำหนักมากกว่า 2 กิโลกรัม ขึ้นไป จะต้องทำการขอใบอนุญาตการบินก่อน เพื่อที่จะได้นำโดรนมาใช้บินได้อย่างถูกต้อง แม้ว่าคุณจะนำมาใช้ในการถ่ายภาพในบริเวณใกล้เคียงที่พักหรือการบินเล่นก็ต้องทำเรื่องขอใบอนุญาตเช่นกันครับ
โดรนจิ๋วหรือโดรนติดกล้องนั้นมีฟีเจอร์ในการใช้งานและขนาดของตัวโดรนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ในส่วนของโดรนจิ๋วนั้น มักจะเหมาะกับคนที่เริ่มหัดบินโดรนใหม่ ๆ เพื่อฝึกฝนสกิลในการบังคับเนื่องจากมีราคาไม่แพง แต่ระยะในการรับส่งสัญญาณอาจจะไม่ได้ไกลตามไปด้วย ส่วนราคาที่สูงกว่า 15,000 บาทขึ้นไป จะมีความสามารถในการบินได้สูงและไกลกว่า ถ่ายได้ต่อเนื่องพร้อมคุณภาพตั้งแต่ 1080p 60fps ไปจนถึง 4K กันเลยครับ นอกจากนี้ ในหลาย ๆ รุ่นจะมีระบบ Route ที่เราสามารถสร้าง Map การบินเอาไว้ได้ด้วย
สิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อโดรน คือ การเข้าใจว่าตัวเองสามารถเล่นได้ในระดับไหน และซื้อสินค้าที่มีคุณลักษณะและระดับราคาตามนั้น โดยครั้งนี้เราจะขอแบ่งเป็นโดรนสำหรับผู้มีความเชี่ยวชาญน้อยหรือระดับมือใหม่ ระดับกลางไปจนถึงระดับสูง ดังนี้
สำหรับคนที่ไม่เคยใช้โดรนเลย คนที่ยังจับจุดการควบคุมไม่ได้หรือคนที่อยากใช้โดรนเหมือนเล่นเครื่องบินบังคับวิทยุ เราแนะนำให้เลือกโดรนจิ๋วหรือเลือกชนิดฮ้อปบี้ (Hobby Drone) ที่ใช้ใบพัด 4 ตัวและควรมีบัมเปอร์หรือตัวกันกระแทกเอาไว้ป้องกันเวลาบินชนเพดานหรือกำแพง ซึ่งจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท แต่สำหรับคนที่เคยเล่นแบบเครื่องบินบังคับวิทยุมาก่อน ก็มีเทคนิค คือ ให้เลือกโดรนที่ใช้รีโมตบังคับที่มีลักษณะการใช้งานคล้ายตัวเดิมที่เคยใช้ เพราะจะช่วยให้ชินกับการควบคุมโดรนได้เร็วยิ่งขึ้นครับ
สำหรับมือใหม่นั้นควรจะใช้เป็นโดรนที่มีราคาไม่แพงมากนักเพราะว่า สำหรับมือใหม่มีโอกาสที่จะใช้งานแล้วทำให้โดรนได้รับความเสียหายง่าย ควรอยู่ในช่วงราคาประมาณ 2,000 - 4,000 บาท แล้วมีตัวกันกระแทกบริเวณใบพัดและบริเวณตัวกล้องเพื่อป้องกันกรณีที่เกิดการเสียหายจากการควบคุมระหว่างใช้งาน แม้ตัวกล้องอาจจะชัดมากแต่แค่พอให้สามารถถ่ายและใช้งานได้ก็เพียงพอ อาจจะเป็น Drone 4 ใบพัดที่เป็นแนวของเล่นหรือใช้เพื่อความสนุกไปก่อนก็ได้ ไว้ใช้งานแบบนี้ให้ชำนาญแล้วค่อยขยับไปรุ่นต่อไปก็ได้ครับ
คนที่สามารถเข้าใจในการทำงานและใช้โดรนได้อย่างอิสระพอสมควร หรืออยากได้โดรนเอาไว้ใช้ถ่ายภาพโดยเฉพาะ แนะนำให้มองหาโดรนที่มีราคาประมาณ 5,000 – 10,000 บาท มาใช้เลยครับ เพราะคุณภาพของกล้องและฟังก์ชันการใช้งานจะดีกว่ารุ่นมือสมัครเล่น แต่มีข้อควรระวัง คือ โดรนที่มีกล้องหรือมีน้ำหนักเกิน 2 kg จะต้องขึ้นทะเบียนกับทาง กสทช. และต้องทำประกันเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นต่อบุคคลที่ 3 ด้วย
สำหรับผู้ใช้งานในระดับกลางหรือคนที่สามารถบินโดรนได้เก่งแล้วในระดับหนึ่ง สามารถที่จะเลือกโดรนในราคาที่สูงขึ้นมาใช้งานได้ โดยอาจจะมีช่วงราคาอยู่ที่ 5,000 บาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 18,000 บาท โดยโดรนในช่วงราคานี้จะให้คุณภาพของไฟล์วิดีโอได้ดีในระดับหนึ่ง และมักจะมีขนาดใหญ่และน้ำหนักที่มากขึ้น แต่ก็บินได้นานขึ้น ซึ่งโดรนในระดับราคานี้ หากมีน้ำหนักเกิน 2 กิโลกรัมขึ้น ต้องขึ้นทะเบียนโดรนกับทาง กสทช. และอย่าลืมทำประกันด้วยนะครับ มิฉะนั้นจะมีความผิดครับ
โดรนสำหรับผู้เชี่ยวชาญระดับสูงนั้นส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้ในเชิงอุตสาหกรรมมากกว่าการใช้เพื่อความบันเทิงค่ะ ซึ่งไม่ได้แค่สามารถเก็บภาพถ่ายทางอากาศได้เพียงอย่างเดียว แต่โดรนประเภทนี้ยังสามารถใช้ในการส่งของ การพ่นยาฆ่าแมลงในสวนไร่นา รวมไปถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเนื่องจากการใช้งานจะเน้นไปในเชิงอุตสาหกรรม ดังนั้น หากคุณต้องการซื้อโดรนระดับมืออาชีพก็ต้องตรวจสอบดูด้วยค่ะว่า ตัวโดรนมีฟังก์ชันหรือสามารถติดตั้งอุปกรณ์จำเป็นที่ใช้สำหรับการปฏิบัติการเฉพาะด้านนั้น ๆ ได้หรือไม่
โดรนสำหรับผู้ใช้งานระดับมือโปร แน่นอนว่า ในแง่ของฟังก์ชันการบังคับควบคุมนั้นจะมีโหมดการทำงานมาให้เลือกใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโหมด Take off/Landing แบบอัตโนมัติหรือตั้งโปรแกรมให้บินตาม Route ที่เราต้องการได้ ในแง่ของคุณภาพของตัววิดีโอนั้นอาจจะตั้งแต่ระดับ 4K ไปจนถึง 8K กันเลยในปัจจุบันครับ โดยช่วงราคาของโดรนกลุ่มนี้จะอยู่ที่ 22,000 บาทไปจนถึงหลักแสนเลยทีเดียวซึ่งขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการใช้งาน เพราะนอกจากจะใช้บินเพื่อถ่ายภาพแล้ว โดรนลักษณะแบบนี้สามารถแบกรับน้ำหนักได้ค่อนข้างเยอะเพื่อใช้ในการกู้ภัย การขนส่งสิ่งของ หรือการสำรวจทางธรรมชาติครับ
ก่อนอื่นให้ถามตัวเองก่อนเลยว่า “ต้องการใช้โดรนเพื่ออะไร ?” จะได้ทราบว่า เราต้องการฟังก์ชันอะไรบ้างในโดรนเครื่องใหม่นี้ หากใครยังหาคำตอบไม่ได้ ลองมาดูฟังก์ชันด้านล่างนี้ประกอบการตัดสินใจกันเลยครับ
เรียกได้ว่า เป็นโดรนสารพัดประโยชน์เลยก็ว่าได้ เนื่องจากปัจจุบันโดรน GPS ได้ถูกนำมาใช้ในหลาย ๆ วงการ เพราะนอกจากจะสามารถระบุตำแหน่งพิกัดติดตามตัวโดรนและผู้ใช้ ล็อกระยะของโดรนหรือบังคับอัตโนมัติด้วยระบบ GPS Autopilot แล้ว ยังสามารถถ่ายภาพและอัดวิดีโอในมุมมองใหม่ ๆ, ขนส่งสิ่งของ, จัดทำแผนที่ทางภูมิศาสตร์ รวมไปถึงสำรวจและกู้ภัยในพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึงได้อีกด้วย
เป็นอีกหนึ่งประเภทของโดรนที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมมากกับโดรนที่ติด GPS เอาไว้ เนื่องจากว่าเราสามารถใช้ GPS ให้ตัวโดรนบินตาม Route ที่เราต้องการหรือแม้กระทั่งบินตามผู้ควบคุมก็ยังได้ อีกทั้งยังสามารถระบุตำแหน่งของโดรนได้ง่ายกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือสูญหายระหว่างการใช้งาน โดรนประเภทนี้มักจะใช้เป็นโดรนในการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติหรือใช้สำหรับให้การช่วยเหลือเหตุการณ์ต่าง ๆ อีกทั้งยังสามารถใช้ขนส่งสิ่งของตามพิกัดที่เราต้องการได้ด้วยครับ
โดยส่วนใหญ่แล้วโดรนกือบทุกรุ่นสามารถถ่ายภาพและเก็บความประทับใจในยามกลางคืนได้ ขึ้นอยู่กับความไวแสงหรือ ISO ซึ่งควรสูงกว่า 200 ขึ้นไป แต่ระวังอย่าให้ค่าสูงเกินไปเพราะอาจจะทำให้เกิด Noise ได้ค่ะ นอกจากนี้ ยังควรพิจารณาถึงรูรับแสงหรือ F-Stop ยิ่งค่ารูรับแสงมากเท่าไร ภาพที่ได้ก็จะคมชัดมากขึ้นเท่านั้น ที่สำคัญ หากคุณต้องการใช้งานโดรนบินกลางคืน ขอแนะนำให้ติดตั้งสัญญาณไฟที่ตัวโดรน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางอากาศและสามารถติดตามตำแหน่งของโดรนในที่แสงน้อยได้ครับ
สิ่งแรกที่โดรนมักจะนำมาใช้ในการบินเวลากลางคืนก็คือ ไฟบอกตำแหน่งที่ติดอยู่บนตัวโดรน เพราะเวลาท้องฟ้าในยามค่ำคืนมักจะเป็นเรื่องยากที่เราจะสังเกตเห็นตำแหน่งของโดรนได้ และอาจเป็นอันตรายต่อบุคคลที่ 3 ได้ ในเรื่องของคุณภาพในการถ่ายภาพนั้น ควรเลือกโดรนที่มีความสามารถในการปรับค่าความไวแสงหรือค่า ISO ได้เกิน 2,000 - 6,400 ขึ้นไปเพื่อให้รับแสงสว่างได้มากพอ อีกทั้งควรจะมีเลนส์ที่มี f/stop หรือค่ารูรับแสงที่กว้างมากพอที่จะถ่ายภาพได้สว่างและคมชัดด้วยครับ
ใครที่เป็นสายถ่ายภาพจริงจังหรือเป็นนักเล่นโดรนมืออาชีพ คุณภาพความละเอียดของกล้องที่หลายคนมองหาและขาดไม่ได้ก็คือ ระดับ 4K (Ultra HD) นั่นเอง เพราะให้ความคมชัดสูง สีสวยสมจริง เหมาะกับการถ่าย Vlog หรือถ่ายทำรายการสำหรับสายบันเทิงเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในปัจจุบันเองก็เริ่มมีโดรน 8K ออกมาให้เราได้เห็นกันบ้างแล้ว แต่ใครที่มีงบพอประมาณและไม่ได้จำเป็นต้องใช้ภาพที่มีความละเอียดถึงขนาด 8K โดรน 4K ก็ถือว่าเพียงพอแล้วครับ
จริง ๆ ถ้าเรามองเรื่องคุณภาพของวิดีโอหรือ Quality ของภาพถ่ายเป็นหลัก ตัวเลือกจะมีไม่มากนัก ขอแนะนำว่าเราควรจะใช้โดรนที่เป็นระดับ Flagship ของแต่ละแบรนด์ที่มีคุณภาพของกล้องที่ดี สามารถถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูง ๆ และมีแบตเตอรี่ในตัวโดรนเยอะมากเพียงพอ เพราะทุกครั้งที่เราใช้โดรนถ่ายภาพหรือวิดีโอคุณภาพสูง มักจะมาพร้อมกับการใช้พลังงานสูงมาก ๆ ซึ่งโดรนที่มีฟีเจอร์ข้างต้นมักจะมีราคาค่อนข้างสูง อาจจะอยู่ที่ 20,000 บาทไปจนถึง 40,000 บาทเลยก็มีครับ ฉะนั้นเลือกให้เหมาะสมกับงานและงบประมาณของตัวเองนะครับ
โดรนติดกล้อง FPV หรือชื่อเต็มคือ First-person View เป็นโดรนติดกล้องที่จะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบภาพที่กล้องกำลังบันทึกได้แบบเรียลไทม์ โดยวิธีการตรวจสอบภาพก็แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น เช่น ตรวจสอบผ่านรีโมทคอนโทรล เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน หรือในบางรุ่นก็รองรับการใช้งานร่วมกับแว่นรับภาพ ซึ่งโดรนชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ จนสามารถจัดแข่งขันเป็นทัวร์นาเมนต์ระดับโลกอย่างยิ่งใหญ่ โดยเด็กไทยเราก็สามารถคว้าแชมป์โลกมาครองและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยด้วย ถือว่าเก่งมาก ๆ เลยครับ
สำหรับกล้องแบบ FPV หลาย ๆ คนคงจะเคยเห็นการแข่งโดรนที่เป็นลักษณะแบบ Circuit ใครทำเวลาได้ดีกว่ากันมาแล้วบ้างใช่ไหมครับ? ซึ่งปกติก็จะนิยมใช้ Drone ประเภทนี้ในการแข่งขันตรงตามชื่อ FPV เลยครับ โดรนติดกล้องที่ช่วยให้เรามองเห็นภาพแทนสายตาของตัวโดรนเป็นหลัก โดยอาจจะต่อเข้ากับแว่นเพื่อให้เห็นมุมมองจริง ๆ แล้วจึงใช้ Controller ในการบังคับโดรนแทน หรือบางรุ่นที่มีราคาไม่ได้สูงมากนักจะเชื่อมต่อเข้ากับ Smartphone ได้ และใช้ควบคุมแทน จึงสามารถนำไปใช้ในการถ่ายภาพได้ แต่จะค่อนข้างแพร่หลายในเรื่องของกีฬาและการแข่งขันเสียมากกว่าครับ
โดรนส่วนใหญ่มักจะบินได้สูงสุดประมาณ 30 - 40 นาที ขณะที่โดรนจิ๋วมักจะบินได้นานไม่เกิน 15 นาที หากต้องการเก็บภาพนานกว่านี้ก็ควรพกแบตเตอรี่สำรองไปเผื่อด้วย เพราะนอกจากจะต้องเสียเวลาไปกับการเซ็ตมุมกล้องแล้ว คุณยังต้องเผื่อเวลาบินกลับอีกด้วย ดังนั้นก่อนที่จะนำโดรนมาใช้งานควรพิจารณาให้ดีว่านำโดรนมาบินเพื่อจุดประสงค์ใด เพื่อที่คุณจะได้ประเมินระยะเวลาในการบินของโดรนได้อย่างเหมาะสม สำหรับใครไม่อยากเสียเงินเพิ่มไปกับแบตเตอรี่สำรอง ก็แนะนำให้มองหาโดรนที่มีความจุแบตเตอรี่สูงไว้ก่อนจะดีที่สุด
เรื่องแบตเตอรี่เป็นสิ่งที่คนใช้โดรนห้ามมองข้ามเป็นอันขาดครับ เพราะอาจเกิดโอกาสเสี่ยงได้เวลาใช้งาน หากแบตเตอรี่ของโดรนเราอาจจะหมดก่อนที่จะ Landing ถึงพื้น เราก็อาจจะเสียโดรนตัวนั้นไปเลยก็ได้ โดยปกติแล้วถ้าเป็นโดรนที่เพื่อการถ่ายภาพจริงจังหรือเพื่อมืออาชีพก็สามารถบินได้อยู่ที่ประมาณ 30 - 40 นาที แต่หากเป็นโดรนของเล่นหรือโดรนหัดบินก็จะได้ประมาณ 20 - 25 นาทีเท่านั้น น้ำหนักตัวโดรนและน้ำหนักที่สามารถรับได้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งเราที่จะบอกได้ว่าโดรนตัวนั้นอเนกประสงค์ขนาดไหน? ฉะนั้น หากต้องใช้งานจริงจัง แนะนำให้เลือกโดรนที่สามารถบินต่อเนื่องได้ยาวนานและมีน้ำหนักเบา แต่รับน้ำหนักได้สูงนะครับ
อีกปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามหากคุณต้องการซื้อโดรนสักตัวหนึ่ง นั่นคือ ระยะการควบคุม ซึ่งจะแสดงให้เห็นระยะไกลสุดที่โดรนสามารถบินไปได้ โดยปกติแล้วยิ่งโดรนมีราคาสูงมากเท่าไรก็จะสามารถบินได้ไกลขึ้น หากเป็นโดรนจิ๋วก็จะสามารถบินได้ไกลประมาณ 100 - 200 เมตร ขณะที่โดรนขนาดปกติสามารถบืนได้ไกล 10 กิโลเมตรเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ระยะควบคุมที่ดีที่สุดควรอยู่ในระยะที่สายตาสามารถมองเห็นโดรนได้ เพื่อป้องกันโดรนสูญหายหรือเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันนั่นเอง
ระยะการควบคุมของโดรนนั้น ถ้าหากเป็นโดรนของเล่นหรือโดรนฝึกบินทั่ว ๆ ไปนั้นจะสามารถบินได้ในระยะห่างประมาณ 50 - 100 เมตร แต่จริง ๆ แล้วควรจะอยู่ในระยะสายตาของเราจะดีที่สุด อาจจะ 15 - 30 เมตรกำลังดีครับ แต่หากเราใช้โดรนระดับมืออาชีพหรือโดรนที่ถูกออกแบบมาเพื่องานหนัก ๆ มักจะมีระยะในการควบคุมไกลได้หลายกิโลเมตร ถ้าหากเป็นรุ่นตัว Flagship ของแต่ละแบรนด์อาจจะได้ไกลถึง 8 - 12 กิโลเมตรเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ระยะสายตาและความเสถียรของสัญญาณที่ใช้ในการควบคุมก็ยังเป็นปัจจัยหลักที่เราต้องคำนึงถึงอยู่เสมอครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | ราคา | คะแนน | รายละเอียด | |||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ขนาด | น้ำหนัก | จุดประสงค์การใช้งาน | โหมดการทำงาน | จำนวนใบพัด | ระยะทางที่ควบคุมได้ | ความละเอียดภาพ | ค่ารูรับแสง | ระยะเวลาการใช้งาน | ความจุแบตเตอรี | การเชื่อมต่อที่รองรับ | พอร์ตการเชื่อมต่อ | การรับประกันสินค้า | ถ่ายกลางคืนได้ | มีสัญญาณไฟ | ต้องขอใบอนุญาตการบิน | มีบัมเปอร์ | ||||||
1 | DJI DJI MINI 3 Pro | 25,690 บาท ราคาปานกลาง | น้องใหม่ล่าสุด น้ำหนักเบากว่า 249 g ตัวเล็กพกพาสะดวก | - | 249 กรัม | บันทึกภาพ, การสำรวจ | 7 โหมด | 4 ใบพัด | 4 กิโลเมตร | 48MP | f/1.7 | 34 นาที | - | ใช้งานร่วมกับ DJI Fly App | - | 1 ปี | ||||||
2 | DJI DJI MINI 3 | 23,900 บาท ราคาปานกลาง | โดรนขนาดเล็กแต่ทรงพลังมาก สามารถบินได้ไกลถึง 10 กม. | 25.4 x 36.2 x 7.2 ซม. | 248 กรัม | บันทึกภาพ, การสำรวจ | 7 โหมด | 4 ใบพัด | 10 กิโลเมตร | 48MP, 4K HDR | f/1.7 | 51 นาที | 2,453 mAh | DJI RC-N1 Remote Controller | USB-C | 1 ปี | ||||||
3 | DJI DJI TELLO | 3,999 บาท ราคาต่ำ | มีโหมดการถ่ายวิดีโอที่แสนสนุก เหมาะกับนักบินที่เพิ่งเริ่มฝึกบิน | - | - | บันทึกภาพ | 2 โหมด | 4 ใบพัด | 100 เมตร | 5MP | - | 13 นาที | - | Gamepad และกล้อง VR | Micro USB | 1 ปี | ||||||
4 | DJI DJI Air 3 | 34,900 บาท ราคาปานกลาง | ถ่ายภาพด้วยความคมชัด 48MP วิดีโอระดับ HDR 4K / 60fps | - | - | บันทึกภาพ, การสำรวจ | 4 โหมด | 4 ใบพัด | 6 กิโลเมตร | 48MP | f/1.7 | 46 นาที | - | DJI RC-N2, DJI RC 2, DJI Fly App | - | 1 ปี | ||||||
5 | DJI DJI Mini 4 Pro | 25,690 บาท ราคาปานกลาง | มีฟังก์ชันการใช้งานครบครัน นำมาใช้งานร่วมกับสมาร์ตโฟนได้ | - | 249 กรัม | บันทึกภาพ, การสำรวจ | 7 โหมด | 4 ใบพัด | 4 กิโลเมตร | 48MP | f/1.7 | 34 นาที | - | DJI Fly App | - | 1 ปี | ||||||
6 | DJI DJI AIR 2S | 33,000 บาท ราคาปานกลาง | วิดีโอคมชัด 5.4K มีเซนเซอร์ตรวจจับ 4 ทิศทาง บินปลอดภัยยิ่งขึ้น | - | - | บันทึกภาพ, การสำรวจ | 6 โหมด | 4 ใบพัด | 8 กิโลเมตร | 20MP | - | 31 นาที | - | DJI Fly App | - | 1 ปี | ||||||
7 | DJI DJI Avata Pro | 47,900 บาท ราคาค่อนข้างสูง | เหมาะสำหรับผู้บังคับโดรนสายความเร็ว บินได้ด้วยความเร็วสูง | - | 410 กรัม | บันทึกภาพ, การสำรวจ | 5 โหมด | 4 ใบพัด | 4 กิโลเมตร | 48MP | f/1.7 | 18 นาที | - | DJI Fly App | - | 1 ปี | ||||||
8 | DJI DJI Mavic 3 Pro | 73,990 บาท ราคาสูง | ถ่ายวิดีโอละเอียด 20MP คมชัดระดับ 5.1K บินได้ไกล 15 กม. | - | 895 กรัม | บันทึกภาพ, การสำรวจ | 7 โหมด | 4 ใบพัด | 15 กิโลเมตร | 20MP | f/1.7 | 46 นาที | 5,000 mAh | รีโมท DJI RC | - | 1 ปี | ||||||
9 | DJI DJI Mini 3 Fly More Combo Plus | 23,990 บาท ราคาปานกลาง | โดรนขนาดเล็กที่มีการอัปเกรดให้มีประสิทธิภาพการใช้ที่ดีขึ้น | - | 249 กรัม | บันทึกภาพ, การสำรวจ | 6 โหมด | 4 ใบพัด | 2 กิโลเมตร | 12MP | - | 34 นาที | - | DJI Fly App | - | 1 ปี | ||||||
10 | Aviator Aviator 8811Pro | 5,290 บาท ราคาต่ำ | มีระบบ GPS ในตัว กล้องคู่ความคมชัดระดับ 6K มีระบบสแกนพื้นที่ | - | 150 กรัม | บันทึกภาพ | 3 โหมด | 4 ใบพัด | 800 เมตร | 6K | - | 25 นาที | 2,850 mAh | 5G, Wi-Fi | USB | - |
DJI MINI 3 Pro เป็นโดรนที่มีการพัฒนามาจากรุ่น MINI 2 ตัวกล้องมาพร้อมเซนเซอร์ CMOS 1/1.3" ที่มีความละเอียดมากขึ้นถึง 48MP ถ่ายวิดีโอได้ด้วยความคมชัด 4K/60fps และ 4K/30fps HDR รองรับโหมดการถ่ายพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายพาโนรามา, ถ่ายแนวตั้ง, Timelapse หรือแม้แต่ถ่าย 360 องศา พร้อมโหมดติดตามวัตถุที่มีความแม่นยำสูง ตัวโดรนมีน้ำหนักเบาเพียง 249 กรัม สามารถบินได้ไกลถึง 4 กิโลเมตร โดรนรุ่นนี้ควบคุมผ่าน DJI Fly App สามารถบินได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 34 นาที อีกทั้งยังมาพร้อมกับโหมดโฟกัสส่วนบุคคลเพื่อความแม่นยำในการตรวจจับภาพ
ขนาด | - |
---|---|
น้ำหนัก | 249 กรัม |
จุดประสงค์การใช้งาน | บันทึกภาพ, การสำรวจ |
โหมดการทำงาน | 7 โหมด |
จำนวนใบพัด | 4 ใบพัด |
ระยะทางที่ควบคุมได้ | 4 กิโลเมตร |
ความละเอียดภาพ | 48MP |
ค่ารูรับแสง | f/1.7 |
ระยะเวลาการใช้งาน | 34 นาที |
ความจุแบตเตอรี | - |
การเชื่อมต่อที่รองรับ | ใช้งานร่วมกับ DJI Fly App |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | - |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
ถ่ายกลางคืนได้ | |
มีสัญญาณไฟ | |
ต้องขอใบอนุญาตการบิน | |
มีบัมเปอร์ |
โดรนรุ่นนี้เป็นรุ่นหนึ่งที่ต้องเรียกว่าจิ๋วแต่แจ๋วเพราะเป็นรุ่นที่มีขนาดเล็กแต่ทรงพลังมากทีเดียว เป็นโดรนที่บินได้นานถึง 51 นาที อีกทั้งยังมีระยะการบินมากถึง 10 กิโลเมตร เพียงพอต่อการบันทึกภาพจากที่ไกลหรือใช้ในการสำรวจ สามารถบันทึกวิดีโอได้ด้วยความละเอียด 4K HDR เก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน สามารถบันทึกภาพแนวตั้งได้ พร้อมฟังก์ชันการถ่ายสนุก ๆ อีกมากมาย สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้อย่างอิสระ มีประสิทธิภาพในการซูมมากถึง 4 เท่า มีส่วนช่วยเปลี่ยนภาพถ่ายแบบเดิม ๆ ให้ดูโดดเด่นพร้อมสำหรับการแชร์บนโลกโซเชียล ตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กช่วยให้คุณพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสะดวก
ขนาด | 25.4 x 36.2 x 7.2 ซม. |
---|---|
น้ำหนัก | 248 กรัม |
จุดประสงค์การใช้งาน | บันทึกภาพ, การสำรวจ |
โหมดการทำงาน | 7 โหมด |
จำนวนใบพัด | 4 ใบพัด |
ระยะทางที่ควบคุมได้ | 10 กิโลเมตร |
ความละเอียดภาพ | 48MP, 4K HDR |
ค่ารูรับแสง | f/1.7 |
ระยะเวลาการใช้งาน | 51 นาที |
ความจุแบตเตอรี | 2,453 mAh |
การเชื่อมต่อที่รองรับ | DJI RC-N1 Remote Controller |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | USB-C |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
ถ่ายกลางคืนได้ | |
มีสัญญาณไฟ | |
ต้องขอใบอนุญาตการบิน | |
มีบัมเปอร์ |
โดรนรุ่นนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่าง DJI และ Intel เป็นโดรนขนาดเล็กที่เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มใช้โดรนในการบิน โดรนรุ่นนี้มีระยะเวลาในการบินอยู่ประมาณ 30 นาที สามารถนำมาใช้ถ่ายภาพเพื่อทำการบันทึกภาพบริเวณนั้นหรือใช้เก็บภาพมุมกว้างในกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ตัวกล้องสามารถบันทึกภาพได้ด้วยความละเอียด 720p สามารถเห็นภาพได้อย่างชัดเจน สัญญาณภาพที่ส่งมามีความเสถียรมากขึ้นเพราะมีเสาอากาศมาให้ถึง 2 เสา มีโหมดการทำงาน 2 โหมด คือโหมด Circle 360 ที่สามารถบินเป็นวงกลมและบันทึกวิดีโอไปพร้อม ๆ กัน อีกโหมดคือ Up & Away ที่จะให้ตัวโดรนบินถอยหลังขึ้นฟ้าและทำการถ่ายเซลฟี่อัตโนมัติ นอกจากนี้ยังสามารถทำการเชื่อมต่อกับ Gamepad และกล้อง VR เพื่อเพิ่มสีสันในการใช้งานได้อีกด้วย
ขนาด | - |
---|---|
น้ำหนัก | - |
จุดประสงค์การใช้งาน | บันทึกภาพ |
โหมดการทำงาน | 2 โหมด |
จำนวนใบพัด | 4 ใบพัด |
ระยะทางที่ควบคุมได้ | 100 เมตร |
ความละเอียดภาพ | 5MP |
ค่ารูรับแสง | - |
ระยะเวลาการใช้งาน | 13 นาที |
ความจุแบตเตอรี | - |
การเชื่อมต่อที่รองรับ | Gamepad และกล้อง VR |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | Micro USB |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
ถ่ายกลางคืนได้ | |
มีสัญญาณไฟ | |
ต้องขอใบอนุญาตการบิน | |
มีบัมเปอร์ |
อีกหนึ่งโดรนขนาดเล็กจากทาง DJI ที่มีประสิทธิภาพในการบันทึกภาพที่สูงมาก สามารถถ่ายภาพนิ่งด้วยความคมชัดในระดับ 48MP มีเลนส์ Medium Tele ที่ถ่ายวิดีโอได้ด้วยความละเอียด HDR 4K / 60fps โดรนรุ่นนี้สามารถบินได้ยาวนาน 46 นาที บินได้นิ่งขึ้นด้วยระบบกิมบอลกันสั่นแบบ 3 แกน ต้านลมได้ดี โดรนรุ่นนี้มีหน่วยความจำในตัว 8GB และสามารถเพิ่มความจุได้มากถึง 512GB ด้วย MicroSD ใช้งานได้อย่างมั่นใจด้วยเซนเซอร์ในการตรวจจับสิ่งกีดขวางรอบตัวโดรน ทำให้โดรนไม่บินชนสิ่งขวางโดยไม่ตั้งใจ อีกทั้งยังมีโหมดบินอัจฉริยะที่จะทำให้โดรนออกสำรวจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขนาด | - |
---|---|
น้ำหนัก | - |
จุดประสงค์การใช้งาน | บันทึกภาพ, การสำรวจ |
โหมดการทำงาน | 4 โหมด |
จำนวนใบพัด | 4 ใบพัด |
ระยะทางที่ควบคุมได้ | 6 กิโลเมตร |
ความละเอียดภาพ | 48MP |
ค่ารูรับแสง | f/1.7 |
ระยะเวลาการใช้งาน | 46 นาที |
ความจุแบตเตอรี | - |
การเชื่อมต่อที่รองรับ | DJI RC-N2, DJI RC 2, DJI Fly App |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | - |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
ถ่ายกลางคืนได้ | |
มีสัญญาณไฟ | |
ต้องขอใบอนุญาตการบิน | |
มีบัมเปอร์ |
โดรนรุ่นนี้คุณสามารถทำการควบคุมผ่านสมาร์ตโฟนได้ เพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้มากอีกระดับ ตัวโดรนมีขนาดเล็กและมีน้ำหนักเบาเพียง 249 กรัม แต่ต้านลมได้ดี กระแสลมปกติไม่ส่งผลต่อการบินของโดรนรุ่นนี้ สามารถต้านแรงลมได้ในระดับ 38.5 กม./ชม. ถ่ายภาพด้วยความละเอียด 48MP ส่วนวิดีโอจะสามารถบันทึกภาพได้ด้วยความละเอียด 4K 60fps HDR มีฟังก์ชันบินหลบสิ่งกีดขวางอัตโนมัติ ทำให้ตัวโดรนเลี่ยงความเสียหายในระหว่างบินได้ มีโหมด QuickShot พร้อมโหมดการบินพิเศษอีกมากมายให้คุณได้สนุกกับการบันทึกภาพ นำมาใช้ในการสำรวจสถานที่เบื้องต้นได้อย่างอิสระ
ขนาด | - |
---|---|
น้ำหนัก | 249 กรัม |
จุดประสงค์การใช้งาน | บันทึกภาพ, การสำรวจ |
โหมดการทำงาน | 7 โหมด |
จำนวนใบพัด | 4 ใบพัด |
ระยะทางที่ควบคุมได้ | 4 กิโลเมตร |
ความละเอียดภาพ | 48MP |
ค่ารูรับแสง | f/1.7 |
ระยะเวลาการใช้งาน | 34 นาที |
ความจุแบตเตอรี | - |
การเชื่อมต่อที่รองรับ | DJI Fly App |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | - |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
ถ่ายกลางคืนได้ | |
มีสัญญาณไฟ | |
ต้องขอใบอนุญาตการบิน | |
มีบัมเปอร์ |
จุดเด่นของโดรนรุ่นนี้คือตัวกล้องมีประสิทธิภาพในการบันทึกภาพที่สูงมาก กล้องมาพร้อมกับเซนเซอร์ชนิด CMOS ขนาดใหญ่ถึง 1" ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นความคมชัดที่เทียบเท่ากับกล้องดิจิทัลหลาย ๆ รุ่นเลยทีเดียว ในขณะที่วิดีโอก็สามารถบันทึกได้ด้วยความละเอียด 5.4K นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่ภาพผ่านฟีเจอร์ MasterShots ได้ คุณจึงประยุกต์ใช้งานโดรนรุ่นนี้ได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการบันทึกภาพหรือใช้ในการสำรวจก็ตาม ตัวโดรนสามารถบินได้นาน 31 นาที พร้อมฟังก์ชันหลบสิ่งกีดขวางในขณะบิน เป็นโดรนที่ทนต่อมลภาวะและสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี บินได้อย่างมั่นใจในทุก ๆ สถานการณ์
ขนาด | - |
---|---|
น้ำหนัก | - |
จุดประสงค์การใช้งาน | บันทึกภาพ, การสำรวจ |
โหมดการทำงาน | 6 โหมด |
จำนวนใบพัด | 4 ใบพัด |
ระยะทางที่ควบคุมได้ | 8 กิโลเมตร |
ความละเอียดภาพ | 20MP |
ค่ารูรับแสง | - |
ระยะเวลาการใช้งาน | 31 นาที |
ความจุแบตเตอรี | - |
การเชื่อมต่อที่รองรับ | DJI Fly App |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | - |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
ถ่ายกลางคืนได้ | |
มีสัญญาณไฟ | |
ต้องขอใบอนุญาตการบิน | |
มีบัมเปอร์ |
ความน่าสนใจของโดรนรุ่นนี้คือเป็นโดรนที่สามารถบินได้ด้วยความเร็วสูง มีความเร็วในการบินสูงสุด 97.2 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งเร็วมากเมื่อเทียบกับโดรนรุ่นอื่น ๆ แม้ว่าจะบินด้วยความเร็วแต่ก็มีแรงต้านลมที่ค่อนข้างมาก ในส่วนของการบันทึกภาพก็สามารถทำได้อย่างคมชัด ตัวกล้องมาพร้อมกับเซนเซอร์ CMOS ขนาด 1/1.7 นิ้ว ถ่ายภาพได้ด้วยความละเอียด 48MP และบันทึกวิดีโอด้วยความละเอียด 4K 60fps เพิ่มประสิทธิภาพในการบันทึกภาพด้วยฟีเจอร์ RockSteady 2.0 ที่จะลดการสั่นของภาพได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง HorizonSteady ที่จะช่วยให้คุณสามารถทำการล็อคฟุตเทจเพื่อใช้สำหรับถ่ายภาพยนตร์ได้อีกด้วย
ขนาด | - |
---|---|
น้ำหนัก | 410 กรัม |
จุดประสงค์การใช้งาน | บันทึกภาพ, การสำรวจ |
โหมดการทำงาน | 5 โหมด |
จำนวนใบพัด | 4 ใบพัด |
ระยะทางที่ควบคุมได้ | 4 กิโลเมตร |
ความละเอียดภาพ | 48MP |
ค่ารูรับแสง | f/1.7 |
ระยะเวลาการใช้งาน | 18 นาที |
ความจุแบตเตอรี | - |
การเชื่อมต่อที่รองรับ | DJI Fly App |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | - |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
ถ่ายกลางคืนได้ | |
มีสัญญาณไฟ | |
ต้องขอใบอนุญาตการบิน | |
มีบัมเปอร์ |
DJI Mavic 3 Pro เป็นโดรนของทาง DJI ที่มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับโดรนรุ่นอื่น ๆ จากแบรนด์เดียวกัน โดรนรุ่นนี้ได้รับความนิยมในการนำมาใช้ในเชิงธุรกิจ งานสำรวจ หรืองานท่องเที่ยว ตัวกล้องมาพร้อมกับเซนเซอร์ CMOS 4/3" ที่บันทึกภาพด้วยความละเอียดสูง 20MP สามารถถ่ายวิดีโอด้วยความคมชัด 5.1K 50FPS เพียงพอต่อการสำรวจหรือบันทึกเหตุการณ์สำคัญ ตัวโดรนสามารถควบคุมผ่านรีโมท DJI RC ได้ บินได้ไกลกว่า 15 กิโลเมตรและสามารถบินได้นานถึง 46 นาที บินหลบสิ่งกีดขวางได้ รวมถึงบินกลับบ้านอัตโนมัติได้ด้วยระบบ Advanced RTH เป็นโดรนที่ทนต่อมลภาวะ แต่ในขณะเดียวกันโดรนรุ่นนี้ต้องใช้ทักษะในการควบคุมพอสมควรเลยทีเดียว
ขนาด | - |
---|---|
น้ำหนัก | 895 กรัม |
จุดประสงค์การใช้งาน | บันทึกภาพ, การสำรวจ |
โหมดการทำงาน | 7 โหมด |
จำนวนใบพัด | 4 ใบพัด |
ระยะทางที่ควบคุมได้ | 15 กิโลเมตร |
ความละเอียดภาพ | 20MP |
ค่ารูรับแสง | f/1.7 |
ระยะเวลาการใช้งาน | 46 นาที |
ความจุแบตเตอรี | 5,000 mAh |
การเชื่อมต่อที่รองรับ | รีโมท DJI RC |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | - |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
ถ่ายกลางคืนได้ | |
มีสัญญาณไฟ | |
ต้องขอใบอนุญาตการบิน | |
มีบัมเปอร์ |
สำหรับโดรนรุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีการอัปเกรดขึ้นมาเพื่อนำมาใช้ในการบันทึกภาพที่ชัดเจนและมีคุณภาพมากขึ้น ตัวกล้องมาพร้อมกับเซ็นเซอร์กล้องขนาด 1/1.3 นิ้ว CMOS บันทึกภาพได้ด้วยความละเอียด 12MP และบันทึกวิดีโอได้ด้วยความละเอียด 4K 30fps HDR สามารถถ่ายสโลโมชันในระดับ 1080p 120fps ซูมได้ถึง 4 เท่า มีโหมดการใช้งานให้เลือกใช้หลายโหมด ไม่ว่าจะเป็นโหมด QuickShot หรือโหมดพิเศษที่จะช่วยให้การบันทึกภาพเป็นเรื่องที่สนุกมากยิ่งขึ้น ตัวโดรนมีน้ำหนักเบา สามารถบินได้ยาวนานมากถึง 34 นาที เหมาะกับการนำมาใช้ประกอบการสำรวจไปจนถึงใช้บันทึกภาพระหว่างทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้
ขนาด | - |
---|---|
น้ำหนัก | 249 กรัม |
จุดประสงค์การใช้งาน | บันทึกภาพ, การสำรวจ |
โหมดการทำงาน | 6 โหมด |
จำนวนใบพัด | 4 ใบพัด |
ระยะทางที่ควบคุมได้ | 2 กิโลเมตร |
ความละเอียดภาพ | 12MP |
ค่ารูรับแสง | - |
ระยะเวลาการใช้งาน | 34 นาที |
ความจุแบตเตอรี | - |
การเชื่อมต่อที่รองรับ | DJI Fly App |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | - |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
ถ่ายกลางคืนได้ | |
มีสัญญาณไฟ | |
ต้องขอใบอนุญาตการบิน | |
มีบัมเปอร์ |
แม้ว่าจะเป็นโดรนที่มีราคาไม่สูงมาก แต่ในส่วนของการใช้งานก็ถือว่าเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพที่น่าสนใจมากทีเดียว ตัวโดรนสามารถบินได้ไกล 800 เมตร ด้วยความสูง 800 เมตร เช่นกัน มาพร้อมกับฟังก์ชันบินกลับเองเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด ในส่วนของการบันทึกภาพ โดรนรุ่นนี้มาพร้อมกับกล้องคู่ที่สามารถบันทึกวิดีโอได้ด้วยความคมชัดในระดับ 6K มีกิมบอลภายในตัวกล้องเพื่อช่วยลดอาการสั่นระหว่างบันทึกภาพ เป็นโดรนที่เหมาะกับผู้ฝึกบินมือใหม่เพราะสามารถควบคุมได้ง่าย นำมาใช้ถ่ายภาพรอบ ๆ บริเวณหรือบันทึกภาพระหว่างทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก ตัวโดรนมีน้ำหนักไม่มาก สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้
ขนาด | - |
---|---|
น้ำหนัก | 150 กรัม |
จุดประสงค์การใช้งาน | บันทึกภาพ |
โหมดการทำงาน | 3 โหมด |
จำนวนใบพัด | 4 ใบพัด |
ระยะทางที่ควบคุมได้ | 800 เมตร |
ความละเอียดภาพ | 6K |
ค่ารูรับแสง | - |
ระยะเวลาการใช้งาน | 25 นาที |
ความจุแบตเตอรี | 2,850 mAh |
การเชื่อมต่อที่รองรับ | 5G, Wi-Fi |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | USB |
การรับประกันสินค้า | - |
ถ่ายกลางคืนได้ | |
มีสัญญาณไฟ | |
ต้องขอใบอนุญาตการบิน | |
มีบัมเปอร์ |
แม้จะมีโดรนมาไว้ในครอบครองแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถบินได้ตามใจนึกนะครับ เพราะคุณจะต้องขึ้นทะเบียนครอบครองโดรนกับสำนักงาน กสทช.และทำใบขออนุญาตบินกับสำนักงานการบินพลเรือนก่อน ซึ่งโดยปกติแล้วโดรนที่ไม่ต้องขึ้นทะเบียนจะเป็นโดรนที่เอาไว้ใช้เล่นเป็นงานอดิเรก ไม่มีการติดตั้งกล้องและมีน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม ดังนั้น โดรนติดกล้องจำเป็นจะต้องขึ้นทะเบียนก่อนตามกฎหมายที่ระบุเอาไว้ครับ
สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับการขึ้นทะเบียนโดรน ได้แก่
ซึ่งคุณสามารถเดินทางไปขึ้นทะเบียนได้ด้วยตนเอง หรือจะเข้าไปกรอกข้อมูลที่เว็บไซต์ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (https://uav.caat.or.th) ก็ได้เช่นกัน โดยหากใครที่ต้องการไปขึ้นทะเบียนด้วยตนเอง เราก็ขอแนะนำให้ไปที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยเลยครับ เพราะรองรับทั้งการขึ้นทะเบียนครอบครองและการขออนุญาตบินนั่นเอง
เมื่อผ่านการขึ้นทะเบียนผู้ครองครอบและทำใบขออนุญาตขึ้นบินเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องตรวจสอบกฎหมายการใช้โดรนให้รอบคอบด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการนำโดรนไปใช้งานที่ต่างประเทศ เพราะแต่ละพื้นที่แม้แต่ในประเทศไทยเองก็จะมีข้อบังคับหรือกฎหมายในการขึ้นบินแตกต่างกันไป
เช่น การบินโดรนในประเทศญี่ปุ่นจะต้องบินตอนกลางวันเท่านั้นและห้ามบินสูงเกิน 150 เมตร หรือหากต้องการบินในประเทศเกาหลี ก็จะต้องเป็นโดรนที่มีขนาดไม่เกิน 25 กิโลกรัม และห้ามบินบริเวณเขตหวงห้ามอย่างเหนือแม่น้ำฮันและทำเนียบ เป็นต้น ซึ่งโดยปกติแล้ว คุณจะต้องขอใบสำแดงที่กรมศุลกากรเพื่อยืนยันสิทธิในการครอบครองโดรนทุกครั้ง ใครต้องการนำโดรนไปใช้ในประเทศไหนก็อย่าลืมตรวจสอบข้อบังคับหรือกฎหมายของประเทศนั้น ๆ ให้ดีด้วยนะครับ
ให้เข้าไปที่เว็บไซต์ https://uav.caat.or.th/ เพื่อทำการสมัครสมาชิกและยื่นแบบฟอร์มออนไลน์สำหรับขอขึ้นทะเบียนการบิน โดยจะมีขั้นตอนและคู่มือในการขอใบอนุญาติให้ด้วย หรือสามารถยื่นผ่านทางร้านที่เราซื้อโดรนมา หรือจะไปยื่นที่กสทช. โดยตรงเลยก็ได้ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ในหลักร้อยและต้องทำประกันด้วยนะครับ
สิ่งที่จำเป็นคร่าว ๆ ในการขึ้นทะเบียนก็จะมีหลักฐาน, ข้อมูลส่วนตัวของผู้ครอบครองโดรน, Serial Number ของตัวโดรน รวมไปถึงแบบฟอร์ม คท.26 และ คท.30 ในกรณีที่ต้องการจะนำโดรนไปบินในต่างประเทศ เราควรศึกษากฏหมายการบินโดรนในแต่ละเทศให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะบางประเทศอาจจะมีกฏหมายที่แตกต่างจากเราค่อนข้างมาก และบางแห่งต้องขออนุญาติเพื่อนำโดรนเข้าประเทศด้วยครับ
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการใช้โดรนคือ การใช้โดรนให้ถูกกฏหมายและเคารพกติกามารยาทในการใช้โดรนอย่างเคร่งครัด ยิ่งใครที่เริ่มเก่งแล้วและต้องการใช้โดรนที่มีฟังก์ชันสูงมากขึ้น ก็อย่าลืมไปขึ้นทะเบียนโดรนและทะเบียนผู้ควบคุมโดรนให้ถูกต้อง ยิ่งเป็นโดรนระดับสูงที่มีน้ำหนักเกิน 25 กิโลกรัม ก็ยิ่งต้องทำการขออนุญาตก่อนบินจากภาครัฐโดยตรง และควรทำประกันเพื่อความปลอดภัยของตนเองและคนรอบข้างไม่ว่าจะใช้โดรนระดับไหนก็ตามครับ
อันดับที่ 1: DJI|DJI MINI 3 Pro
อันดับที่ 2: DJI|DJI MINI 3
อันดับที่ 3: DJI|DJI TELLO
อันดับที่ 4: DJI|DJI Air 3
อันดับที่ 5: DJI|DJI Mini 4 Pro
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ