ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
"หูฟังแบบคาดศีรษะ" หรือ "เฮดโฟน (Headphone)" เพราะเป็นหูฟังที่ใช้งานง่ายและไม่อึดอัดเหมือนหูฟัง In-Ear โดยมีหลากหลายรูปแบบที่จำแนกตามลักษณะการใช้งาน รวมไปถึงมีฟังก์ชันที่ไม่เหมือนกันในแต่ละรุ่น ซึ่งจะช่วยให้คุณดื่มด่ำกับการดูหนัง ฟังเพลงหรือเล่นเกมแบบไม่ให้เสียงรบกวนใคร
บทความนี้เราจึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเฮดโฟนในแบบที่เข้าใจได้ง่ายโดยมีวิธีการเลือกหูฟังเฮดโฟน พร้อมคำแนะนำจากเกมเมอร์ อีกทั้งยังมาพร้อมกับ 10 อันดับ เฮดโฟน จากแบรนด์ชั้นนำ เช่น SONY, Sennheiser, EDIFIER, JBL และอีกมากมาย ที่จัดเต็มทั้งในเรื่องของคุณภาพเสียงและฟังก์ชันอำนวยความสะดวกในการใช้งานครับ
จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัย ราชมงคล ล้านนา ปัจจุบันทำงานเป็นอาจารย์ประจำ และใช้เวลาว่างในการทำช่อง Youtube "แมวนูน" ในการรีวิว Gadget และ เครื่องเล่นเกมใหม่ ๆ เพื่อเติมเต็มความชอบส่วนตัวที่มีมาตั้งแต่เด็ก ๆ และติดตามข่าวเกมเป็นประจำ ทั้ง PlayStation, Nintendo, XBOX อีกทั้งยังชอบดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือและการ์ตูน
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
การเลือกเฮดโฟนนั้นมีจุดสำคัญหลายข้อที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้ เช่น ประเภทของเฮดโฟน, รูปแบบ Housing, ลักษณะของ Earpads และที่สำคัญสุดคือ คุณภาพเสียง ดังนั้น เราจึงจะพาคุณไปทำความเข้าใจกับวิธีการเลือกเฮดโฟนกันก่อนเป็นอันดับแรกครับ
Housing หรือตัวครอบหูฟังเป็นส่วนที่อยู่ด้านนอกและเป็นที่เก็บของ Driver Housing แบบเปิดกับแบบปิดทึบสนิทซึ่งจะให้อารมณ์เสียงที่แตกต่างกันไป ซึ่งเราจะมาอธิบายความแตกต่างของ Housing ทั้ง 2 แบบกันครับ
จุดเด่นของเฮดโฟนแบบปิดคือการถูกออกแบบมาให้มีลักษณะการตัดเสียงโดยรอบด้วยระบบธรรมชาติ (Passive Noise Canceling) ทำให้สามารถฟังเพลงได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเสียงดังมากก็ได้ยินเสียงดนตรีชัดเจน จึงดีต่อสุขภาพหูและการได้ยินในระยะยาว ในขณะเดียวกัน สำหรับหลายคนอาจรู้สึกว่าเฮดโฟนแบบปิดจะมีความอึดอัด เสียงเครื่องดนตรีออกมาให้ความอัดแน่นชิดกัน เวทีเสียงไม่ได้กว้างมาก ใส่ไม่ค่อยสบายหากฟังต่อเนื่องในระยะเวลานาน
สำหรับเฮดโฟนที่มี Housing แบบเปิด จะมีลักษณะเสียงที่เคลียใส มีเวทีเสียงที่กว้างและระยะของเครื่องดนตรีจะมีความห่างกัน ให้มิติเสียงกระจายในแนวกว้างได้ดี ทำให้หลายคนอาจรู้สึกว่าฟังได้นานกว่า ใส่สบายไม่อึดอัด แต่ว่าเนื่องจากเสียงสามารถลอดออกมาได้ง่าย จึงมีข้อด้อยคือ การเล่นเสียงเบสต่ำ ๆ จะทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชอบเพลงแนว EDM, Rock น่าจะรับฟังเสียงได้ไม่เต็มอารมณ์ นอกจากนี้ยังต้องแลกมาด้วยการเร่งเสียงที่ดังมากกว่าแบบปิด และอาจจะไม่เหมาะนักกับการใช้งานในพื้นที่โล่ง แนะนำว่าให้ใช้งานที่บ้านหรือในห้องจะดีกว่าครับ
Earpads คือส่วนที่ครอบใบหู รูปร่างของ Earpads ที่แตกต่างกัน ก็จะให้ความรู้สึกเวลาสวมใส่ รวมไปถึงเสียงที่แตกต่างกันไปด้วยครับ โดยส่วนใหญ่แล้วสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดคือ Over-Ear (ครอบหู) และ On-Ear (ทับหู) ลองมาเลือกแบบที่ถูกใจกันครับ
Over-Ear เป็นเฮดโฟนมี Earpads ที่ห่อหุ้มรอบหูเวลาสวมใส่ ด้วยลักษณะของเฮดโฟนเองที่ครอบไปทั้งหูทำให้ตัดเสียงรบกวนโดยรอบได้ ทำให้เราสามารถโฟกัสกับเสียงดนตรีได้มากกว่า ทั้งยังมี Driver ที่ส่วนใหญ่แล้วมีขนาดใหญ่กว่าแบบ On-Ear เหมาะสำหรับการฟังเพลงติดต่อกันเป็นเวลานาน เวลาสวมใส่ก็จะให้ความรู้สึกกระชับ ไม่ร่วงหลุดง่าย นอกจากนี้ ยังให้คุณภาพของเสียงที่ดีและไม่เจ็บหูเวลาสวมใส่ด้วยครับ หากเป็น Housing แบบปิดทึบสนิทที่มี Earpads แบบ Over-Ear จะช่วยให้สามารถดื่มด่ำกับเสียงดนตรีได้อย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากตัว Earpad จะครอบคลุมทั้งใบหู จึงมีขนาดใหญ่ อาจจะพกพาได้ไม่สะดวกนักครับ
Earpads ชนิด On-Ear จะเป็นเพียงการวางแนบสัมผัสกับใบหูในขณะสวมใส่ เนื่องจากไม่ได้ครอบใบหูไว้ทั้งหมด จึงไม่ทำให้อึดอัดหูจนเกินไป เฮดโฟนประเภทนี้จึงเหมาะกับการใช้ Monitor เครื่องดนตรีหรือมิกซ์เสียง นอกจากนี้ Earpads ขนาดนี้ยังค่อนข้างเบา จึงทำให้ตัวเฮดโฟนเบาตามไปด้วย ให้ความรู้สึกการสวมใส่ที่โปร่งโล่งมากกว่า ใส่สบายและระบายอากาศได้ดีกว่า จึงเหมาะกับการใช้งานเป็นเวลานาน โดยเฉพาะถ้าใช้ฟังในบ้านเป็นหลักเลือกเฮดโฟนแบบ On-Ear จะเหมาะมากครับ แต่ก็มีโอกาสที่รายละเอียดเสียงจะถูกลดทอนไป เนื่องจากระยะห่างของรูหูกับเฮดโฟนนั่นเองครับ
การเชื่อมต่อของเฮดโฟนนั้นมีทั้งแบบมีสายและแบบไร้สาย ซึ่งในปัจจุบันเฮดโฟนไร้สายนั้นกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยข้อดีและข้อพิจารณาของแต่ละรูปแบบการเชื่อมต่อนั้นจะเป็นอย่างไร มาติดตามกันได้ในหัวข้อนี้เลยครับ
สำหรับเฮดโฟนแบบมีสาย คุณภาพของเสียงจะไม่ถูกลดทอนลง มีเสียงรบกวนและการดีเลย์ของเสียงน้อย เนื่องจากการเชื่อมต่อด้วยสายนำมาซึ่งการนำสัญญาณที่ดีที่สุดเท่าที่สายนั้นจะให้ได้และการเชื่อมต่อแบบสายยังไม่มีความยุ่งยากซับซ้อน ขอเพียงแค่มี Port เฮดโฟนก็สามารถเสียบเล่นกับอุปกรณ์ใด ๆ ก็ได้ในทันที เหมาะสำหรับคนที่เน้นเรื่องคุณภาพของเสียงเวลาฟังเพลง หรือต้องการเพลิดเพลินทั้งภาพและเสียงไปพร้อม ๆ กัน เช่น ตอนชมภาพยนตร์ ชมเทปคอนเสิร์ตหรือเวลาเล่นเกม นอกจากนี้ ยังไม่ต้องคอยชาร์จแบตเตอรี่หรือกังวลว่าแบตจะหมดเมื่อไหร่อีกด้วยครับ
สำหรับข้อด้อยอาจจะเป็นในเรื่องของสายที่ยาวเก็บให้เข้าที่ได้ยากจนอาจจะพัน หรือเกี่ยวกับอะไรจนสายขาดเอาได้ง่าย ๆ แต่ไม่ต้องกังวลให้มากเกินไปครับ เพราะช่วงหลัง ๆ มานี้ บางรุ่นทำมาให้ถอดสายออกได้ เราจึงแก้ปัญหาสายขาดด้วยการหาซื้อเฉพาะตัวสายมาเปลี่ยนก็ได้ครับ
สำหรับเฮดโฟนที่ใช้การเชื่อมต่อการทำงานของ Bluetooth นั้น มีจุดเด่นคือความสะดวก สามารถฟังเพลงได้โดยไม่ต้องมีสายจากเฮดโฟนพันยุ่งเหยิงให้รำคาญใจครับ ถ้าอยู่ในระยะ 10 m จากตัวปล่อยสัญญาณ จะนอนกลิ้งไปมาหรือเดินวนรอบบ้านก็สามารถใช้เฮดโฟนได้อย่างไม่จำกัดพื้นที่ ทำให้เหมาะกับการใช้งานแบบ Outdoor หากพูดถึงข้อด้อยของเฮดโฟนไร้สายคือเรื่องแบตเตอรี่ที่ต้องคอยชาร์จเป็นประจำ ถ้าพลาดลืมชาร์จแล้วแบตเตอรี่หมดก็หมายความว่าจะไม่สามารถใช้งานได้เลย ดังนั้น อย่าลืมตรวจสอบด้วยว่าเมื่อชาร์จแล้วสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานกี่ชั่วโมงครับ
นอกจากนี้หากคุณภาพของการเชื่อมต่อไม่ดีพอทั้งตัวส่งรับสัญญาณของตัวเฮดโฟนและอุปกรณ์ ก็จะทำให้เกิดการสะดุดของสัญญาณหรือคุณภาพเสียงที่ออกมาแย่ได้ครับ
ลักษณะเสียงที่สื่อได้ดีของหูฟังแต่ละตัวจะต่างกันไป โดยเสียงที่ว่านี้แบ่งออกง่าย ๆ เป็น 2 ชนิด คือ เสียงสูงและเสียงต่ำ การที่เราจะดูว่า เฮดโฟนตัวนั้นเหมาะกับการเล่นเสียงแบบไหน ให้สังเกตได้จากค่าคลื่นเสียงหรือ Frequency Response ที่ระบุไว้ในสเปกสินค้า เช่น อาจจะเขียนไว้ว่า 80 Hz~20 kHz วิธีการดูก็คือ ค่าน้อย (ฝั่งซ้ายมือ) จะหมายถึงค่าเสียงต่ำ ค่ามาก (ฝั่งขวามือ) จะหมายถึงค่าเสียงสูง หากต้องการใช้ฟังเพลง Rock เสียงเบสต่ำ ๆ ก็ให้เลือกค่าฝั่งซ้ายที่น้อยกว่า 100 Hz หากฟังเพลง Pop ที่เน้นเสียงร้องที่สดใสก็ให้เลือกค่าฝั่งขวาที่มากกว่า 20 kHz ครับ
โดยเฮดโฟนที่วางจำหน่ายหลากหลายแบรนด์ในตลาดนั้นแท้จริงแล้วมีการใส่คาแรคเตอร์ของเสียงเข้ามา ซึ่งทำให้การฟังเพลงเดียวกันจากเฮดโฟนต่างแบรนด์ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างมาก ในการเลือกซื้อเฮดโฟน ให้พิจารณาแนวเพลงที่ฟังเป็นประจำและคาแรคเตอร์เสียงที่ชอบว่าเหมาะกับแนวเสียงแบบใด เช่น เสียงโทนมืด, เสียงโทนสว่าง, เน้นเสียงร้อง, เน้นเสียงเบส หรือเน้นการไม่เติมแต่งเสียงแบบ Reference จากนั้นจึงทำการเลือกแบรนด์ที่มีแนวเสียงไปทางที่เราชอบและลองเลือกฟังรุ่นต่าง ๆ จนได้ตัวเลือกที่เหมาะสมกับเราที่สุด
Hi-Res Audio (HRA) คือฟอร์แมตเสียงเพลงดิจิทัลแบบ Lossless ที่ได้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า CD เป็นคุณภาพเสียงที่ใกล้เคียงกับนักดนตรีและเอนจิเนียร์ใช้ฟังตอนทำงานในห้องอัด ซึ่งคุณภาพเสียงจะมีรายละเอียดของเสียงมากกว่าต้นเสียงประเภทแผ่น CD ถึงประมาณ 6.5 เท่า ซึ่งแน่นอนว่าในการจะได้รับประสบการณ์แบบ Hi-Res ได้ ผู้ใช้จำเป็นที่จะต้องมีทั้งเครื่องเล่นที่สามารถเล่นไฟล์เพลง Hi-Res ที่มี Bitrate สูง และต้องมีไฟล์เพลง Hi-Res ที่สตรีมมาจากผู้ให้บริการไฟล์เพลงที่ได้คุณภาพ
ถ้าหากคุณต้องการฟังเพลงหรือไฟล์เสียงคุณภาพสูง เราขอแนะนำให้เลือกเฮดโฟนที่สามารถตอบสนองความถี่ได้ 40kHz ขึ้นไป และต้องมีการระบุว่าเป็นเฮดโฟนที่สามารถรองรับ Hi-Res Audio-ready ระบุไว้ที่ตัวเครื่องหรือบรรจุภัณฑ์ครับ
ต่อไปเรามาดูการใช้งานเฮดโฟนในรูปแบบต่าง ๆ กันดีกว่าครับ เพราะเฮดโฟนแต่ละประเภทก็ตอบสนองลักษณะการใช้งานได้ดีแตกต่างกันไป ซึ่งถ้าใช้ผิดประเภทก็อาจทำให้คุณอารมณ์เสียและรู้สึกเสียดายเงินทีหลังก็เป็นได้ครับ
ลักษณะการใช้งานเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อเฮดโฟน เนื่องมาจากเฮดโฟนแต่ละรุ่น แต่ละแบบต่างถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานที่แตกต่างกัน การพิจารณาว่าคุณซื้อเฮดโฟนมาเพื่อเน้นใช้งานในเรื่องใดเป็นหลัก จะช่วยให้สามารถเลือกเฮดโฟนที่มีแนวเสียงและฟีเจอร์การใช้งานรวมไปถึงราคาที่เหมาะสมได้ ซึ่งเราขอแนะนำดังนี้ครับ
หากคุณเน้นใช้งานเฮดโฟนในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนมาก เช่น พื้นที่ภายนอกอาคารหรือพื้นที่สาธารณะ การเลือกใช้เฮดโฟนที่มีฟีเจอร์ Active Noise Canceling หรือระบบตัดเสียงรบกวน จะทำให้ประสบการณ์ในการเสพสื่อมัลติมีเดียในพื้นที่สาธารณะให้สนุกได้มากขึ้น เนื่องจากหูฟังเหล่านี้จะมาพร้อมกับฟีเจอร์การส่งคลื่นเสียงออกมาให้หักล้างกับเสียงสภาพแวดล้อม ทำให้คุณได้ยินเฉพาะเสียงเพลงเท่านั้น เราจึงไม่ต้องเร่งเสียงเพลงให้ดังแข่งกับสภาพแวดล้อมซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพการได้ยินในระยะยาวครับ
หลายท่านอาจจะเลือกเฮดโฟนจากการอ่านรีวิวว่ามีคุณภาพเสียงที่ดีและน่าจะเป็นแนวเสียงที่เหมาะสมกับเรา แต่อีกสิ่งหนึ่งที่อยากให้ลองพิจารณาก็คือ ค่า Impedance ของตัวเฮดโฟนว่าสัมพันธ์กับ Player ของเราหรือไม่ ในเฮดโฟนหลายรุ่นให้คุณภาพเสียงที่น่าประทับใจมาก แต่การจะทำให้คุณเต็มอิ่มกับคุณภาพเสียงของเฮดโฟนเหล่านั้นได้ ล้วนต้องการเฮดโฟนแอมป์มาเสริมเพื่อเชื่อมต่อกับ Player หรือโทรศัพท์เพิ่มเติม จึงสร้างความลำบากในการเชื่อมต่อและพกพาไม่ใช่น้อย
แนะนำให้เลือกเฮดโฟนรุ่นที่มีค่า Impedance ต่ำเพราะจะเสริมแรงให้กำลังเสียงได้ แต่ว่าถ้าค่า Impedance ต่ำเกินไปก็อาจจะมีปัญหาได้เหมือนกัน เช่น ทำให้เกิดเสียงรบกวนได้ง่าย จะให้ดีควรเลือก Impedance ที่ประมาณ 20Ω ครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | ราคา | คะแนน | รายละเอียด | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
น้ำหนัก | ประเภทหูฟัง | ลักษณะที่ครอบ | วัสดุที่ครอบ | ระบบเสียง | ประเภทไดร์เวอร์ | จำนวนวัตต์ | ย่านความถี่ที่รองรับ | ค่าความไวของเสียง | ค่าความต้านทาน | ชิปเซ็ตบลูทูธ | การเชื่อมต่อไร้สาย | พอร์ตเชื่อมต่อ | อุปกรณ์ที่รองรับ | ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง | ระดับการกันน้ำและฝุ่น | จำนวนไมโครโฟน | การรับประกันสินค้า | สี | มี Active Noise Cancelling | มี Transparency Mode | มี NFC | มี Equalizer | มีซับวูฟเฟอร์ | มีการควบคุมระดับเสียง | มีเซนเซอร์เล่น/หยุดเพลงเมื่อถอด | ใช้ได้ทั้งมีสาย-ไม่มีสาย | ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ | ควบคุมผ่านเสียงได้ | มีไฟ RGB | ||||||
1 | EDIFIER เฮดโฟน รุ่น STAX SPIRIT S3 | 12,900 บาท ราคาค่อนข้างสูง | ไดรเวอร์ระดับเทพ Planar Magnetic คุณภาพระดับ Hi-Res | 330 กรัม | ไร้สาย | Over-Ear | Carbon Fiber Material | สเตอริโอ | Planar Magnetic | - | 10 - 40,000 Hz | ไม่ระบุ | - | Qualcomm QCC5141 | Bluetooth 5.2 | สาย Auxillary / USB-C | โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต / โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ | 11 ชม. | ไม่ระบุ | 1 ตัว | 1 ปี | สีดำ | |||||||||||||
2 | HIFIMAN เฮดโฟน รุ่น Deva Pro | 13,900 บาท ราคาค่อนข้างสูง | รุ่นอัปเกรด เสียงดีด้วย DAC หลังโปร่งน้ำหนักเบาเบา ใส่สบาย | 360 กรัม | ไร้สาย | Over-Ear | เหล็ก อะลูมิเนียม | สเตอริโอ | Audeze Planer Magnetic Driver | - | 20 - 20,000 Hz | 93.5 dB | 18 Ohms | Qualcomm QCC5124 | Bluetooth 5.0 | สาย Auxillary / USB-C | โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต / โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ | 8 ชม. | ไม่ระบุ | 1 ตัว | 1 ปี | สีดำเงิน | |||||||||||||
3 | SONY เฮดโฟน รุ่น WH-1000XM5 | 14,990 บาท ราคาค่อนข้างสูง | ตัวเทพของการตัดเสียงรบกวน เสียงดีขึ้นด้วย DSEE Extreme™ | 250 กรัม | ไร้สาย | Over-Ear | คาร์บอนไฟเบอร์ | สเตอริโอ | DYNAMIC Driver | - | 4 - 40.000Hz | 102dB | - | QN1 | Bluetooth 5.2 | USB | โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต / โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ | 30 ชม. | ไม่ระบุ | 8 ตัว | 1 ปี | สีดำ / สีเทา | |||||||||||||
4 | Sennheiser เฮดโฟน รุ่น MOMENTUM 4 Wireless | 12,990 บาท ราคาค่อนข้างสูง | เฮดโฟนไร้สายรุ่นล่าสุด รองรับ aptX™ Adaptive ดีไซน์เรียบหรู | 293 กรัม | ไร้สาย | Over-Ear | ไม่ระบุ | สเตอริโอ | DYNAMIC Driver | - | 6 - 22,000 Hz | 106 dB | 60 Ohms | ไม่ระบุ | Bluetooth 5.2 | สาย Auxillary / สาย Jack | โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต / โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ | 60 ซม. | ไม่ระบุ | 4 ตัว | 1 ปี | สีดำ / สีขาว | |||||||||||||
5 | Apple เฮดโฟน รุ่น AirPods Max | 19,900 บาท ราคาค่อนข้างสูง | มีหลายสีสัน แข็งแรงทนทาน ใช้งานได้ดีที่สุดกับอุปกรณ์ Apple | 384.4 กรัม | ไร้สาย | Over-Ear | สแตนเลสสตีล | สเตอริโอ | Adaptive EQ | - | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | - | ไม่ระบุ | Bluetooth 5.0 | USB-C | โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต / โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ | 20 ชม. | ไม่ระบุ | 9 ตัว | 1 ปี | สีสเปซเกรย์ / สีเงิน / สีสกายบลู / สีเขียว / สีชมพู | |||||||||||||
6 | BOSE เฮดโฟน รุ่น QuietComfort® 45 | 11,900 บาท ราคาปานกลาง | คาแรกเตอร์เสียงเป็นเอกลักษณ์ ตัดเสียงรบกวนด้วยไมค์ 6 ตัว | 240 กรัม | ไน้สาย | Over-Ear | ไม่ระบุ | สเตอริโอ | ไม่ระบุ | - | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | 16 Ohms | ไม่ระบุ | Bluetooth 5.1 | USB-C | โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต / โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ | 24 ชม. | ไม่ระบุ | 6 ตัว | 1 ปี | ||||||||||||||
7 | Corsair เฮดโฟน รุ่น VIRTUOSO RGB WIRELESS SE | 7,890 บาท ราคาปานกลาง | หูฟังเกมมิ่งพรีเมียม เชื่อมต่อได้หลายวิธี รองรับความถี่ 40kHz | 240 กรัม | ไร้สาย | Over-Ear | ไม่ระบุ | สเตอริโอ | DACs and audio players | - | 20 - 40,000 Hz | 109 dB | 32 Ohms | ไม่ระบุ | Bluetooth 5.1 | USB | โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต / โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ | 24 ชม. | ไม่ระบุ | - | 1 ปี | สีดำ | |||||||||||||
8 | SOUNDPEATS เฮดโฟน รุ่น A6 | 1,499 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | ชาร์จ 45 นาที ใช้งานได้ 40 ชั่วโมง มีระบบ ANC ราคาย่อมเยา | DYNAMIC Driver | 20 - 20,000 Hz | 117 dB | 32 Ohms | BES2300Y | luetooth 5.0 | USB-C | โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต / โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ | 37 ชม. | IPX5 | 1 ตัว | 1 ปี | สีดำ | |||||||||||||||||||
9 | Baseus เฮดโฟน รุ่น H1 | 1,590 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | แกนโลหะแข็งแรง แบตฯอึด ใช้งานได้นานสูงสุด 70 ชั่วโมง | 300 กรัม | ไร้สาย | Over-Ear | ABS / PC / โลหะ | สเตอริโอ | DYNAMIC Driver | 20 - 20,000 Hz | 40dB | 33 Ohms | ไม่ระบุ | Bluetooth 5.2 | USB | โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต / โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ | 70 ชม. | ไม่ระบุ | 0 | 1 ปี | สีขาว / สีเทา | ||||||||||||||
10 | JBL เฮดโฟน รุ่น T450 | 490 บาท ราคาต่ำ | เฮดโฟนมีสาย สำหรับคนชอบความคลาสสิก ไซซ์เล็กกะทัดรัด | 310 กรัม | มีสาย | On-Ear | ไม่ระบุ | สเตอริโอ | ไม่ระบุ | 20 - 20,000 Hz | 32 Ohms | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | สาย Auxillary Input / สาย Jack | โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ | - | ไม่ระบุ | - | 1 ปี | สีดำ / สีขาว / สีฟ้า |
นี่คือเฮดโฟนระดับ Hi-End จากแบรนด์ EDIFIER กับราคาที่เอื้อมถึงได้ ขับเคลื่อนด้วยไดรเวอร์ระดับชั้นนำของอุตสาหกรรมหูฟังอย่าง Planar Magnetic จาก AUDEZE ขับเสียงด้วยช่วงความถี่กว้าง 20Hz - 40KHz มาตรฐาน Hi-Res Audio ผสานกับชิปส่งสัญญาณเสียงไร้สายระดับท็อปอย่าง QCC5141 จาก Snapdragon ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Snapdragon Sound และรองรับ aptX Adaptive ด้วยความละเอียดเสียงสูงสุด 24-bit 96kHz
นอกจากคุณภาพเสียงแล้ว การสนทนาก็ดีไม่แพ้กัน ด้วยเทคโนโลยี Qualcomm® aptX™ Voice ช่วยตัดเสียงรบกวนให้กับไมค์และเพิ่มความละเอียดเสียงให้กับไมค์ได้ถึง 32 kHz อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Edifier Connect เพื่อปรับแต่ง EQ เปิดการใช้งาน Game Mode รวมไปถึงอัปเดตเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่นใหม่ ๆ ได้ครับ
น้ำหนัก | 330 กรัม |
---|---|
ประเภทหูฟัง | ไร้สาย |
ลักษณะที่ครอบ | Over-Ear |
วัสดุที่ครอบ | Carbon Fiber Material |
ระบบเสียง | สเตอริโอ |
ประเภทไดร์เวอร์ | Planar Magnetic |
จำนวนวัตต์ | - |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 10 - 40,000 Hz |
ค่าความไวของเสียง | ไม่ระบุ |
ค่าความต้านทาน | - |
ชิปเซ็ตบลูทูธ | Qualcomm QCC5141 |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Bluetooth 5.2 |
พอร์ตเชื่อมต่อ | สาย Auxillary / USB-C |
อุปกรณ์ที่รองรับ | โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต / โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ |
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง | 11 ชม. |
ระดับการกันน้ำและฝุ่น | ไม่ระบุ |
จำนวนไมโครโฟน | 1 ตัว |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | สีดำ |
มี Active Noise Cancelling | |
มี Transparency Mode | |
มี NFC | |
มี Equalizer | |
มีซับวูฟเฟอร์ | |
มีการควบคุมระดับเสียง | |
มีเซนเซอร์เล่น/หยุดเพลงเมื่อถอด | |
ใช้ได้ทั้งมีสาย-ไม่มีสาย | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ | |
ควบคุมผ่านเสียงได้ | |
มีไฟ RGB |
Deva Pro เป็นเฮดโฟนอัปเกรดจากรุ่น Deva โดยกลับมาคราวนี้ได้พัฒนาสเปกให้ดีขึ้นแทบทุกด้าน โดยเฉพาะอุปกรณ์ส่งสัญญาณ Bluetooth Dongle "Bluemini" ที่ใช้เชื่อมต่อเข้ากับอินเตอร์เฟซ 3.5mm ของหูฟัง ให้สามารถใช้ระบบไร้สายแบบ Bluetooth ได้ ซึ่งภายใน Bluemini จะมีวงจรแบบ R2R ที่มีชื่อว่า HIMALAYA DAC ที่นอกจากจะทำให้ใช้งานแบบไร้สายแล้ว ยังช่วยปรับแต่งคุณภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้นมากกว่าการฟังแบบมีสายโดยตรงครับ
ผสานกับไดรเวอร์หูฟังระบบ Planar Magnetic ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Stealth Magnet ออกแบบพิเศษให้สามารถลดเสียงสะท้อนเพื่อส่งผ่านคลื่นเสียงเข้าสู่ผู้ฟังให้ได้รายละเอียดที่ชัดเจนและเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด ที่สำคัญคือตัวหูฟังมีดีไซน์แบบโปร่งหรือ Open Back ทำให้มีน้ำหนักเบา และลักษณะเสียงที่ขับออกมาจะมีความโปร่ง ไม่อุดอู้หรือทำให้รู้สึกอึดอัดเท่าแบบ Closed Back ครับ
น้ำหนัก | 360 กรัม |
---|---|
ประเภทหูฟัง | ไร้สาย |
ลักษณะที่ครอบ | Over-Ear |
วัสดุที่ครอบ | เหล็ก อะลูมิเนียม |
ระบบเสียง | สเตอริโอ |
ประเภทไดร์เวอร์ | Audeze Planer Magnetic Driver |
จำนวนวัตต์ | - |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 20 - 20,000 Hz |
ค่าความไวของเสียง | 93.5 dB |
ค่าความต้านทาน | 18 Ohms |
ชิปเซ็ตบลูทูธ | Qualcomm QCC5124 |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Bluetooth 5.0 |
พอร์ตเชื่อมต่อ | สาย Auxillary / USB-C |
อุปกรณ์ที่รองรับ | โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต / โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ |
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง | 8 ชม. |
ระดับการกันน้ำและฝุ่น | ไม่ระบุ |
จำนวนไมโครโฟน | 1 ตัว |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | สีดำเงิน |
มี Active Noise Cancelling | |
มี Transparency Mode | |
มี NFC | |
มี Equalizer | |
มีซับวูฟเฟอร์ | |
มีการควบคุมระดับเสียง | |
มีเซนเซอร์เล่น/หยุดเพลงเมื่อถอด | |
ใช้ได้ทั้งมีสาย-ไม่มีสาย | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ | |
ควบคุมผ่านเสียงได้ | |
มีไฟ RGB |
เมื่อนึกถึงหูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวน ANC ไม่ว่าจะเป็นทรง In-Ear หรือเฮดโฟน จะต้องมี SONY ติดชื่อเป็น Top 3 จากแบรนด์หูฟังทั้งหมดที่วางขายทั่วโลก เพราะ SONY มีเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนที่ทันสมัยไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็น Multi Noise Sensor ที่ทำการบรรจุไมโครโฟนไว้ที่ Earcups ข้างละ 4 ตัว ในการดักจับและตัดเสียงรบกวน ผสานกับระบบ NC Optimizer ที่จะปรับปรุงการตัดเสียงรบกวนให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติครับ
ในเรื่องของคุณภาพเสียงก็ไม่ธรรมดา ด้วยไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 30 mm ที่ออกแบบเป็นพิเศษ ผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แบบผสม ให้หูฟังมีน้ำหนักเบาลง แต่เพิ่มความคมชัดของเสียงในย่านความถี่สูงได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี DSEE Extreme™ ทำงานร่วมกับ Edge-AI ในการเพิ่มสเกลและชดเชยรายละเอียดของไฟล์เสียงที่สูญหายไปเพราะการบีบอัดและส่งสัญญาณแบบไร้สายครับ
น้ำหนัก | 250 กรัม |
---|---|
ประเภทหูฟัง | ไร้สาย |
ลักษณะที่ครอบ | Over-Ear |
วัสดุที่ครอบ | คาร์บอนไฟเบอร์ |
ระบบเสียง | สเตอริโอ |
ประเภทไดร์เวอร์ | DYNAMIC Driver |
จำนวนวัตต์ | - |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 4 - 40.000Hz |
ค่าความไวของเสียง | 102dB |
ค่าความต้านทาน | - |
ชิปเซ็ตบลูทูธ | QN1 |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Bluetooth 5.2 |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB |
อุปกรณ์ที่รองรับ | โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต / โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ |
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง | 30 ชม. |
ระดับการกันน้ำและฝุ่น | ไม่ระบุ |
จำนวนไมโครโฟน | 8 ตัว |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | สีดำ / สีเทา |
มี Active Noise Cancelling | |
มี Transparency Mode | |
มี NFC | |
มี Equalizer | |
มีซับวูฟเฟอร์ | |
มีการควบคุมระดับเสียง | |
มีเซนเซอร์เล่น/หยุดเพลงเมื่อถอด | |
ใช้ได้ทั้งมีสาย-ไม่มีสาย | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ | |
ควบคุมผ่านเสียงได้ | |
มีไฟ RGB |
MOMENTUM 4 Wireless คือเฮดโฟนไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Sennheiser โดยรุ่นนี้มีจุดเด่นตั้งแต่ดีไซน์ที่ดูเรียบหรู มีการแต่งเติมดีเทลด้วยการหุ้มวัสดุผ้าที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ไว้ด้านบนของสายคาดหูฟัง บอดี้ของหูฟังมีความบางเบา อีกทั้งยังมีให้เลือก 2 สีสัน คือ สีดำที่ดูเคร่งขรึม และสีขาวเทาดูพรีเมียม ส่วน Earcups เป็นแบบ Full-sized โดยภายในมีไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 42 mm ปิดหูได้มิดชิด ช่วยขับเสียงได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้นครับ
เชื่อมต่อไร้สายด้วยระบบ Bluetooth 5.2 อีกทั้งยังรองรับการถอดรหัสเสียงด้วย aptX™ Adaptive มอบคุณภาพและความละเอียดเสียงระดับเดียวกับเปิดฟังจากแผ่น CD แถมยังช่วยลดอาการดีเลย์ ซึ่งจะสังเกตได้ง่ายขึ้นเมื่อคุณดูคอนเทนต์วิดีโอ นอกจากนี้ ยังมีระบบตัดเสียงรบกวน Hybrid Adaptive ANC และระบบดูดเสียง Transparency Mode พร้อมไมโครโฟนถึง 4 ตัวครับ
น้ำหนัก | 293 กรัม |
---|---|
ประเภทหูฟัง | ไร้สาย |
ลักษณะที่ครอบ | Over-Ear |
วัสดุที่ครอบ | ไม่ระบุ |
ระบบเสียง | สเตอริโอ |
ประเภทไดร์เวอร์ | DYNAMIC Driver |
จำนวนวัตต์ | - |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 6 - 22,000 Hz |
ค่าความไวของเสียง | 106 dB |
ค่าความต้านทาน | 60 Ohms |
ชิปเซ็ตบลูทูธ | ไม่ระบุ |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Bluetooth 5.2 |
พอร์ตเชื่อมต่อ | สาย Auxillary / สาย Jack |
อุปกรณ์ที่รองรับ | โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต / โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ |
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง | 60 ซม. |
ระดับการกันน้ำและฝุ่น | ไม่ระบุ |
จำนวนไมโครโฟน | 4 ตัว |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | สีดำ / สีขาว |
มี Active Noise Cancelling | |
มี Transparency Mode | |
มี NFC | |
มี Equalizer | |
มีซับวูฟเฟอร์ | |
มีการควบคุมระดับเสียง | |
มีเซนเซอร์เล่น/หยุดเพลงเมื่อถอด | |
ใช้ได้ทั้งมีสาย-ไม่มีสาย | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ | |
ควบคุมผ่านเสียงได้ | |
มีไฟ RGB |
แน่นอนว่าเมื่อเป็นเฮดโฟนจาก Apple ก็ต้องออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพกับผลิตภัณฑ์ Ecosystem ของแบรนด์เป็นหลัก ซึ่งรุ่นนี้มีความโดดเด่นตั้งแต่ดีไซน์ที่ดูเรียบหรู โดยเฉพาะ Earcups ที่ใช้วัสดุโลหะเงางามอีกทั้งยังมีให้เลือกซื้อถึง 5 สีสัน ไม่ว่าจะเป็นสีเงิน เทาสเปซเกรย์ สกายบลู เขียว และชมพู โครงหูฟังสเตนเลสหุ้มด้วยวัสดุนุ่ม ที่คาดด้านบนมีการเสริมผ้าตาข่ายตรงกลางเพื่อระบายอากาศและทำให้น้ำหนักของหูฟังเบาลงครับ
ทรงพลังด้วยชิปเสียง H1 แบบ 10-core ที่ทาง Apple พัฒนาขึ้นมาเองเพื่อช่วยในการประมวลผลคุณภาพเสียงและตัดเสียงรบกวนรอบข้าง ANC ผสานกับไมค์ตัดเสียงรบกวนถึง 8 ตัว ให้ตัดเสียงได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด อีกทั้งยังมีโหมดรับฟังเสียงรอบข้างเพื่อเพิ่มความปลอดภัยเมื่อใช้งานภายนอก นอกจากนี้ ยังมีระบบเสียงตามตำแหน่ง สร้างระบบเสียงสามมิติ เพิ่มอรรถรสในการใช้งานหูฟังได้ดียิ่งขึ้น
น้ำหนัก | 384.4 กรัม |
---|---|
ประเภทหูฟัง | ไร้สาย |
ลักษณะที่ครอบ | Over-Ear |
วัสดุที่ครอบ | สแตนเลสสตีล |
ระบบเสียง | สเตอริโอ |
ประเภทไดร์เวอร์ | Adaptive EQ |
จำนวนวัตต์ | - |
ย่านความถี่ที่รองรับ | ไม่ระบุ |
ค่าความไวของเสียง | ไม่ระบุ |
ค่าความต้านทาน | - |
ชิปเซ็ตบลูทูธ | ไม่ระบุ |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Bluetooth 5.0 |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB-C |
อุปกรณ์ที่รองรับ | โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต / โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ |
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง | 20 ชม. |
ระดับการกันน้ำและฝุ่น | ไม่ระบุ |
จำนวนไมโครโฟน | 9 ตัว |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | สีสเปซเกรย์ / สีเงิน / สีสกายบลู / สีเขียว / สีชมพู |
มี Active Noise Cancelling | |
มี Transparency Mode | |
มี NFC | |
มี Equalizer | |
มีซับวูฟเฟอร์ | |
มีการควบคุมระดับเสียง | |
มีเซนเซอร์เล่น/หยุดเพลงเมื่อถอด | |
ใช้ได้ทั้งมีสาย-ไม่มีสาย | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ | |
ควบคุมผ่านเสียงได้ | |
มีไฟ RGB |
แม้ดีไซน์จะดูไม่แตกต่างจากเฮดโฟนรุ่นอื่น ๆ ในท้องตลาดเท่าไรนัก แต่จุดเด่นของ QuietComfort® 45 คือประสิทธิภาพโดยรวมที่ไม่เป็นสองรองใคร โดยเฉพาะในเรื่องของคุณภาพเสียงที่ใช้สถาปัตยกรรมการออกแบบไดรเวอร์แบบ โดยรวม ผสานกับการปรับแต่งเสียงตามคาแรกเตอร์ของ BOSE ที่เสียงดีชัด มีความชัดเจน เสียงเบสฟังสนุก มาเป็นลูกแต่ไม่หนาจนรู้สึกโดด อีกทั้งยังปรับแต่ง EQ ได้ จึงเป็นเฮดโฟนที่ใช้ฟังได้ทุกแนวเพลงครับ
ในส่วนของฟีเจอร์ที่เป็นตัวชูโรงอย่างเทคโนโลยี Acoustic Noise Cancelling™ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ด้วยไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนถึง 6 ตัว ติดตั้งอยู่รอบ Earcups ทั้ง 2 ข้าง โดยสามารถปรับการใช้งานได้ 2 รูปแบบ คือ QUIET MODE สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้าง ให้คุณมีสมาธิจดจ่ออยู่กับหูฟัง และ AWARE MODE ที่จะดูดเสียงรอบข้างเข้ามาในหูฟัง ซึ่งเหมาะกับการใช้งานหูฟังภายนอกครับ
น้ำหนัก | 240 กรัม |
---|---|
ประเภทหูฟัง | ไน้สาย |
ลักษณะที่ครอบ | Over-Ear |
วัสดุที่ครอบ | ไม่ระบุ |
ระบบเสียง | สเตอริโอ |
ประเภทไดร์เวอร์ | ไม่ระบุ |
จำนวนวัตต์ | - |
ย่านความถี่ที่รองรับ | ไม่ระบุ |
ค่าความไวของเสียง | ไม่ระบุ |
ค่าความต้านทาน | 16 Ohms |
ชิปเซ็ตบลูทูธ | ไม่ระบุ |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Bluetooth 5.1 |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB-C |
อุปกรณ์ที่รองรับ | โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต / โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ |
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง | 24 ชม. |
ระดับการกันน้ำและฝุ่น | ไม่ระบุ |
จำนวนไมโครโฟน | 6 ตัว |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | |
มี Active Noise Cancelling | |
มี Transparency Mode | |
มี NFC | |
มี Equalizer | |
มีซับวูฟเฟอร์ | |
มีการควบคุมระดับเสียง | |
มีเซนเซอร์เล่น/หยุดเพลงเมื่อถอด | |
ใช้ได้ทั้งมีสาย-ไม่มีสาย | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ | |
ควบคุมผ่านเสียงได้ | |
มีไฟ RGB |
สัมผัสถึงความหรูหราได้ตั้งแต่แรกเห็น กับดีไซน์ของเฮดโฟนเกมมิ่งรุ่นนี้ที่ใช้วัสดุระดับพรีเมียม เสริมด้วยดีไซน์ที่มีความโมเดิร์นทันสมัย เพิ่มความน่าใช้งานมากขึ้น สำหรับสเปกก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะไดรเวอร์ที่มีขนาดใหญ่ 50 mm คุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi ให้รายละเอียดเสียงได้ดี เบสแน่น สเตจเสียงกว้าง แยกเสียงซ้ายขวาและระบุตำแหน่งได้ชัดเจน ที่สำคัญคือสามารถขับความถี่เสียงได้กว้างตั้งแต่ 20Hz - 40kHz เทียบเท่ากับระดับ Hi-Res
ข้อดีอีกหนึ่งอย่างของรุ่นนี้ก็คือ สามารถเชื่อมต่อได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นระบบไร้สาย Wireless 2.4Hz ด้วยการเชื่อมต่อ USB Dongle เข้ากับคอมพิวเตอร์ หรือจะเชื่อมต่อแบบมีสายด้วย USB-C หรือ 3.5mm ก็ทำได้เช่นเดียวกัน แถมยังมีไฟ RGB บริเวณ Earcups ด้านนอก ปรับแต่งสีได้ตามใจผ่านซอฟต์แวร์ นอกจากนี้ ไมโครโฟนยังถอดออกจากหูฟังได้อีกด้วยครับ
น้ำหนัก | 240 กรัม |
---|---|
ประเภทหูฟัง | ไร้สาย |
ลักษณะที่ครอบ | Over-Ear |
วัสดุที่ครอบ | ไม่ระบุ |
ระบบเสียง | สเตอริโอ |
ประเภทไดร์เวอร์ | DACs and audio players |
จำนวนวัตต์ | - |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 20 - 40,000 Hz |
ค่าความไวของเสียง | 109 dB |
ค่าความต้านทาน | 32 Ohms |
ชิปเซ็ตบลูทูธ | ไม่ระบุ |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Bluetooth 5.1 |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB |
อุปกรณ์ที่รองรับ | โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต / โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ |
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง | 24 ชม. |
ระดับการกันน้ำและฝุ่น | ไม่ระบุ |
จำนวนไมโครโฟน | - |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | สีดำ |
มี Active Noise Cancelling | |
มี Transparency Mode | |
มี NFC | |
มี Equalizer | |
มีซับวูฟเฟอร์ | |
มีการควบคุมระดับเสียง | |
มีเซนเซอร์เล่น/หยุดเพลงเมื่อถอด | |
ใช้ได้ทั้งมีสาย-ไม่มีสาย | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ | |
ควบคุมผ่านเสียงได้ | |
มีไฟ RGB |
เรียกได้ว่าเป็นเฮดโฟนที่มีความคุ้มค่าและครบเครื่องมากที่สุดรุ่นหนึ่งจาก SOUNDPEATS เพราะแม้จะมีราคาย่อมเยาเพียง 1,500 บาท แต่สามารถมอบประสบการณ์ใช้งานหูฟังแบบเงียบยิ่งขึ้นด้วยระบบตัดเสียงรบกวน ANC แบบไฮบริด อีกทั้งยังออกแบบตามสรีรศาสตร์ ช่วยให้สวมใส่สบายไม่อึดอัดหู และผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน โดยเฉพาะสายคาดภายในที่เป็นโลหะ ทำให้ไม่มีหัก แถมหูฟังยังพับได้ พกพาติดตัวสะดวกยิ่งขึ้นครับ
ข้อดีอีกหนึ่งอย่างของเฮดโฟนรุ่นนี้ก็คือ มาพร้อมกับระบบชาร์จไว ที่ใช้เวลาชาร์จเพียง 45 นาที แต่คุณสามารถใช้หูฟังได้ยาวนานถึง 40 ชั่วโมง หากไม่เปิดโหมด ANC ส่วนถ้าเปิด ANC จะใช้งานได้ 30 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งครับ สำหรับคาแรกเตอร์เสียงจะเด่นย่านเบสเป็นหลัก ส่วนเสียงร้องจะค่อนข้างเป็นรอง แต่ก็ยังได้ยินชัดเจน ที่สำคัญคือมีมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX5 ใช้งานได้มั่นใจขึ้นครับ
น้ำหนัก | |
---|---|
ประเภทหูฟัง | |
ลักษณะที่ครอบ | |
วัสดุที่ครอบ | |
ระบบเสียง | |
ประเภทไดร์เวอร์ | DYNAMIC Driver |
จำนวนวัตต์ | |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 20 - 20,000 Hz |
ค่าความไวของเสียง | 117 dB |
ค่าความต้านทาน | 32 Ohms |
ชิปเซ็ตบลูทูธ | BES2300Y |
การเชื่อมต่อไร้สาย | luetooth 5.0 |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB-C |
อุปกรณ์ที่รองรับ | โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต / โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ |
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง | 37 ชม. |
ระดับการกันน้ำและฝุ่น | IPX5 |
จำนวนไมโครโฟน | 1 ตัว |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | สีดำ |
มี Active Noise Cancelling | |
มี Transparency Mode | |
มี NFC | |
มี Equalizer | |
มีซับวูฟเฟอร์ | |
มีการควบคุมระดับเสียง | |
มีเซนเซอร์เล่น/หยุดเพลงเมื่อถอด | |
ใช้ได้ทั้งมีสาย-ไม่มีสาย | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ | |
ควบคุมผ่านเสียงได้ | |
มีไฟ RGB |
นี่คือเฮดโฟนที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งรุ่น ด้วยเหตุผลแรกเลยคือมีราคาย่อมเอา อีกทั้งดีไซน์ยังดูสวยงามทันสมัยและมีให้เลือก 2 สีสันด้วยกัน คือสีดำและสีครีม สายคาดเฮดโฟนด้านในเป็นวัสดุโลหะ จึงมีความแข็งแรงทนทาน ไม่หักง่ายเหมือนสายคาดพลาสติก ข้างนอกสายคาดเป็นฟองน้ำนุ่ม ใส่แล้วไม่ทำให้เจ็บหัวหรืออึดอัด อีกทั้งยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่สุดอึดขนาด 800 mAh ที่ใช้งานได้นาน 70 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งครับ
ไดรเวอร์ของหูฟังมีขนาด 40 mm คุณภาพเสียงจะมีลักษณะสมดุล ไม่เด่นด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับฟังเพลงแนวป็อบ หรือจะใช้ฟังพ็อดแคสต์ ดูซีรีส์ หรือคลิปวิดีโอทั่วไปก็ทำได้ดี ที่สำคัญคือรุ่นนี้มีระบบตัดเสียงรบกวน ANC แบบไฮบริด ตัดเสียงรบกวนได้เงียบสุด 40dB เชื่อมต่อแบบไร้สายด้วย Bluetooth 5.2 ดีเลย์ต่ำ ใช้เล่นเกมได้ครับ
น้ำหนัก | 300 กรัม |
---|---|
ประเภทหูฟัง | ไร้สาย |
ลักษณะที่ครอบ | Over-Ear |
วัสดุที่ครอบ | ABS / PC / โลหะ |
ระบบเสียง | สเตอริโอ |
ประเภทไดร์เวอร์ | DYNAMIC Driver |
จำนวนวัตต์ | |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 20 - 20,000 Hz |
ค่าความไวของเสียง | 40dB |
ค่าความต้านทาน | 33 Ohms |
ชิปเซ็ตบลูทูธ | ไม่ระบุ |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Bluetooth 5.2 |
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB |
อุปกรณ์ที่รองรับ | โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต / โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ |
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง | 70 ชม. |
ระดับการกันน้ำและฝุ่น | ไม่ระบุ |
จำนวนไมโครโฟน | 0 |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | สีขาว / สีเทา |
มี Active Noise Cancelling | |
มี Transparency Mode | |
มี NFC | |
มี Equalizer | |
มีซับวูฟเฟอร์ | |
มีการควบคุมระดับเสียง | |
มีเซนเซอร์เล่น/หยุดเพลงเมื่อถอด | |
ใช้ได้ทั้งมีสาย-ไม่มีสาย | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ | |
ควบคุมผ่านเสียงได้ | |
มีไฟ RGB |
ใครที่รู้สึกว่าหูฟังหรือเฮดโฟนไร้สายมอบประสบการณ์การใช้งานหูฟังได้ไม่เต็มที่ หรืออุปกรณ์ที่จะนำไปใช้งานด้วยไม่รองรับระบบไร้สายได้ดีเท่าที่ควร เราขอแนะนำเฮดโฟนจาก JBL รุ่นนี้เลยครับ เพราะเป็นเฮดโฟนแบบมีสายที่มาพร้อมกับราคาเบา ๆ ไม่ถึง 500 บาท แถมยังมีขนาดกะทัดรัดและพับได้ โดยมีน้ำหนักเพียง 310 g เท่านั้น ให้คุณพกพาติดตัวไปได้ทุกที่ ไม่เกะกะ อีกทั้งยังมีไมโครโฟนในตัว ใช้คุยโทรศัพท์หรือวิดีโอคอลได้ปกติครับ
รุ่นนี้มาพร้อมกับไดรเวอร์ 32 mm รองรับความถี่เสียงตั้งแต่ 20 Hz - 20 kHz ปรับแต่งเสียงเบสให้เด่นชัดเป็นพิเศษด้วยเทคโนโลยี JBL Pure Bass เบสมีมวลมาเป็นลูก กระชับพุ่งตรง ตามสไตล์เสียงของหูฟัง JBL หลาย ๆ รุ่น ที่สำคัญคือมาพร้อมกับสายหูฟังแบบแบน ความยาว 118 cm มีความทนทาน และไม่พันกันง่ายเหมือนสายแบบกลมครับ
น้ำหนัก | 310 กรัม |
---|---|
ประเภทหูฟัง | มีสาย |
ลักษณะที่ครอบ | On-Ear |
วัสดุที่ครอบ | ไม่ระบุ |
ระบบเสียง | สเตอริโอ |
ประเภทไดร์เวอร์ | ไม่ระบุ |
จำนวนวัตต์ | |
ย่านความถี่ที่รองรับ | 20 - 20,000 Hz |
ค่าความไวของเสียง | |
ค่าความต้านทาน | 32 Ohms |
ชิปเซ็ตบลูทูธ | ไม่ระบุ |
การเชื่อมต่อไร้สาย | ไม่ระบุ |
พอร์ตเชื่อมต่อ | สาย Auxillary Input / สาย Jack |
อุปกรณ์ที่รองรับ | โน้ตบุ๊ค / คอมพิวเตอร์ |
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง | - |
ระดับการกันน้ำและฝุ่น | ไม่ระบุ |
จำนวนไมโครโฟน | - |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สี | สีดำ / สีขาว / สีฟ้า |
มี Active Noise Cancelling | |
มี Transparency Mode | |
มี NFC | |
มี Equalizer | |
มีซับวูฟเฟอร์ | |
มีการควบคุมระดับเสียง | |
มีเซนเซอร์เล่น/หยุดเพลงเมื่อถอด | |
ใช้ได้ทั้งมีสาย-ไม่มีสาย | |
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้ | |
ควบคุมผ่านเสียงได้ | |
มีไฟ RGB |
มือใหม่หลาย ๆ คนอาจจะมีข้อสงสัยเรื่องของเฮดโฟนอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแบบมีสายหรือไม่มีสายแบบไหนดีกว่ากัน หรือเราสามารถใช้เฮดโฟนเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนได้หรือไม่ ในวันนี้ เรามีคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกันครับ
สำหรับการเล่นเกมแล้ว นอกเหนือไปจากคุณภาพเสียง ความสะดวกก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อประสบการณ์การเล่นเกมของเราครับ หากคุณเล่นเกมสไตล์ PC ต้องนั่งใกล้ตัวจอคอมพิวเตอร์หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ การการเลือกใช้หูฟังแบบมีสายก็จะให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่เต็มอิ่มกว่า แถมระบบเสียงก็มีเสนอมาให้หลากหลาย เช่น เสียงรอบทิศทางแบบ True Surround 5.1 / 7.1 ในขณะที่หากคุณเล่นเกมแนวคอนโซลที่มีระยะนั่งไกลจากทีวี การใช้เฮดโฟนไร้สายหรือทำการเสียบสายกับตัวจอยก็เป็นทางเลือกที่สะดวกกว่ามากครับ
ในปัจจุบัน เฮดโฟนแบบมีไมค์ส่วนใหญ่จะเป็นฟีเจอร์สำหรับการประชุม สนทนากับเพื่อนในการเล่นเกม หรือรับโทรศัพท์ ไม่ได้เป็นไมค์เพื่อใช้ในการบันทึกเสียงจริงจัง หากคุณกำลังตามหาไมโครโฟนเพื่อใช้ในการอัดเสียงแบบมืออาชีพ การซื้อไมค์แยกไปเลยเป็นทางเลือกที่ดีกว่า อาจมีเฮดโฟนบางรุ่นที่เน้นไมโครโฟนที่มีคุณภาพดีกว่าปกติแต่ก็มีจำนวนที่น้อยมาก สำหรับการเลือกเฮดโฟนเพื่อใช้งานทั่วไปนั้น นอกเหนือไปจากคุณภาพเสียงที่สามารถสื่อสารได้ ควรพิจารณาฟีเจอร์เปิดปิดไมค์หรือความสามารถในการดึงไมค์ออกเพื่อความสะดวกในการพกพา ความยืดหยุ่น และเป็นส่วนตัวในการใช้งาน
โดยทั่วไปแล้ว เฮดโฟนสามารถต่อเชื่อมกับสมาร์ตโฟนได้ผ่านทางพอร์ตหูฟัง 3.5 มม. แต่หากเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่อาจเสนอการเชื่อมต่อแบบอื่น เช่น USB-C / Lightning / การเชื่อมต่อแบบไร้สาย คุณภาพเสียงที่ได้จะดีหรือไม่นั้น เงื่อนไขก็เป็นเช่นเดียวกับการต่อเชื่อมอุปกรณ์ PC หรือเครื่องเล่นเกม นั่นคือ คุณภาพของการเชื่อมต่อ รวมถึงคุณภาพของตัวแหล่งเสียงและคุณภาพของหูฟังต่าง ๆ นั่นเองครับ
นอกจากวิธีการเลือกซื้อและรีวิว 10 อันดับ เฮดโฟน (Headphone) ในบทความนี้แล้ว เรายังมีบทความ Bone Conduction Headphones ที่บอกถึงข้อดีและข้อเสีย รวมไปถึงฟังก์ชันเด่น ๆ ของแต่ละรุ่นมาให้ทุกคนได้ลองอ่านกันอีกด้วย คลิกเข้าไปดูในลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
แม้เฮดโฟนจะเป็นประเภทหูฟังที่สวมใส่ง่ายและมอบความรู้สึกสบายได้มากกว่าหูฟังชนิดอื่น แต่เราก็ขอแนะนำให้ระมัดระวังว่าอย่าฟังเพลินโดยไม่ได้ดูรอบข้างหรือเปิดเสียงดังหรือใช้งานติดต่อกันนานเกินไปนะครับ เพราะนอกจากจะไม่ดีต่อสุขภาพการได้ยินแล้ว ยังอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้หากใช้งานขณะเดินทาง ด้วยความห่วงใยจากทีมงานครับ ยังไงแล้วก็ให้เพื่อน ๆ ลองนำคำแนะนำในการเลือกซื้อที่เราเสนอไว้ด้านบนไปใช้เวลาพิจารณาเลือกซื้อเฮดโฟนดู ขอให้ทุกคนเจอเฮดโฟนที่ตรงใจ อยู่ในงบประมาณกันนะครับ
อันดับที่ 1: EDIFIER|เฮดโฟน รุ่น STAX SPIRIT S3
อันดับที่ 2: HIFIMAN|เฮดโฟน รุ่น Deva Pro
อันดับที่ 3: SONY|เฮดโฟน รุ่น WH-1000XM5
อันดับที่ 4: Sennheiser|เฮดโฟน รุ่น MOMENTUM 4 Wireless
อันดับที่ 5: Apple|เฮดโฟน รุ่น AirPods Max
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ