mybest
หูฟังวิ่ง

ให้ทุกการเลือกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ปิด
  1. TOP
  2. โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
  3. หูฟัง
  4. 10 อันดับ หูฟังวิ่ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 หูฟังใส่วิ่ง ออกกําลังกาย
  • 10 อันดับ หูฟังวิ่ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 หูฟังใส่วิ่ง ออกกําลังกาย 1
  • 10 อันดับ หูฟังวิ่ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 หูฟังใส่วิ่ง ออกกําลังกาย 2
  • 10 อันดับ หูฟังวิ่ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 หูฟังใส่วิ่ง ออกกําลังกาย 3
  • 10 อันดับ หูฟังวิ่ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 หูฟังใส่วิ่ง ออกกําลังกาย 4
  • 10 อันดับ หูฟังวิ่ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 หูฟังใส่วิ่ง ออกกําลังกาย 5

10 อันดับ หูฟังวิ่ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 หูฟังใส่วิ่ง ออกกําลังกาย

สายออกกำลังกายหลายคนมักชื่นชอบการวิ่งไปฟังเพลงไปเพื่อเพิ่มความเพลิดเพลิน ในปัจจุบันจึงมีหูฟังไร้สายสำหรับนักวิ่งโดยเฉพาะออกมาวางขาย ไม่ว่าจะเป็นหูฟังแบบบลูทูธ หรือแม้แต่หูฟังที่ถูกออกแบบมาไม่ให้หลุดออกจากหูง่ายตอนเล่นกีฬา ซึ่งหูฟังแต่ละประเภทนั้นต่างก็มีประสิทธิภาพที่แตกต่างกันไปตามการใช้งานของแต่ละคน 

หากใครกำลังมองหาการฟังเพลงผ่อนคลาย หรือเติมกำลังไปพร้อมกับการวิ่ง บทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกหูฟัง พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี นอกจากนี้ ยังมี 10 อันดับ "หูฟังวิ่ง" ที่มีทั้งรุ่นที่เน้นน้ำหนักเบา รุ่นที่มีคุณสมบัติกันน้ำได้ หรือแม้แต่มีดีไซน์ที่สวยงามจากแบรนด์ดัง เช่น JBL, SONY, Shokz, Jabra, AUKEY มาฝากกันด้วย
อัปเดตล่าสุดเมื่อ 14/07/2023
ปัตย์ ศรีอรุณ
ผู้เชี่ยวชาญ
เกม, แก็ดเจ็ตไอที
ปัตย์ ศรีอรุณ

จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัย ราชมงคล ล้านนา ปัจจุบันทำงานเป็นอาจารย์ประจำ และใช้เวลาว่างในการทำช่อง Youtube "แมวนูน" ในการรีวิว Gadget และ เครื่องเล่นเกมใหม่ ๆ เพื่อเติมเต็มความชอบส่วนตัวที่มีมาตั้งแต่เด็ก ๆ และติดตามข่าวเกมเป็นประจำ ทั้ง PlayStation, Nintendo, XBOX อีกทั้งยังชอบดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือและการ์ตูน

ประวัติของ ปัตย์ ศรีอรุณ
…อ่านต่อ
กองบรรณาธิการ mybest
บรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ mybest

มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน

ประวัติของ กองบรรณาธิการ mybest
…อ่านต่อ
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ

สารบัญ

วิธีการเลือกหูฟังวิ่ง

การเลือกหูฟังวิ่งนั้น มีจุดสำคัญหลายจุดที่เราจะละเลยไปไม่ได้เลย เพราะเป็นอุปกรณ์ที่นักวิ่งจะใช้ติดตัวอยู่ตลอดเวลา คุณจึงควรเลือกหูฟังที่ช่วยให้คุณเคลื่อนไหวได้อย่างสบายและคล่องตัวมากที่สุดครับ

1

เลือกการเชื่อมต่อแบบไร้สาย เพื่อการวิ่งที่สะดวกสบาย

เลือกการเชื่อมต่อแบบไร้สาย เพื่อการวิ่งที่สะดวกสบาย

หลายคนอาจคิดว่า การมีสายหูฟังเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนไว้ในขณะที่เราวิ่งเหยาะ ๆ นั้นคงไม่มีปัญหาอะไร แต่ในความเป็นจริงนักวิ่งหลายคนต่างเข้าใจดีว่า สายหูฟังเหล่านี้เป็นปัญหาใหญ่ที่รบกวนสมาธิในการวิ่งไม่น้อย เพราะในการวิ่งที่มีจังหวะการเคลื่อนไหวหรือแกว่งขึ้นลงอยู่เรื่อย ๆ จนทำให้สายที่เชื่อมต่ออยู่ตีกลับเข้าที่ใบหน้าและส่วนต่าง ๆ บนร่างกายของเรา แถมหูฟังบางตัวก็มีน้ำหนักมาก เมื่อถูกถ่วงหรือไปรั้งกับเสื้อผ้า ก็ยิ่งทำให้หลุดง่ายขึ้นไปอีก ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุหรือทำให้อุปกรณ์เครื่องเล่นเพลง โทรศัพท์มือถือ หรือหูฟังเสียหายได้ครับ


ดังนั้น สิ่งสำคัญข้อแรกที่นักวิ่งมองหาก็คือ หูฟังที่เชื่อมต่อแบบไร้สาย ที่มีรูปแบบการเชื่อมต่ออยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ Bluetooth Wireless Headphones และ True Wireless Headphones โดยตัวหูฟังจะใช้พลังงานจากการชาร์จแบตเตอรี่ไว้ล่วงหน้า นอกจากนี้ ด้วยน้ำหนักที่เบากว่าหรือการมีโครงสร้างที่กระชับเข้ากับช่องหูได้ดี ก็เป็นแนวทางที่หลาย ๆ คนใช้ตัดสินใจเลือกซื้อด้วยครับ

2

เลือกหูฟังวิ่งจากลักษณะภายนอกที่ใส่ได้พอดี ไม่เลื่อนหลุดง่าย

ต่อมาคือการสังเกตหูฟังที่ใส่แล้วรู้สึกพอดีกับรูหูของเราที่สุด นับเป็นจุดสำคัญที่เราจะต้องพิจารณาอย่างละเอียดครับ เพราะหูฟังแต่ละชนิดนั้นถูกออกแบบมาให้มีโครงสร้างที่ให้ความรู้สึกพอดีกับรูหู และมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป ซึ่งเราจะอธิบายในลำดับต่อไปนี้

หูฟังประเภท Canal น้ำหนักเบาใส่ง่าย

หูฟังประเภท Canal น้ำหนักเบาใส่ง่าย

"Canal Headphones" เป็นประเภทหูฟังที่เหมาะกับนักวิ่งที่ชื่นชอบการฟังเพลงแบบเสียงดังชัด เต็มอิ่มทุกอรรถรส เหมาะสำหรับคนที่กังวลเรื่องหูฟังร่วงหล่นในขณะวิ่ง เพราะถึงแม้ว่าหูฟังประเภทนี้จะมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา แต่ก็สามารถเข้าไปในช่องหูของเราได้ลึกที่สุด จึงวางใจได้ว่าหูฟังจะไม่หล่นขณะทำกิจกรรมหรือวิ่งออกกำลังกาย สามารถโฟกัสกับการออกกำลังกายโดยไม่ถูกรบกวน อีกทั้งหูฟังประเภทนี้ยังแบ่งย่อยได้อีก 2 แบบ คือแบบ In-Ear-Canal และ Canalbuds


โดยทั้ง 2 รูปแบบย่อยนี้ มีข้อดีที่ให้คุณภาพเสียงได้พอ ๆ กัน แตกต่างกันที่แบบ Canalbuds ส่วนมากจะมี Eartips ที่ทำให้รู้สึกว่าใส่สบายมากกว่า แต่ในเรื่องการจัดการกับเสียงรบกวนภายนอกก็ยังทำได้ไม่ดีเท่าแบบ In-Ear-Canal ซึ่งออกแบบให้มีลักษณะที่ทำให้เกิดกลไกการตัดเสียงรบกวนโดยรอบแบบธรรมชาตินั่นเองครับ

ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยที่เกี่ยวหูหรือคล้องคอ

ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยที่เกี่ยวหูหรือคล้องคอ

หากใครที่ยังกังวลเรื่องหูฟังจะร่วงหล่นหายอยู่ ก็สามารถเปลี่ยนไปเลือกใช้ "หูฟังแบบเกี่ยวหู (Ear Clips)" ซึ่งเป็นชนิดที่มีส่วนก้านโค้งออกมาเกี่ยวเข้ากับใบหู ทำให้เลื่อนหลุดได้ยากกว่าเมื่อเทียบกับชนิดที่เป็น In-Ear อย่างเดียว เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากจะคอยจับหูฟังให้เข้าที่อยู่บ่อย ๆ ระหว่างวิ่งหรือเล่นกีฬา แต่สำหรับคนที่ต้องใส่แว่นหรือแว่นกันแดดก็อาจจะใช้ได้ลำบากสักหน่อย เนื่องจากขอเกี่ยวจะถูกเกี่ยวอยู่ด้านบนของใบหูนั่นเอง


นอกจากนี้ ยังมี "หูฟังแบบคล้องคอ (Neckband Headphones)" โดยหูฟังชนิดนี้มีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบสอดหู In-Ear หรือแบบเกี่ยวหูแค่ด้านนอก แต่ทั้งหมดก็มีลักษณะของสายที่เหมือนกัน คือ จะมีก้านหรือสายมาคล้องด้านหลังของคอเวลาสวมใส่ ทำให้เป็นรุ่นที่ค่อนข้างนิยมใช้เวลาวิ่ง เนื่องจากไม่มีสายห้อยให้เกะกะ แถมยังไม่ต้องกลัวว่าหูฟังจะหลุดหายระหว่างทางเหมือนกับเวลาใช้หูฟังไร้สายชนิดอื่น ช่วยทำให้เรามั่นใจได้มากขึ้นว่าประสบการณ์การออกกำลังกายของเราเป็นไปอย่างราบรื่นไม่สะดุดระหว่างทางเนื่องมาจากหูฟังหลุดครับ

3

เลือกหูฟังวิ่งจากรูปแบบที่ช่วยกันเสียงภายนอก

เมื่อคุณต้องวิ่งออกกำลังกายไปฟังเพลงไปด้วย การคำนึงถึงความปลอดภัยก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจครับ เพราะทุกครั้งที่เราวิ่งออกกำลังกายนั้น การที่สามารถได้ยินเสียงรอบข้างได้ด้วยจะมีส่วนช่วยให้เราระมัดระวังตัวมากขึ้นนั่นเองครับ

หูฟังแบบ In-Ear กันเสียงได้ดี

หูฟังแบบ In-Ear กันเสียงได้ดี

อย่างที่ได้กลาวไปข้างต้นว่า หูฟังประเภท Canal โดยเฉพาะหูฟังชนิด In-Ear ซึ่งเป็นหูฟังที่มีการตัดเสียงรบกวนแบบ Passive โดยตัวยางจะทำการแนบกับรูหูของเราจนเกิดการ Seal และช่วยป้องกันเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม ถึงขนาดที่ขนาดเสียงเท้าหรือเสียงอื่น ๆ ที่เกิดในขณะวิ่งก็ไม่เล็ดลอดเข้ามา ช่วยให้คุณสามารถโฟกัสอยู่กับเสียงเพลงที่ชื่นชอบได้ดี จนเป็นข้อเสียที่อาจทำให้เราไม่ได้ยินเสียงรถหรือเสียงรอบข้างอื่น ๆ จากภายนอกได้เลย 


ดังนั้น ผู้ที่มักวิ่งออกกำลังกายตามท้องถนนใหญ่จึงจำเป็นต้องระวังกันให้มาก ๆ หรืออาจจะเลือกใช้เป็นหูฟังแบบที่มีหูเพียงข้างเดียวแทน เพื่อช่วยให้คุณดื่มด่ำกับเสียงดนตรีได้ในขณะที่หูอีกข้างก็ยังรับฟังเสียงจากภายนอกได้ด้วย


แต่หูฟังประเภท In-Ear ก็ไม่ได้กันเสียงได้เงียบสนิทไปซะทีเดียวนะครับ เพราะบางรุ่นก็ที่ยังพอได้ยินเสียงภายนอกอยู่บ้าง แต่ปัญหาที่มากกว่านั้นและเป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนพบเจอประจำก็คือ หูฟังบางรุ่นมีโครงสร้างที่ไม่กระชับช่องหูของเราเท่าที่ควร แม้ว่าจะเปลี่ยนขนาดหรือใช้จุกหูฟังช่วยก็ยังหลุดหายอยู่ดี ซึ่งวิธีแก้ไขปัญหานี้เบื้องต้น คือ การเลือกซื้อขาเกี่ยวหูฟังที่มีจำหน่ายแยกนั่นเองครับ

"หูฟังสั่นกระดูก" มิติใหม่ในการใช้หูฟัง

"หูฟังสั่นกระดูก" มิติใหม่ในการใช้หูฟัง

สำหรับประเภท "หูฟังสั่นกระดูก" (Bone Conduction Headphones) ถือเป็นมิติการฟังเพลงแบบใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อเอาใจสายวิ่งเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นหูฟังที่ไม่ได้ใส่เข้าไปในหูโดยตรง แต่จะอาศัยการส่งคลื่นความถี่/การสั่นสะเทือน ผ่านทางกระดูกและส่งต่อไปยังสมองของเราเพื่อแปลงเป็นค่าเสียง แน่นอนว่าเมื่อสิ่งนี้ไม่ได้เข้าไปอยู่ในหูก็จะทำให้เรารู้สึกสบาย ไม่รู้สึกอึดอัด ให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่หูฟัง ทำให้เราสามารถใส่หูฟังได้ยาวนานและต่อเนื่อง ทั้งยังช่วยให้เราได้ยินเสียงรอบข้างได้ง่ายขึ้น เหมาะกับการวิ่งในย่านที่อยู่อาศัย รวมถึงถนนสายหลักที่มีรถสัญจรไปมาอย่างยิ่งครับ


โดยอุปกรณ์นี้ จะมีโครงสร้างคาดอ้อมด้านหลังศีรษะและมีส่วนโค้งเกี่ยวช่วงขาบริเวณเหนือหู โดยจะตั้งฉากให้ตัวส่งสัญญาณอยู่บริเวณกระดูกเหนือใบหูพอดี เพื่อช่วยให้เราได้ยินเสียงที่สมบูรณ์มากที่สุด แต่ในทางกลับกัน ข้อเสียที่เห็นได้ชัดก็คือ คุณภาพเสียงที่ได้จะไม่เท่าหูฟังทั่วไป และไม่เป็นที่แนะนำในกลุ่มนักวิ่งที่เจาะจงคุณภาพเสียงครับ

หูฟังพร้อมฟังก์ชันจับเสียงภายนอก

หูฟังพร้อมฟังก์ชันจับเสียงภายนอก

หากคุณอยากได้ทั้งคุณภาพเสียงและความปลอดภัย เราขอแนะนำเป็นหูฟังที่มี "ฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวน" ซึ่งฟังก์ชันนี้มีการทำงานโดยใช้ไมโครโฟนแบบหันออก เพื่อช่วยตรวจจับเสียงภายนอก นั่นก็หมายความว่า เมื่อเราใส่หูฟังเข้าไปในหูได้แนบสนิทนอกจากเราจะเข้าสู่โลกของเสียงที่คมชัดและมีคุณภาพแล้ว ก็ยังสามารถได้ยินเสียงรอบข้างไปพร้อม ๆ กัน อีกทั้งยังช่วยให้เราสามารถสื่อสารกับคนอื่น โดยไม่จำเป็นต้องถอดหูฟังเข้า ๆ ออก ๆ ได้อีกด้วยครับ


อย่างไรก็ตาม ฟังก์ชั่นนี้ยังคงเป็นฟังก์ชันใหม่และพบได้ในหูฟังระดับ Hi-End เป็นส่วนใหญ่ ทำให้มีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่หากใครที่เล็งเห็นว่าฟังก์ชันนี้ตอบโจทย์ และมีงบประมาณที่ซื้อได้ ก็นับว่าเป็นการลงทุนที่ได้ความปลอดภัยและมีคุ้มค่ามากครับ

4

คุณสมบัติ "กันน้ำ" หรือ "กันฝน" แนะนำระดับ IPX5 ขึ้นไป

คุณสมบัติ "กันน้ำ" หรือ "กันฝน" แนะนำระดับ IPX5 ขึ้นไป

คุณสมบัติกันน้ำนั้นไม่ได้ใช้เมื่อเราเจอฝนขณะวิ่งอย่างเดียว แต่ยังเป็นฟีเจอร์สำคัญสำหรับหูฟังสำหรับการออกกำลังกาย เนื่องมาจากขณะออกกำลังหูฟังของเราต้องเจอกับเหงื่อของเรา, น้ำที่เราดื่ม, การล้างมือ-ล้างหน้า และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปตลอดการวิ่ง การเลือกหูฟังที่มีฟีเจอร์นี้ จะช่วยให้เราออกกำลังกายได้อย่างมั่นใจและทำให้หูฟังของเรามีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้นอีกด้วย


โดยหูฟังสำหรับวิ่งที่มีคุณสมบัติกันน้ำนั้นมีอยู่มากมายหลายรุ่นเลยล่ะครับ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าเป็นวิธีในการป้องกันความเสียหายภายในระบบ ที่อาจเกิดจากเหงื่อออกมากในขณะวิ่งหรือการเปียกฝน ซึ่งมาตรฐานการกันน้ำที่ที่ว่ามานี้ก็คือ IP (Ingress Protection Ratings) หรือที่เราคุ้นเคยกันคือเลข IPX นั่นเอง (ในบางครั้งอาจระบุเป็น IPXX โดยเลขตัวแรกหมายถึงการกันฝุ่น และตัวที่ 2 หมายถึงการกันน้ำ)


สำหรับเกรดในการกันน้ำ สามารถแบ่งได้ตามตัวเลข ตั้งแต่เลข 0 ที่ไม่กันอะไรเลย ไปจนถึงเลข 8 ที่ใช้งานใต้น้ำได้ ซึ่งเมื่อมองในแง่ของการเลือกใช้สำหรับวิ่ง ระดับ IPX4 ก็ถือว่าเพียงพอที่จะกันเหงื่อได้ แต่หากจะเผื่อสำหรับกันฝนตกแบบฉับพลัน การเลือกใช้ระดับ IPX5 ก็ถือว่ามีความปลอดภัยและป้องกันได้ดียิ่งขึ้นครับ

5

ตรวจสอบเวลาใช้งานต่อเนื่องให้เหมาะสมกับระยะเวลาวิ่ง

ตรวจสอบเวลาใช้งานต่อเนื่องให้เหมาะสมกับระยะเวลาวิ่ง

อายุแบตเตอรี่ของหูฟังก็มีความสำคัญไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาในการชาร์จ โดยเฉพาะหากหูฟังรองรับระบบ Fast Charging ก็จะทำให้ใช้งานได้อย่างสะดวกขึ้น หากอายุของแบตเตอรี่ต่อการใช้ชาร์จหนึ่งครั้งนั้นสามารถเก็บแบตเตอรี่ได้ยาวนานเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้เราไม่ต้องชาร์จหูฟังบ่อย ๆ โดยอาจจะชาร์จเพียงแค่สัปดาห์หรือสองสัปดาห์ครั้งเท่านั้น นอกจากนี้ หากหูฟังสามารถใช้ชาร์จกับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ ก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกและโอกาสในการใช้งานให้มากขึ้นครับ


ปกติแล้วหูฟังแต่ละรุ่นจะมีจำนวนชั่วโมงการใช้งานต่อเนื่องที่แตกต่างกัน ดังนั้น ลองสังเกตดูว่าตัวคุณเองมักจะวิ่งเป็นระยะทางและเวลานานเท่าไหร่ เพราะหูฟังในปัจจุบันจะมีทั้งรุ่นที่ใช้งานได้ต่อเนื่องไม่กี่ชั่วโมงไปจนถึงหลายสิบชั่วโมง รวมไปถึงบางรุ่นก็สามารถ Standby ได้ทั้งวันกันเลยทีเดียว แนะนำให้เลือกใช้รุ่นที่อยู่ได้นานประมาณ 4 - 5 ชั่วโมงขึ้นไป แต่หากเลือกรุ่นที่ใช้งานได้นานขึ้นก็จะยิ่งสะดวกมากขึ้น แต่อาจจะมีราคาที่สูงกว่าครับ

6

เลือกใช้หูฟังวิ่งคู่กับอุปกรณ์ที่เข้ากัน เพื่อดื่มด่ำคุณภาพเสียงสุดคมชัด

เลือกใช้หูฟังวิ่งคู่กับอุปกรณ์ที่เข้ากัน เพื่อดื่มด่ำคุณภาพเสียงสุดคมชัด

อีกหนึ่งศัพท์ที่ผู้ใช้หูฟังแบบไร้สายต้องทำความรู้จักไว้ ก็คือ Codec ซึ่งเป็นรูปแบบการส่งสัญญาณที่อุปกรณ์ Bluetooth ทุกชิ้นบนโลกต้องมี และอาจกล่าวได้ว่าสิ่งนี้มีผลอย่างยิ่งต่อคุณภาพเสียงที่เราจะได้ยิน ซึ่ง Codec ขั้นพื้นฐานที่ใช้ได้กับทุกอุปกรณ์ คือ แบบ SBC แต่หากขยับคุณภาพขึ้นมาอีกขั้น ก็จะเป็นแบบที่เราพบเห็นกันอยู่บ่อย ๆ นั่นก็คือ AptX (รองรับเสียง 48 kHz/16 bit), AptX (รองรับเสียง Hi-res 48 kHz/24 bit), LDAC (รองรับเสียง Hi-res 96 kHz/24 bit) และ AAC (รองรับ iOS bit-rates 250 kbps)


ทั้งนี้อย่าลืมที่จะตรวจสอบด้วยว่า วิธีการเข้ารหัสสัญญาณเสียงของหูฟังนั้นรองรับกับตัวเครื่องเล่นเพลงหรือไม่ เช่น ถ้าเป็น Android ให้เลือกระบบ AptX แต่หากเป็น iPhone ต้องเลือกเป็นระบบ AAC ครับ อย่างไรก็ตาม หากต้องการเลือกรุ่นที่มีคุณภาพเสียงสูงกว่า ก็ต้องตรวจสอบก่อนว่าสามารถรองรับระบบ Hi-Res (High Resolution Audio) ได้หรือไม่ ยิ่งกรณีที่ใช้กับเครื่องเล่นเพลงที่เป็น Hi-Res ด้วยล่ะก็ ฟังก์ชันนี้ถือว่าสำคัญมากเลยทีเดียว


นอกจากนี้การเลือกหูฟังให้สามารถเข้ากับตัว Player หรือโทรศัพท์มือถือของเราก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกและประสบการณ์ในการใช้งานได้ ทั้งในแง่การเข้า App ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกันได้กับอุปกรณ์หลากหลายโดยที่เราไม่ต้องทำการแตะตัวหูฟังเลย แต่ควบคุมผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ แทน และในแง่ของคุณภาพเสียงที่ประเภทของไฟล์เสียงจะไปสัมพันธ์กันระหว่าง Player กับ หูฟัง เช่น Hi-Res Audio หรือเราอาจจะเปิดฟีเจอร์ระบบเสียงพิเศษที่ถูกจูนมาเฉพาะสำหรับเครื่องเล่นและหูฟังแบรนด์เดียวกัน เป็นต้น ครับ

วิธีการเลือกใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?

10 อันดับ หูฟังวิ่ง ยี่ห้อไหนดี หูฟังใส่วิ่ง ออกกําลังกาย

ต่อจากนี้ไป เราจะมาแนะนำหูฟังที่เหมาะสำหรับใส่เวลาวิ่งโดยเฉพาะกันครับ สำหรับคนที่กำลังมองหาหูฟังแบบที่ไม่มีสายมาพันเกะกะเวลาวิ่งออกกำลังล่ะก็ ลองดูรุ่นที่เราแนะนำไว้ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
เรียงจากความนิยม
ตัวกรอง
สินค้า
รูปภาพ
ราคาต่ำสุด
ราคา
คะแนน
รายละเอียด
ประเภทหูฟัง
รูปทรงหูฟัง
ประเภทไดร์เวอร์
ขนาดไดรเวอร์
จำนวนวัตต์
ย่านความถี่ที่รองรับ
Codec ที่รองรับ
ค่าความไวของไดรเวอร์
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง
การเชื่อมต่อไร้สาย
พอร์ตเชื่อมต่อ
อุปกรณ์ที่รองรับ
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง
ระดับการกันน้ำและฝุ่น
จำนวนไมโครโฟน
การรับประกันสินค้า
สี
มี Active Noise Cancelling
มี Transparency Mode
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้
1

B&O

หูฟังวิ่ง รุ่น Beoplay EX

B&O หูฟังวิ่ง รุ่น Beoplay EX 1

16,500 บาท

ราคาสูง

หูฟังระดับ Next-gen มีจุกหูฟัง 4 ขนาด ตอบโจทย์ทุกกิจกรรม

ไร้สาย

Earbuds

Dynamic

9.2 มม.

-

20 - 20000Hz

AAC / SBC

108 +/- 2dB 1kHz @ 1mW (0.178V)

32 Ohms

Bluetooth 5.2

USB C

โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต

20 ชั่วโมง

IP57

6 ตัว

3 ปี

ดำ / ดำ-ฟ้า / ทอง

2

Jabra

หูฟังวิ่ง รุ่น Elite 7 Pro

Jabra หูฟังวิ่ง รุ่น Elite 7 Pro 1

7,790 บาท

ราคาค่อนข้างสูง

แบตฯอึดใช้งานนานสุด 8 ชั่วโมง ไมค์ชัดด้วยเซนเซอร์พิเศษ

ไร้สาย

Earbuds

Dynamic

6 มม.

-

ไม่ระบุ

AAC / SBC

ไม่ระบุ

-

Bluetooth 5.2

ไม่ระบุ

โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต

30 ชั่วโมง

IP57

6 ตัว

1 ปี

ดำ / ทอง / เงิน

3

Shokz

หูฟังวิ่ง รุ่น OpenRun Pro

Shokz หูฟังวิ่ง รุ่น OpenRun Pro 1

6,690 บาท

ราคาค่อนข้างสูง

เทคโนโลยี Bone Conduction ปลอดภัย ได้ยินเสียงรอบข้าง

ไร้สาย

Neckband

ไม่ระบุ

-

-

20 Hz - 20 kHz

A2DP / AVRCP / HFP / HSP

105 +/- 3dB

8.5 Ohms

Bluetooth 5.1

ไม่ระบุ

โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต

20 ชั่วโมง

IP55

1 ตัว

2 ปี

ดำ / ฟ้า / เบจ / ชมพู

4

JBL

หูฟังวิ่ง รุ่น Endurance Race

JBL หูฟังวิ่ง รุ่น Endurance Race 1

3,890 บาท

ราคาปานกลาง

ชิ้นส่วนพิเศษ เกี่ยวหูแน่นหนา แบตสุดอึด มีให้เลือก 4 สีสัน

ไร้สาย

Earbuds

Dynamic

6 มม.

-

20Hz - 20kHz

A2DP / AVRCP / HFP

99dB

16 Ohms

Bluetooth 5.2

ไม่ระบุ

โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต

20 ชั่วโมง

IP67

1 ตัว

1 ปี

ดำ / น้ำเงิน / ขาว / ส้ม

5

soundcore

หูฟังวิ่ง รุ่น Sport X10

soundcore หูฟังวิ่ง รุ่น Sport X10 1

2,990 บาท

ราคาปานกลาง

Ear-hooks ปรับรูปทรงตามใบหูได้ เบสแน่นพิเศษ กันน้ำ IPX7

ไร้สาย

Half In-ear

Dynamic

10 มม.

-

20Hz - 20kHz

ไม่ระบุ

ไม่ระบุ

32 Ohms

Bluetooth 5.2

ไม่ระบุ

โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต

32 ชั่วโมง

IPX7

1 ตัว

18 เดือน

ดำ

6

AUKEY

หูฟังวิ่ง รุ่น EP-T35

AUKEY หูฟังวิ่ง รุ่น EP-T35 1

1,590 บาท

ราคาค่อนข้างต่ำ

หูฟัง Lifestyle แยกการใช้งานได้อิสระ รองรับชาร์จไร้สาย

ไร้สาย

Earbuds

Dynamic

10 มม.

-

20Hz - 20kHz

A2DP / AVRCP / HFP / HSP / AAC / SBC

103dB ±3dB SPL

16 Ohms

Bluetooth 5.1

USB C

โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต

40 ชั่วโมง

IPX7

2 ตัว

1 ปี

ดำ

7

Skullcandy

Skullcandy Push Active

Skullcandy Skullcandy Push Active 1

4,990 บาท

ราคาปานกลาง

ดีไซน์ไม่เหมือนใคร มีให้เลือกหลายสีสัน ปรับ EQ ได้ตามใจ

ไร้สาย

Earbuds

Dynamic

6 มม.

-

ไม่ระบุ

ไม่ระบุ

ไม่ระบุ

-

Bluetooth

USB C

โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต

44 ชั่วโมง

IP55

2 ตัว

1 ปี

เขียว / ฟ้า / ส้ม

8

SOUNDPEATS

หูฟังวิ่ง รุ่น Q35

SOUNDPEATS หูฟังวิ่ง รุ่น Q35 1

857 บาท

ราคาต่ำ

ตัวหูฟังเป็นแม่เหล็ก กันน้ำถึง IPX8 เสียงดีขึ้นด้วย aptX™ HD

ไร้สาย

Neckband

Dynamic

10 มม.

-

20 - 20000Hz

A2DP / AVRCP / HFP / HSP

90 ± 3dB

32 Ohms

Bluetooth 5.0

ไม่ระบุ

โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต

18 ชั่วโมง

IPX8

1 ปี

ดำ

9

Defunc

หูฟังวิ่ง รุ่น True Sport

Defunc หูฟังวิ่ง รุ่น True Sport 1

2,590 บาท

ราคาปานกลาง

ดีไซน์ Earbuds ใส่สบายขึ้น มี Ear-hooks เพิ่มความแน่นหนา

ไร้สาย

Earbuds

Dynamic

12 มม.

-

ไม่ระบุ

ไม่ระบุ

ไม่ระบุ

-

Bluetooth 5.2

ไม่ระบุ

โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต

30 ชั่วโมง

IPX5

2 ตัว

1 ปี

ขาว / ดำ / แดง / เงิน / ชมพู / ฟ้า

10

JBL

หูฟังวิ่ง รุ่น Endurance Run 2

JBL หูฟังวิ่ง รุ่น Endurance Run 2 1

1,190 บาท

ราคาค่อนข้างต่ำ

หูฟังวิ่งแบบมีสาย ดีไซน์ FlipHook™ ใส่แน่นหนา กันน้ำ IPX5

มีสาย

In-ear

Dynamic

8.2 มม.

-

20 - 20000Hz

ไม่ระบุ

ไม่ระบุ

8 Ohms

Bluetooth 5.2

3.5 mm

โทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต

ไม่มีแบตเตอรี่ ใช้งานได้ตลอดเวลา

ไม่ระบุ

2 ตัว

1 ปี

ขาว / ดำ / ฟ้า / ส้ม

หากไม่พบผลิตภัณฑ์ที่กำลังมองหา สามารถส่งคำร้องขอเพิ่มในรายการได้
No.1

B&Oหูฟังวิ่ง รุ่น Beoplay EX

หูฟังวิ่ง รุ่น Beoplay EX 1
อ้างอิง:bang-olufsen.com
ราคาอ้างอิง
16,500 บาท
ราคาสูง
ราคาอ้างอิง
16,500 บาท
ราคาสูง

หูฟังระดับ Next-gen มีจุกหูฟัง 4 ขนาด ตอบโจทย์ทุกกิจกรรม

หากคุณติดตามข่าวสารวงการไอทีหรือชื่นชอบเครื่องเสียง คงจะรู้จักกันดีกับแบรนด์เครื่องเสียงระดับพรีเมียมอย่าง Bang & Olufen หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า B&O ซึ่งอันดับนี้เราจะมาแนะนำหูฟังไร้สาย TWS เรือธงของแบรนด์ มีความโดดเด่นตั้งแต่ดีไซน์หรูหราเงางาม ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ และมีจุกหูฟังให้เลือกใช้งานถึง 4 ขนาด เพื่อให้คุณสวมใส่ได้อย่างกระชับแน่นหนา รองรับการใช้งานทุกกิจกรรม ที่สำคัญคือสามารถกันฝุ่นและน้ำได้ถึงระดับ IP57 เลยทีเดียว


ในเรื่องของคุณภาพเสียง รุ่นนี้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น Top 5 ของหูฟัง TWS จากหลายสำนักรีวิวชั้นนำ ด้วยไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 9.2mm ประกอบกับการปรับแต่งเสียงอย่างพิถีพิถันจากทางแบรนด์ อีกทั้งยังเชื่อมต่อแอปฯ เพื่อปรับแต่ง EQ ให้เหมาะสมกับแนวเพลงที่คุณชื่นชอบได้ตามใจ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน ANC และ Transparency Mode จะตัดหรือรับเสียงจากภายนอกก็ทำได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯครับ

ประเภทหูฟังไร้สาย
รูปทรงหูฟังEarbuds
ประเภทไดร์เวอร์Dynamic
ขนาดไดรเวอร์9.2 มม.
จำนวนวัตต์-
ย่านความถี่ที่รองรับ20 - 20000Hz
Codec ที่รองรับAAC / SBC
ค่าความไวของไดรเวอร์108 +/- 2dB 1kHz @ 1mW (0.178V)
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง32 Ohms
การเชื่อมต่อไร้สายBluetooth 5.2
พอร์ตเชื่อมต่อUSB C
อุปกรณ์ที่รองรับโทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง20 ชั่วโมง
ระดับการกันน้ำและฝุ่นIP57
จำนวนไมโครโฟน6 ตัว
การรับประกันสินค้า3 ปี
สีดำ / ดำ-ฟ้า / ทอง
มี Active Noise Cancelling
มี Transparency Mode
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้
การจัดอันดับสินค้าใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?
No.2

Jabraหูฟังวิ่ง รุ่น Elite 7 Pro

หูฟังวิ่ง รุ่น Elite 7 Pro 1
อ้างอิง:apac.jabra.com
ราคาอ้างอิง
7,790 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

แบตฯอึดใช้งานนานสุด 8 ชั่วโมง ไมค์ชัดด้วยเซนเซอร์พิเศษ

หากเป็นราคาเมื่อเปิดตัวใหม่ ๆ เราอาจจะไม่แนะนำหูฟังวิ่งรุ่นนี้เท่าไรนัก แต่ในปัจจุบันเมื่อราคาปรับลดลง ทำให้หูฟังวิ่งรุ่นนี้มีความน่าสนใจ เพราะเป็นรุ่นที่มีความครบเครื่องมากที่สุดรุ่นหนึ่ง โดยมาพร้อมกับประสิทธิภาพกันฝุ่นและน้ำระดับ IP57 ใช้งานได้ปลอดภัยแม้วิ่งท่ามกลางฝนที่กำลังตกหนัก อีกทั้งยังมีไมค์ถึง 6 ตัว ที่ผสานกับเทคโนโลยี Jabra MultiSensor Voice ตรวจจับการเคลื่อนไหวของกรามเพื่อปรับไมค์ให้สนทนาได้อย่างคมชัดมากยิ่งขึ้น


ที่สำคัญคือมีระบบ ANC แบบปรับระดับได้ รวมไปถึงฟังก์ชัน HearThrough ที่จะช่วยให้คุณได้ยินรอบข้างอย่างชัดเจน แถมยังเชื่อมต่อกับแอปฯ Jabra Sound+ เพื่อปรับแต่ง EQ ให้ตรงกับลักษณะเสียงที่คุณต้องการฟังมากที่สุด และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คืออายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานสูงสุด 8 ชั่วโมง ยิ่งถ้ารวมเคสชาร์จจะใช้ได้ถึง 30 ชั่วโมง เลยทีเดียวครับ

ประเภทหูฟังไร้สาย
รูปทรงหูฟังEarbuds
ประเภทไดร์เวอร์Dynamic
ขนาดไดรเวอร์6 มม.
จำนวนวัตต์-
ย่านความถี่ที่รองรับไม่ระบุ
Codec ที่รองรับAAC / SBC
ค่าความไวของไดรเวอร์ไม่ระบุ
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง-
การเชื่อมต่อไร้สายBluetooth 5.2
พอร์ตเชื่อมต่อไม่ระบุ
อุปกรณ์ที่รองรับโทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง30 ชั่วโมง
ระดับการกันน้ำและฝุ่นIP57
จำนวนไมโครโฟน6 ตัว
การรับประกันสินค้า1 ปี
สีดำ / ทอง / เงิน
มี Active Noise Cancelling
มี Transparency Mode
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้
No.3

Shokzหูฟังวิ่ง รุ่น OpenRun Pro

หูฟังวิ่ง รุ่น OpenRun Pro 1
อ้างอิง:shokz.com
ราคาอ้างอิง
6,690 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

เทคโนโลยี Bone Conduction ปลอดภัย ได้ยินเสียงรอบข้าง

สำหรับนักวิ่งถนนหรือจำเป็นต้องวิ่งในเมืองที่มียานพาหนะสัญจรไปมาตลอดเวลา หรือออกกำลังกายในฟิตนิสที่มีคนเป็นจำนวนมาก เราขอแนะนำหูฟังวิ่งรุ่นนี้เลยครับ เพราะเป็นหูฟังแบบ Open-ear ที่ใช้เทคโนโลยี Bone Conduction ที่ใช้การสั่นสะเทือนกระดูกข้างรูหูในการส่งคลื่นเสียงเข้าสู่อวัยวะรับเสียงโดยตรงโดยที่ไม่ต้องผ่านแก้วหู ซึ่งมีข้อดีก็คือทำให้คุณได้ยินเสียงรอบข้างไปพร้อม ๆ กับการรับเสียงจากหูฟัง ช่วยให้คุณสามารถระมัดระวังความปลอดภัยได้ดียิ่งขึ้น


โดยรุ่นนี้เป็นตัวท็อปสุดของแบรนด์ จึงไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพเสียง ด้วยเทคโนโลยี Shokz TurboPitch™ ผสานกับการปรับแต่งเสียงแบบ Enhanced Bass ให้มีความเด่นย่านเสียงเบสเป็นพิเศษ สร้างจังหวะเร้าใจเพื่อช่วยกระตุ้นให้คุณออกกำลังกายได้สนุกยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่อึดถึง 10 ชั่วโมง และเทคโนโลยีชาร์จไว รวมไปถึงกันฝุ่นและน้ำได้ที่ระดับ IP55 ครับ

ประเภทหูฟังไร้สาย
รูปทรงหูฟังNeckband
ประเภทไดร์เวอร์ไม่ระบุ
ขนาดไดรเวอร์-
จำนวนวัตต์-
ย่านความถี่ที่รองรับ20 Hz - 20 kHz
Codec ที่รองรับA2DP / AVRCP / HFP / HSP
ค่าความไวของไดรเวอร์105 +/- 3dB
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง8.5 Ohms
การเชื่อมต่อไร้สายBluetooth 5.1
พอร์ตเชื่อมต่อไม่ระบุ
อุปกรณ์ที่รองรับโทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง20 ชั่วโมง
ระดับการกันน้ำและฝุ่นIP55
จำนวนไมโครโฟน1 ตัว
การรับประกันสินค้า2 ปี
สีดำ / ฟ้า / เบจ / ชมพู
มี Active Noise Cancelling
มี Transparency Mode
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้
No.4

JBLหูฟังวิ่ง รุ่น Endurance Race

ราคาอ้างอิง
3,890 บาท
ราคาปานกลาง

ชิ้นส่วนพิเศษ เกี่ยวหูแน่นหนา แบตสุดอึด มีให้เลือก 4 สีสัน

นี่คือหูฟังวิ่งแบบไร้สาย TWS รุ่นใหม่ล่าสุดจาก JBL ที่มีจุดเด่นในเรื่องของรูปทรง โดยตัวหูฟังมาพร้อมกับดีไซน์แบบ Twistlock™ ที่จะมีเส้นโค้งครึ่งวงรียื่นออกมา เพื่อใช้สำหรับเกี่ยวและล็อกกับใบหูด้านใน พร้อมจุกหูฟังให้เลือกใช้งานถึง 4 ขนาด เสริมความแน่นหนาในการสวมใส่และให้คุณได้เคลื่อนไหวอย่างแม่นใจ รวมไปถึงมีประสิทธิภาพกันฝุ่นและน้ำระดับ IP67 ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ เมื่อใช้งานเสร็จสามารถนำมาล้างน้ำทำความสะอาดเพื่อสุขอนามัยที่ดีครับ


จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างของรุ่นนี้คือมีแบตเตอรี่ที่อึด ชาร์จหนึ่งครั้งใช้งานได้นาน 10 ชั่วโมง และชาร์จผ่านเคสได้อีกถึง 20 ชั่วโมง แถมยังรองรับชาร์จไวเพียง 10 นาที ใช้งานได้นาน 1 ชั่วโมง สำหรับคุณภาพเสียงก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ด้วยเทคโนโลยี JBL Pure Bass Sound พร้อมไดรเวอร์ไดนามิก 6mm เสียงเบสมาเด่นชัดแน่นอน อีกทั้งยังมีให้เลือก 4 สีสัน เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยครับ

ประเภทหูฟังไร้สาย
รูปทรงหูฟังEarbuds
ประเภทไดร์เวอร์Dynamic
ขนาดไดรเวอร์6 มม.
จำนวนวัตต์-
ย่านความถี่ที่รองรับ20Hz - 20kHz
Codec ที่รองรับA2DP / AVRCP / HFP
ค่าความไวของไดรเวอร์99dB
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง16 Ohms
การเชื่อมต่อไร้สายBluetooth 5.2
พอร์ตเชื่อมต่อไม่ระบุ
อุปกรณ์ที่รองรับโทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง20 ชั่วโมง
ระดับการกันน้ำและฝุ่นIP67
จำนวนไมโครโฟน1 ตัว
การรับประกันสินค้า1 ปี
สีดำ / น้ำเงิน / ขาว / ส้ม
มี Active Noise Cancelling
มี Transparency Mode
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้
No.5

soundcoreหูฟังวิ่ง รุ่น Sport X10

ราคาอ้างอิง
2,990 บาท
ราคาปานกลาง

Ear-hooks ปรับรูปทรงตามใบหูได้ เบสแน่นพิเศษ กันน้ำ IPX7

โดดเด่นตั้งแต่ดีไซน์ที่ไม่ได้เพียงแค่คำนึงถึงความสวยงาม แต่ออกแบบมาให้ใช้งานได้จริง โดยหูฟังวิ่งรุ่นนี้มาพร้อมกับ Ear-hooks สุดพิเศษ สามารถปรับรูปทรงและหมุนได้ถึง 210 องศา เพื่อรองรับสรีระของผู้สวมใส่ได้อย่างหลากหลาย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย รองรับการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาทุกประเภท ส่วนประเภทของหูฟังจะเป็นแบบ In-ear ทำให้ใส่กระชับหูได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังกันน้ำได้ถึงระดับ IPX7 วิ่งกลางแจ้งได้อย่างสบายใจไม่กลัวฝนตกหนักครับ


มาพร้อมกับไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 10mm ที่ผ่านการปรับแต่งเสียงด้วยเทคโนโลยี BassUp ในการดึงเอารายละเอียดย่านเสียงต่ำให้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน Soundcore เพื่อปรับแต่งลักษณะเสียงหรือ EQ ผ่าน Presets สำเร็จรูป โดยมีให้เลือกด้วยกันถึง 22 รูปแบบ หลากหลายแนวเสียง ตามความต้องการใช้งานหูฟังของแต่ละคนครับ

ประเภทหูฟังไร้สาย
รูปทรงหูฟังHalf In-ear
ประเภทไดร์เวอร์Dynamic
ขนาดไดรเวอร์10 มม.
จำนวนวัตต์-
ย่านความถี่ที่รองรับ20Hz - 20kHz
Codec ที่รองรับไม่ระบุ
ค่าความไวของไดรเวอร์ไม่ระบุ
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง32 Ohms
การเชื่อมต่อไร้สายBluetooth 5.2
พอร์ตเชื่อมต่อไม่ระบุ
อุปกรณ์ที่รองรับโทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง32 ชั่วโมง
ระดับการกันน้ำและฝุ่นIPX7
จำนวนไมโครโฟน1 ตัว
การรับประกันสินค้า18 เดือน
สีดำ
มี Active Noise Cancelling
มี Transparency Mode
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้
No.6

AUKEYหูฟังวิ่ง รุ่น EP-T35

หูฟังวิ่ง รุ่น EP-T35 1
อ้างอิง:shopee.co.th
ราคาอ้างอิง
1,590 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ

หูฟัง Lifestyle แยกการใช้งานได้อิสระ รองรับชาร์จไร้สาย

แม้จะเป็นหูฟังวิ่งที่ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับออกกำลังกายโดยเฉพาะ แต่ด้วยขนาดที่กะทัดรัดและมีฟีเจอร์เด่นหลากหลาย จึงเหมาะสำหรับเป็นหูฟัง Lifestlye ที่เหมาะกับทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ซึ่งรุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์แบบ In-Ear ที่มีการเสริมด้วยชิ้นส่วนครีบปลาหรือ Ear-fins สำหรับใช้เกี่ยวใบหูด้านในให้แน่นหนาขึ้น อีกทั้งยังเป็นระบบ Dual Connect สามารถแยกการใช้งานหูฟังทั้งสองข้างออกจากกันได้อิสระ ให้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นและเลือกใช้งานเพียงข้างเดียวได้ครับ


ประสิทธิภาพกันน้ำของรุ่นนี้สูงถึง IPX7 เหมาะกับทุกสภาพแวดล้อม เชื่อมต่อไร้สายด้วยระบบ Bluetooth 5.1 ประหยัดพลังงานและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้รวดเร็วขึ้น ส่วนแบตเตอรี่ใช้งานได้ 7 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เมื่อชาร์จรวมกับเคสจะใช้ได้สูงสุด 40 ชั่วโมง ที่สำคัญคือตัวเคสรองรับเทคโนโลยีชาร์จไร้สาย Qi เพิ่มความสะดวกในการใช้งานยิ่งขึ้นครับ 

ประเภทหูฟังไร้สาย
รูปทรงหูฟังEarbuds
ประเภทไดร์เวอร์Dynamic
ขนาดไดรเวอร์10 มม.
จำนวนวัตต์-
ย่านความถี่ที่รองรับ20Hz - 20kHz
Codec ที่รองรับA2DP / AVRCP / HFP / HSP / AAC / SBC
ค่าความไวของไดรเวอร์103dB ±3dB SPL
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง16 Ohms
การเชื่อมต่อไร้สายBluetooth 5.1
พอร์ตเชื่อมต่อUSB C
อุปกรณ์ที่รองรับโทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง40 ชั่วโมง
ระดับการกันน้ำและฝุ่นIPX7
จำนวนไมโครโฟน2 ตัว
การรับประกันสินค้า1 ปี
สีดำ
มี Active Noise Cancelling
มี Transparency Mode
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้
No.7

SkullcandySkullcandy Push Active

ราคาอ้างอิง
4,990 บาท
ราคาปานกลาง

ดีไซน์ไม่เหมือนใคร มีให้เลือกหลายสีสัน ปรับ EQ ได้ตามใจ

มาพร้อมกับก้านเกี่ยวใบหูหรือ Ear-hangers ขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มความแน่นหนาในการสวมใส่มากยิ่งขึ้น ให้คุณได้เคลื่อนไหวอย่างมั่นใจ สามารถกันฝุ่นและน้ำระดับ IP55 แถมยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้สูงสุดถึง 10 ชั่วโมง ที่สำคัญคือมีเทคโนโลยี Skull-iQ Smart Feature Technology เพิ่มความชัดเจนให้กับไมค์ในการสนทนา เหมาะกับคนที่ต้องคุยโทรศัพท์เป็นประจำ นอกจากนี้ ยังปรับ EQ ได้ตามใจผ่าน Skullcandy App ตอบโจทย์ทุกแนวเพลง รวมไปถึงฟังก์ชัน Tile™ ใช้สำหรับตามหาหูฟังได้

ประเภทหูฟังไร้สาย
รูปทรงหูฟังEarbuds
ประเภทไดร์เวอร์Dynamic
ขนาดไดรเวอร์6 มม.
จำนวนวัตต์-
ย่านความถี่ที่รองรับไม่ระบุ
Codec ที่รองรับไม่ระบุ
ค่าความไวของไดรเวอร์ไม่ระบุ
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง-
การเชื่อมต่อไร้สายBluetooth
พอร์ตเชื่อมต่อUSB C
อุปกรณ์ที่รองรับโทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง44 ชั่วโมง
ระดับการกันน้ำและฝุ่นIP55
จำนวนไมโครโฟน2 ตัว
การรับประกันสินค้า1 ปี
สีเขียว / ฟ้า / ส้ม
มี Active Noise Cancelling
มี Transparency Mode
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้
No.8

SOUNDPEATSหูฟังวิ่ง รุ่น Q35

ราคาอ้างอิง
857 บาท
ราคาต่ำ

ตัวหูฟังเป็นแม่เหล็ก กันน้ำถึง IPX8 เสียงดีขึ้นด้วย aptX™ HD

หูฟังวิ่งกึ่งไร้สายรุ่นนี้ เราขอยกให้เป็นอีกหนึ่งรุ่นสุดคุ้มเมื่อเทียบกับราคา เพราะมาพร้อมกับราคาขายที่ไม่ถึง 1,000 บาท แต่ฟีเจอร์และฟังก์ชันเหลือล้น โดยเฉพาะการใช้ชิปส่งสัญญาณเสียงอย่าง Qualcomm QCC3034 ที่รองรับการถอดรหัสเสียง aptX™ HD ผสานกับไดรเวอร์ขนาด 6mm และเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วย Bluetooth 5.0 ช่วยให้คุณภาพเสียงที่ออกมาจากหูฟังมีความละเอียดชัดเจนยิ่งขึ้น เสียงเบสเด่นชัดมีมวล ส่วนย่านเสียงอื่น ๆ ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน


สำหรับดีไซน์ก็น่าชื่นชมไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ Housing ด้านหลังหูฟังที่เป็นแม่เหล็ก ช่วยให้หูฟังทั้งสองข้างประกบติดกันได้ ทำให้พกพาสะดวกยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องใส่เคสหรือกล่องหูฟังให้ยุ่งยาก เพียงแค่ประกบติดกันแล้วคล้องแบบสร้อยคอก็พร้อมไปกับคุณได้ทุกที่ และที่สำคัญคือรุ่นนี้กันน้ำถึงระดับ IPX8 แม้จะเผลอทำตกน้ำหลายนาทีก็ไม่ทำให้หูฟังชำรุดเสียหายครับ

ประเภทหูฟังไร้สาย
รูปทรงหูฟังNeckband
ประเภทไดร์เวอร์Dynamic
ขนาดไดรเวอร์10 มม.
จำนวนวัตต์-
ย่านความถี่ที่รองรับ20 - 20000Hz
Codec ที่รองรับA2DP / AVRCP / HFP / HSP
ค่าความไวของไดรเวอร์90 ± 3dB
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง32 Ohms
การเชื่อมต่อไร้สายBluetooth 5.0
พอร์ตเชื่อมต่อไม่ระบุ
อุปกรณ์ที่รองรับโทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง18 ชั่วโมง
ระดับการกันน้ำและฝุ่นIPX8
จำนวนไมโครโฟน
การรับประกันสินค้า1 ปี
สีดำ
มี Active Noise Cancelling
มี Transparency Mode
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้
ราคาอ้างอิง
2,590 บาท
ราคาปานกลาง

ดีไซน์ Earbuds ใส่สบายขึ้น มี Ear-hooks เพิ่มความแน่นหนา

หูฟังวิ่งรุ่นนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบหูฟังรูปทรง In-Ear ไม่ว่าจะเป็นเพราะความอึดอัดหรือด้วยเหตุผลอื่น ๆ ซึ่งรุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์แบบ Earbuds หรือแปะหู ไม่ได้สอดเข้าไปในรูหูโดยตรง จึงทำให้สวมใส่สบายยิ่งขึ้น แต่รับรองว่าไม่หลุดออกจากหูง่าย ๆ แน่นอน เพราะมี Ear-hooks หรือชิ้นส่วนเกี่ยวหูที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ โดยมีชื่อเรียกว่า MultiTip™️ ใช้เกี่ยวใบหูด้านในให้กระชับไม่เคลื่อนที่ แม้จะเดินหรือวิ่งด้วยความเร็วก็เอาอยู่ครับ


รุ่นนี้มีประสิทธิภาพกันน้ำที่ระดับ IPX5 พร้อมกับเคลือบสาร Nano Coating อีกหนึ่งชั้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ช่วยให้กันเหงื่อหรือละอองฝนได้ไม่มีปัญหา แต่ไม่ควรนำไปจุ่มน้ำ เมื่อใช้งานเสร็จควรล้างทำความสะอาดและเช็ดหูฟังให้แห้งก่อนเก็บเข้าเคส เพื่อยืดอายุการใช้งานของหูฟังให้ยาวนานขึ้น ซึ่งจุดเด่นอีกหนึ่งข้อของหูฟังวิ่งรุ่นนี้ก็คือ มีให้เลือกด้วยกันถึง 6 สีสัน ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายก็ใช้ได้ครับ

ประเภทหูฟังไร้สาย
รูปทรงหูฟังEarbuds
ประเภทไดร์เวอร์Dynamic
ขนาดไดรเวอร์12 มม.
จำนวนวัตต์-
ย่านความถี่ที่รองรับไม่ระบุ
Codec ที่รองรับไม่ระบุ
ค่าความไวของไดรเวอร์ไม่ระบุ
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง-
การเชื่อมต่อไร้สายBluetooth 5.2
พอร์ตเชื่อมต่อไม่ระบุ
อุปกรณ์ที่รองรับโทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่อง30 ชั่วโมง
ระดับการกันน้ำและฝุ่นIPX5
จำนวนไมโครโฟน2 ตัว
การรับประกันสินค้า1 ปี
สีขาว / ดำ / แดง / เงิน / ชมพู / ฟ้า
มี Active Noise Cancelling
มี Transparency Mode
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้
No.10

JBLหูฟังวิ่ง รุ่น Endurance Run 2

หูฟังวิ่ง รุ่น Endurance Run 2 1
อ้างอิง:uk.jbl.com
ราคาอ้างอิง
1,190 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ

หูฟังวิ่งแบบมีสาย ดีไซน์ FlipHook™ ใส่แน่นหนา กันน้ำ IPX5

ช่วงนี้แฟชั่นยุค Y2K กำลังมาแรง ใครที่อยากทันกระแสต้องใช้หูฟังวิ่งแบบมีสายจาก JBL รุ่นใหม่ล่าสุดคู่นี้เลยครับ โดยถึงแม้ว่าจะเป็นหูฟังแบบมีสาย แต่ก็มาพร้อมกับประสิทธิภาพกันน้ำระดับ IPX5 ให้คุณใส่ออกกำลังกายได้อย่างสบายใจ ทั้งเหงื่อหรือละอองฝนก็เอาอยู่ อีกทั้งยังสวมใส่สบายและแน่นหนาไม่มีหลุด ด้วยดีไซน์ตัวหูฟังแบบ FlipHook™ ที่ผสานเทคโนโลยีการออกแบบ TwistLock™ และ FlexSoft™ เข้าไว้ด้วยกัน ให้คุณเลือกสวมใส่ได้แบบหูฟังทั่วไปและคล้องหูแบบ In-Ear Monitor ครับ


สำหรับคุณภาพเสียงก็ไม่ธรรมดา ด้วยไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 8.2mm ผสานกับการจูนเสียง JBL Pure Bass Sound ให้เสียงเบสที่นุ่มนวล กระชับ ชัดเจน ตามแบบฉบับที่เป็นเอกลักษณ์ของ JBL อีกทั้งยังมีไมโครโฟนแบบ Hands-free ควบคุมการทำงานผ่านแผงปุ่มกดบนสายหูฟังได้ นอกจากนี้ ยังมีให้เลือกถึง 4 สีสัน ส่วนด้านหลังของหูฟังจะเป็นแม่เหล็กประกอบติดกันได้ ช่วยให้พกพาง่ายขึ้นครับ

ประเภทหูฟังมีสาย
รูปทรงหูฟังIn-ear
ประเภทไดร์เวอร์Dynamic
ขนาดไดรเวอร์8.2 มม.
จำนวนวัตต์-
ย่านความถี่ที่รองรับ20 - 20000Hz
Codec ที่รองรับไม่ระบุ
ค่าความไวของไดรเวอร์ไม่ระบุ
ค่าความต้านทานรวมของหูฟัง8 Ohms
การเชื่อมต่อไร้สายBluetooth 5.2
พอร์ตเชื่อมต่อ3.5 mm
อุปกรณ์ที่รองรับโทรศัพท์มือถือ / แท็บเลต
ระยะเวลาการใช้งานต่อเนื่องไม่มีแบตเตอรี่ ใช้งานได้ตลอดเวลา
ระดับการกันน้ำและฝุ่นไม่ระบุ
จำนวนไมโครโฟน2 ตัว
การรับประกันสินค้า1 ปี
สีขาว / ดำ / ฟ้า / ส้ม
มี Active Noise Cancelling
มี Transparency Mode
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหูฟังสำหรับนักวิ่ง

ถ้าพูดถึงหูฟังแล้ว ถือว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่หลาย ๆ คนขาดไปไม่ได้เลยทีเดียว แต่ก็มีหูฟังอีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่าหูฟังเก็บเพลงในตัวซึ่งนักวิ่งหลาย ๆ คนอาจจะกำลังพิจารณาอยู่ ในวันนี้เรามีคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากทุกคนกันครับ

หูฟังเก็บเพลงในตัว เหมาะสำหรับนักวิ่งไหม?

ปัตย์ ศรีอรุณ
เกม, แก็ดเจ็ตไอที
ปัตย์ ศรีอรุณ

ฟีเจอร์เก็บเพลงในตัวเป็นฟีเจอร์ที่หูฟังมาพร้อม Built-in Player ในตัว ข้อดีก็คือ เราไม่จำเป็นต้องพก Player ไปในระหว่างการออกกำลังกาย แค่เพียงเอาเพลงใส่ในตัวหูฟังก็สามารถออกกำลังกายได้แล้วซึ่งสะดวกและให้อิสระกับเรามาก แต่ในทางกลับกัน หูฟังในลักษณะนี้ก็จะมีขนาดและน้ำหนักที่ใหญ่กว่าหูฟังออกกำลังกายทั่วไป และด้วยการที่มี Player ในตัวด้วยก็จะทำให้ใช้แบตเตอรี่เยอะกว่าหูฟังทั่วไป อีกทั้งยังต้องชาร์จบ่อยขึ้นและอาจควบคุมไม่สะดวกนัก ถ้าเน้นฟัง Podcast ที่มีระยะเวลานานต่อ Episode ก็ถือว่าใช้ได้ แต่ถ้าเน้นฟังเพลงเป็นหลักก็อาจจะไม่เหมาะสมมากเท่าไหร่ครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้แล้ว ทีมงานมีบทความที่เหมาะสำหรับนักวิ่งอย่างเช่น แว่นตากันแสงแดด ใช้ช่วยป้องกันแสงสะท้อนจากกระจกรถหรือตามอาคารบ้านเรือนเข้าตาลดอันตรายขณะวิ่ง และกระเป๋าสายคาดเอวขนาดกะทัดรัดเข้ากับนักวิ่งโดยเฉพาะมาแนะนำด้วย รับรองได้ว่าดูดีทั้งดีไซน์และเต็มไปด้วยประโยชน์การใช้งาน ไม่ว่าจะนักวิ่งมือใหม่หรือมืออาชีพต้องถูกใจแน่นอนครับ

บทส่งท้าย

เมื่อเราเฟ้นหาหูฟังไร้สายที่เหมาะสมกับเรามากที่สุดได้แล้ว เชื่อได้เลยว่าอุปกรณ์เสริมชิ้นนี้จะช่วยให้การวิ่งของคุณทำได้นานและเพลิดเพลินขึ้นกว่าเดิมแน่นอน และสำหรับคนที่มักจะวิ่งบริเวณริมถนนหรือในย่านชุมชนเป็นประจำ อย่าลืมใส่ใจเรื่องความปลอดภัย แนะนำให้เลือกหูฟังที่สวมใส่แล้วคุณยังสามารถได้ยินเสียงรถรอบข้างได้ด้วย เพื่อให้วิ่งได้อย่างระมัดระวังมากขึ้นและเพิ่มความปลอดภัยสูงสุดให้กับตัวเราเองกันนะครับ

TOP 5 หูฟังวิ่ง แนะนำ

อันดับที่ 1: B&Oหูฟังวิ่ง รุ่น Beoplay EX

อันดับที่ 2: Jabraหูฟังวิ่ง รุ่น Elite 7 Pro

อันดับที่ 3: Shokzหูฟังวิ่ง รุ่น OpenRun Pro

อันดับที่ 4: JBLหูฟังวิ่ง รุ่น Endurance Race

อันดับที่ 5: soundcoreหูฟังวิ่ง รุ่น Sport X10

คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับ
คำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
  1. TOP
  2. โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
  3. หูฟัง
  4. 10 อันดับ หูฟังวิ่ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 หูฟังใส่วิ่ง ออกกําลังกาย

ค้นหาตามหมวดหมู่