mybest
เครื่องสำอางสำหรับผิวหน้า

ให้ทุกการเลือกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ปิด
  1. TOP
  2. เครื่องสำอาง, สกินแคร์
  3. เครื่องสำอางสำหรับผิวหน้า
  4. 10 อันดับ ไฮไลต์หน้า แบบแท่ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 เบลนด์ง่าย ติดทนนาน
  • 10 อันดับ ไฮไลต์หน้า แบบแท่ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 เบลนด์ง่าย ติดทนนาน 1
  • 10 อันดับ ไฮไลต์หน้า แบบแท่ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 เบลนด์ง่าย ติดทนนาน 2
  • 10 อันดับ ไฮไลต์หน้า แบบแท่ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 เบลนด์ง่าย ติดทนนาน 3
  • 10 อันดับ ไฮไลต์หน้า แบบแท่ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 เบลนด์ง่าย ติดทนนาน 4
  • 10 อันดับ ไฮไลต์หน้า แบบแท่ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 เบลนด์ง่าย ติดทนนาน 5

10 อันดับ ไฮไลต์หน้า แบบแท่ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 เบลนด์ง่าย ติดทนนาน

"ไฮไลต์" เป็นหนึ่งในเครื่องสำอางที่ช่วยสร้างมิติให้กับใบหน้าของสาว ๆ ทำหน้าที่เพิ่มความสว่าง สร้างแสงและเงาให้กับใบหน้า เพื่อให้ส่วนที่ปัดไฮไลต์ดูโดดเด่นขึ้นมา จึงมักนิยมใช้ปัดบริเวณโหนกแก้ม โหนกคิ้ว และสันจมูก ปัจจุบันมีไฮไลท์มากมายหลายรูปแบบและเนื้อสัมผัสให้สาว ๆ เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นแบบฝุ่นอัดแข็ง (ลักษณะเดียวกับบลัชออน), แบบครีม, แบบลิควิด รวมถึง "ไฮไลต์แบบแท่ง" ที่เราจะพูดถึงในวันนี้ด้วย ซึ่งแต่ละแบบนั้นก็จะให้สัมผัสเวลาใช้และคุณสมบัติที่แตกต่างกันเล็กน้อยค่ะ

ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำไฮไลต์หน้าแบบแท่งให้เพื่อน ๆ รู้จักกันค่ะ ซึ่งข้อดีของไฮไลต์ประเภทนี้ คือ ใช้งานง่ายและพกพาสะดวก แถมติดทนนานด้วย นอกจากนี้ เรายังมีการจัด 10 อันดับ ไฮไลต์หน้าแบบแท่งยอดฮิตที่ขายดิบขายดีกันในหมู่สาว ๆ จากแบรนด์ยอดนิยมอย่าง Fenty Beauty, Hourglass, BECCA COSMETICS, YVES SAINT LAURENT, NARS โดยผ่านการเปรียบเทียบทั้งคุณสมบัติและราคามาให้อ่านกันด้วย สำหรับใครที่ยังไม่เคยใช้ไฮไลต์แบบแท่งคงจะอยากรู้วิธีการเลือกกันแล้วใช่ไหมคะ ? ถ้าอย่างนั้น ตามมาดูกันเลย
อัปเดตล่าสุดเมื่อ 06/06/2022
กองบรรณาธิการ mybest
บรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ mybest

มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน

ประวัติของ กองบรรณาธิการ mybest
…อ่านต่อ

สารบัญ

วิธีการเลือกไฮไลต์หน้า แบบแท่ง

เราได้ทำการรวบรวมข้อมูลและเทคนิคการเลือกไฮไลต์ที่ดีมาจากช่างแต่งหน้าชาวญี่ปุ่นชื่อดังค่ะ ซึ่งมีตั้งแต่วิธีการเลือกไปจนถึงวิธีการใช้อย่างละเอียดเลย ดังนั้น สาว ๆ มั่นใจได้เลยว่า หากทำตามคำแนะนำนี้ ต้องได้ทั้งไฮไลต์ที่ชอบและนำเทคนิคการปัดไฮไลต์ไปเพิ่มความสวยเป๊ะได้แน่นอนค่ะ ไปติดตามกันเลยค่ะ

1

เลือกสีที่เหมาะกับผิว

หากแบ่งไฮไลต์ออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ จะแบ่งได้ 3 โทนสีด้วยกัน คือ สีขาว สีชมพู และเบจ-ทอง หากเพื่อน ๆ เลือกสีไฮไลต์ได้เข้ากับผิว ก็จะทำให้สามารถสร้างเงาและมิติให้ใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติค่ะ  

โทนชมพู : เหมาะกับคนผิวขาวหรือผิวซีด ได้ฟินิชลุคแบบมีเลือดฝาด

โทนชมพู : เหมาะกับคนผิวขาวหรือผิวซีด ได้ฟินิชลุคแบบมีเลือดฝาด

สีที่ขอแนะนำสำหรับผู้ที่มีผิวขาว คือ "ไฮไลต์โทนชมพู" ยิ่งถ้าหากคุณมีปัญหาหนักใจเกี่ยวกับรอยฝ้า ไฮไลต์สีชมพูจะสามารถปกปิดได้ พร้อมทำให้ผิวดูสุขภาพดีเหมือนมีเลือดฝาดเลยล่ะค่ะ จุดเด่นของไฮไลต์โทนชมพู คือ เมื่อทาลงไปที่ผิว สีจะค่อย ๆ จางลง ทำให้กลืนไปกับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ


ในกรณีที่สาว ๆ มีรอยแดงบนผิวหน้า หากใช้ไฮไลต์สีชมพูก็จะยิ่งทำให้รอยแดงเด่นชัดเข้าไปใหญ่ ดังนั้น ก่อนใช้แนะนำให้ลงคอนซีลเลอร์ก่อนเพื่อลดรอยแดงค่ะ  

โทนสีเบจ-ทอง : เหมาะกับผู้ที่มีผิวโทนเหลือง ช่วยให้ใบหน้าดูเปล่งประกายขึ้น

โทนสีเบจ-ทอง : เหมาะกับผู้ที่มีผิวโทนเหลือง ช่วยให้ใบหน้าดูเปล่งประกายขึ้น
สำหรับสาวไทยส่วนใหญ่ที่มีผิวอันเดอร์โทนเหลือง ไฮไลต์ที่แนะนำ คือ โทนสีเบจหรือสีทองค่ะ เพราะจะช่วยให้ผิวของคุณดูสดใส มีชีวิตชีวา ผิวหน้าจะดูสว่างยิ่งขึ้น ใช้แล้วใบหน้าดูเปล่งประกายมีเสน่ห์น่ามองค่ะ

ไฮไลต์สำหรับสาวผิวเหลืองมีอยู่หลายประเภทเลยทีเดียว ตั้งแต่สีเบจไปจนถึงสีทอง หรือถ้าสาวคนไหนผิวเข้มก็ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ เพราะปัจจุบันหลาย ๆ แบรนด์ก็ออกไฮไลต์สีบรอนซ์ทองออกมาด้วย ไม่ว่าจะผิวแบบไหนก็สามารถใช้ได้อย่างสบายใจค่ะ

สีขาว : เหมาะกับการเน้นเฉพาะจุด ใช้ได้ทุกสีผิว

สีขาว : เหมาะกับการเน้นเฉพาะจุด ใช้ได้ทุกสีผิว
ไฮไลต์สีขาวเหมาะสำหรับใช้เน้นจุดใดจุดหนึ่งบนใบหน้า เป็นสีที่สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงสีผิว ด้วยความที่เป็นสี Contrast กับผิวอย่างชัดเจน จึงทำให้ใบหน้าดูโดดเด่น มีมิติขึ้นมาได้ มักใช้ไฮไลต์ในจุดสำคัญ ๆ เช่น สันจมูกเพื่อให้ดูโด่งขึ้น ใช้กับมุมปากเพื่อให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้น หรือแม้แต่ใต้ท้องคิ้ว เพื่อให้คิ้วดูเด่นขึ้นและแยกส่วนกับดวงตาอย่างชัดเจน

แต่มีข้อที่ควรระวัง คือ ด้วยความที่เป็นสีขาว หากทามากเกินไปจะทำให้สีขาวลอย ดูไม่เป็นธรรมชาติหรือดูหลอกตาเอาได้ แนะนำให้เริ่มทาจากน้อย ๆ บาง ๆ ก่อน หากยังไม่พอใจก็ค่อย ๆ ปัดเพิ่มทีละนิด ไม่ควรลงเยอะตั้งแต่แรก เพราะถ้าพลาดทีต้องมานั่งแก้กันยกใหญ่เลยล่ะค่ะ



เกร็ดน่ารู้ : อีกหนึ่งข้อดีของไฮไลต์แบบแท่ง คือ ความเป็นธรรมชาติ เมื่อทาไปแล้วจะดูแนบเนียนไปกับผิว ทำให้ใบหน้าดูมีชีวิตชีวาขึ้น โดยจะใช้แปรงเกลี่ยหรือแม้แต่นิ้วมือของเราก็ได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ลงหลังจากทารองพื้นเสร็จแล้ว และควรเป็นรองพื้นเนื้อลิควิดหรือแบบที่มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์สูง เพราะจะเกาะติดผิวหน้าได้ดีเวลาทาไฮไลต์ทับ โดยรองพื้นจะไม่หลุดด้วย

นอกจากนี้ คุณไม่ควรใช้ไฮไลต์หลังจากทาแป้งแล้ว เพราะอาจเป็นคราบหรือทำให้สีดูไม่สม่ำเสมอได้ ควรทาไฮไลต์ก่อนแล้วค่อยเซ็ตด้วยแป้ง จึงจะดูแนบเนียนมากกว่า นอกจากจะใช้ไฮไลต์ตามจุดที่กล่าวไปแล้ว ไอเทมตัวนี้ยังสามารถใช้ปรับเปลี่ยนรูปหน้าของคุณได้อีกด้วยค่ะ โดยที่รูปหน้าของแต่ละคนก็จะมีตำแหน่งและลักษณะการทาที่แตกต่างกันออกไป แต่ตามหลักพื้นฐานแล้ว จะทาบริเวณใต้ตาเป็นรูปสามเหลี่ยมคว่ำลง เพื่อทำให้แก้มดูยกขึ้น บริเวณ C โซน (โหนกคิ้ว-แก้ม) และบริเวณ U โซน (ใต้ริมฝีปาก) เพื่อทำให้คางดูเรียวยาวขึ้น เทคนิคนี้สาว ๆ สามารถหาวิธีเพิ่มเติมได้ง่าย ๆ จากอินเทอร์เน็ตเลยค่ะ

2

เลือกเนื้อสัมผัสให้เหมาะกับช่วงอายุ

หลังจากเลือกโทนสีที่ต้องการได้แล้ว ต่อไปเราก็ไปเลือกดูเนื้อสัมผัสให้เหมาะกับแต่ละช่วงวัยกัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกจุดสำคัญที่จะช่วยให้คุณเลือกไฮไลต์ที่เหมาะสมกับตัวเองไปใช้งานได้ค่ะ 

ช่วงวัย 10-20 : หากมีผิวดีอยู่แล้ว เนื้อไฮไลต์แบบไหนก็รอด

ช่วงวัย 10-20 : หากมีผิวดีอยู่แล้ว เนื้อไฮไลต์แบบไหนก็รอด

สาว ๆ ในช่วงอายุนี้ส่วนใหญ่จะยังมีสุขภาพผิวที่ดีอยู่แล้ว เพราะระบบต่าง ๆ ในร่างกายยังคงทำงานได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคอลลาเจนหรือการผลัดเซลล์ผิว จึงสามารถใช้ไฮไลต์ได้ทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบแมตต์ แบบประกายมุก หรือแบบฉ่ำวาว สำหรับสาว ๆ วัยนี้ หากเลือกไฮไลต์ที่เป็นสีธรรมชาติ ไม่ว่าเนื้อสัมผัสแบบไหนก็ล้วนแล้วแต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีไม่แพ้กันค่ะ 

ช่วงวัย 30 : ใช้แบบกึ่งแมตต์ ช่วยให้ใบหน้าดูมีสุขภาพดี และอำพรางริ้วรอย

ช่วงวัย 30 : ใช้แบบกึ่งแมตต์ ช่วยให้ใบหน้าดูมีสุขภาพดี และอำพรางริ้วรอย

พอถึงวัยเลข 3 สิ่งสำคัญสำหรับสาวในวัยนี้ก็คือ ภาพลักษณ์ สาว ๆ หลายคนในวัยนี้ต้องการลุคที่ดูสุขุม เป็นผู้ใหญ่ ดังนั้น ใครที่อยากแต่งหน้าแล้วให้ลุคที่ดูโตมากขึ้น ลองเลือกไฮไลต์แบบเนื้อเชียร์กึ่งแมตต์จะเหมาะที่สุดค่ะ เพราะค่อนข้างมีความแวววาว แต่ไม่มากจนเกินไป และยังสามารถปกปิดริ้วรอย รวมถึงปัญหาผิวที่เพิ่มขึ้นตามอายุอย่างจุดด่างดำได้อีกด้วย ที่สำคัญคือ ทำให้ผิวดูเป็นธรรมชาติด้วยค่ะ 


นอกจากนี้ อีกหนึ่งปัญหาที่มาพร้อมกับอายุ คือ ผิวเสื่อมโทรมดูไร้ชีวิตชีวา ยิ่งถ้าใครดูแลไม่ดี ก็จะยิ่งเห็นได้ชัดเลยล่ะค่ะ ดังนั้น การเลือกสีไฮไลต์จึงเป็นสิ่งสำคัญ ขอแนะนำให้เลือกโทนสีที่สว่างกว่าผิวนิดนึง เพื่อช่วยให้ผิวคุณดูเปล่งปลั่งมากขึ้นค่ะ

3

เลือกให้เหมาะกับโอกาสและภาพลักษณ์ที่ต้องการ

เลือกให้เหมาะกับโอกาสและภาพลักษณ์ที่ต้องการ

เนื้อสัมผัสและสีที่แตกต่างกัน ถือเป็นอีกหนึ่งอย่างที่สามารถเปลี่ยนลุคของคุณได้ ยกตัวอย่างเช่น หากสาว ๆ คนไหนต้องทำกิจกรรมที่ค่อนข้างทางการ อย่างพรีเซนต์งานหรือปประชุม แล้วอยากได้ลุคที่ดูเป็นสาว Working Woman ขอแนะนำโทนสีชมพูหรือสีเบจ เนื่องจากโทนสีไม่โดดเด่นเกินไป และหากใช้เนื้อกึ่งแมตต์ก็จะได้ฟินิชลุคที่ดูสุขุมและสง่า สวยแพงแบบไม่เตะตา ส่วนถ้าใครที่อยากดูสุขภาพดี ก็ขอแนะนำแบบฉ่ำวาว ให้ลุคสาว Healthy รักสุขภาพแน่นอนค่ะ 


แต่สำหรับในโอกาสพิเศษคุณต้องไปงานเลี้ยงหรือไปเดท ให้ลองใช้ไฮไลต์แบบที่มีกลิตเตอร์หรือแบบประกายมุก เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับใบหน้า สร้างความประทับใจให้แก่หนุ่ม ๆ มากกว่าเดิมแน่นอนค่ะ และหากเลือกที่เป็นโทนสีทอง ก็จะยิ่งเพิ่มความสวยหรูให้สาว ๆ มากขึ้นไปอีกด้วยนะคะ 


เกร็ดน่ารู้ : สำหรับวันพิเศษของสาว ๆ นอกจากไฮไลต์แล้ว เรายังสามารถเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวเองได้อีก โดยใช้เบสที่มีความแวววาว หรือมีกลิตเตอร์ เพื่อให้ผิวดูเปล่งประกาย แต่ห้ามใช้คู่กับรองพื้นที่มีฟินิชลุคฉ่ำวาวนะคะ เพราะเมื่อเจอกับไฮไลต์แบบแท่งที่ให้ความวาวอยู่แล้วจะยิ่งดูเด่นไปกันใหญ่ หากไม่อยากให้ผิวหน้าวาวจนเกินไป แนะนำให้ใช้รองพื้นแบบแมตต์จะเหมาะกว่าค่ะ

วิธีการเลือกใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?

10 อันดับ ไฮไลต์แบบแท่ง ยี่ห้อไหนดี เบลนด์ง่าย ติดทนนาน

เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า มีไฮไลต์แบบแท่งจากแบรนด์ไหนบ้างที่น่าซื้อ แอบกระซิบว่าถ้าใครอยากได้ฟินิชลุคที่หลากหลาย ใช้ได้ทุกโอกาส ควรซื้อแบบที่ฟินิชลุคต่างกันติดตัวไว้สัก 2 แท่ง ส่วนจะมีแบรนด์อะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ
เรียงจากความนิยม
สินค้า
รูปภาพ
ราคาต่ำสุด
ราคา
คะแนน
1

Fenty Beauty

Match Stix Shimmer Skinstick

Fenty Beauty Match Stix Shimmer Skinstick 1

990 บาท

ราคาปานกลาง

สารพัดประโยชน์ในแท่งเดียว เม็ดสีติดทนนาน เบลนด์ง่าย

2

Hourglass

Vanish Flash Highlighting Stick

Hourglass Vanish Flash Highlighting Stick 1

1,750 บาท

ราคาค่อนข้างสูง

มีให้เลือกถึง 5 เฉดสี เนื้อบางเบา ใช้งานง่าย ให้ฟินิชลุคฉ่ำวาว

3

BECCA COSMETICS

Skin Love Glow Glaze Stick

BECCA COSMETICS Skin Love Glow Glaze Stick 1

1,050 บาท

ราคาปานกลาง

ไฮไลต์ที่ใช้แล้วเป็นธรรมชาติ ดูสุขภาพดีเหมือนดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว

4

YVES SAINT LAURENT

Touche Eclat Shimmer Stick

YVES SAINT LAURENT Touche Eclat Shimmer Stick 1

2,100 บาท

ราคาค่อนข้างสูง

ไฮไลต์แบรนด์ Hi-end สวยหรูดูแพง ให้ความแวววาวแบบมีระดับ

5

NARS

The Multiple

NARS The Multiple  1

1,700 บาท

ราคาค่อนข้างสูง

เมคอัพสติ๊กอเนกประสงค์ ใช้ได้ทั้งตา ปาก แก้ม และผิวกาย

6

CLINIQUE

Chubby Stick Sculpting Highlight

CLINIQUE Chubby Stick Sculpting Highlight 1

1,100 บาท

ราคาปานกลาง

อ่อนโยนต่อผิว ให้ฟินิชลุคใส ๆ เป็นธรรมชาติ ดูสุขภาพดี

7

NYX Professional Makeup

Wonder Stick

NYX Professional Makeup Wonder Stick 1

599 บาท

ราคาค่อนข้างต่ำ

หัวเรียวเล็ก ใช้งานง่าย ช่วยปรับรูปหน้าให้คมชัดตามต้องการ

8

Wet n Wild

Megaglo Dual-Ended Contour Stick

Wet n Wild Megaglo Dual-Ended Contour Stick 1

359 บาท

ราคาค่อนข้างต่ำ

ไฮไลต์เนื้อเนียน เม็ดสีชัด สม่ำเสมอ ไม่เป็นคราบระหว่างวัน

9

Etude

House Play 101 Stick Contour Duo

Etude House Play 101 Stick Contour Duo 1

590 บาท

ราคาค่อนข้างต่ำ

รวมทั้งคอนทัวร์และไฮไลต์ไว้ในแท่งเดียวกัน ให้สีเป็นธรรมชาติ

10

CEZANNE

Highlight Stick

CEZANNE Highlight Stick 1

300 บาท

ราคาต่ำ

มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น ช่วยอำพรางรูขุมขน กระจายแสงได้ดี

หากไม่พบผลิตภัณฑ์ที่กำลังมองหา สามารถส่งคำร้องขอเพิ่มในรายการได้
No.1

Fenty BeautyMatch Stix Shimmer Skinstick

Match Stix Shimmer Skinstick 1
อ้างอิง:sephora.co.th
ราคาอ้างอิง
990 บาท
ราคาปานกลาง
ราคาอ้างอิง
990 บาท
ราคาปานกลาง

สารพัดประโยชน์ในแท่งเดียว เม็ดสีติดทนนาน เบลนด์ง่าย

มาต่อกันด้วยแบรนด์ของนักร้องสาว Rihanna ที่ออกไฮไลต์แบบแท่งคุณภาพดีที่เป็นกระแสมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ต้องบอกเลยว่ารุ่นนี้เป็นหนึ่งในไลน์ Match Stix ที่ใช้งานได้สารพัดประโยชน์ เป็นได้ทั้งไฮไลต์ บลัชออน และบรอนเซอร์ได้ในแท่งเดียว โดยจุดเด่นของเจ้าตัวนี้อยู่ที่เนื้อเนียน เกลี่ยง่าย สีชัด และมีโทนสีหลากหลาย สาวผิวสีเข้มก็ยังได้ แถมยังติดทนนานด้วย


นอกจากนี้ เนื้อไฮไลต์ยังมีกลิตเตอร์ที่ละเอียด ให้ลุคโกลว์แบบวิ้ง ๆ เหมาะกับใช้ออกงานตอนกลางคืนหรือในโอกาสพิเศษต่าง ๆ รีวิวจากผู้ใช้จริงแนะนำว่า ให้ลองทาแบบเบา ๆ มือดูก่อนนะคะ เพราะกลิตเตอร์ค่อนข้างแน่นเลยทีเดียว ถ้าเผลอปาดมากเกินไป หน้าอาจจะดูวาวจนหลอกตาเกินไปได้ค่ะ 

การจัดอันดับสินค้าใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?
No.2

HourglassVanish Flash Highlighting Stick

ราคาอ้างอิง
1,750 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

มีให้เลือกถึง 5 เฉดสี เนื้อบางเบา ใช้งานง่าย ให้ฟินิชลุคฉ่ำวาว

ไฮไลต์รุ่นนี้ให้ฟินิชลุคแบบฉ่ำวาว เนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย เรียบเนียนไปกับผิว  ดูเป็นธรรมชาติ จากรีวิวผู้ใช้จริงพบว่า สามารถทาได้ทั้งก่อนและหลังลงแป้งฝุ่น ไม่ว่าจะทาตอนไหนก็ไม่เป็นคราบ เนื้อไฮไลต์มีประกายละเอียดที่ไม่ดูแวววาวจนเกินไป ทาแล้วยังดูเป็นผิวธรรมชาติอยู่ ใครที่อยากใช้ตอนออกงานกลางคืน หรือในโอกาสพิเศษก็เหมาะทีเดียว เพราะช่วยทำให้หน้าดูมีเปล่งประกายมีเสน่ห์มากขึ้น


ไฮไลต์รุ่นนี้ทางแบรนด์ได้ออกแบบมาเป็นแท่งสามเหลี่ยม จึงทำให้ควบคุมบริเวณผิวหน้าที่จะทาได้ง่าย รวมถึงแพ็กเกจที่เป็นสีเงินแบบเงางามก็เพิ่มความน่าใช้เข้าไปอีก และยังมีโทนสีให้เลือกถึง 5 สีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะผิวโทนสีอะไรก็สามารถใช้ไฮไลต์รุ่นนี้ได้ค่ะ ทั้งดีไซน์ดี คุณภาพเริ่ดขนาดนี้ สาว ๆ คนไหนที่อยากได้ไฮไลต์ดี ๆ ซักชิ้น แนะนำเลยค่ะ 

No.3

BECCA COSMETICSSkin Love Glow Glaze Stick

Skin Love Glow Glaze Stick 1
อ้างอิง:beccacosmetics.com
ราคาอ้างอิง
1,050 บาท
ราคาปานกลาง
ราคาอ้างอิง
1,050 บาท
ราคาปานกลาง

ไฮไลต์ที่ใช้แล้วเป็นธรรมชาติ ดูสุขภาพดีเหมือนดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว

อีกแบรนด์เครื่องสำอาง Hi-End ที่มีเชื่อเสียงจากไฮไลต์และคอนทัวร์มาอย่างยาวนาน ไฮไลต์รุ่นนี้มีความพิเศษตรงที่มีการผสมผสานส่วนผสมจากธรรมชาติอย่าง ขิง อโวคาโดและเมลอน ให้ฟินิชลุคแบบฉ่ำวาว เปล่งประกาย แต่ยังคงเป็นความวาวที่ดูธรรมชาติอยู่ มีกลิตเตอร์ที่ละเอียด ช่วยเพิ่มมิติให้ใบหน้ามากยิ่งขึ้น 

จากรีวิวผู้ใช้จริงหลายคนบอกว่า ใช้แล้วดูสุขภาพดีเหมือนดื่มน้ำวันละ 8 แก้วและนอนครบ 8 ชั่วโมงเลยล่ะค่ะ แต่ตอนใช้ต้องค่อย ๆ แตะนะคะ ถ้ามือหนักจากสวยเป๊ะอาจจะกลายเป็นโป๊ะแทน แถมแพ็กเพจก็น่ารัก ทำให้อยากหยิบมาใช้ทุกวันเลยแต่หากเทียบราคากับปริมาณแล้วอาจจะดูราคาสูงไปสักนิดนึง สาว ๆ วัยทำงานคนไหนสนใจ รีบสอยเลยค่ะ 

No.4

YVES SAINT LAURENTTouche Eclat Shimmer Stick

Touche Eclat Shimmer Stick 1
อ้างอิง:yslbeautyth.com
ราคาอ้างอิง
2,100 บาท
ราคาค่อนข้างสูง
ราคาอ้างอิง
2,100 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

ไฮไลต์แบรนด์ Hi-end สวยหรูดูแพง ให้ความแวววาวแบบมีระดับ

มาถึงไฮไลต์จากแบรนด์ Hi-end กันบ้าง ซึ่งรุ่นนี้เป็นไฮไลต์ที่ออกมาวางขายได้ซักพักหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังได้รับความนิยมกันอยู่อย่างต่อเนื่อง ไฮไลต์มีเนื้อละเอียดมาก มีความวาว เล่นแสงสวย ช่วยสร้างมิติให้ใบหน้า จากรีวิวผู้ใช้หลายคนบอกว่า  ใช้แล้วดูแพงและมีระดับ เนื้อสัมผัสก็ลื่น เกลี่ยง่าย ทาทับเมคอัพก็ได้ ไม่เป็นคราบด้วยค่ะ


ถ้าสาว ๆ คนไหนชอบงานไฮไลต์ที่ดูนวล ๆ นัวๆ ต้องชอบรุ่นนี้แน่นอนค่ะ แถมมีให้เลือกถึง 5 สีเลยทีเดียว มีตั้งแต่โทนเบจอมทอง สีชมพู ไปจนถึงสีบรอนซ์ทองเลย ผิวสีไหนก็ใช้ได้แน่นอนค่ะ นอกจากนี้ แพ็กเกจก็ให้ความรู้สึกหรูหรา เป็นสีทองเงา เพิ่มความสวยหรูดูแพงให้แก่ผู้ใช้ แม้ราคาจะสูงไปสักนิด อต่ถ้าใครที่มีงบทุ่มให้กับความสวย ก็จัดไปเลยค่ะ 

No.5

NARSThe Multiple

ราคาอ้างอิง
1,700 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

เมคอัพสติ๊กอเนกประสงค์ ใช้ได้ทั้งตา ปาก แก้ม และผิวกาย

ผลิตภัณฑ์ของ NARS รุ่นนี้เป็น Make-up Stick ที่สามารถใช้ได้แบบอเนกประสงค์ทั้งบริเวณดวงตา, ปาก, แก้ม และผิวกาย ทั้งยังมีโทนสีมากมาย ตั้งแต่สีเบจไปจนถึงสีเข้มอย่างสีชมพูหรือสีบรอนซ์เลย สามารถประยุกต์ใช้หลายอย่าง ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน เนื้อผลิตภัณฑ์ให้เนื้อสัมผัสแบบครีม ที่เนียนละเอียดและเกลี่ยง่าย 


มีเม็ดสีแน่น สม่ำเสมอ ทาแล้วไฮไลต์ดูเนียนไปกับผิว มีกลิตเตอร์แบบเนียนละเอียด ให้ความแวววาวอย่างพอเหมาะ ทำให้หน้าดูมีมิติอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะทาไปพรีเซนต์งานหรือประชุมก็ไม่สะดุดตาจนเกินไป ที่สำคัญยังสามารถทาทับรองพื้นได้และไม่เป็นคราบระหว่างวันค่ะ

No.6

CLINIQUEChubby Stick Sculpting Highlight

Chubby Stick Sculpting Highlight 1
อ้างอิง:clinique.co.th
ราคาอ้างอิง
1,100 บาท
ราคาปานกลาง
ราคาอ้างอิง
1,100 บาท
ราคาปานกลาง

อ่อนโยนต่อผิว ให้ฟินิชลุคใส ๆ เป็นธรรมชาติ ดูสุขภาพดี

ไฮไลต์แบบแท่งจากแบรนด์ CLINIQUE รุ่นนี้ เป็นสูตรปราศจากสารเคมีอันตราย ทั้งพาราเบน Phthalate และน้ำหอม จึงอ่อนโยนต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองง่าย สาว ๆ ที่มีผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ ตัวไฮไลต์มีเนื้อสัมผัสแบบครีม เกลี่ยง่าย ทาแล้วไม่ดูมันจนเกินไป สีกลมกลืนไปกับผิว สามารถใช้งานได้ทุกวันเลยค่ะ


ไฮไลต์มีโทนสีชมพูที่ดูเป็นธรรมชาติ มีประกายละเอียดที่ใช้แล้วดูสุขภาพดีจากภายใน ไม่หลอกตา ช่วยทำให้ใบหน้าดูมีชีวิตชีวาและมีมิติมากยิ่งขึ้น แถมยังติดทนอีกด้วยค่ะ แต่ก็มีข้อเสีย คือ หากทาทับรองพื้น ตัวไฮไลต์อาจจะไม่ค่อยติดทน ดังนั้น ก่อนแต่งหน้าแนะนำให้บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นนิดนึงก่อน เพื่อให้เมคอัพและไฮไลต์ติดผิวมากยิ่งขึ้นค่ะ

No.7

NYX Professional MakeupWonder Stick

ราคาอ้างอิง
599 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ

หัวเรียวเล็ก ใช้งานง่าย ช่วยปรับรูปหน้าให้คมชัดตามต้องการ

ไฮไลต์รุ่นนี้เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจ และได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเลยทีเดียว เพราะเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพอยู่แล้ว ซึ่งในคราวนี้ก็ได้จับไฮไลต์และเฉดดิ้งมาไว้ในแท่งเดียวกัน จึงไม่แปลกที่จะดังเป็นพลุแตก รุ่นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่เนื้อเนียน เกลี่ยง่าย เม็ดสีชัด และมีโทนสีที่เป็นธรรมชาติ แถมมีถึง 6 โทนสีให้เลือก สาวผิวขาวหรือผิวแทนก็ใช้ได้ค่ะ 


ปลายแท่งหัวเรียวเล็กทำให้ใช้งานง่าย สามารถเข้าถึงพื้นที่เล็ก ๆ อย่างใต้ท้องคิ้วได้สบาย ๆ จึงใช้สร้างมิติและปรับเปลี่ยนรูปหน้าได้ดีเลย สาว ๆ ที่ใช้แล้วต่างติดใจในเรื่องความติดทนนานและสีชัดที่ชัดเจน ช่วยปรับรูปหน้าให้คมชัด อีกทั้งยังใช้งานง่าย พกพาสะดวก ใช้เป็น Everyday Look ได้เลยค่ะ 

No.8

Wet n WildMegaglo Dual-Ended Contour Stick

ราคาอ้างอิง
359 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ

ไฮไลต์เนื้อเนียน เม็ดสีชัด สม่ำเสมอ ไม่เป็นคราบระหว่างวัน

ตามมาด้วยไฮไลต์จากแบรนด์อเมริกาที่ฮอตฮิตไม่แพ้กันค่ะ จากรีวิวของสาว ๆ ส่วนใหญ่บอกว่า เนื้อสัมผัสเรียบเนียน เม็ดสีชัดและสม่ำเสมอ เกลี่ยง่าย และได้โทนสีเป็นธรรมชาติ แม้จะมีสีเดียวที่เข้าไทย แต่โทนสีนี้ก็ค่อนข้างเข้ากับสีผิวของสาวไทยโดยส่วนใหญ่ ดังนั้น ใช้ได้ไม่มีปัญหาแน่นอนค่ะ แถมเนื้อไฮไลต์ติดทนนานในระดับหนึ่ง โดยที่ไม่เป็นคราบระหว่างวันด้วย


นอกจากนี้ ยังปราศจากพาราเบน ซัลเฟต และกลูเตน ใครที่แพ้ง่ายน่าจะถูกใจค่ะ  อย่างไรก็ตาม จากรีวิวของสาว ๆ แนะนำว่า ตอนทาต้องเบามือนิดนึงนะคะ เพราะถ้าปาดหนาไป สีอาจจะไม่แนบสนิทกับหน้าและทำให้ลอกหลุดระหว่างวันได้  เหมาะกับมือใหม่หรือผู้ที่อยากลองซื้อไฮไลต์เป็นแท่งแรก รับรองไม่ผิดหวังค่ะ 

No.9

EtudeHouse Play 101 Stick Contour Duo

ราคาอ้างอิง
590 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ

รวมทั้งคอนทัวร์และไฮไลต์ไว้ในแท่งเดียวกัน ให้สีเป็นธรรมชาติ

มาถึงไฮไลต์แบบแท่งที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากแบรนด์ฝั่งเกาหลี ที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักแน่นอน รุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นความสะดวกสบายและอยากประหยัดงบในการช้อปปิ้ง เพราะรวมทั้งไฮไลต์และคอนทัวร์มาไว้ในแท่งเดียวกันเรียบร้อยแล้ว มี 3 สีให้เลือกซื้อ มั่นใจได้ว่าคุณจะสามารถหาสีที่เหมาะกับสีผิวได้แน่นอนค่ะ 

เมื่อทาไปแล้วจากเนื้อครีมจะเปลี่ยนเป็นสัมผัสแบบแป้ง เนื้อไฮไลต์มีเม็ดสีชัด โทนสีเป็นธรรมชาติ แต่อาจจะไม่ค่อยติดทนมากนัก ตัวไฮไลต์และคอนทัวร์มีหัวตัดแนวเฉียง 24° ซึ่งรับกับรูปหน้าพอดี ทำให้ใช้งานง่ายขึ้น แถมปริมาณก็เพิ่มจากแพ็กเกจเดิม 2 เท่าเลย คุ้มสุด ๆ เหมาะสำหรับซื้อติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้มาก ๆ เลยค่ะ

No.10

CEZANNEHighlight Stick

ราคาอ้างอิง
300 บาท
ราคาต่ำ

มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น ช่วยอำพรางรูขุมขน กระจายแสงได้ดี

เห็นแพ็กเกจแล้วหลายคนอาจจะคุ้นตา เพราะไฮไลต์รุ่นนี้อยู่ในไลน์เดียวกันกับ Shading Stick ตัวดังค่ะ ใครที่เคยหลงรักเฉดดิ้งของ Cezanne มาแล้ว รุ่นนี้ก็มีคุณสมบัติที่คล้ายกัน คือ ให้เนื้อสัมผัสที่สมูธและชุ่มชื้น ไม่ทำให้เป็นคราบ สามารถใช้ทาที่เปลือกตาหรือบริเวณที่แห้งเพื่อให้หน้าดูมิติและมีชีวิตชีวาขึ้นได้ 


มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid Collagen และมอยส์เจอร์ไรเซอร์ธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติช่วยในการอำพรางรูขุมขนได้ ทำให้ฟินิชลุคของสาว ๆ สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ตัวไฮไลต์ติดทนนานในระดับหนึ่ง จากหลายรีวิวต่างบอกว่า เกลี่ยง่าย (แต่แนะนำให้วอร์มที่ผิวก่อน) และกระจายแสงได้ดี ไม่ว่าจะขยับมุมไหนก็เป๊ะไปหมด สามารถหยิบมาใช้เป็นไฮไลต์ใน Everyday Look ได้เลยค่ะ

เช็กเนื้อสัมผัสแบบอื่น ๆ ที่เข้ากับปัญหาผิวของเรา

ไฮไลต์แบบแท่งมีคุณสมบัติที่น่าสนใจหลายอย่างเลยใช่ไหมล่ะคะ แต่ถ้าใครอยากพิถีพิถันกับการแต่งหน้ามากกว่านี้ แนะนำให้เลือกซื้อไฮไลต์ที่มีเนื้อสัมผัสแบบอื่นใช้ควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ได้เมคอัพลุคที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เนื้อแบบไหนเหมาะกับใครบ้าง ไปดูกันค่ะ

แบบฝุ่น : ใช้ง่าย เหมาะกับมือใหม่ เติมระหว่างวันได้

แบบฝุ่น : ใช้ง่าย เหมาะกับมือใหม่ เติมระหว่างวันได้
อ้างอิง:hourglasscosmetics.com

ไฮไลต์แบบฝุ่นจะมีลักษณะคล้ายกับบลัชออนเลยค่ะ ทำให้ใช้งานง่าย ถ้าปัดพลาดก็สามารถแก้ไขได้ หากเข้มเกินไปก็แค่ใช้แป้งฝุ่นปัดทับเท่านั้น ทำให้เหมาะกับมือใหม่มากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ยังสามารถปัดซ้ำทับแป้งได้ คุณจึงใช้ปัดเพิ่มระหว่างวันได้หากไฮไลต์จางลง


สำหรับผู้ที่หน้าแห้งเนื่องจากความชุ่มชื้นในผิวไม่เพียงพอ อาจจะทำให้ไฮไลต์ที่เป็นเนื้อแป้งหลุดหรือลอยออกมากได้ง่ายค่ะ ดังนั้น สาวผิวแห้งแต่อยากใช้ไฮไลต์แบบนี้ แนะนำให้ใช้แตะแค่นิดเดียวเท่านั้นนะคะ 

แบบครีม/แบบลิควิด : เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง

แบบครีม/แบบลิควิด : เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง

ไฮไลต์แบบเนื้อครีมและลิควิดนั้น ถือว่าเป็นไอเท็มที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้สาวผิวแห้งที่ดีทีเดียวค่ะ นอกจากจะเกลี่ยสีง่ายแล้ว ยังให้ฟินิชลุคที่แวววาวมากกว่าแบบฝุ่น เพราะมีปริมาณของน้ำมันเยอะกว่า เนื่องจากไฮไลต์ประเภทนี้จะมีเนื้อเหลวและไหลง่าย ดังนั้น เวลาทาจึงควรระมัดระวังเรื่องปริมาณนิดนึงค่ะ แนะนำให้ค่อย ๆ แตะทีละน้อย ๆ ก่อนแล้วค่อยเพิ่มจะดีที่สุดค่ะ

บทส่งท้าย

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หลังจาดกอ่านบทความนี้จบไป สาว ๆ ได้ไฮไลต์แบบแท่งที่ต้องการหรือยังคะ ? หากใครที่ยังลังเลอยู่ ไม่รู้จะซื้อแท่งไหนดี แนะนำให้เลือกมาสองแท่งเลยค่ะ แท่งหนึ่งสำหรับวันสบาย ๆ อีกแท่งก็ใช้ในวันทำงานได้ แต่อันดับแรกให้เลือกจากเฉดสีที่เข้ากับผิวก่อน ต่อมาให้ดูฟินิชลุคและตามด้วยโอกาสในการใช้งาน เพื่อให้คุณได้ลุคที่สวยสมบูรณ์แบบ เหมาะกับตัวเองและกาลเทศะมากที่สุดค่ะ


เมื่อได้ไฮไลต์ไปแล้ว อย่าลืมซื้อคอนทัวร์หรือเฉดดิ้งเพิ่มนะคะ เพราะเมคอัพ 2 ชิ้นนี้เป็นของที่ต้องใช้ควบคู่กัน ไฮไลต์จะทำหน้าที่ "เพิ่มแสง" ช่วยให้จุดสำคัญที่ต้องการเน้นดูสูงหรือโดดเด่นขึ้นมา แต่เฉดดิ้งจะทำหน้าที่ "ลดแสง" ทำให้บริเวณนั้น ๆ ดูลึกและเล็กลง เมื่อใช้ด้วยกันแล้วจะช่วยให้ใบหน้าของคุณดูมีมิติ สวยเป๊ะมากยิ่งขึ้นค่ะ 

TOP 5 ไฮไลต์หน้าแบบแท่ง แนะนำ

อันดับที่ 1: Fenty BeautyMatch Stix Shimmer Skinstick

อันดับที่ 2: HourglassVanish Flash Highlighting Stick

อันดับที่ 3: BECCA COSMETICSSkin Love Glow Glaze Stick

อันดับที่ 4: YVES SAINT LAURENTTouche Eclat Shimmer Stick

อันดับที่ 5: NARSThe Multiple

คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับ
คำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
  1. TOP
  2. เครื่องสำอาง, สกินแคร์
  3. เครื่องสำอางสำหรับผิวหน้า
  4. 10 อันดับ ไฮไลต์หน้า แบบแท่ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 เบลนด์ง่าย ติดทนนาน

บทความยอดนิยม

เครื่องสำอาง, สกินแคร์ > แป้ง, คุชชั่น >
แป้ง Chanel
เครื่องสำอาง, สกินแคร์ > เครื่องสำอางสำหรับผิวหน้า >
บลัชออนเนื้อครีม
เครื่องสำอาง, สกินแคร์ > แป้ง, คุชชั่น >
แป้งฝุ่น
เครื่องสำอาง, สกินแคร์ > รองพื้น >
รองพื้นสูตรน้ำ
เครื่องสำอาง, สกินแคร์ > แป้ง, คุชชั่น >
คุชชั่น
เครื่องสำอาง, สกินแคร์ > เครื่องสำอางสำหรับผิวหน้า >
CC Cream
เครื่องสำอาง, สกินแคร์ > เครื่องสำอางสำหรับผิวหน้า >
รองพื้นแบบแท่ง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์ > เครื่องสำอางสำหรับผิวหน้า >
บลัชออนแบบน้ำ
เครื่องสำอาง, สกินแคร์ > เครื่องสำอางสำหรับผิวหน้า >
คอนซีลเลอร์ใต้ตา
เครื่องสำอาง, สกินแคร์ > เครื่องสำอางสำหรับผิวหน้า >
รองพื้นสำหรับผู้หญิงวัย 50

ค้นหาตามหมวดหมู่