ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
การลงทุนในหุ้นหรือที่เรียกกันว่า "การเล่นหุ้น" นั้น ถือเป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน แต่อย่างที่ทราบกันว่าตลอดระยะเวลาที่ตลาดหุ้นไทยได้เปิดให้นักลงทุนเข้ามาทำการซื้อขายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 ซึ่งรวมเวลากว่า 45 ปีแล้ว ต่างก็มีทั้งผู้ลงทุนที่สามารถทำกำไรได้มหาศาล คนที่ติดดอย ไปจนถึงผู้ที่ขาดทุนจำนวนมาก ซึ่งอาจถึงขั้นหมดเนื้อหมดตัวออกจากตลาดหุ้นไปก็มีเช่นกัน
เหตุการณ์ต่าง ๆ นี้จึงทำให้เห็นว่าการเล่นหุ้นจึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องอาศัยองค์ความรู้เหมาะสมที่จะช่วยให้พอร์ตของคุณปลอดภัย โดยแหล่งความรู้แรกที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดก็คือ "การอ่านหนังสือ" ในครั้งนี้เราจึงจะมาแนะนำถึงวิธีการเลือกหนังสือเล่นหุ้นให้ตอบโจทย์กับการลงทุนของคุณ นอกจากนี้เรายังได้เตรียม 10 อันดับ หนังสือเล่นหุ้น ยอดนิยม มาแนะนำกันด้วย
คุณจอยจบการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหงและกำลังศึกษาต่อในระดับเนติบัณฑิตเพื่อมุ่งสู่งานด้านกฎหมายในอนาคต แต่นอกจากความชื่นชอบในงานด้านกฎหมายแล้ว คุณจอยยังมีความสนใจในด้านการลงทุนและการวางแผนทางการเงินเป็นพิเศษ จึงไปต่อยอดความรู้ด้วยการลงเรียนคอร์สต่าง ๆ เพิ่มเติมและสอบ IC License หรือใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์มาได้ในที่สุด ในส่วนของงานอดิเรกหลักที่ชื่นชอบนั้นจะเป็นการถ่ายภาพ ซึ่งคุณจอยได้ไปลงเรียนคอร์สการถ่ายภาพขั้นสูงของ KMUTT และเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ Canon เพื่อเข้าร่วมคอร์สต่าง ๆ อยู่ตลอด รวมทั้งยังชอบแชร์ภาพสวย ๆ โดยฝีมือการถ่ายของตัวเองจากการไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ผ่านทาง Google Map จนมีผู้ชมถึง 1.5 ล้านวิวอีกด้วย
สารบัญ
ในปัจจุบันนี้มีหนังสือเล่นหุ้นวางจำหน่ายอยู่มากมายหลายต่อหลายเล่ม ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อหนังสือเล่นหุ้นสักเล่ม อย่าลืมอ่านวิธีการเลือกต่อไปนี้ให้ละเอียดที่สุดกันด้วยค่ะ
แนวทางการวิเคราะห์หุ้นนั้นแบ่งออกเป็น 2 แนวทาง คือ แนวทางการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน และแนวทางการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค โดยไม่ว่าจะแนวทางไหนก็ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน และมีหนังสือที่เรียบเรียงเกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้วางจำหน่ายหลายเล่มเลย ซึ่งแต่ละแนวทางจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
"การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน" เป็นการวิเคราะห์หุ้นโดยอาศัยปัจจัยด้านต่าง ๆ ที่มีผลต่อค่าตอบแทน, ความเสี่ยง และมูลค่าของหุ้น ซึ่งปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นในการนำมาวิเคราะห์ ได้แก่ สภาพเศรษฐกิจของทั้งในและต่างประเทศ, การแข่งขันกันของภาคอุตสาหกรรมและข้อมูลพื้นฐานในด้านต่าง ๆ ของบริษัทจดทะเบียน เช่น การดูงบกำไรขาดทุน, การดูอัตราส่วนทางการเงิน, การดูกระแสเงินสดของบริษัท เป็นต้น โดยเราจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปคิดคำนวณหาโอกาสในการเติบโตของบริษัทต่าง ๆ เพื่อใช้ในการคัดเลือกหุ้นสำหรับลงทุนอีกทีหนึ่ง
การลงทุนเชิงปัจจัยพื้นฐานนั้นนิยมใช้เป็นการลงทุนแบบระยะยาวและมักจะมีการขายหุ้นทิ้งก็ต่อเมื่อหุ้นนั้นมีพื้นฐานเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดี เช่น มีบริษัทอื่นที่เริ่มได้เปรียบในด้านการแข่งขันมากกว่าปรากฎตัวขึ้น, หุ้นที่ถืออยู่มีราคาแพงกว่ามูลค่าที่ประเมินไว้, บอร์ดบริหารชุดเดิมประกาศลาออก, พบการตกแต่งบัญชีบริษัท, การประกอบธุรกิจที่ขาดธรรมภิบาล เป็นต้น ซึ่งข้อดีของการลงทุนตามปัจจัยพื้นฐานก็คือ การซื้อขายจะไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ก็มีข้อเสียในเรื่องของความยากลำบากในการวิเคราะห์ เพราะต้องอาศัยข้อมูลจำนวนมากในการวิเคราะห์นั่นเอง
"การวิเคราะห์ทางเทคนิค" เป็นการวิเคราะห์หุ้นจากการใช้ข้อมูลเชิงสถิติในอดีต มาแสดงเป็นกราฟราคาของหุ้นแต่ละตัวเพื่อคาดการณ์กราฟต่าง ๆ ในอนาคตว่าจะมีแนวโน้มแบบใด จะมีการฟอร์มตัวในรูปแบบไหนและอาจเกิดสัญญาณซื้อหรือขายแบบใดได้บ้าง โดยจะมีการนำเครื่องมืออินดิเคเตอร์หลายรูปแบบเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ร่วมด้วย ตัวอย่างเช่น Moving Average, MACD, RSI เป็นต้น
การวิเคราะห์ทางเทคนิคนี้สามารถใช้ได้ทั้งการลงทุนในแบบระยะสั้นและยาว อีกทั้งยังเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากวิเคราะห์ได้ง่ายกว่าแบบปัจจัยพื้นฐาน ช่วยให้รู้ถึงจังหวะที่เหมาะสมในการลงทุน แต่ก็มีข้อเสียคือ มีการเกิดสัญญาณซื้อขายที่บ่อยครั้งกว่าและหากไม่มีประสบการณ์ที่มากพอก็อาจทำให้เกิดความผิดพลาดที่มากกว่าได้
การลงทุนแต่ละประเภทมีระยะเวลาที่แตกต่างกันคือ แบบระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งเราคงไม่สามารถบอกได้ว่าแบบไหนจะดีกว่ากัน เพราะแต่ละคนมีความถนัดในระยะเวลาการลงทุนที่แตกต่างกัน คุณจึงควรเลือกหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเทคนิคของระยะเวลาในการลงทุนที่เข้ากันกับไลฟ์สไตล์และความถนัดของตัวคุณเอง
การลงทุนระยะยาว หมายถึง การซื้อและถือหุ้นตัวนั้นจนกว่าจะมีสัญญาณในการขายเกิดขึ้น เช่น พื้นฐานบริษัทเปลี่ยนไป หรือกราฟระยะยาวเปลี่ยนแนวโน้ม เป็นต้น โดยการลงทุนประเภทนี้มีข้อดีคือ จำนวนซื้อขายที่น้อยครั้งกว่า ทำให้มีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า ลดการตัดสินใจที่ผิดพลาด และเพิ่มโอกาสการทำกำไรที่มากขึ้น แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน เพราะหากเลือกถือหุ้นผิดตัวก็อาจจะเสียหายหนัก และในช่วงที่ถือหุ้นไว้หากเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ หรือไม่ค่อยมีปริมาณการซื้อขาย ทำให้ราคาหุ้นไม่ค่อยขยับ เงินลงทุนก็อาจจะกลายเป็นเงินจมแทนที่จะสามารถแสวงหากำไรจากหุ้นตัวอื่นได้ในระยะเวลารวดเร็ว
การลงทุนระยะสั้น เป็นการซื้อและขายหุ้นเพื่อเก็งกำไรในหุ้นหลายตัวหรือหลายครั้งภายในระยะเวลาไม่นาน เช่น ภายในวันเดียวหรือสองสามวัน โดยการลงทุนระยะสั้นมีข้อดีคือ ช่วยเพิ่มโอกาสในการแสวงหากำไรได้อย่างรวดเร็วและไม่ต้องทนถือหุ้นที่ราคาไม่ขยับให้รู้สึกอึดอัด อย่างไรก็ตามก็มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากการซื้อขายที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง อีกทั้งยังต้องวิเคราะห์หุ้นจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งก็มีโอกาสผิดพลาดได้ง่าย โดยส่วนมาก ผู้ที่เล่นหุ้นแบบการเก็งกำไรจะต้องมีความรู้และความเชี่ยวชาญมากพอสมควร จึงจะทำผลตอบแทนสูงได้ และไม่ขาดทุนหรือขาดทุนน้อยที่สุด
รูปแบบของงานเขียนก็ถือเป็นอีกสิ่งสำคัญที่คุณต้องอ่านให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อหนังสือเล่นหุ้น โดยรูปแบบงานเขียนต่าง ๆ จะมี 3 รูปแบบดังต่อไปนี้
ด้วยความที่การลงทุนในหุ้นนั้นมีต้นกำเนิดมาจากต่างประเทศ นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่า องค์ความรู้ที่เกี่ยวกับการลงทุนจำนวนมากก็ถือกำเนิดมาจากต่างประเทศด้วยเช่นกัน อีกทั้งต่างประเทศยังมีนักลงทุนที่เก่งและประสบความสำเร็จในระดับโลกอย่างมากมาย เช่น วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffet), ปีเตอร์ ลินช์ (Peter Lynch) เป็นต้น ดังนั้น หากคุณต้องการที่จะเข้าถึงแก่นแท้ของการลงทุนในหุ้น จึงควรลองอ่านหนังสือหุ้นที่มีเนื้อหาจากทางต่างประเทศเสริมด้วย
ในปัจจุบันก็มีผลงานแปลจากต่างประเทศหลายเล่มวางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป คุณสามารถหามาอ่านได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาในการแปลด้วยตนเอง แถมยังคงไว้ซึ่งองค์ความรู้ที่ครบครัน ใครที่อยากได้ความเป็นออริจินัลในด้านการลงทุนต้องไม่พลาดงานประเภทนี้เลย
สำหรับคนที่ต้องการความแม่นยำของค่าอินดิเคเตอร์ในกราฟมากที่สุด หรือคนที่ต้องการนำตัวเลขทางปัจจัยพื้นฐานไปคำนวณสูตรทางการเงินต่าง ๆ เราขอแนะนำหนังสือเล่นหุ้นที่เน้นหนักไปในเรื่องของทฤษฎีและองค์ความรู้ในการใช้เครื่องมือทั้งทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน
โดยงานเขียนประเภทนี้จะสอนทั้งวิธีการคำนวณ, วิธีการใช้งาน, วิธีการประยุกต์ใช้ รวมไปถึงมีตัวอย่างทั้งแบบที่สมมุติขึ้นและแบบที่เคยเกิดขึ้นจริงมาแล้ว เพื่อใช้ประกอบการสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้อ่าน และเพื่อให้ผู้อ่านได้มีพื้นฐานในการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่จำเป็นและสามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่วในทุกการวิเคราะห์อีกด้วย
แม้จะมีความรู้ความเข้าใจในระดับเดียวกัน แต่หากความรู้นั้นถูกใช้โดยคนละคนก็อาจให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันได้ นี่คือเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ในการลงทุนหุ้น เพราะถึงแม้จะมีหนังสือที่สอนเล่นหุ้นออกจำหน่ายมากมาย แต่คนที่ประสบความสำเร็จจริงกลับมีน้อย ดังนั้น หากเราได้เรียนรู้ประสบการณ์หรือกลยุทธ์ของคนที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีมากเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้ งานเขียนในรูปแบบที่เป็นการเล่าประสบการณ์, การถ่ายทอดกลยุทธ์ หรือการแชร์แนวความคิด จึงเป็นงานเขียนอีกประเภทที่ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะเหมือนเป็นทางลัดของคนที่ประสบความสำเร็จแล้วมาเล่าให้เราฟังโดยตรงนั่นเอง โดยเฉพาะกับคนที่มีพื้นฐานแน่นแล้วอยากเพิ่มไอเดียการเทรดหุ้นดู งานเขียนประเภทนี้เหมาะมากเลยค่ะ
ในสมัยก่อนนั้นหนังสือหุ้นดูเป็นอะไรที่เข้าใจยากมาก เพราะมีแต่กราฟ, สูตรตัวเลข หรือเต็มไปด้วยตัวหนังสือ แต่ในปัจจุบัน การนำเสนอเนื้อหาสำหรับหนังสือเล่นหุ้นถือว่ามีความหลากหลาย ซึ่งถือเป็นเรื่องดีเพราะทำให้หนังสือหุ้นสามารถเข้าถึงได้ง่ายในหลายช่วงวัย เช่น มีหนังสือหุ้นที่มีเนื้อหาเป็นภาพการ์ตูน ช่วยให้ดูน่าสนใจ แถมยังอ่านแล้วเข้าใจง่าย หรือมีเนื้อหาที่เน้นรูปตัวอย่าง ช่วยให้มองเห็นภาพอย่างชัดเจนและช่วยให้คุณสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ได้ดีขึ้น แต่ถ้าหากใครชอบความรู้แน่น ๆ หนังสือที่มีเนื้อหาเป็นตัวหนังสือล้วน ๆ ก็ยังมีจำหน่ายอยู่เช่นกัน
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | ราคา | คะแนน | รายละเอียด | ||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เนื้อหาหลัก | ระดับเนื้อหา | ชื่อเรื่องต้นฉบับ | ผู้แปล | สำนักพิมพ์ | สำนักพิมพ์ต้นฉบับ | เดือนปีที่เผยแพร่ | ความยาว | รูปแบบ | เนื้อในพิมพ์ | ||||||
1 | Benjamin Graham หนังสือเล่นหุ้น คัมภีร์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า : The Intelligent Investor | 595 บาท ราคาสูง | สุดยอดหนังสือลงทุนที่ขายไปได้มากถึง 1 ล้านเล่ม คัมภีร์เน้นคุณค่า | กลยุทธ์การลงทุน, รวมเนื้อหาการลงทุน | เริ่มต้น-มืออาชีพ | The Intelligent Investor | พรชัย รัตนนนทชัยสุข | วิสดอมเวิร์ค เพรส | Harper Business | ไม่ระบุ | 804 หน้า | ปกอ่อน | ขาวดำ | ||
2 | Peter Lynch, John Rothchild หนังสือเล่นหุ้น เหนือกว่าวอลสตรีท : ONE UP ON WALL STREET | 348 บาท ราคาปานกลาง | สอนการลงทุนด้วยสิ่งที่่คุณควรรู้อยู่แล้ว จากผู้ที่มีเทคนิคหุ้น 10 เด้ง | เล่าประสบการณ์, เทคนิคการเล่นหุ้น | เริ่มต้น-มืออาชีพ | One Up On Wall Street | ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร | ฟิเดลลิตี้ | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | 352 หน้า | ปกอ่อน | ขาวดำ | ||
3 | Money Buffalo (มันนี บัฟฟะโล) หนังสือเล่นหุ้น เข้าใจหุ้นก่อนเข้าซื้อ เทรดหรือถือก็ทำกำไร | 260 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | ตีแผ่ทุกเทคนิคตั้งแต่พื้นฐาน สอนระบบในการเข้าตลาดลงทุนได้จริง | ความรู้หุ้นพื้นฐาน, เทคนิคเล่นหุ้นพื้นฐาน | เริ่มต้น-กลาง | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | I AM THE BEST | 2022 | 240 หน้า | ปกอ่อน | สี่สีในเล่ม | ||
4 | Mark Minervini หนังสือเล่นหุ้น Think & Trade Like a Champion : คิดและเทรดอย่างแชมป์เปี้ยน | 346 บาท ราคาปานกลาง | ทำลายอีโก้ในการเทรดด้วย Mindset ของนักเทรดหุ้นระดับแนวหน้า | เล่าประสบการณ์, เทคนิคการเล่นหุ้น | เริ่มต้น-มืออาชีพ | Think & Trade Like a Champion | ศรุต ลีละวงศ์พานิช | เอ็นซิกซ์พับลิชชิ่ง | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | 304 หน้า | ปกอ่อน | ขาวดำ | ||
5 | William J. O'Neil หนังสือเล่นหุ้น How to Make Money in Stocks (CANSLIM) | 426 บาท ราคาค่อนข้างสูง | คัดหุ้นชั้นยอด จากเทคนิคที่คิดโดยพ่อมดแห่งวอลสตรีท ใช้ได้จริง | เล่าประสบการณ์, เทคนิคเล่นหุ้นระดับสูง | กลาง-มืออาชีพ | How to Make Money in Stocks | ชินวิช ธเนศสกุลวัฒนา | Nsix | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | 504 หน้า | ปกอ่อน | 2 สี | ||
6 | ณัฐวัฒน์ อ้นรัตน์ (พี่เปี๊ยก แมงเม่าสำราญ) หนังสือเล่นหุ้น แมงเม่าสำราญ 4 : Hybrid Investing การผสมผสานระหว่าง กราฟ กับ ปัจจัยพื้นฐาน | 510 บาท ราคาค่อนข้างสูง | ใช้ปัจจัยการลงทุนแบบผสมผสาน เพื่อสร้างพอร์ตที่ให้ความสมดุล | เล่าประสบการณ์, เทคนิคเล่นหุ้น | เริ่มต้น-มืออาชีพ | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | แมงเม่าสำราญ | 2022 | 608 หน้า | ปกอ่อน | คละสี | ||
7 | นายแว่นลงทุน หนังสือเล่นหุ้น มองหาหุ้นเติบโตตัวต่อไป | 185 บาท ราคาต่ำ | ในวิกฤติย่อมมีโอกาส มองหาหุ้นผ่านเคล็ดลับที่ทำให้เจอหุ้นเติบโต | เทคนิคการเล่นหุ้นระยะยาว | ปานกลาง-มืออาชีพ | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | เช็ก | 2023 | 176 หน้า | ปกอ่อน | 2 สี | ||
8 | IDEATRADE TEAM หนังสือเล่นหุ้น กลยุทธ์ทำกำไรในตลาดหุ้นบน TradingView | 251 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | ทำกำไรจากเครื่องมือ TradingView มีขั้นตอนในการใช้งานละเอียด | การใช้เครื่องมือวิเคราะห์, เทคนิคการเล่นหุ้น | เริ่มต้น-กลาง | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | เช็ก | 2023 | 192 หน้า | ปกอ่อน | คละสี | ||
9 | ดร. สาริทธิ์ จารุชัยบวร หนังสือเล่นหุ้น เริ่มต้นเล่นหุ้นอย่างไรไม่ให้โดนหุ้นเล่น ด้วยกราฟเทคนิค Basics of Trader | 275 บาท ราคาปานกลาง | สอนพื้นฐานโดยดูจากกราฟเทคนิค คนไม่มีพื้นฐานก็สามารถอ่านได้ | ความรู้หุ้นพื้นฐาน, เทคนิคเล่นหุ้นพื้นฐาน | เริ่มต้น | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | เช็ก | 2021 | 256 หน้า | ปกอ่อน | คละสี | ||
10 | ศักดิ์ชัย จันทร์พร้อมสุข หนังสือเล่นหุ้น Day Trade for Cash Flow สร้างกระแสเงินสดจากการเก็งกำไรระยะสั้น | 261 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | Day Trade สร้างเงินในระยะสั้น รวมเทคนิคทำกำไรฉบับมืออาชีพ | เทคนิคการเล่นหุ้นระยะสั้น | กลาง-มืออาชีพ | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | ไม่ระบุ | 7D BOOK | 2023 | 224 หน้า | ปกอ่อน | 2 สี |
หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่หนังสือสอนการเทรดหุ้น แต่เป็นหนังสือเพิ่มพูนความรู้ด้านการลงทุนหุ้นที่แม้แต่ Warren Buffett นักลงทุนระดับโลกให้การยอมรับ เน้นให้ผู้อ่านเข้าใจตลาดหุ้น เข้าใจประเภทของการลงทุนและที่สำคัญก็คือเข้าใจตัวเองว่าเป็นนักลงทุนหุ้นแบบไหน เนื้อหาแต่ละบทถูกเรียบเรียงมาอย่างละเอียด เช่น การลงทุนและภาวะเงินเฟ้อ, หุ้นและนักลงทุนเชิงรับ, การลงทุนในกองทุนรวม เป็นต้น
นอกจากจะอธิบายรายละเอียดการลงทุนประเภทต่าง ๆ แล้ว หนังสือเล่มนี้ยังสอดแทรกกลยุทธ์สำคัญที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนให้แก่ผู้อ่านได้ ช่วยทำให้ผู้อ่านลำดับความสำคัญขั้นตอนในการลงทุนได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รู้เบื้องลึกตลาดการลงทุนที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง สร้างความปลอดภัยให้ผ่านความรู้ มีข้อแนะนำคือเพราะมีเนื้อหาเยอะ การใช้สมุดจนเนื้อหาสำคัญอาจช่วยให้เข้าใจเนื้อหาได้ถ่องแท้ขึ้น
เนื้อหาหลัก | กลยุทธ์การลงทุน, รวมเนื้อหาการลงทุน |
---|---|
ระดับเนื้อหา | เริ่มต้น-มืออาชีพ |
ชื่อเรื่องต้นฉบับ | The Intelligent Investor |
ผู้แปล | พรชัย รัตนนนทชัยสุข |
สำนักพิมพ์ | วิสดอมเวิร์ค เพรส |
สำนักพิมพ์ต้นฉบับ | Harper Business |
เดือนปีที่เผยแพร่ | ไม่ระบุ |
ความยาว | 804 หน้า |
รูปแบบ | ปกอ่อน |
เนื้อในพิมพ์ | ขาวดำ |
การทำกำไรจากหุ้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะจำเป็นต้องมีความรู้เรื่องการลงทุนผ่านประสบการณ์ ซึ่งหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่อาจทำให้คุณมองเห็นทางที่จะสามารถต่อยอดหุ้นของคุณสู่หุ้น 10 เด้งผ่านประสบการณ์เทรดของ ปีเตอร์ ลินช์ นักเทรดอัจฉริยะที่เคยทำกำไรสิบเท่าตัวมาแล้ว เป็นหนังสือที่ได้รับรางวัล The New York Times Bestseller มาแล้ว เพราะแนวคิดที่ทำให้นักเทรดหลายคนต่างอยากลงมือทำตาม
มือใหม่สามารถศึกษาได้เพราะเนื้อหาจะเริ่มเล่าตั้งแต่ปีเตอร์ ลินช์ ทำให้เห็นมุมมองความคิดในตลาดหุ้นของเขา และเนื้อหาที่หลายคนให้ความสนใจแก่หนังสือเล่มนี้ก็คือ หุ้นทั้ง 6 ประเภทที่ ปีเตอร์ ลินช์ แบ่งออกชัดเจนเพื่อให้ทุกคนเข้าใจตลาดหุ้นที่กำลังเผชิญ ได้แก่ หุ้นโตช้า หุ้นแข็งแกร่ง หุ้นโตเร็ว หุ้นวัฏจักร หุ้นฟื้นตัว และหุ้นทรัพย์สินมาก เพราะเมื่อทำความเข้าใจในตลาดที่กำลังเผชิญก็จะสามารถวางแผนออกแบบการทำกำไรได้
เนื้อหาหลัก | เล่าประสบการณ์, เทคนิคการเล่นหุ้น |
---|---|
ระดับเนื้อหา | เริ่มต้น-มืออาชีพ |
ชื่อเรื่องต้นฉบับ | One Up On Wall Street |
ผู้แปล | ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร |
สำนักพิมพ์ | ฟิเดลลิตี้ |
สำนักพิมพ์ต้นฉบับ | ไม่ระบุ |
เดือนปีที่เผยแพร่ | ไม่ระบุ |
ความยาว | 352 หน้า |
รูปแบบ | ปกอ่อน |
เนื้อในพิมพ์ | ขาวดำ |
หนังสือเล่มนี้เปรียบเสมือนคู่มือของนักเทรดหุ้นหน้าใหม่ที่กำลังก้าวเข้าสู่วงการ เขียนโดยสื่อทางด้านการลงทุนที่มีผู้ติดตามกว่า 1.5 ล้านคน สามารถมั่นใจในเนื้อหาได้ โดยจุดเด่นของเล่มนี้คือการใช้ภาษาอธิบายแบบเป็นกันเองเข้าถึงง่าย แม้จะมีความซับซ้อนในรายละเอียดก็ตาม เพราะผสานการบรรยายเข้ากับการยกตัวอย่างด้วยภาพแบบพิมพ์สี่สี แถมยังมีเนื้อหาสุดพิเศษเรื่องเทคนิคการเข้าซื้อให้ลองศึกษา
โดยเนื้อหาภายในเล่มจะเน้นไปที่ความรู้พื้นฐานแบบละเอียด เช่น เรื่องที่ต้องรู้ก่อนลงทุนในหุ้น, เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี, หุ้นหรือบริษัทที่ดีหน้าตาเป็นอย่างไร ฯลฯ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ทุกคน ที่สำคัญหนังสือไม่พยายามชูโรงเพียงแค่ด้านดีในการลงทุนหุ้นเท่านั้น แต่ยังอธิบายถึงความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องยอมรับและอาจต้องเจอในอนาคตด้วย ทำให้สามารถปูทางให้พร้อมขึ้นก่อนเทรดจริง
เนื้อหาหลัก | ความรู้หุ้นพื้นฐาน, เทคนิคเล่นหุ้นพื้นฐาน |
---|---|
ระดับเนื้อหา | เริ่มต้น-กลาง |
ชื่อเรื่องต้นฉบับ | ไม่ระบุ |
ผู้แปล | ไม่ระบุ |
สำนักพิมพ์ | ไม่ระบุ |
สำนักพิมพ์ต้นฉบับ | I AM THE BEST |
เดือนปีที่เผยแพร่ | 2022 |
ความยาว | 240 หน้า |
รูปแบบ | ปกอ่อน |
เนื้อในพิมพ์ | สี่สีในเล่ม |
ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์มือใหม่หรือเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มาบ้างแล้วหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเล่นหุ้นที่เราอยากแนะนำให้คุณได้ลองศึกษา เพราะเป็นหนังสือที่ถูกเขียนขึ้นโดย Mark Minervini เทรดเดอร์ชั้นนำที่เคยทำผลกำไร 100% ต่อปีและถูกจัดว่าเป็นผู้ที่ควบคุมความเสี่ยงในการลงทุนได้ดีมาก เนื้อหาภายในเล่มไม่ได้เน้นสอนเทคนิคการทำกำไรจากการอ่านกราฟ แต่เน้นปรับ Mindset ให้ผู้อ่านพร้อมสำหรับตลาดหุ้นแบบมืออาชีพ
โดยแต่ละบทจะถูกบรรยายเล่าเรื่องราวและสอดแทรกความรู้สำคัญในตลาดหุ้น เช่น เดินหน้าพร้อมแผนการอยู่เสมอ, คิดถึงความเสี่ยงก่อนเข้าเทรดทุกครั้ง, อย่าเสี่ยงเกินกว่ากำไรที่คุณคาดหวัง ฯลฯ ซึ่งแต่ละบทล้วนกลั่นออกมาจากประสบการณ์จริงที่คอยย้ำเตือนว่านักเทรดไม่ควรประมาททุกฝีก้าวที่เริ่มลงทุน แถมยังมีเทคนิคจังหวะการซื้อหุ้น จังหวะการขายหุ้นระดับมืออาชีพที่ช่วยทำให้ผู้อ่านเข้าใจมุมมองของนักเทรดชั้นนำมากขึ้น
เนื้อหาหลัก | เล่าประสบการณ์, เทคนิคการเล่นหุ้น |
---|---|
ระดับเนื้อหา | เริ่มต้น-มืออาชีพ |
ชื่อเรื่องต้นฉบับ | Think & Trade Like a Champion |
ผู้แปล | ศรุต ลีละวงศ์พานิช |
สำนักพิมพ์ | เอ็นซิกซ์พับลิชชิ่ง |
สำนักพิมพ์ต้นฉบับ | ไม่ระบุ |
เดือนปีที่เผยแพร่ | ไม่ระบุ |
ความยาว | 304 หน้า |
รูปแบบ | ปกอ่อน |
เนื้อในพิมพ์ | ขาวดำ |
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เขียนขึ้นโดย วิลเลียม โอนีล ผู้ที่ถูกเรียกว่าเป็นพ่อมดแห่งวอลสตรีท นักลงทุนชื่อดังระดับแนวหน้าของโลก เนื้อหาภายในเป็นการรวมเทคนิค ความรู้และแนวคิดในการลงทุนดังนั้นไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนมือใหม่หรือผู้มีประสบการณ์ก็สามารถอ่านเพื่อเพิ่มพูนความรู้ได้ โดยภายในเล่มจะเน้นไปในเรื่องของระบบการคัดสรรหุ้น 7 ข้อ ที่โอนีลเป็นผู้คิดค้น ให้ผู้อ่านมาประยุกต์ใช้ผสมผสานกับเทคนิคที่ตัวเองคุ้นเคยได้
ซึ่งระบบคัดหุ้นนี้ถูกเรียกว่า Can Slim ซึ่งเป็นวิธีการคัดหุ้นที่เหมาะกับนักลงทุนเลือกลงทุนโดยสำรวจจากปัจจัยเทคนิคพื้นฐาน เช่น กราฟ แนวโน้ม เพื่อหาจังหวะการเข้าซื้อ แต่ที่พิเศษคือเนื้อหาภายในเล่มจะสอนการใช้งานเทคนิคพื้นฐานเหล่านี้ใหม่ผ่านมุมมองนักลงทุนระดับโลก ทำให้ผู้อ่านยกระดับการวิเคราะห์ได้ ที่สำคัญคือไม่ลืมที่จะถ่ายทอดสิ่งสำคัญอย่างการหาจังหวะขายแม้จะขาดทุน เพื่อทำให้คุณไม่ขาดทุนยิ่งกว่าเดิม
เนื้อหาหลัก | เล่าประสบการณ์, เทคนิคเล่นหุ้นระดับสูง |
---|---|
ระดับเนื้อหา | กลาง-มืออาชีพ |
ชื่อเรื่องต้นฉบับ | How to Make Money in Stocks |
ผู้แปล | ชินวิช ธเนศสกุลวัฒนา |
สำนักพิมพ์ | Nsix |
สำนักพิมพ์ต้นฉบับ | ไม่ระบุ |
เดือนปีที่เผยแพร่ | ไม่ระบุ |
ความยาว | 504 หน้า |
รูปแบบ | ปกอ่อน |
เนื้อในพิมพ์ | 2 สี |
สำหรับผู้ที่อยากปั้นหุ้นแบบการผสมผสาน หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ช่วยอธิบายเทคนิคที่เรียกว่า Hybrid Investing หรือการลงทุนโดยใช้การมองวิเคราะห์แบบเทคนิค กับการมองอัตราขึ้นลงของกราฟเข้าด้วยกัน เพื่อทำให้นักลงทุนมีพอร์ตที่เสถียรและลดอัตราความเสี่ยงลง ภายในเล่มมีพื้นฐานสอน เช่น สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเข้าตลาดหุ้น, Mindset การเล่นหุ้น, ฯลฯ ที่ช่วยให้มือใหม่เข้าใจตลาดหุ้นได้มากขึ้น
อีกทั้งสำหรับนักลงทุนที่ใช้เทคนิคเดียวมาตลอด ภายในเล่มจะมีพื้นฐานของการผสานสองเทคนิคให้ศึกษาโดยเฉพาะการมองกราฟ เสริมประสิทธิภาพด้วยกลยุทธ์ที่ถูกคิดค้นให้แบ่งออกเป็นหุ้นชุด A, B, C, D ให้ผู้อ่านลองศึกษาให้เหมาะกับนิสัยการเทรดของตัวเอง ท้ายเล่มหนังสือผู้เขียนได้รวบรวมคำถามยอดฮิตที่หลายคนกำลังมองหาคำตอบ ดังนั้นเหมาะเป็นหนังสือพี่เลี้ยงนักเทรด
เนื้อหาหลัก | เล่าประสบการณ์, เทคนิคเล่นหุ้น |
---|---|
ระดับเนื้อหา | เริ่มต้น-มืออาชีพ |
ชื่อเรื่องต้นฉบับ | ไม่ระบุ |
ผู้แปล | ไม่ระบุ |
สำนักพิมพ์ | ไม่ระบุ |
สำนักพิมพ์ต้นฉบับ | แมงเม่าสำราญ |
เดือนปีที่เผยแพร่ | 2022 |
ความยาว | 608 หน้า |
รูปแบบ | ปกอ่อน |
เนื้อในพิมพ์ | คละสี |
หนังสือเล่นหุ้นเล่มนี้ไม่ได้เป็นหนังสือสายเทคนิคที่ใช้สำหรับการมองกราฟในระยะสั้น แต่เป็นหนังสือที่ทำให้ผู้อ่านมีมุมมองในการหาหุ้นเติบโตได้กว้างยิ่งขึ้น เป็นเทคนิคมองหาหุ้นในระยะยาวเพื่อลงทุนเก็งกำไรโดยเฉพาะ ดังนั้นมือใหม่หรือผู้มีประสบการณ์สามารถอ่านได้ จุดมุ่งหมายของเล่มนี้คือต้องการให้ผู้อ่านเข้าใจว่า แม้ในยุคที่มีวิกฤตเศรษฐกิจต่าง ๆ แต่ถ้ามีความรู้การอ่านสถานการณ์ คุณก็สามารถมองหาโอกาสได้
โดยเทคนิคภายในเล่มนอกจากจะอธิบายการมองหาหุ้นเด้งหรือหุ้นระยะยาว เช่น หุ้น 1 เด้งใน 1 ปี, หุ้นสิบเด้ง ก่อนปี 2030, การมองหาหุ้นในอุตสาหกรรมยุคเก่า ฯลฯ ยังมีเนื้อหาอธิบายถึงช่วงเวลาในการเติบโตแบบละเอียดให้ผู้อ่านเข้าใจระยะเวลาของหุ้นลึกซึ้งขึ้น รวมไปถึงมองหาโอกาสทำกำไรจากหุ้นรูปแบบต่าง ๆ เช่น หุ้นสินทรัพย์แฝง, หุ้นโรงงานยา เป็นต้น ทำให้ผู้อ่านบริหารความเสี่ยงในทุกสถานการณ์ก่อนเข้าตลาดได้
เนื้อหาหลัก | เทคนิคการเล่นหุ้นระยะยาว |
---|---|
ระดับเนื้อหา | ปานกลาง-มืออาชีพ |
ชื่อเรื่องต้นฉบับ | ไม่ระบุ |
ผู้แปล | ไม่ระบุ |
สำนักพิมพ์ | ไม่ระบุ |
สำนักพิมพ์ต้นฉบับ | เช็ก |
เดือนปีที่เผยแพร่ | 2023 |
ความยาว | 176 หน้า |
รูปแบบ | ปกอ่อน |
เนื้อในพิมพ์ | 2 สี |
หนังสือเล่มนี้เหมาะเป็นหนังสือที่นำเสนอเทคนิคการทำกำไรจากเครื่องมือ TradingView ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับคนที่เคยเทรดหุ้นมาก่อนแล้ว หรือคนที่กำลังมองหาเทคนิคใหม่ ๆ ผู้เขียนรวบรวมทุกฟังก์ชันการใช้งานมาให้ครบถ้วน อธิบายเป็นขั้นตอนสามารถทำตามได้ อีกทั้งท้ายเล่มยังแถมบทเรียนสุดพิเศษอย่าง Basic Backtesting ให้ได้ลองศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเอาไปประยุกต์ใช้กับรูปแบบการเทรดของตัวเอง
เนื้อหาใช้ภาษาอ่านง่ายพิมพ์แบบคละสี มีภาพและคำอธิบายยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจน รวมไปถึงสอนใช้งาน Indicators ในหลาย ๆ เทคนิคเพื่อให้การวิเคราะห์มีประสิทธิภาพ และปิดท้ายด้วยบทเรียน Cryptocurrency Valuation ซึ่งเป็นการถ่ายทอดความรู้กระแสการลงทุนในยุคปัจจุบันจากผู้ที่มีประสบการณ์ในแวดวงการลงทุน มีความรู้ก่อนเริ่มเทรดเป็นหนทางในการลดความสูญเสีย
เนื้อหาหลัก | การใช้เครื่องมือวิเคราะห์, เทคนิคการเล่นหุ้น |
---|---|
ระดับเนื้อหา | เริ่มต้น-กลาง |
ชื่อเรื่องต้นฉบับ | ไม่ระบุ |
ผู้แปล | ไม่ระบุ |
สำนักพิมพ์ | ไม่ระบุ |
สำนักพิมพ์ต้นฉบับ | เช็ก |
เดือนปีที่เผยแพร่ | 2023 |
ความยาว | 192 หน้า |
รูปแบบ | ปกอ่อน |
เนื้อในพิมพ์ | คละสี |
สำหรับหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่สนใจตลาดหุ้น เพราะเนื้อหาเริ่มต้นตั้งแต่พื้นฐานทั้งหมด เช่น หุ้นคืออะไร, การตั้งคำถาม, การวิเคราะห์ เป็นต้น อธิบายแบบคละสีแม้เนื้อหาจะมีความละเอียดสูงแต่สามารถอ่านได้เรื่อย ๆ ไม่น่าเบื่อ ใช้ภาษาบรรยายเป็นกันเองและมีรูปภาพประกอบ ที่สำคัญคือมีพื้นฐานการหาจุดเข้าออกในการซื้ออธิบาย เมื่ออ่านจบสามารถเข้าซื้อหุ้นได้ด้วยตัวเอง
จุดเด่นของเล่มนี้นอกจากการปูพื้นฐานเรื่องการลงทุนหุ้น เนื้อหาส่วนการใช้เทคนิคการเทรดก็ค่อนข้างละเอียดและสามารถใช้ได้จริง เช่น การอ่านเทรนของหุ้น การมองวิเคราะห์แนวรับ - แนวต้าน แนวโน้มของราคา รวมไปถึงการอ่านกราฟราคาที่ผู้อ่านจะสามารถเห็นได้ทันทีเมื่อเริ่มต้นซื้อหุ้นครั้งแรก อธิบายความหมายของแท่งเทียน มีข้อแนะนำคือ เทคนิคในเล่มนี้เป็นเทคนิคขั้นพื้นฐาน หากต้องการหาหนังสือเทคนิคระดับสูงเล่มนี้อาจไม่ตอบโจทย์
เนื้อหาหลัก | ความรู้หุ้นพื้นฐาน, เทคนิคเล่นหุ้นพื้นฐาน |
---|---|
ระดับเนื้อหา | เริ่มต้น |
ชื่อเรื่องต้นฉบับ | ไม่ระบุ |
ผู้แปล | ไม่ระบุ |
สำนักพิมพ์ | ไม่ระบุ |
สำนักพิมพ์ต้นฉบับ | เช็ก |
เดือนปีที่เผยแพร่ | 2021 |
ความยาว | 256 หน้า |
รูปแบบ | ปกอ่อน |
เนื้อในพิมพ์ | คละสี |
หุ้นเป็นตลาดการลงทุนหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ได้จริง แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่อยู่รอดในตลาดแห่งนี้เพราะขาดความรู้ความเข้าใจ ซึ่งหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเล่นหุ้นด้วยการทำกำไรแบบ Day Trade หรือการสร้ายรายได้ในระยะสั้น ไม่ถือยาว สามารถเลี้ยงชีพได้ในตลาดหุ้นโดยลดความเสี่ยงจากการวางแผนที่ถูกต้องก่อนเข้าตลาด เหมาะสำหรับผู้ที่พอมีประสบการณ์เทรดแล้วในระดับหนึ่ง
เพราะเนื้อหาภายในเล่มจะไม่ได้กล่าวถึงการเทรดขั้นพื้นฐาน การอธิบายกลไกการเทรดหรือเครื่องมือ แต่จะเน้นบอกเล่าเทคนิคสำหรับคนที่สนใจการ Day Trade เริ่มจากการอธิบายเบื้องต้น ความน่าจะเป็นในการทำเงิน การเตรียมความพร้อม เทคนิคทำกำไรในระยะสั้นที่เป็นเทคนิคส่วนตัวของผู้เขียนและที่สำคัญก็คือ ผู้เขียนได้ถ่ายทอดแนวคิดและการใช้จิตวิทยาในตลาดหุ้นให้ผู้อ่านได้ฝึกฝนทำตามเพื่อไม่ให้หวาดกลัวในตลาดลงทุนด้วย
เนื้อหาหลัก | เทคนิคการเล่นหุ้นระยะสั้น |
---|---|
ระดับเนื้อหา | กลาง-มืออาชีพ |
ชื่อเรื่องต้นฉบับ | ไม่ระบุ |
ผู้แปล | ไม่ระบุ |
สำนักพิมพ์ | ไม่ระบุ |
สำนักพิมพ์ต้นฉบับ | 7D BOOK |
เดือนปีที่เผยแพร่ | 2023 |
ความยาว | 224 หน้า |
รูปแบบ | ปกอ่อน |
เนื้อในพิมพ์ | 2 สี |
หนังสือเล่นหุ้นนั้นมีเนื้อหาหลากหลายรูปแบบ ส่วนหนึ่งก็เพื่อรองรับผู้อ่านตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงผู้ที่มีความเข้าใจในด้านนี้อยู่แล้ว ซึ่งเราหวังว่าวิธีการเลือกและ 10 อันดับ หนังสือเล่นหุ้นที่เราได้คัดสรรมาแนะนำในครั้งนี้ จะช่วยให้คุณเลือกซื้อหนังสือเล่นหุ้นที่ตรงกับความต้องการของคุณได้ รวมถึงนำไปพัฒนาองค์ความรู้ที่มี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพฝีมือการลงทุนให้ตัวเองได้มากที่สุดด้วยนั่นเอง
อันดับที่ 1: Benjamin Graham|หนังสือเล่นหุ้น คัมภีร์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า : The Intelligent Investor
อันดับที่ 2: Peter Lynch, John Rothchild|หนังสือเล่นหุ้น เหนือกว่าวอลสตรีท : ONE UP ON WALL STREET
อันดับที่ 3: Money Buffalo (มันนี บัฟฟะโล)|หนังสือเล่นหุ้น เข้าใจหุ้นก่อนเข้าซื้อ เทรดหรือถือก็ทำกำไร
อันดับที่ 4: Mark Minervini|หนังสือเล่นหุ้น Think & Trade Like a Champion : คิดและเทรดอย่างแชมป์เปี้ยน
อันดับที่ 5: William J. O'Neil|หนังสือเล่นหุ้น How to Make Money in Stocks (CANSLIM)
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ