ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
หากเอ่ยชื่อบริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง "Samsung" แล้วล่ะก็ หลายคนอาจจะนึกถึงทีวี, เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่น ๆ แต่ก็ยังมีผลิตภัณฑ์อีกชนิดหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ "โทรศัพท์ Samsung" นั่นเอง ในปัจจุบันโทรศัพท์ Samsung ทุกรุ่น จะใช้ชื่อเต็มว่า "Samsung Galaxy" และถูกแบ่งออกเป็นหลากหลายซีรีส์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกโทรศัพท์ Samsung แบบฉบับเข้าใจง่าย พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ตโฟนโดยเฉพาะ และยังมี 10 อันดับ โทรศัพท์ Samsung รุ่นยอดนิยม ทั้งรุ่นกล้องสวยสำหรับสายชอบถ่ายรูป รุ่นสเปกแรง เล่นเกมลื่นไหลสำหรับคอเกมมิ่ง รวมถึงรุ่นสำหรับใช้งานทั่วไปในราคาประหยัดมาแนะนำเพิ่มเติมด้วย
คุณแก้วจบจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มีความหลงใหลในด้านการถ่ายภาพ โดยผ่านงานการถ่ายภาพมาหลากหลายแนว ทั้ง Fashion, Architecture, Automobile, Product Still Life และอยู่ในสาขาอาชีพนี้มากว่า 10 ปี และหลังจากช่วงที่การใช้สมาร์ตโฟนถ่ายภาพได้รับความนิยมมากขึ้น คุณแก้วจึงได้มีโอกาสคลุกคลีในวงการนี้และได้ศึกษาอย่างจริงจัง จนได้เปิดเพจและเว็บไซต์ Mobile Photographer ขึ้นมาเพื่อสอนทั้งเทคนิคการถ่ายภาพให้กับผู้ที่สนใจและอัปเดตเทคโนโลยีวงการกล้อง โทรศัพท์ และอุปกรณ์ไอทีใหม่ ๆ อยู่ตลอด นอกจากเพจและเว็บไซต์แล้ว ปัจจุบันคุณแก้วยังได้ร่วมงานกับแบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลกมากมาย เช่น Samsung, OPPO, vivo, HUAWEI และ Realme อีกทั้งยังผ่านการรีวิวกล้องสมาร์ตโฟนมากว่า 50 รุ่น เคยขึ้นเวที Present สินค้ากับแบรนด์มากมาย รวมทั้งร่วมจัดงาน Workshop ถ่ายภาพให้กับลูกค้าของแบรนด์สมาร์ทโฟน นอกจากนี้ ยังเปิด Photography Course สอนการถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟนให้แก่ผู้ที่สนใจ และได้รับเชิญให้บรรยายหลักสูตรการสอนถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟนกับมหาวิทยาลัยชั้นนำอีกหลายแห่งอีกด้วย
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
โทรศัพท์จากทางแบรนด์ Samsung นั้นอยู่คู่กับตลาดประเทศไทยมายาวนานมาก ๆ จนเรียกได้ว่าเป็นผู้สร้างตลาดโทรศัพท์ Android ในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ โดยสิ่งที่ Samsung ในยุคปัจจุบันมีความโดดเด่นก็คือ โทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพสูงในทุกด้าน การใช้วัสดุตัวเครื่องที่มีความหรูหรา ไม่ว่าจะเป็นระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับเรือธงเลยก็ว่าได้ แถมกล้องถ่ายภาพก็ไม่เป็นรองใคร และยังมีคุณภาพการซูมภาพถ่ายระยะไกลได้มากสุดถึง 100 เท่ากันเลยทีเดียว
และด้วยความที่ Samsung ไม่ได้เป็นแค่แบรนด์โทรศัพท์ แต่ยังมีสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนตัวเองเป็น IoT เกือบหมดแล้ว ทำให้โทรศัพท์จากทาง Samsung นั้น นอกจากจะมีประสิทธิภาพในตัวเองสูงแล้ว ยังเป็นเหมือนจุดศูนย์กลางในการควบคุม IoT ในบ้านได้อีกด้วยครับ สำหรับคู่แข่งของ Samsung ในระดับโลก ถ้าเป็นเมื่อ 3 - 4 ปี ที่แล้วก็จะเป็น HUAWEI ซึ่งมาแรงมากในเวลานั้น แต่ปัจจุบันคู่แข่งรายใหญ่ของ Samsung คือ Apple สำหรับกลุ่มโทรศัพท์ระดับเรือธง แต่ถ้าเป็นระดับกลางหรือล่าง ก็จะเป็นโทรศัพท์แบรนด์จากเครือ BBK Electronic ตัวอย่างเช่น vivo, OPPO เป็นต้น ครับ
ถึงแม้ว่าโทรศัพท์ Samsung จะมีหลากหลายซีรีส์ หลากหลายรุ่น แต่ถ้าหากได้รู้จักกับวิธีการเลือกแล้ว ก็จะทำให้ตัดสินใจเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น ดังนั้นเรามาดูกันก่อนดีกว่าครับว่า วิธีการเลือกโทรศัพท์แบรนด์ Samsung นั้นมีอะไรบ้าง
"RAM (Random-Access Memory)" เป็นหน่วยความจำชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างมากต่อโทรศัพท์ ซึ่งหากมี RAM มากเท่าไร ก็จะทำให้โทรศัพท์มือถือของคุณใช้งานได้ลื่นไหลมากขึ้นเท่านั้น สำหรับโทรศัพท์ Samsung นั้น ถ้าเป็นรุ่น A Series และ M Series ในตัวเลขน้อย ๆ RAM จะเริ่มที่ 4GB แต่ทาง Samsung ก็ได้สร้างฟีเจอร์พิเศษขึ้นมาชื่อ RAM Plus ซึ่งเราสามารถนำ Storage ของเครื่องมาแปลงเป็น RAM เพิ่มเติมได้อีก 4GB ด้วย ส่วนรุ่นที่มีราคา 10,000 - 15,000 มักจะให้ RAM เริ่มต้น 8GB และยังหารุ่นที่มี RAM 12GB ได้ด้วย หากให้แบ่งจำนวน RAM เพื่อตอบโจทย์การใช้งานแล้วล่ะก็ ขอแบ่งง่าย ๆ ดังนี้
- RAM 4GB – 6GB : เหมาะสมกับการใช้งานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง, เล่น SNS หรือแอปพลิเคชันแชตต่าง ๆ
- RAM 8GB : เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย ดูหนังความละเอียดสูง 2K | 4K และใช้งาน HDR ได้ อีกทั้งยังให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีกว่า (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเวอร์ชันเทคโนโลยีของ RAM ด้วยนะครับ)
- RAM 8GB – 16GB : เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ใช้การประมวลผลของตัวเครื่องค่อนข้างหนัก ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมที่มีคุณภาพกราฟิกสูง รตกแต่งภาพที่ความละเอียดสูงระดับ 50MP และการตัดต่อวิดีโอที่ความละเอียดสูงกว่า Full HD ขึ้นไปครับ
ROM หรือ Storage ของตัวเครื่องสำหรับแบรนด์ Samsung ในรุ่นเริ่มต้นนั้น ในปัจจุบัน ถือว่าให้มาเยอะมากเป็นอันดับต้น ๆ ของตลาดเลยก็ว่าได้ โดยมักจะอยู่ที่ 64GB – 128GB อย่างในรุ่น Samsung Galaxy A14 5G ที่มีราคาประมาณ 6,000 บาท ก็ให้ ROM มาถึง 128GB กันเลยทีเดียว และยังรองรับการใส่ microSD Card เพิ่มความจุ ได้สูงสุดที่ 1TB ด้วยครับ
อย่างไรก็ตาม แม้จะให้ ROM มาเยอะถึง 128GB แล้วก็ตาม ความเร็วในการอ่าน-การเขียนก็อาจจะไม่ได้เทียบเท่ากับ ROM ที่อยู่ใน Samsung Galaxy A54 5G หรือ Samsung Galaxy S23 5G เพราะเวอร์ชันเทคโนโลยีในการผลิตยังต่างกันอยู่พอสมควร ส่วนความจุของ ROM กับการใช้งานที่เหมาะสม ขอแบ่งคร่าว ๆ ตามด้านล่างนี้
- ROM 64-128GB UFS 2.2 (A Series และ M Series ตัวเริ่มต้น) : เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ทำงานเอกสารได้ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมได้เล็กน้อย
- ROM 128-256GB UFS 3.1 (A Series ระดับกลาง เช่น A54 และ A34) : ใช้งานทั่วไปได้ลื่นไหลมากขึ้น สามารถโหลดไฟล์ภาพความละเอียดสูง 50MP ได้รวดเร็ว ดูหนังฟังเพลงจากไฟล์ความละเอียดสูงได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเล่นเกมกราฟิกระดับกลางไปจนถึงระดับสูงเล็กน้อยได้
- ROM 256GB UFS 4.0 (Galaxy S Series | Galaxy Flip & Fold) : รองรับการใช้งานได้หลากหลายกว่าเดิม และมีความลื่นไหลมากขึ้นอีกด้วย สามารถตัดต่อวิดีโอและเล่นเกมหนัก ๆ ได้สบาย
โทรศัพท์ Samsung ถือได้ว่าเป็นอีกแบรนด์ที่มีกล้องถ่ายรูปที่ทรงประสิทธิภาพ ความคมชัดสูง สำหรับใครที่มีความชื่นชอบในเรื่องของการถ่ายภาพแล้วล่ะก็ โทรศัพท์จากทางแบรนด์ Samsung ถือว่าตอบโจทย์ทุกคนได้ครับ โดยแนะนำให้เลือกโทรศัพท์ใน A Series ระดับบน ยกตัวอย่างเช่น Samsung Galaxy A34 และ Samsung Galaxy A54 5G ซึ่งใช้เซนเซอร์กล้องถ่ายภาพคุณภาพสูงที่มีความละเอียด 50MP แต่ทาง Samsung Galaxy A54 5G จะได้เปรียบตรงเซนเซอร์จากทาง Sony ที่เคยอยู่ในระดับเรือธงอย่าง IMX766 และกล้องหน้าความละเอียดสูง 32MP พร้อมประสิทธิภาพการถ่ายวิดีโอ 4K ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
ส่วนใครที่มีงบประมาณขึ้นมาสักหน่อย ขอแนะนำเป็น Samsung Galaxy S23 Series หรืออาจรุ่น Ultra ไปเลยก็ได้ เพราะใน Samsung Galaxy S23 Ultra ได้นำเซนเซอร์ตัวใหม่ที่ Samsung พัฒนาขึ้นมาโดยได้ความละเอียดสูงถึง 200MP เลยทีเดียว นอกจากนี้ ตัวเลนส์เองก็มีหลายระยะให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น Telephoto 3x | Telephoto 10x | Ultra Wide Angle อีกทั้งยังได้ Image Signal Processor ที่ทาง Samsung ร่วมกับออกแบบกับ Qualcomm ภายในชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy ครับ
คอเกมที่อยากจะใช้โทรศัพท์จากทางแบรนด์ Samsung นั้น มีข้อพิจารณาอยู่ประมาณ 4 ข้อที่เราควรจะมองหาให้ครบ อันได้แก่
1. เลือกโทรศัพท์ที่มีขนาดหน้าจอไม่เล็กจนเกินไป : สำหรับการเล่นเกมนั้น จำเป็นจะต้องมีพื้นที่ในการแสดงผล UI ต่าง ๆ บนหน้าจอ เพราะหากหน้าจอเล็กเกินไปก็อาจจะทำให้ส่วนควบคุมต่าง ๆ ทับซ้อนกันแล้วกดได้ยาก ถ้าเป็นไปได้ ให้เลือกรุ่นที่ได้หน้าจอแบบ Super AMOLED เพื่อการแสดงผลที่สวยงามครับ
2. เลือกโทรศัพท์รุ่นที่ใช้ชิปเซตที่มีความแรงเพียงพอ : ถ้ากราฟิกของเกมที่เราเล่นนั้นไม่สูงมาก ก็สามารถจะเลือกใช้ Samsung Galaxy A Series อาจจะเป็น Galaxy A34 หรือ Galaxy A54 ก็ได้ที่ใช้ชิปเซตของทาง Samsung พัฒนาขึ้นเองอย่าง Exynos แต่ถ้าเกมที่เราเล่นกราฟิกค่อนข้างสูง ใช้ทรัพยากรเครื่องเยอะ ให้เลือก Galaxy S Series ไปเลย เช่น Galaxy S21 FE หรือ Galaxy S23 ที่ได้ชิปเซตจากทาง Qualcomm Snapdragon
3. เลือกโทรศัพท์ที่มี RAM ขั้นต่ำ 8GB ขึ้นไป : เมื่อเราเล่นเกมไปเรื่อย ๆ ตัวเกมจะมีการสะสม Cache File ระหว่างเล่น ยิ่งถ้าหากเกมนั้น มีฉากที่กว้างและใช้ทรัพยากรสูง การมีขนาด RAM ที่มากไว้ก่อนก็จะช่วยให้ประสบการณ์ในการเล่นเกมราบรื่นมากยิ่งขึ้น
4. เลือกโทรศัพท์ที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่และระบายความร้อนได้ดี : แน่นอนว่าในการเล่นเกมนั้นเหมือนกับการใช้พลังของชิปเซตตลอดเวลาทำให้ต้องใช้พลังงานค่อนข้างเยอะ เราควรจะเลือกรุ่นที่ให้แบตเตอรี่มาที่ 4,500 mAh เป็นอย่างต่ำ นอกเหนือจากเรื่องแบตเตอรี่แล้ว ความร้อนก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องระวัง เพราะถ้าตัวเครื่องร้อนมาก ประสิทธิภาพจะลดลงเยอะ ให้เลือกรุ่นที่มีระบบ Liquid Cooling หรือ Vapor Cooling Chamber ขนาดใหญ่ด้วยก็จะดีครับ
โทรศัพท์ Samsung ได้มีการแบ่งซีรีส์ของแบรนด์ตนเองไว้สำหรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ให้สามารถตรวจสอบและเลือกซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้นตามงบประมาณที่มี ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็นซีรีส์ต่าง ๆ ดังนี้
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า จริง ๆ แล้ว Samsung Galaxy M Series นั้นเป็นซีรีส์ที่ทาง Samsung ได้พัฒนาขึ้นมาแข่งขันกับโทรศัพท์จากฝั่งประเทศจีนในระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับกลาง โดยจะเน้นไปที่ประสิทธิภาพของชิปเซ็ต, RAM และ ROM เป็นหลัก พวกลูกเล่นอำนวยความสะดวกหลาย ๆ อย่างก็อาจจะมีการถูกตัดออกไปบ้าง เช่น ระบบสแกนนิ้วใต้จอหรือฟีเจอร์ Samsung Pass, Samsung Pay ก็จะไม่สามารถใช้ได้
อีกทั้งตัววัสดุของตัวเครื่องส่วนใหญ่ก็จะเป็นพลาสติกทั้งหมดจึงอาจจะขาดความหรูหราไป ยกตัวอย่าง Samsung Galaxy M14 5G ที่เปิดตัวออกมาในช่วงต้นปี 2023 โดยเป็นโทรศัพท์ระดับราคาไม่ถึง 7,000 บาทที่รองรับ 5G และให้แบตเตอรี่มาสูงสุดถึง 6,000 mAh สามารถใช้งานทั่วไปได้ในระดับที่ดีเลยทีเดียว
สำหรับ Samsung Galaxy A นั้น เป็นซีรีส์ระดับกลาง (Mid-Range) ก่อนที่จะไปสู่ระดับเรือธง (Flagship) และระดับที่มีเทคโนโลยีสูงที่สุด (High-End) ในครั้งนี้ขอหยิบประเด็นมาพูด 2 รุ่นเด่น ๆ คือ Samsung Galaxy A34 5G ที่เน้นไปในเรื่องของความคุ้มค่าจากประสิทธิภาพของตัวเครื่องเป็นหลัก ได้ชิปเซ็ตที่มีความแรงพอสมควร หน้าจอและแบตเตอรี่มีขนาดใหญ่จึงใช้งานได้ทั้งความบันเทิงและงานทั่วไปได้ดี แม้อาจจะขาดความหรูหราไปบ้าง
อีกตัวก็คือ Samsung Galaxy A54 5G ที่ออกมาพร้อม A34 5G ซึ่งเป็นโทรศัพท์ระดับกลางจากแบรนด์ Samsung ที่ขายดีที่สุดในปีนี้ เพราะได้นำเทคโนโลยีที่อยู่ใน Galaxy S Series มาใส่ไว้แบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์กล้องถ่ายภาพระดับเรือธง ประสิทธิภาพในการถ่ายวิดีโอ 4K ได้ S Series และได้มีการอัปเกรดบอดี้ภายนอกให้หรูมากขึ้นด้วยฝาหลังแบบกระจกครับ
Samsung Galaxy S Series นั้น จริง ๆ แล้วสามารถแบ่งออกมาได้ 2 กลุ่มใหญ่ด้วยกัน ได้แก่ รุ่นธรรมดา และรุ่น + ที่หน้าตาเหมือนกัน ประสิทธิภาพเท่ากัน จะแตกต่างกันที่ขนาดของหน้าจอแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งก็คือ รุ่น Ultra ที่ได้แบ่งออกมาเพราะทาง Samsung ได้ตัด Galaxy Note ออกไปแล้ว แต่นำปากกา S Pen ไปไว้กับ Galaxy S22 Ultra และ S23 Ultra แทน ซึ่งทำให้ลักษณะการใช้งานแตกต่างกันไปอย่างชัดเจน
ส่วนใครที่กำลังมองหาโทรศัพท์ Samsung ในระดับเรือธง แต่ไม่ได้ต้องการใช้งาน S Pen และอยากได้ขนาดเครื่องขนาดพอดีพร้อมกล้องถ่ายภาพยอดเยี่ยม ก็คงต้องยกให้ Samsung Galaxy S และ S+ แต่ถ้าหากใครต้องการประสิทธิภาพในเรื่องของกล้องถ่ายภาพแบบสูงสุด โดยเฉพาะในเรื่องของการซูมและการถ่ายภาพความละเอียดสูง การเลือกรุ่น Ultra ก็จะตอบโจทย์ได้ครบถ้วนมากกว่าครับ
เป็นอีกซีรีส์เรือธงของโทรศัพท์ Samsung ที่โดยรวมแล้วมีสเปกคล้ายกันกับใน Samsung Galaxy S เพียงแต่มีรูปลักษณ์ที่ออกแบบมาได้ดูนำสมัยกว่า, มีขนาดจอที่ใหญ่กว่า และยังมาพร้อมกับปากกาสุดพิเศษอย่าง "S Pen" ที่สามารถตอบสนองต่อการเขียนบนหน้าจอโทรศัพท์ได้อย่างรวดเร็ว จึงเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับสายทำงานหรือนักศึกษา เพราะสามารถใช้ปากกา S Pen ในการจดบันทึก วาดภาพและตัดต่อได้อย่างสะดวก
นอกจากนี้ ยังเหนือชั้นมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบ Bluetooth ของปากกา จึงทำให้ควบคุมโทรศัพท์มือถือในบริบทต่าง ๆ ได้มากขึ้น เช่น การนำเสนอสไลด์ หรือใช้กดแทนชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปได้ครับ
สำหรับ Samsung Galaxy Z Flip และ Fold เป็นโทรศัพท์ในกลุ่มจอพับจากทาง Samsung ที่มีความต่างกันตรงที่ในรุ่น Flip นั้น จะมีลักษณะการพับคล้ายกับตลับแป้ง โดยเน้นไปที่ความสะดวกในการพกพาและ Gimmick ลูกเล่นในการใช้งาน อีกทั้งยังมองว่าเป็น Fashion Item ได้อีกด้วย โดยที่มีประสิทธิภาพตัวเครื่องในภาพรวมไม่ต่างจาก Galaxy S Series มากนัก
ส่วน Samsung Galaxy Z Fold เป็นโทรศัพท์ในกลุ่มจอพับเช่นกัน แต่จะเน้นประสิทธิภาพในการใช้งานของตัวเครื่องเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเป็น Business Phone หรือใช้ในชีวิตประจำวันที่สามารถวางโทรศัพท์ในแนวตั้งฉากได้โดยไม่ต้องพึ่งขาตั้งนั่นเอง ที่สำคัญ รุ่นนี้เองยังรองรับการใช้งานปากกา S Pen เหมือนกับ Galaxy S รุ่น Ultra ด้วยครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | ราคา | คะแนน | รายละเอียด | ||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ซีรีส์ | ขนาดจอ | ประเภทหน้าจอ | น้ำหนัก | ขนาดตัวเครื่อง | ความจุ | ชิปเซ็ต | RAM | ROM | ความละเอียดกล้องหน้า | ความละเอียดกล้องหลัง | Refresh Rate | แบตเตอรี่ | การเชื่อมต่อไร้สาย | ระบบปฏิบัติการ | ระบบเสียง | เหมาะสำหรับ | การรับประกันสินค้า | เซนเซอร์ | สี | ระดับการกันน้ำกันฝุ่น | จำนวนซิมที่รองรับ | รองรับการชาร์จไว | รองรับปากกา Stylus | ระบบสแกนลายนิ้วมือ | ระบบจดจำใบหน้า | ||||||
1 | SAMSUNG Samsung รุ่น Galaxy A54 5G | 13,490 บาท ราคาปานกลาง | รองรับการถ่ายวิดีโอ UHD 4K มีระบบกันสั่นและออโต้โฟกัสในตัว | Galaxy A | 6.40 นิ้ว | Super AMOLED | 0.20 กก. | 15.82 x 0.82 x 7.67 ซม. | 8/256 GB | Exynos 1380 | 8 GB | 256 GB | 32 MP | 50 + 12 + 5 MP | 120 Hz | 5000 mAh | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac | One UI 5.1 based on Android 13 | Dolby Atmos | คนที่มองหาโทรศัพท์ตอบโจทย์การใช้งานทุกแง่มุมในราคาระดับกลาง | 1 ปี | Accelerometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Virtual Light Sensing, Virtual Proximity Sensing | Awesome Graphite, Light Green, Light Violet | IP 67 | 2 | ||||||
2 | Samsung Samsung รุ่น Galaxy A14 5G | 6,739 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | แบตอึดทนใช้งานได้นานตลอดวัน มาพร้อมกล้องหลังถึง 3 ตัว | Galaxy A | 6.60 นิ้ว | PLS TFT LCD | 0.20 กก. | 16.77 x 0.91 x 7.8 ซม. | 4/128 GB | Mediatek Dimensity 700 Octa Core | 4 GB | 128 GB | 13 MP | 50 + 2 + 2 MP | 90 Hz | 5000 mAh | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac | One UI 5.0 Android 13 | ไม่ระบุ | คนที่มองหาโทรศัพท์ตอบโจทย์การใช้งานทุกแง่มุมในราคาระดับกลาง | 1 ปี | Accelerometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor | Silver, Black | ไม่ระบุ | 2 | ||||||
3 | SAMSUNG Samsung รุ่น Galaxy S22 Ultra | 28,690 บาท ราคาค่อนข้างสูง | มาพร้อมปากกา Stylus ช่วยขีดเขียน มี AI ช่วยประหยัดพลังงาน | Galaxy S | 6.80 นิ้ว | Dynamic AMOLED | 0.23 กก. | 16.33 x 0.89 x 7.79 ซม. | 12/256 GB | Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 | 12 GB | 256 GB | 40 MP | 108 + 12 + 10 + 10 MP | 120 Hz | 5000 mAh | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e | One UI 4.1 based on Android 12 | Tuned by AKG | คนชอบเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ ๆ | 1 ปี | Accelerometer, Barometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor | Burgundy, Green, Phantom Black, Phantom White, Graphite, Sky Blue, Red | IP 68 | 2 | ||||||
4 | SAMSUNG Samsung รุ่น Galaxy S23 Ultra | 34,900 บาท ราคาค่อนข้างสูง | ชิปเซตเรือธงเร็วและแรง กล้องหลัก 200MP ภาพคมชัดสดใส | Galaxy S | 6.80 นิ้ว | Dynamic AMOLED 2X | 0.23 กก. | 16.34 x 0.89 x 7.81 ซม. | 8/256 GB | Snapdragon 8 Gen 2 | 8 GB | 256 GB | 12 MP | 200 + 12 + 10 + 10 MP | 120 Hz | 5000 mAh | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 | One UI 5.1 based on Android 13 | Dolby Atmos | คนชอบเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ ๆ | 1 ปี | Accelerometer, Barometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor | Green, Lavender, Cream, PHANTOM BLACK | IP 68 | 2 | ||||||
5 | SAMSUNG Samsung รุ่น Galaxy A24 | 7,999 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | หน้าจอ Super AMOLED สีสันสดใส มาพร้อมโหมดถนอมสายตา | Galaxy A | 6.5 นิ้ว | Super AMOLED | 0.19 กก. | 16.21 x 0.83 x 7.76 ซม. | 6/128 GB | MediaTek Helio G99 Octa Core | 6 GB | 128 GB | 13 MP | 50 + 5 + 2 MP | 90 Hz | 5000 mAh | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac | One UI 5.1 based on Android 13 | - | คนที่มองหาโทรศัพท์ตอบโจทย์การใช้งานทุกแง่มุมในราคาระดับกลาง | 1 ปี | Accelerometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Light Sensor, Virtual Proximity Sensing | Sliver, Black | - | 2 | ||||||
6 | SAMSUNG Samsung รุ่น Galaxy A23 5G | 8,190 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | รองรับเครือข่าย 5G ใช้ชิป Snapdragon ประมวลผลได้รวดเร็ว | Galaxy A | 6.6 นิ้ว | PLS LCD | 0.2 กก. | 16.54 x 0.84 x 7.69 ซม. | 8/128 GB | Snapdragon 695 | 8 GB | 128 GB | 8 MP | 50 + 5 + 2 + 2 MP | 120 Hz | 5000 mAh | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac | One UI 4 | Dolby Atmos | คนที่มองหาโทรศัพท์ตอบโจทย์การใช้งานทุกแง่มุมในราคาระดับกลาง | 1 ปี | Accelerometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Virtual Light Sensing, Virtual Proximity Sensing | Black, Light Blue, Silver Bright | - | 2 | ||||||
7 | SAMSUNG Samsung รุ่น Galaxy A34 | 10,590 บาท ราคาปานกลาง | หน้าจอ Super AMOLED 120Hz ให้ภาพคมชัด สัมผัสลื่นไหล | Galaxy A | 6.60 นิ้ว | Super AMOLED | 0.19 กก. | 16.13 x 0.82 x 7.81 ซม. | 8/256 GB | Mediatek MT6877 | 8 GB | 256 GB | 13 MP | 48 + 8 + 5 MP | 120 Hz | 5000 mAh | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac | One UI 4.0 based on Android 12 | Dolby Atmos | คนที่มองหาโทรศัพท์ตอบโจทย์การใช้งานทุกแง่มุมในราคาระดับกลาง | 1 ปี | Accelerometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Light Sensor, Virtual Proximity Sensing | Silver, Light Violet, Black | IP 67 | 2 | ||||||
8 | SAMSUNG Samsung รุ่น Galaxy S21 FE 5G | 16,900 บาท ราคาปานกลาง | กล้องเซลฟี่คมชัด ถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าและหลังพร้อมกันได้ | Galaxy S | 6.4 นิ้ว | Dynamic AMOLED 2X | 0.17 กก. | 15.57 x 0.79 x 7.45 ซม. | 8/256 GB | Exynos 2100 | 8 GB | 256 GB | 32 MP | 12 + 12 + 8 MP | 120 Hz | 4500 mAh | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac | Android 12 | - | คนที่มองหาโทรศัพท์ตอบโจทย์การใช้งานทุกแง่มุมในราคาระดับกลาง | 1 ปี | Accelerometer, Barometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor | Olive, Lavender, Graphite, White | IP 68 | 2 | ||||||
9 | SAMSUNG Samsung รุ่น Galaxy S23 5G | 26,858 บาท ราคาค่อนข้างสูง | เรือธงรุ่นเล็ก มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68 ผลิตด้วยวัสดุรีไซเคิล | Galaxy S | 6.10 นิ้ว | Dynamic AMOLED 2X | 0.17 กก. | 14.63 x 0.76 x 7.09 ซม. | 8/128 GB | Snapdragon 8 Gen 2 | 8 GB | 128 GB | 12 MP | 50 + 12 +10 MP | 120 Hz | 3900 mAh | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 | One UI 5.1 based on Android 13 | Dolby Atmos | คนชอบเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ ๆ | 1 ปี | Accelerometer, Barometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor | Cream, Lavender, Green, PHANTOM BLACK | IP 68 | 2 | ||||||
10 | SAMSUNG Samsung รุ่น Galaxy A05s | 5,499 บาท ราคาต่ำ | ความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ อยู่ได้นานทั้งวัน รองรับการชาร์จไว | Galaxy A | 6.7 นิ้ว | PLS LCD | 0.19 กก. | 16.8 x 0.88 x 7.78 ซม. | 6/128 GB | Snapdragon 680 | 6 GB | 128 GB | 13 MP | 50 + 2 + 2 MP | 90 Hz | 5000 mAh | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac | One UI 5.1 based on Android 13 | - | คนที่มองหาโทรศัพท์ตอบโจทย์การใช้งานทุกแง่มุมในราคาระดับกลาง | 1 ปี | Accelerometer, Fingerprint Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor | Silver, Black | - | 2 |
สมาร์ตโฟนที่มาพร้อมกับชิปเซต Exynos 1380 สามารถเล่นเกมกราฟิกระดับกลาง ๆ ได้สบาย รองรับเครือข่าย 5G แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh ใช้งานได้นานทั้งวัน ในส่วนของหน้าจอเป็น Super AMOLED ความละเอียด FHD+ แสดงผลภาพสีสันสดใส อัตรารีเฟรชสูง 120Hz ตอบสนองรวดเร็วทันใจ และในส่วนของกล้องก็มีถึง 4 ตัว โดยรุ่นนี้ให้กล้องหน้าที่ความละเอียด 32MP กล้องหลัง 50MP ทั้งยังมีเลนส์อัลตราไวด์ 12MP และเลนส์มาโคร 5MP รองรับการถ่ายวิดีโอ UHD 4K ที่มาพร้อมกับระบบกันสั่นและออโต้โฟกัส
ซีรีส์ | Galaxy A |
---|---|
ขนาดจอ | 6.40 นิ้ว |
ประเภทหน้าจอ | Super AMOLED |
น้ำหนัก | 0.20 กก. |
ขนาดตัวเครื่อง | 15.82 x 0.82 x 7.67 ซม. |
ความจุ | 8/256 GB |
ชิปเซ็ต | Exynos 1380 |
RAM | 8 GB |
ROM | 256 GB |
ความละเอียดกล้องหน้า | 32 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 50 + 12 + 5 MP |
Refresh Rate | 120 Hz |
แบตเตอรี่ | 5000 mAh |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac |
ระบบปฏิบัติการ | One UI 5.1 based on Android 13 |
ระบบเสียง | Dolby Atmos |
เหมาะสำหรับ | คนที่มองหาโทรศัพท์ตอบโจทย์การใช้งานทุกแง่มุมในราคาระดับกลาง |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
เซนเซอร์ | Accelerometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Virtual Light Sensing, Virtual Proximity Sensing |
สี | Awesome Graphite, Light Green, Light Violet |
ระดับการกันน้ำกันฝุ่น | IP 67 |
จำนวนซิมที่รองรับ | 2 |
รองรับการชาร์จไว | |
รองรับปากกา Stylus | |
ระบบสแกนลายนิ้วมือ | |
ระบบจดจำใบหน้า |
สมาร์ตโฟนราคาย่อมเยาที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานทั่วไป ด้วยความจุหน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB และ ROM ขนาด 128GB เพียงพอต่อการเล่นแอปโซเชียลหรือเล่นเกมกราฟิกที่ไม่สูงมากนักได้สบาย ๆ มีความจุแบตเตอรี่ 5,000 mAh สามารถใช้งานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมงและรองรับการชาร์จไว โทรศัพท์รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับเลนส์กล้องถึง 4 ตัว แบ่งเป็นกล้องหน้า 1 ตัว และกล้องหลัง 3 ตัว ที่มีเซนเซอร์วัดระยะสำหรับเลนส์ Depth และ Macro เพื่อการถ่ายรูปที่หลากหลายยิ่งขึ้น
ซีรีส์ | Galaxy A |
---|---|
ขนาดจอ | 6.60 นิ้ว |
ประเภทหน้าจอ | PLS TFT LCD |
น้ำหนัก | 0.20 กก. |
ขนาดตัวเครื่อง | 16.77 x 0.91 x 7.8 ซม. |
ความจุ | 4/128 GB |
ชิปเซ็ต | Mediatek Dimensity 700 Octa Core |
RAM | 4 GB |
ROM | 128 GB |
ความละเอียดกล้องหน้า | 13 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 50 + 2 + 2 MP |
Refresh Rate | 90 Hz |
แบตเตอรี่ | 5000 mAh |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac |
ระบบปฏิบัติการ | One UI 5.0 Android 13 |
ระบบเสียง | ไม่ระบุ |
เหมาะสำหรับ | คนที่มองหาโทรศัพท์ตอบโจทย์การใช้งานทุกแง่มุมในราคาระดับกลาง |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
เซนเซอร์ | Accelerometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor |
สี | Silver, Black |
ระดับการกันน้ำกันฝุ่น | ไม่ระบุ |
จำนวนซิมที่รองรับ | 2 |
รองรับการชาร์จไว | |
รองรับปากกา Stylus | |
ระบบสแกนลายนิ้วมือ | |
ระบบจดจำใบหน้า |
สมาร์ตโฟนรุ่นเรือธงที่มีเทคโนโลยี Adaptive Pixel Technology ช่วยให้การถ่ายภาพในเวลากลางคืนหรือที่มีแสงน้อยทำได้ดีขึ้น โดยรุ่นนี้ประกอบด้วยกล้องหลัง 4 เลนส์ ซึ่งกล้องหลักมีความละเอียด 108MP และกล้องหน้า 40MP อีกทั้งยังรองรับการซูมดิจิทัลได้ถึง 100 เท่า พร้อมระบบกันสั่น OIS สามารถถ่ายวิดีโอได้ถึงระดับ 8K เลยทีเดียว ตัวเครื่องมาพร้อมกับปากกาสไตลัส S-Pen สามารถใช้จดบันทึกหรือวาดรูปได้อย่างสะดวก มี AI ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ รองรับการชาร์จไว 45W
ซีรีส์ | Galaxy S |
---|---|
ขนาดจอ | 6.80 นิ้ว |
ประเภทหน้าจอ | Dynamic AMOLED |
น้ำหนัก | 0.23 กก. |
ขนาดตัวเครื่อง | 16.33 x 0.89 x 7.79 ซม. |
ความจุ | 12/256 GB |
ชิปเซ็ต | Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 |
RAM | 12 GB |
ROM | 256 GB |
ความละเอียดกล้องหน้า | 40 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 108 + 12 + 10 + 10 MP |
Refresh Rate | 120 Hz |
แบตเตอรี่ | 5000 mAh |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e |
ระบบปฏิบัติการ | One UI 4.1 based on Android 12 |
ระบบเสียง | Tuned by AKG |
เหมาะสำหรับ | คนชอบเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ ๆ |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
เซนเซอร์ | Accelerometer, Barometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor |
สี | Burgundy, Green, Phantom Black, Phantom White, Graphite, Sky Blue, Red |
ระดับการกันน้ำกันฝุ่น | IP 68 |
จำนวนซิมที่รองรับ | 2 |
รองรับการชาร์จไว | |
รองรับปากกา Stylus | |
ระบบสแกนลายนิ้วมือ | |
ระบบจดจำใบหน้า |
สมาร์ตโฟนตัวท็อปรุ่นใหม่ที่ใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธง Snapdragon 8 Gen 2 โดดเด่นในเรื่องของความเร็วแรงและช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X มาพร้อมกับอัตราการรีเฟรช 120 Hz จึงได้ภาพคมชัดสีสันสดใส ทั้งยังเล่นเกมกราฟิกสูงได้อย่างลื่นไหล ไม่สะดุด มีความจุ RAM 8GB และ ROM 256GB ช่วยให้เก็บข้อมูลได้เยอะ จุดเด่นอีกอย่างของรุ่นนี้ก็คือการทำงานของกล้องที่มีถึง 5 ตัว รองรับโหมดถ่ายภาพหลายแบบ สามารถกำจัดนอยส์และโฟกัสวัตถุได้แม่นยำ
ซีรีส์ | Galaxy S |
---|---|
ขนาดจอ | 6.80 นิ้ว |
ประเภทหน้าจอ | Dynamic AMOLED 2X |
น้ำหนัก | 0.23 กก. |
ขนาดตัวเครื่อง | 16.34 x 0.89 x 7.81 ซม. |
ความจุ | 8/256 GB |
ชิปเซ็ต | Snapdragon 8 Gen 2 |
RAM | 8 GB |
ROM | 256 GB |
ความละเอียดกล้องหน้า | 12 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 200 + 12 + 10 + 10 MP |
Refresh Rate | 120 Hz |
แบตเตอรี่ | 5000 mAh |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 |
ระบบปฏิบัติการ | One UI 5.1 based on Android 13 |
ระบบเสียง | Dolby Atmos |
เหมาะสำหรับ | คนชอบเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ ๆ |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
เซนเซอร์ | Accelerometer, Barometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor |
สี | Green, Lavender, Cream, PHANTOM BLACK |
ระดับการกันน้ำกันฝุ่น | IP 68 |
จำนวนซิมที่รองรับ | 2 |
รองรับการชาร์จไว | |
รองรับปากกา Stylus | |
ระบบสแกนลายนิ้วมือ | |
ระบบจดจำใบหน้า |
สมาร์ตโฟนระดับกลางที่ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio G99 Octa Core เหมาะกับการใช้งานทั่วไปและสายเล่นเกมกราฟิกระดับกลาง โดยชิปตัวนี้จะช่วยประหยัดพลังงานทำให้แบตเตอรี่อยู่ได้นานขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่ทำให้เกิดค่า Ping ต่ำ รุ่นนี้มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว หน้าจอเป็นแบบ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ แสดงผลภาพสีสันสดใสชัดเจน อีกทั้งยังมีโหมดป้องกันแสงสีฟ้าช่วยถนอมสายตาอีกด้วย
ซีรีส์ | Galaxy A |
---|---|
ขนาดจอ | 6.5 นิ้ว |
ประเภทหน้าจอ | Super AMOLED |
น้ำหนัก | 0.19 กก. |
ขนาดตัวเครื่อง | 16.21 x 0.83 x 7.76 ซม. |
ความจุ | 6/128 GB |
ชิปเซ็ต | MediaTek Helio G99 Octa Core |
RAM | 6 GB |
ROM | 128 GB |
ความละเอียดกล้องหน้า | 13 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 50 + 5 + 2 MP |
Refresh Rate | 90 Hz |
แบตเตอรี่ | 5000 mAh |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac |
ระบบปฏิบัติการ | One UI 5.1 based on Android 13 |
ระบบเสียง | - |
เหมาะสำหรับ | คนที่มองหาโทรศัพท์ตอบโจทย์การใช้งานทุกแง่มุมในราคาระดับกลาง |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
เซนเซอร์ | Accelerometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Light Sensor, Virtual Proximity Sensing |
สี | Sliver, Black |
ระดับการกันน้ำกันฝุ่น | - |
จำนวนซิมที่รองรับ | 2 |
รองรับการชาร์จไว | |
รองรับปากกา Stylus | |
ระบบสแกนลายนิ้วมือ | |
ระบบจดจำใบหน้า |
ซีรีส์ | Galaxy A |
---|---|
ขนาดจอ | 6.6 นิ้ว |
ประเภทหน้าจอ | PLS LCD |
น้ำหนัก | 0.2 กก. |
ขนาดตัวเครื่อง | 16.54 x 0.84 x 7.69 ซม. |
ความจุ | 8/128 GB |
ชิปเซ็ต | Snapdragon 695 |
RAM | 8 GB |
ROM | 128 GB |
ความละเอียดกล้องหน้า | 8 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 50 + 5 + 2 + 2 MP |
Refresh Rate | 120 Hz |
แบตเตอรี่ | 5000 mAh |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac |
ระบบปฏิบัติการ | One UI 4 |
ระบบเสียง | Dolby Atmos |
เหมาะสำหรับ | คนที่มองหาโทรศัพท์ตอบโจทย์การใช้งานทุกแง่มุมในราคาระดับกลาง |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
เซนเซอร์ | Accelerometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Virtual Light Sensing, Virtual Proximity Sensing |
สี | Black, Light Blue, Silver Bright |
ระดับการกันน้ำกันฝุ่น | - |
จำนวนซิมที่รองรับ | 2 |
รองรับการชาร์จไว | |
รองรับปากกา Stylus | |
ระบบสแกนลายนิ้วมือ | |
ระบบจดจำใบหน้า |
สมาร์ตโฟนระดับกลางที่ใช้หน้าจอชนิด Super AMOLED ความสว่าง 1,000nits ที่ช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจน มาพร้อมอัตรารีเฟรช 120 Hz สลับแอปไปมาได้อย่างลื่นไหล หรือจะเล่นเกมกราฟิกระดับกลางก็เล่นได้ สามารถปลดล็อกโทรศัพท์ด้วยฟังก์ชันสแกนนิ้วมือและใบหน้า แม้จะเป็นรุ่นระดับกลางแต่ก็รองรับเครือข่าย 5G มีกล้องหลังและกล้องหน้ารวมกันถึง 4 ตัว ให้ความละเอียดสูงสุดที่ 48MP โดยมี AI ช่วยปรับแต่งภาพ อีกทั้งยังสามารถถ่ายวิดีโอระดับ 4K ได้อีกด้วย
ซีรีส์ | Galaxy A |
---|---|
ขนาดจอ | 6.60 นิ้ว |
ประเภทหน้าจอ | Super AMOLED |
น้ำหนัก | 0.19 กก. |
ขนาดตัวเครื่อง | 16.13 x 0.82 x 7.81 ซม. |
ความจุ | 8/256 GB |
ชิปเซ็ต | Mediatek MT6877 |
RAM | 8 GB |
ROM | 256 GB |
ความละเอียดกล้องหน้า | 13 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 48 + 8 + 5 MP |
Refresh Rate | 120 Hz |
แบตเตอรี่ | 5000 mAh |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac |
ระบบปฏิบัติการ | One UI 4.0 based on Android 12 |
ระบบเสียง | Dolby Atmos |
เหมาะสำหรับ | คนที่มองหาโทรศัพท์ตอบโจทย์การใช้งานทุกแง่มุมในราคาระดับกลาง |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
เซนเซอร์ | Accelerometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Light Sensor, Virtual Proximity Sensing |
สี | Silver, Light Violet, Black |
ระดับการกันน้ำกันฝุ่น | IP 67 |
จำนวนซิมที่รองรับ | 2 |
รองรับการชาร์จไว | |
รองรับปากกา Stylus | |
ระบบสแกนลายนิ้วมือ | |
ระบบจดจำใบหน้า |
สมาร์ตโฟนตระกูล Galaxy S รุ่น FE เป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพรองลงมาจากรุ่นเรือธงตัวท็อป แต่ก็ยังคงมีฟังก์ชันที่น่าสนใจในราคาที่ย่อมเยากว่า ซึ่งรุ่น S21 FE มีโหมด Dual Recording ที่สามารถถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าและกล้องหลังได้พร้อมกัน เหมาะกับสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ อีกทั้งยังถ่ายวิดีโอระดับ UHD 4K ได้ด้วย โดยกล้องหน้านั้นให้ความละเอียดสูงสุดที่ 32 MP ตัวเครื่องมาพร้อมกับความจุ ROM 256 GB เก็บรูปภาพและวิดีโอได้มาก ดูคอนเทนต์ได้คมชัดผ่านจอ Dynamic AMOLED
ซีรีส์ | Galaxy S |
---|---|
ขนาดจอ | 6.4 นิ้ว |
ประเภทหน้าจอ | Dynamic AMOLED 2X |
น้ำหนัก | 0.17 กก. |
ขนาดตัวเครื่อง | 15.57 x 0.79 x 7.45 ซม. |
ความจุ | 8/256 GB |
ชิปเซ็ต | Exynos 2100 |
RAM | 8 GB |
ROM | 256 GB |
ความละเอียดกล้องหน้า | 32 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 12 + 12 + 8 MP |
Refresh Rate | 120 Hz |
แบตเตอรี่ | 4500 mAh |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac |
ระบบปฏิบัติการ | Android 12 |
ระบบเสียง | - |
เหมาะสำหรับ | คนที่มองหาโทรศัพท์ตอบโจทย์การใช้งานทุกแง่มุมในราคาระดับกลาง |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
เซนเซอร์ | Accelerometer, Barometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor |
สี | Olive, Lavender, Graphite, White |
ระดับการกันน้ำกันฝุ่น | IP 68 |
จำนวนซิมที่รองรับ | 2 |
รองรับการชาร์จไว | |
รองรับปากกา Stylus | |
ระบบสแกนลายนิ้วมือ | |
ระบบจดจำใบหน้า |
สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นเล็กสุดในตระกูล S แต่ใช้ชิปเซตและหน้าจอชนิดเดียวกันกับตัวท็อป ทั้งยังมีเทคโนโลยี Adaptive 120Hz ช่วยปรับความสว่างของหน้าจอให้เข้ากับทุกสภาพแสง สามารถเลื่อนหน้าจอหรือเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ด้านเทคโนโลยีกล้องก็มี Dual Pixel ที่กล้องหน้า ช่วยให้ภาพเซลฟี่คมชัด เก็บรายละเอียดได้ดีแม้จะถ่ายในที่แสงน้อย และฟังก์ชัน Photo Remaster ที่สามารถปรับภาพที่เบลอและมืดให้ดูสว่างและคมชัดขึ้นได้ แม้จะเป็นรูปที่ดาวน์โหลดมาจากแหล่งอื่นก็ตาม
ซีรีส์ | Galaxy S |
---|---|
ขนาดจอ | 6.10 นิ้ว |
ประเภทหน้าจอ | Dynamic AMOLED 2X |
น้ำหนัก | 0.17 กก. |
ขนาดตัวเครื่อง | 14.63 x 0.76 x 7.09 ซม. |
ความจุ | 8/128 GB |
ชิปเซ็ต | Snapdragon 8 Gen 2 |
RAM | 8 GB |
ROM | 128 GB |
ความละเอียดกล้องหน้า | 12 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 50 + 12 +10 MP |
Refresh Rate | 120 Hz |
แบตเตอรี่ | 3900 mAh |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6 |
ระบบปฏิบัติการ | One UI 5.1 based on Android 13 |
ระบบเสียง | Dolby Atmos |
เหมาะสำหรับ | คนชอบเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ ๆ |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
เซนเซอร์ | Accelerometer, Barometer, Fingerprint Sensor, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Hall Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor |
สี | Cream, Lavender, Green, PHANTOM BLACK |
ระดับการกันน้ำกันฝุ่น | IP 68 |
จำนวนซิมที่รองรับ | 2 |
รองรับการชาร์จไว | |
รองรับปากกา Stylus | |
ระบบสแกนลายนิ้วมือ | |
ระบบจดจำใบหน้า |
ซีรีส์ | Galaxy A |
---|---|
ขนาดจอ | 6.7 นิ้ว |
ประเภทหน้าจอ | PLS LCD |
น้ำหนัก | 0.19 กก. |
ขนาดตัวเครื่อง | 16.8 x 0.88 x 7.78 ซม. |
ความจุ | 6/128 GB |
ชิปเซ็ต | Snapdragon 680 |
RAM | 6 GB |
ROM | 128 GB |
ความละเอียดกล้องหน้า | 13 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 50 + 2 + 2 MP |
Refresh Rate | 90 Hz |
แบตเตอรี่ | 5000 mAh |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac |
ระบบปฏิบัติการ | One UI 5.1 based on Android 13 |
ระบบเสียง | - |
เหมาะสำหรับ | คนที่มองหาโทรศัพท์ตอบโจทย์การใช้งานทุกแง่มุมในราคาระดับกลาง |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
เซนเซอร์ | Accelerometer, Fingerprint Sensor, Light Sensor, Proximity Sensor |
สี | Silver, Black |
ระดับการกันน้ำกันฝุ่น | - |
จำนวนซิมที่รองรับ | 2 |
รองรับการชาร์จไว | |
รองรับปากกา Stylus | |
ระบบสแกนลายนิ้วมือ | |
ระบบจดจำใบหน้า |
โทรศัพท์ Samsung เป็นแบรนด์โทรศัพท์ที่ผู้ใช้งานทั่วโลกต่างให้การยอมรับเป็นอย่างดี เนื่องด้วยรุ่นและซีรีส์ที่มีวางออกมาจำหน่ายอย่างหลากหลาย ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่ม ซึ่งก่อนที่คุณจะทำการเลือกซื้อโทรศัพท์จากแบรนด์ดังกล่าวมาใช้งาน คุณควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นสเปกเครื่อง ประเภทหน้าจอ รวมไปถึงซีรีส์ที่เหมาะสม เพื่อที่จะได้โทรศัพท์ที่ตอบโจทย์การใช้งาน และตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุดนั่นเองครับ
อันดับที่ 1: SAMSUNG|Samsung รุ่น Galaxy A54 5G
อันดับที่ 2: Samsung|Samsung รุ่น Galaxy A14 5G
อันดับที่ 3: SAMSUNG|Samsung รุ่น Galaxy S22 Ultra
อันดับที่ 4: SAMSUNG|Samsung รุ่น Galaxy S23 Ultra
อันดับที่ 5: SAMSUNG|Samsung รุ่น Galaxy A24
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ