mybest
โทรศัพท์ 5G

ให้ทุกการเลือกเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ปิด
  1. TOP
  2. สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
  3. โทรศัพท์มือถือ
  4. 10 อันดับ โทรศัพท์ 5G รุ่นไหนดี ปี 2024 เร็ว แรง รับสัญญาณดี
  • 10 อันดับ โทรศัพท์ 5G รุ่นไหนดี ปี 2024 เร็ว แรง รับสัญญาณดี 1
  • 10 อันดับ โทรศัพท์ 5G รุ่นไหนดี ปี 2024 เร็ว แรง รับสัญญาณดี 2
  • 10 อันดับ โทรศัพท์ 5G รุ่นไหนดี ปี 2024 เร็ว แรง รับสัญญาณดี 3
  • 10 อันดับ โทรศัพท์ 5G รุ่นไหนดี ปี 2024 เร็ว แรง รับสัญญาณดี 4
  • 10 อันดับ โทรศัพท์ 5G รุ่นไหนดี ปี 2024 เร็ว แรง รับสัญญาณดี 5

10 อันดับ โทรศัพท์ 5G รุ่นไหนดี ปี 2024 เร็ว แรง รับสัญญาณดี

ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทุกวันนี้ ไม่ว่าใครก็คงอยากใช้โทรศัพท์ที่มาพร้อมกับสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็ว เพื่อที่จะไม่พลาดในทุกเนื้อหาสาระหรือสิ่งบันเทิงต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เน็ตในการเข้าถึง ซึ่งโทรศัพท์ ที่ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานที่เน้นความเร็วทันใจมากที่สุดก็คือ โทรศัพท์ 5G ที่รองรับสัญญาณอินเทอร์เน็ต 5G ซึ่งจะมีความรวดเร็วหลายเท่าตัวเมื่อเทียบกับสัญญาณ 4G เลยทีเดียว


บทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกโทรศัพท์ 5G ให้เหมาะกับการใช้งาน พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ตโฟนโดยเฉพาะ และยังมี 10 อันดับ โทรศัพท์ 5G รุ่นยอดนิยมจากหลากหลายยี่ห้อ ทั้ง Android และ iOS ตั้งแต่รุ่นเรือธงไปจนถึงรุ่นราคาย่อมเยามาเป็นไอเดียในการเลือกซื้อให้อีกด้วย 

อัปเดตล่าสุดเมื่อ 09/10/2023
สิทธิกิตติ์ รวิวีรวรรณ (แก้ว)
ผู้เชี่ยวชาญ
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฟน / ช่างภาพ
สิทธิกิตติ์ รวิวีรวรรณ (แก้ว)

คุณแก้วจบจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต มีความหลงใหลในด้านการถ่ายภาพ โดยผ่านงานการถ่ายภาพมาหลากหลายแนว ทั้ง Fashion, Architecture, Automobile, Product Still Life และอยู่ในสาขาอาชีพนี้มากว่า 10 ปี และหลังจากช่วงที่การใช้สมาร์ตโฟนถ่ายภาพได้รับความนิยมมากขึ้น คุณแก้วจึงได้มีโอกาสคลุกคลีในวงการนี้และได้ศึกษาอย่างจริงจัง จนได้เปิดเพจและเว็บไซต์ Mobile Photographer ขึ้นมาเพื่อสอนทั้งเทคนิคการถ่ายภาพให้กับผู้ที่สนใจและอัปเดตเทคโนโลยีวงการกล้อง โทรศัพท์ และอุปกรณ์ไอทีใหม่ ๆ อยู่ตลอด นอกจากเพจและเว็บไซต์แล้ว ปัจจุบันคุณแก้วยังได้ร่วมงานกับแบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลกมากมาย เช่น Samsung, OPPO, vivo, HUAWEI และ Realme อีกทั้งยังผ่านการรีวิวกล้องสมาร์ตโฟนมากว่า 50 รุ่น เคยขึ้นเวที Present สินค้ากับแบรนด์มากมาย รวมทั้งร่วมจัดงาน Workshop ถ่ายภาพให้กับลูกค้าของแบรนด์สมาร์ทโฟน นอกจากนี้ ยังเปิด Photography Course สอนการถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟนให้แก่ผู้ที่สนใจ และได้รับเชิญให้บรรยายหลักสูตรการสอนถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟนกับมหาวิทยาลัยชั้นนำอีกหลายแห่งอีกด้วย

ประวัติของ สิทธิกิตติ์ รวิวีรวรรณ (แก้ว)
…อ่านต่อ
กองบรรณาธิการ mybest
บรรณาธิการ
กองบรรณาธิการ mybest

มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน

ประวัติของ กองบรรณาธิการ mybest
…อ่านต่อ
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ

สารบัญ

โทรศัพท์ 5G จำเป็นไหม

โทรศัพท์ 5G จำเป็นไหม

ก่อนที่จะพาไปรู้จักจุดเด่นของโทรศัพท์ 5G อันดับแรก เราขออธิบายเรื่องเครือข่าย 5G แบบเข้าใจง่ายและไม่ซับซ้อนให้กับทุกคน ดังนี้


เครือข่ายอินเทอร์เน็ต "5G" หรือ "5 Generation" คือ เทคโนโลยีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายรุ่นล่าสุดที่กำลังจะมาแทนเครือข่ายฯ 4G ในอีกไม่ช้านี้ และมีข้อแตกต่างจาก 4G มากพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความรวดเร็วของสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เร็วกว่า 4G ประมาณ 10 - 20 เท่า ช่วยให้ตอบสนองการสั่งงานหรือควบคุมสิ่งต่าง ๆ ผ่านเครือข่าย 5G ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าตอบสนองเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น 


ในปัจจุบันโลกเทคโนโลยี 5G เริ่มเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นกว่าช่วง 2 - 3 ปี ที่ผ่านมา เพราะมีราคาที่ถูกลงพอสมควร ทำให้ผู้ใช้งานมีโอกาสเห็นสมาร์ตโฟนในช่วงราคาต่ำกว่า 10,000 บาท ที่รองรับเทคโนโลยี 5G ได้จนเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งประสิทธิภาพในเรื่องการรับส่งข้อมูลนั้น 5G จะมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 20Gbps แต่ถ้าเป็น 4G จะอยู่ที่ 1Gbps หมายความว่า 5G นั้น เร็วกว่า 4G ถึง 20 เท่าเลยทีเดียว 


หากถามถึงเรื่องของความสำคัญหรือเราควรอัพเกรดสมาร์ตโฟนของเราให้รองรับ 5G หรือไม่นั้น ก็อาจกล่าวได้ว่าค่อนข้างมีความจำเป็นที่ควรจะอัพเกรด เพราะ 5G จะกลายเป็นมาตรฐานของความเร็วในการรับส่งข้อมูลในอนาคตอันใกล้นี้ และที่สำคัญ ประเทศไทยเราถือเป็นประเทศที่มีพื้นที่รองรับสัญญาณ 5G และมีความเร็วโดยเฉลี่ยสูงมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลยครับ

วิธีการเลือกโทรศัพท์ 5G

หลังจากที่ได้ทราบจุดเด่นของโทรศัพท์ 5G กันไปแล้ว เราจะมาอธิบายถึงวิธีการเลือกโทรศัพท์ 5G อย่างละเอียด เพื่อที่คุณจะสามารถเลือกซื้อได้อย่างถูกต้องและตอบสนองความต้องการในการใช้งานได้อย่างตรงจุด

1

สำหรับใช้งานทั่วไป เลือกรุ่นที่ CPU ออกแบบมาให้รองรับสัญญาณ 5G โดยเฉพาะ ขนาด RAM 8GB และ ROM 128GB ขึ้นไป

สำหรับใครที่กำลังมองหาโทรศัพท์ 5G สำหรับใช้งานทั่วไป ไม่ได้เน้นเรื่องใดเป็นพิเศษ อาจจะพิจารณาวิธีการเลือกจากคำแนะนำในหัวข้อด้านล่างนี้ ประกอบกับงบประมาณ แบรนด์และรูปลักษณ์ที่ชื่นชอบได้

เลือกรุ่นที่ CPU ถูกออกแบบมาให้รองรับสัญญาณ 5G โดยตรง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

เลือกรุ่นที่ CPU ถูกออกแบบมาให้รองรับสัญญาณ 5G โดยตรง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
สิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจของสมาร์ตโฟนก็คือ ชิปเซ็ตภายในตัวเครื่อง ที่จะทำหน้าที่ในการประมวลผลคำสั่งต่าง ๆ โดยความแรงหรือประสิทธิภาพในการประมวลผลก็จะแตกต่างกันไปตามระดับของชิปเซ็ตจากแต่ละผู้ผลิต ซึ่งแน่นอนว่าราคาก็จะแตกต่างกันด้วย CPU ของโทรศัพท์ 5G  ในปัจจุบันนั้น มีอยู่ด้วยกัน 2 ลักษณะ คือ ใช้ CPU เดิมที่มีอยู่แล้วมาเสริม Modem 5G ใหม่เข้าไปแทน ซึ่งสามารถทำให้รับสัญญาณ 5G ได้ แต่ประสิทธิภาพอาจจะยังไม่เสถียรมากนัก ประเภทที่ 2 คือ CPU ที่ถูกออกแบบขึ้นมาใหม่ ให้รองรับสัญญาณ 5G โดยมีการติดตั้ง Modem รับ 5G เข้าไปในตัว SoC โดยตรง พร้อมการออกแบบ Software ขึ้นมาเพื่อให้การทำงานของตัวเครื่องทั้งหมดสอดคล้องกันและมีประสิทธิภาพสูงสุด


โดยฝั่ง Android จะมีผู้ผลิตชิปเซ็ตหลักทั้งหมด 2 บริษัท ได้แก่ Qualcomm ที่จะผลิตชิปเซ็ต ชื่อว่า Snapdragon ตัวอย่างเช่น Snapdragon 4 Series ในรุ่นประหยัด, Snapdragon 7 Series ในระดับกลาง และ Snapdragon 8 Series ในรุ่นเรือธง อีกหนึ่งค่ายคือ Mediatek ซึ่งจะมี Series ชิปเซ็ตที่ค่อนข้างหลากหลาย รุ่นเริ่มต้นจะเรียกว่า Helio และระดับกลางจะเป็น Dimensity กับรหัสตัวเลข 3 หลัก เช่น Dimensity 800 | Dimensity900 ส่วนระดับเรือธงจะเป็น Dimensity 9000 Series นั่นเอง


ตัวอย่าง สมาร์ตโฟนจากทางฝั่ง Android ที่ได้รับความนิยมคือ Samsung Galaxy S23 Ultra, OPPO Find N Flip, vivo X90 Pro 5G ส่วนฝั่ง iOS ก็คงจะเป็น iPhone 12 Series, 13 Series และ 14 Series เพราะส่วนใหญ่แล้วในแต่ละ Series ประจำปีจะใช้ชิปเซ็ตเดียวกันหมด

เลือกรุ่นที่มี RAM 8GB และ ROM 128GB ขึ้นไปเพื่อการตอบสนองอย่างรวดเร็ว

เลือกรุ่นที่มี RAM 8GB และ ROM 128GB ขึ้นไปเพื่อการตอบสนองอย่างรวดเร็ว
สำหรับโทรศัพท์ 5G แล้ว เรื่อง RAM จะไม่ได้ส่งผลต่อความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลแบบไร้สาย แต่จะส่งผลต่อการใช้งานในภาพรวมของสมาร์ตโฟน เพราะ RAM คือหน่วยความจำที่ตัวเครื่องจะใช้ในการประมวลผลคำสั่งต่าง ๆ จึงขอแนะนำเลือกสมาร์ตโฟนที่มี RAM เพียงพอต่อการใช้งาน หากใครที่ใช้สมาร์ตโฟนทำงานหลากหลาย มีการเปิด Application จำนวนมากพร้อม ๆ กัน ก็ควรเลือกสมาร์ตโฟนที่ RAM ขั้นต่ำที่ 8GB ขึ้นไป เพื่อให้ตอบสนองต่อคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว


สำหรับคนที่ใช้สมาร์ตโฟนเล่นเกมหนัก ๆ ถ้ามีงบประมาณเพียงพอ ก็ให้เลือก RAM 12GB ขึ้นไป ซึ่งนอกเหนือจากปริมาณของ RAM แล้ว เราควรจะดูเทคโนโลยีของ RAM ให้เป็นเวอร์ชันใหม่ ๆ ด้วย เช่น LPDDR4 หรือ LPDDR5 ขึ้นไปด้วย


ในส่วนของ ROM ก็เช่นเดียวกัน แม้ ROM จะไม่ได้ส่งผลต่อความเร็วในการรับส่งข้อมูล แต่ก็ทำหน้าที่ในการเขียน อ่านบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ดังนั้น ใครที่เก็บไฟล์เอาไว้ในตัวเครื่องจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นไฟล์หนัง ไฟล์เพลง รวมถึงคนที่ชอบถ่ายภาพ ปริมาณของ ROM ขั้นต่ำที่ควรเลือกก็คือ 128GB ขึ้นไป แต่ปัจจุบันมาตรฐานในแง่ของความจุในสมาร์ตโฟน Android นั้นกำลังจะขยับขึ้นไปเป็น 256GB ในระดับราคาเท่าเดิม

สำหรับ Android เลือกรุ่นที่ระบุคำว่า 5G กำกับไว้หลังชื่อ และสำหรับ iOS เลือกรุ่น iPhone 12 ขึ้นไป

สำหรับ Android เลือกรุ่นที่ระบุคำว่า 5G กำกับไว้หลังชื่อ และสำหรับ iOS เลือกรุ่น iPhone 12 ขึ้นไป

คลื่น 5G ในประเทศไทยนั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 ความยาวคลื่นได้แก่ n28 คลื่น 700 MHz, n41 คลื่น 2600 MHz และ n258 คลื่น 26 GHz เวลาที่เราเลือกซื้อ Smartphone 5G นั้นก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับผู้ให้บริการสัญญาณที่ตัวนั้นใช้อยู่ โดยสามารถดูข้อมูลการรับสัญญาณ 5G ได้จากหลังกล่องของ Smartphone หรือตรวจสอบข้อมูลได้ตามเว็บไซต์ของแบรนด์ Smartphone แต่ละแบรนด์ โดยปกติแล้ว Smartphone 5G ที่นำเข้ามาจำหน่ายในไทยนั้น จะรองรับคลื่น 5G ของประเทศไทยอยู่แล้ว แต่ถ้าจะซื้อเครื่องหิ้วหรือนำเข้าเองก็ต้องศึกษาเรื่องนี้ให้ดีก่อน


หลักในการเช็กคลื่นความถี่ง่าย ๆ คือ หากคลื่นความถี่ต่ำจะสามารถกระจายสัญญาณได้ไกล แต่มี Bandwidth ที่ต่ำ ทำให้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลนั้นไม่มากนัก แต่ยิ่งคลื่นความถี่สูง จะสามารถส่งผ่านข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็จะมีช่วงกระจายสัญญาณที่แคบกว่า ปัจจุบัน ผู้ให้บริการสัญญาณ 5G ในประเทศไทย 2 บริษัท ได้แก่ TRUE ที่ควบรวม DTAC ไปเมื่อไม่นานมานี้ และ AIS โดย TRUE จะมีคลื่นความถี่ทั้งหมด 1,350MHz ส่วน AIS จะมีคลื่นความถี่อยู่ที่ 1,460MHz


หากเราต้องการใช้บริการ 5G สำหรับผู้ใช้งาน Android ขอแนะนำให้เลือกซื้อสมาร์ตโฟนที่มีการระบุคำว่า 5G กำกับไว้หลังชื่อรุ่นเสมอ แต่ถ้าหากใครใช้งานในระบบ iOS สามารถใช้งาน 5G ได้ ตั้งแต่ iPhone 12 ขึ้นไป ซึ่งสมาร์ตโฟนที่วางจำหน่ายในประเทศไทยนั้นจะได้รับการรับรองและเลือก Modem ในตัวเครื่องให้รองรับ 5G ได้ทุกคลื่นความถี่ในไทย ก่อนวางจำหน่ายอยู่แล้ว

เลือกรุ่นที่มีขนาดหน้าจอเหมาะสมและมีอัตราการรีเฟรชหน้าจอ 90 Hz ขึ้นไป

เลือกรุ่นที่มีขนาดหน้าจอเหมาะสมและมีอัตราการรีเฟรชหน้าจอ 90 Hz ขึ้นไป
นอกเหนือจากสเปกภายในตัวเครื่องแล้ว ในเรื่องของหน้าจอก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง เพราะหากเลือกหน้าจอไม่เหมาะกับการใช้งานก็จะทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น คนที่มีขนาดมือไม่ได้ใหญ่มาก หากเลือกสมาร์ตโฟนที่มีขนาดตัวเครื่อง 6.8 นิ้ว ก็จะจับถือได้ลำบากและการเข้าถึงคำสั่งที่ใช้งานประจำ ไปจนถึงการลากนิ้วเพื่อสั่งการต่าง ๆ ก็จะทำได้ไม่ถนัดด้วย ดังนั้น ควรเลือกขนาดของหน้าจอที่มีขนาดพอเหมาะ จับถนัดมือมากที่สุด

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเรื่องอัตราการรีเฟรชหน้าจอ (Refresh Rate) ที่ถือเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับมือถือในปัจจุบัน ซึ่งเป็นอัตราที่จอสามารถแสดงจำนวนภาพนิ่งต่อวินาทีได้ โดยมีหน่วยเป็น Hz ยิ่งมีจำนวนอัตราการรีเฟรชหน้าจอมากเท่าไร ก็จะยิ่งช่วยให้ใช้โทรศัพท์ได้อย่างลื่นไหลและตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอได้รวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น สำหรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอที่แนะนำคือ 90 Hz ขึ้นไป


สมาร์ตโฟนในระดับเริ่มต้นหลายรุ่นเริ่มได้ใช้ Panel หน้าจอคุณภาพสูงที่เป็น OLED หรือ AMOLED ซึ่งประหยัดพลังงานกว่า มีคุณภาพการแสดงผลที่ดีกว่าและให้ความสว่างหน้าจอที่สูงกว่า โดยจะมี Resolution หน้าจอตั้งแต่ Full HD +, 2K, 4K ตามช่วงระดับราคาของสมาร์ตโฟนของแต่ละแบรนด์ ซึ่งแน่นอนว่ายิ่ง Resolution สูง รายละเอียดที่แสดงออกมาบนหน้าจอก็จะยิ่งชัดเจนตามไปด้วย โดยให้สังเกตในเรื่องของค่า PPI ของตัวหน้าจอร่วมด้วย ซึ่งหากเราต้องการใช้งานทั่วไป อาจจะเลือกสมาร์ตโฟนที่มีขนาดหน้าจออยู่ในระดับกลาง เพื่อให้ใช้งานได้หลากหลายขึ้นและความละเอียดหน้าจอเพียงแค่ Full HD + ก็เพียงพอแล้ว

เลือกรุ่นที่มีฟังก์ชันอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบ เช่น สแกนใบหน้า สแกนลายนิ้วมือ ชาร์จไว

เลือกรุ่นที่มีฟังก์ชันอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบ เช่น สแกนใบหน้า สแกนลายนิ้วมือ ชาร์จไว
สมาร์ตโฟน 5G คือสมาร์ตโฟนที่ได้รับการอัพเกรดในส่วนของ Modem และชิปเซ็ตให้สามารถใช้งาน 5G ได้ สิ่งอำนวยความสะดวกหรือฟีเจอร์เสริมต่าง ๆ จึงเหมือนกับสมาร์ตโฟน 4G ที่จะได้รับการอัพเกรดให้สูงขึ้นในทุกปี ซึ่งที่พบเห็นกันได้บ่อย ๆ มีดังนี้ 

การปลดล็อกเครื่องด้วยใบหน้า รวมถึงสมาร์ตโฟนระดับเรือธงหลายรุ่นได้นำการสแกนลายนิ้วมือกลับมาใช้งาน ทำให้ปลอดภัยและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยี Ultrasonic Fingerprint Scanner จากทาง Qualcomm ที่ไปอยู่ในสมาร์ตโฟนหลากหลายแบรนด์


ฟังก์ชัน Fast Chargeหรือการชาร์จแบตเตอรี่แบบรวดเร็วที่มีกำลังไฟสูง โดยจะเริ่มตั้งแต่สมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น ซึ่งได้กำลังไฟต่ำที่ 33W - 40W ส่วนระดับที่สูงขึ้น บางรุ่นได้กำลังไฟต่ำสูงถึง 200W ทำให้ใช้เวลาชาร์จไม่ถึง 20 นาที 

นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์เสริมที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการโอนไฟล์ ไม่ว่าจะเป็น Nearby Share ที่ทำงานได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น หรือ Wireless Projector ที่ทำให้เราสามารถนำหน้าจอสมาร์ตโฟนของเราเพื่อไปแสดงบน Smart TV ได้นั่นเอง

2

สำหรับสายบันเทิง เลือกรุ่นที่มีชิปเซตระดับสูง ROM ขนาด 128GB ขึ้นไป ขนาดจอ 6.5 นิ้วขึ้นไป ระบบ Full HD+

สำหรับใครที่เน้นการใช้งานสมาร์ตโฟนสำหรับเล่นเกมหรือการดูสื่อความบันเทิงอย่างการดูหนังและฟังเพลง อาจจะเลือกสมาร์ตโฟนรุ่นที่มีฟีเจอร์โดดเด่นในเรื่องนั้น ๆ โดยเฉพาะ เพราะจะช่วยให้ใช้งานได้อย่างสะดวกและลื่นไหลมากกว่า โดยมีแนวทางในการเลือกดังนี้

เลือกรุ่นที่มีชิปเซตระดับสูง และมีขนาด RAM 8GB ขึ้นไป เพื่อประสิทธิภาพที่เร็วแรง

เลือกรุ่นที่มีชิปเซตระดับสูง และมีขนาด RAM 8GB ขึ้นไป เพื่อประสิทธิภาพที่เร็วแรง

ถึงแม้ว่าจะเป็น CPU ระดับเรือธง แต่ไม่ใช่ว่าทุกรุ่นจะตอบสนองการใช้งานได้ดีเหมือนกัน โดยเฉพาะสำหรับเหล่าเกมเมอร์ หากต้องการที่จะเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ปรับได้สุด ไม่มีสะดุด ก็ควรจะเลือกสมาร์ตโฟนที่ใช้ชิปเซ็ตในระดับสูง เช่น Snapdragon 8 Series จากทาง Qualcomm หรือ Dimensity 9000 Series จากทาง Mediatek ในกลุ่มสมาร์ตโฟน Android ส่วนผู้ใช้งาน iOS ก็ควรจะเลือก Series ที่ใหม่ ย้อนหลังไม่เกิน 1 - 2 ปี ก็จะให้ประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว


นอกจากนี้ RAM ก็ควรจะมี Spec ที่สูงไม่แพ้กับตัวชิปเซ็ต ยิ่งถ้าจะต้องเล่นเกมด้วย ก็ควรเลือกรุ่นที่ RAM 8GB ขึ้นไป ตัวเวอร์ชันเทคโนโลยีของ RAM ไม่ควรต่ำกว่า LPDDR5 


อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า CPU จากโทรศัพท์ยี่ห้ออื่นนั้นจะใช้เล่นเกมไม่ได้ เพียงแต่การประมวลผลต่าง ๆ เช่น การแสดงผลกราฟิก ความรวดเร็วในการอ่านข้อมูลขณะเล่นเกมหรือการระบายความร้อน อาจทำได้ไม่ดีเท่า CPU ที่แนะนำไปข้างต้น แต่ถ้าหากเป็นการใช้งานทั่วไปแล้ว รับรองว่า CPU ทุกรุ่นในโทรศัพท์ 5G นั้นสามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่มีอาการกระตุกหรือติดขัดให้เห็นตลอดระยะเวลาการใช้งานอย่างแน่นอน

เลือก ROM ขนาด 128GB ขึ้นไปสำหรับดูหนัง ฟังเพลง และเลือกขนาด 256GB ขึ้นไป สำหรับสายเกมเมอร์

เลือก ROM ขนาด 128GB ขึ้นไปสำหรับดูหนัง ฟังเพลง และเลือกขนาด 256GB ขึ้นไป สำหรับสายเกมเมอร์

สำหรับสายบันเทิง ใช้ดูหนัง ฟังเพลง เรื่องของ ROM หรือความจุเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะว่า Smartphone Android นั้นเมื่อ ROM มีประมาณที่ต่ำลงจากการใช้งาน จะเริ่มสัมผัสได้ถึงความช้าของตัวเครื่องในการแบกและโหลดไฟล์จำนวนมาก ๆ อีกทั้งโทรศัพท์สมัยนี้ตัวกล้องมีความละเอียดสูงขึ้นมาก ทำให้ไฟล์ภาพนั้นใหญ่เป็นเงาตามตัวไปด้วย ดังนั้นหากคุณต้องการนำไปใช้ดูหนัง ฟังเพลง ดูคลิปวิดีโอ หรือท่องอินเทอร์เน็ต ขอแนะนำให้เลือกขนาดความจุ ROM ตั้งแต่ 128GB ขึ้นไป จะช่วยให้ใช้งานได้ลื่นไหล ไม่มีสะดุด


สำหรับสายเกมเมอร์ความจุอาจจะไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อความเร็วมากนัก แต่ก็ควรเลือกความจุที่ใหญ่เผื่อเอาไว้เลย โดยแนะนำความจุเริ่มต้นที่ 256GB ขึ้นไป เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้สามารถจุได้ทั้งเกมและใช้ในการเก็บข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ด้วย เช่น รูปภาพหรือวิดีโอ ซึ่งถึงแม้ว่าสมาร์ตโฟนหลายรุ่นจะสามารถเพิ่มความจุภายหลังหรือสามารถใส่ Micro SD Card เพิ่มได้ แต่ขอแนะนำว่าควรเลือกซื้อรุ่นที่มีความจุเยอะเผื่อเอาไว้ตั้งแต่แรกเลยจะดีที่สุด

เลือกรุ่นที่มีหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ขึ้นไป ระบบ Full HD+ และมีลำโพงคู่หรือลำโพงแบบ Stereo

เลือกรุ่นที่มีหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ขึ้นไป ระบบ Full HD+ และมีลำโพงคู่หรือลำโพงแบบ Stereo

สำหรับผู้ใช้งานที่เลือกสมาร์ตโฟนเพื่อใช้งานด้าน Entertainment เป็นหลัก ทั้งในการดูสื่อคอนเทนต์และเล่นเกม แน่นอนว่าการจะรับชมคอนเทนต์หรือเล่นเกมได้อย่างเต็มตานั้น ขนาดหน้าจอควรจะมีขนาดที่ใหญ่พอสมควร สำหรับขนาดหน้าจอที่แนะนำคือ ขนาด 6.5 นิ้ว ขึ้นไป แต่ไม่เกินที่ผู้ใช้งานจะจับถือได้สะดวก และมีความละเอียดหน้าจอ Full HD+ ขึ้นไป ก็ถือว่าเพียงพอ

ส่วนระบบเสียงหรือลำโพง ควรเลือกเป็นลำโพงคู่หรือลำโพงแบบ Stereo เพราะจะให้รายละเอียดของเสียงได้ครบถ้วนและมีมิติเสียงที่ดี ยิ่งถ้าเป็นคนที่เล่นเกม การมีลำโพงคุณภาพสูงจะช่วยให้ผู้เล่นสามารถจับทิศทางของเสียงได้ดีมากขึ้นด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วคนที่เล่นเกมมักจะใช้คู่กับหูฟัง เพราะฉะนั้น Software ในเรื่องของระบบเสียง ก็ควรจะต้อง Support ด้วย เช่น ควรมี Dolby Atmos หรือมีระบบเสียงจาก Software Gaming Mode เข้ามาช่วยด้วย

เลือกโทรศัพท์ 5G ที่เป็น Gaming Phone โดยเฉพาะไปเลย สเปกแรง เล่นเกมได้ลื่นไหล

เลือกโทรศัพท์ 5G ที่เป็น Gaming Phone โดยเฉพาะไปเลย สเปกแรง เล่นเกมได้ลื่นไหล

สำหรับเกมเมอร์ที่กำลังมองหาโทรศัพท์ 5G ที่สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล เราขอแนะนำโทรศัพท์ 5G แบบ Gaming Phone ไปเลย เพราะเป็นโทรศัพท์ที่มาพร้อมกับสเปกสุดแรง และมีฟังก์ชันเสริมสำหรับอำนวยความสะดวกในการเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ที่อึดขึ้น หน้าจอ Refresh Rate สูง มีระบบระบายความร้อน พอร์ตหูฟัง 3.5 mm หรือแม้กระทั่งปุ่มเสริมเพื่อตั้งค่ามาโครภายในเกม ซึ่งจะทำการลดเกรดฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็นสำหรับเกมเมอร์ โดยเฉพาะกล้องถ่ายรูปที่อาจจะมีความละเอียดไม่สูงเท่ากล้องถ่ายรูปโทรศัพท์ 5G ทั่วไป


ปัจจุบันสมาร์ตโฟนที่ใช้ ชิปเซ็ตแรง ๆ ในยุคใหม่จะมี Software Gaming ติดมาให้ในตัวเครื่องทั้งหมดแล้วสำหรับฝั่ง Android แต่ส่วนฝั่ง iOS นั้น ด้วยความที่ชิปเซ็ต Bionic ในเวอร์ชันต่าง ๆ มีความแรงพอตัวอยู่แล้วและมีความฉลาดในการจัดการพลังงานและประสิทธิภาพ ทำให้ต่อให้ไม่มี Gaming Mode ก็ยังสามารถเล่นเกมได้ดี 


สำหรับตัวอย่างของมือถือ Android ที่มี Gaming Mode ก็จะมี realme C55 ที่เป็นกลุ่มระดับต้น ส่วนรุ่นในระดับกลาง ไม่เกิน 20,000 บาท คือ Redmi Note 11 Pro และรุ่นเรือธง คือ Samsung Galaxy S23 Series เป็นต้น

3

สำหรับสายถ่ายรูป เลือกรุ่นที่กล้องมี Sensor มีขนาดใหญ่และมีกล้องหลายตัว

สำหรับสายถ่ายรูป เลือกรุ่นที่กล้องมี Sensor มีขนาดใหญ่และมีกล้องหลายตัว

การเลือกสมาร์ตโฟนสำหรับใช้ในการถ่ายภาพนั้นไม่จำเป็นต้องไปยึดติดกับความละเอียดของกล้อง แต่ต้องพิจารณา จากคุณภาพของ Sensor ที่เลือกใช้ว่ามีขนาดใหญ่แค่ไหน โดยปัจจุบัน Sensor มีขนาดใหญ่มากสุดอยู่ที่ 1 นิ้ว รวมไปถึงลักษณะในการประมวลผลภาพออกมาเป็นอย่างไร เพราะในปัจจุบัน Sensor กล้องถ่ายภาพความละเอียดมาตรฐานในกล้องหลักจะอยู่ที่ 50MP - 64MP 


นอกจากนี้ จำนวนระยะของกล้องถ่ายภาพก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงถึง เช่น หากมีกล้องตัวเดียวก็จะถ่ายได้แค่ระยะเดียว แต่ถ้าหากมีกล้อง 2 - 3 กล้อง และมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น กล้องมุมกว้าง กล้องซูม เราก็จะมีมุมมองในการถ่ายภาพที่แตกต่างและสามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายได้หลากหลายกว่านั่นเอง


นอกเหนือจากตัว Hardware แล้ว Software กล้องก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้ถ่ายภาพได้มีคุณภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น Night Mode ที่ช่วยให้ถ่ายภาพในเวลากลางคืนได้ดีขึ้นกว่าเดิม ระบบกันสั่น OIS , EIS ที่ช่วยให้การถ่ายภาพและวิดีโอในขณะที่ตัวผู้ถ่ายเคลื่อนที่ไปด้วย ได้ภาพที่นิ่ง ไม่สั่นไหวและมีความคมชัดที่ดี อีกทั้งปัจจุบันกล้องสมาร์ตโฟนสามารถถ่ายภาพในรูปแบบของ RAW ไฟล์ได้แล้ว ทำให้คนที่ชอบแต่งภาพ สามารถเอาไฟล์ดิบในภาพไปใช้งานต่อภายหลังได้ HDR หรือ High Dynamic Range ที่ช่วยให้ภาพมีรายละเอียดในแต่ละย่านความสว่างที่มากขึ้นไป 


และหากพูดถึงสมาร์ตโฟน 5G รุ่นยอดนิยมที่ได้รับการกล่าวขานว่าถ่ายภาพสวยแล้ว ขอแนะนำ Samsung Galaxy S23 Ultra และ OPPO Reno 10 Pro + ให้สายถ่ายภาพครับ

วิธีการเลือกใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?

10 อันดับ โทรศัพท์ 5G รุ่นไหนดี เร็ว แรง รับสัญญาณดี

หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจกับวิธีการเลือกโทรศัพท์ 5G กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ได้เวลาของโทรศัพท์ 5G ที่เราได้คัดสรรมานำเสนอให้คุณได้เลือกซื้อด้วยกันทั้งหมด 10 อันดับ ส่วนจะมีรุ่นไหนที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณบ้างนั้น ไปดูพร้อม ๆ กันเลยครับ
เรียงจากความนิยม
ตัวกรอง
สินค้า
รูปภาพ
ราคาต่ำสุด
ราคา
คะแนน
รายละเอียด
ขนาดจอ
น้ำหนัก
ขนาดตัวเครื่อง
ชิปเซ็ต
RAM
ROM
ความละเอียดกล้องหน้า
ความละเอียดกล้องหลัง
เวอร์ชันบลูทูธ
Refresh Rate
แบตเตอรี่
การเชื่อมต่อไร้สาย
ระบบปฏิบัติการ
เหมาะสำหรับ
การรับประกันสินค้า
สี
ระดับการกันน้ำกันฝุ่น
จำนวนซิมที่รองรับ
รองรับการชาร์จไว
1

Apple

โทรศัพท์ 5G รุ่น 14 Pro Max

Apple โทรศัพท์ 5G รุ่น 14 Pro Max 1

44,990 บาท

ราคาค่อนข้างสูง

มือถือที่เสถียรที่สุด กล้องหน้า Dynamic Island เป็นเอกลักษณ์

6.70 นิ้ว

0.24 กก.

16.07 x 0.79 x 7.76 ซม.

Apple A16 Bionic

6 GB

128 GB, 256 GB, 512 GB, 1 TB, 2 TB

12 MP

48 + 12 + 12 MP

5.3

120 Hz

4323 mAh

Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6

iOS 16

ใช้งานทั่วไป, ถ่ายภาพ, เล่นเกม

1 ปี

Space Black, Silver, Gold, Deep Purple

IP 68

2

2

vivo

โทรศัพท์ 5G รุ่น X90 Pro

vivo โทรศัพท์ 5G รุ่น X90 Pro 1

39,990 บาท

ราคาค่อนข้างสูง

หน้าจอใหญ่ ดีไซน์พรีเมียมบางเบา ถ่ายภาพยอดเยี่ยมทุกระยะ

6.78 นิ้ว

0.21 กก.

7.45 x 0.93 x 16.41 ซม.

MediaTek Dimensity 9200

12 GB

256 GB

32 MP

50 + 50 + 12 MP

5.3

120 Hz

4700 mAh

Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6

Funtouch 13 based on Android 12

ใช้งานทั่วไป, ถ่ายภาพ, เล่นเกม

1 ปี

Black

IP68

2

3

HONOR

โทรศัพท์ 5G รุ่น Magic 5 Pro

HONOR โทรศัพท์ 5G รุ่น Magic 5 Pro 1

29,990 บาท

ราคาปานกลาง

กล้องถ่ายรูป TOP 3 ของโลก ใช้งานได้รอบด้าน คุ้มค่าคุ้มราคา

6.81 นิ้ว

0.22 กก.

7.67 x 0.88 x 16.29 ซม.

Snapdragon 8 Gen 2

12 GB

512 GB

12 MP

50 + 50 + 50 MP

5.2

120 Hz

5,100 mAh

802.11 a/b/g/n/ac/ax

Magic OS 7.1 based on Android 13

ใช้งานทั่วไป, ถ่ายภาพ, เล่นเกม

1 ปี

Black, Purple, Meadow Green

IP68

2

4

SAMSUNG

โทรศัพท์ 5G รุ่น Galaxy Z Flip5

SAMSUNG โทรศัพท์ 5G รุ่น Galaxy Z Flip5 1

39,900 บาท

ราคาค่อนข้างสูง

ที่สุดของมือถือจอพับ มีทั้งจอด้านในและนอก กันน้ำระดับ IPX8

6.70 นิ้ว

0.19 กก.

16.5 x 0.69 x 7.19 ซม.

Snapdragon 8 Gen 2

8 GB

256, 512 GB

10 MP

12 + 12 MP

5.3

120 Hz

3,700 mAh

802.11 a/b/g/n/ac/ax 2.4G+5GHz+6GHz

One UI 5.1.1 based on Android 13

ใช้งานทั่วไป, ถ่ายภาพ

1 ปี

Lavender, Cream, Graphite, Mint

IPX8

2

5

OnePlus

โทรศัพท์ 5G รุ่น Nord 3

OnePlus โทรศัพท์ 5G รุ่น Nord 3 1

19,990 บาท

ราคาค่อนข้างต่ำ

รุ่นรองเรือธงที่แรงไม่แพ้ใคร หน้าจอลื่นไหล กล้องหลักคุณภาพ

6.74 นิ้ว

0.19 กก.

7.50 x 0.81 x 16.26 ซม.

MediaTek Dimensity 9000

16 GB

256 GB

16 MP

50 + 8 + 2 MP

5.2

120 Hz

4800 mAh

Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6

OxygenOS 13.1 based on Android 13

ใช้งานทั่วไป, ถ่ายภาพ, เล่นเกม

1 ปี

Misty Green

IP54

2

6

REDMAGIC

โทรศัพท์ 5G รุ่น 8S Pro

REDMAGIC โทรศัพท์ 5G รุ่น 8S Pro 1

26,990 บาท

ราคาปานกลาง

ที่สุดของมือถือเกมมิ่ง หน้าจอลื่น 165Hz แบตฯอึด 6,000 mAh

6.80 นิ้ว

0.23 กก.

7.63 x 0.94 x 16.39 ซม.

Snapdragon 8 Gen 2

12GB, 16 GB

256 GB, 512 GB

16 MP

50 + 8 + 2 MP

5.3

120 Hz

6,000 mAh

Wi-Fi 7 802.11b/g/n/ac/ax/be

REDMAGIC OS 8.0 based on Android 13.0

เล่นเกม

1 ปี

Midnight, Platinum, Aurora

ไม่ระบุ

2

7

OPPO

โทรศัพท์ 5G รุ่น Reno 10 Pro+

OPPO โทรศัพท์ 5G รุ่น Reno 10 Pro+ 1

27,990 บาท

ราคาปานกลาง

ดีไซน์หรูหรา หน้าจอคุณภาพดี ถ่ายภาพบุคคลได้อย่างยอดเยี่ยม

6.74 นิ้ว

0.19 กก.

7.45 x 0.82 x 16.29 ซม.

Snapdragon 8+ Gen 1

12 GB

256 GB

32 MP

50 + 64 + 8 MP

5.3

120 Hz

4,700 mAh

Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e

ColorOS 13.1 based on Android 13

ใช้งานทั่วไป, ถ่ายภาพ, เล่นเกม

1 ปี

Glossy Purple, Silvery Grey

IPX4

2

8

POCO

โทรศัพท์ 5G รุ่น F5 Pro

POCO โทรศัพท์ 5G รุ่น F5 Pro 1

15,990 บาท

ราคาค่อนข้างต่ำ

สัมผัสกับประสบการณ์มือถือเรือธง ในราคาที่ถูกกว่าครึ่งหนึ่ง

6.67 นิ้ว

0.20 กก.

7.54 x 0.86 x 16.27 ซม.

Snapdragon 8+ Gen 1

12 GB

256 GB, 512 GB

16 MP

64 + 8 + 2 MP

5.3

120 Hz

5,160 mAh

Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax

MIUI 14 for POCO based on Android 13

ใช้งานทั่วไป, เล่นเกม

1 ปี

Black, White

IP53

2

9

realme

โทรศัพท์ 5G รุ่น 11 Pro+

realme โทรศัพท์ 5G รุ่น 11 Pro+ 1

16,990 บาท

ราคาค่อนข้างต่ำ

ดีไซน์หรูหรา ถ่ายรูปสนุก ด้วยกล้องหลังความละเอียด 200MP

6.70 นิ้ว

0.19 กก.

7.39 x 0.87 x 16.16 ซม.

MediaTek Dimensity 7050

12 GB

512 GB

32 MP

200 + 8 + 2 MP

5.2

120 Hz

5000 mAh

Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax

Realme UI 4.0 based on Android 13

ใช้งานทั่วไป, ถ่ายรูป

1 ปี

Sunrise Beige, Oasis Green

ไม่ระบุ

2

10

iQOO

โทรศัพท์ 5G รุ่น Z7x

iQOO โทรศัพท์ 5G รุ่น Z7x 1

7,592 บาท

ราคาต่ำ

รุ่นคุ้มค่าราคาย่อมเยา แบตเตอรี่อึด รองรับชาร์จไวถึง 80W

6.64 นิ้ว

0.20 กก.

7.98 x 0.75 x 16.30 ซม.

Snapdragon 695

8 GB

128 GB, 256 GB

8 MP

50 + 2 MP

5.1

120 Hz

6,000 mAh

Wi-Fi 802.11 a/b/g/n

Android 13

ใช้งานทั่วไป, เล่นเกม

1 ปี

Metallic Grey, Tropical Blue

ไม่ระบุ

2

หากไม่พบผลิตภัณฑ์ที่กำลังมองหา สามารถส่งคำร้องขอเพิ่มในรายการได้
No.1

Appleโทรศัพท์ 5G รุ่น 14 Pro Max

โทรศัพท์ 5G รุ่น 14 Pro Max 1
อ้างอิง:apple.com
ราคาอ้างอิง
44,990 บาท
ราคาค่อนข้างสูง
ราคาอ้างอิง
44,990 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

มือถือที่เสถียรที่สุด กล้องหน้า Dynamic Island เป็นเอกลักษณ์

เรียกเสียงฮือฮาไปทั่วโลกตั้งแต่วันเปิดตัว กลับโทรศัพท์ 5G จากค่าย Apple อย่าง iPhone 14 Pro Series ที่มีความโดดเด่นด้วยกล้องหน้าดีไซน์ใหม่อย่าง Dynamic Island ที่สามารถยืดหดได้ตามฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่คุณใช้งาน โดยในครั้งนี้เราขอนำเสนอเป็นรุ่น iPhone 14 Pro Max ที่มาพร้อมกับหน้าจอ Super Retina XDR ขนาดใหญ่ 6.7" เทคโนโลยี ProMotion 120Hz สุดลื่นไหล รองรับการปลดล็อกหน้าจอด้วยการสแกนใบหน้าเทคโนโลยี Face ID


เร็วแรงด้วยขุมพลัง A16 Bionic มีความเสถียรสูง แทบจะไม่มีอาการค้างหรือบัคให้เห็น อีกทั้งยังจัดการกับพลังงานได้ดี ให้คุณใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังมาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว ประสิทธิภาพสูง ประกอบด้วยเลนส์หลัก 48MP ที่งานวิดีโอยังหาสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นเทียบได้ยาก ต่อมาคือเลนส์ Ultra-wide มุมกว้าง สุดท้ายคือเลนส์ Telephoto นอกจากนี้ ยังมีให้เลือกถึง 4 สีสัน ไม่ว่าจะเป็นสีม่วงเข้ม สีทอง สีเงิน และสีดำสเปซแบล็กครับ

ขนาดจอ6.70 นิ้ว
น้ำหนัก0.24 กก.
ขนาดตัวเครื่อง16.07 x 0.79 x 7.76 ซม.
ชิปเซ็ตApple A16 Bionic
RAM6 GB
ROM128 GB, 256 GB, 512 GB, 1 TB, 2 TB
ความละเอียดกล้องหน้า12 MP
ความละเอียดกล้องหลัง48 + 12 + 12 MP
เวอร์ชันบลูทูธ5.3
Refresh Rate120 Hz
แบตเตอรี่4323 mAh
การเชื่อมต่อไร้สายWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6
ระบบปฏิบัติการiOS 16
เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป, ถ่ายภาพ, เล่นเกม
การรับประกันสินค้า1 ปี
สีSpace Black, Silver, Gold, Deep Purple
ระดับการกันน้ำกันฝุ่นIP 68
จำนวนซิมที่รองรับ2
รองรับการชาร์จไว
การจัดอันดับสินค้าใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?
No.2

vivoโทรศัพท์ 5G รุ่น X90 Pro

ราคาอ้างอิง
39,990 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

หน้าจอใหญ่ ดีไซน์พรีเมียมบางเบา ถ่ายภาพยอดเยี่ยมทุกระยะ

X90 Pro คือโทรศัพท์ 5G รุ่นเรือธงจาก vivo ที่มีสเปกครบเครื่อง โดยเฉพาะกล้องถ่ายรูปที่พัฒนาร่วมกับ ZEISS อย่างเลนส์หลัก IMX989 50MP ขนาดใหญ่ถึง 1 นิ้ว ต่อมาคือเลนส์ Portrait 50MP และเลนส์ Ultra Wide 12MP ผสานการทำงานร่วมกับชิปประมวลผลภาพถ่าย vivo V2 ที่ใช้ AI ในการช่วยประมวลผล ให้สีสันรวมไปถึงแสงและเงาของภาพสมจริง 


ในส่วนของหน้าจอมีขนาด 6.78" ชนิด AMOLED FHD+ ลื่นไหล 120Hz ขอบจอบางและโค้งดูพรีเมียม ที่สำคัญคือตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบาเพียง 219 g ทำให้ถึงแม้จะมีขนาดหน้าจอใหญ่แต่ก็พกพาสะดวก รุ่นนี้ใช้ชิปเซต Dimensity 9200 ความแรงจึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เล่นเกมก็ลื่นสบาย ๆ อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพกันฝุ่นและน้ำระดับ IP68 

ขนาดจอ6.78 นิ้ว
น้ำหนัก0.21 กก.
ขนาดตัวเครื่อง7.45 x 0.93 x 16.41 ซม.
ชิปเซ็ตMediaTek Dimensity 9200
RAM12 GB
ROM256 GB
ความละเอียดกล้องหน้า32 MP
ความละเอียดกล้องหลัง50 + 50 + 12 MP
เวอร์ชันบลูทูธ5.3
Refresh Rate120 Hz
แบตเตอรี่4700 mAh
การเชื่อมต่อไร้สายWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6
ระบบปฏิบัติการFuntouch 13 based on Android 12
เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป, ถ่ายภาพ, เล่นเกม
การรับประกันสินค้า1 ปี
สีBlack
ระดับการกันน้ำกันฝุ่นIP68
จำนวนซิมที่รองรับ2
รองรับการชาร์จไว
No.3

HONORโทรศัพท์ 5G รุ่น Magic 5 Pro

ราคาอ้างอิง
29,990 บาท
ราคาปานกลาง

กล้องถ่ายรูป TOP 3 ของโลก ใช้งานได้รอบด้าน คุ้มค่าคุ้มราคา

เรียกได้ว่าสร้างเสียงฮือฮาได้ตั้งแต่วันเปิดตัว กับ HONOR Magic 5 Pro เครื่องนี้ ที่มีจุดเด่นอย่างชุดกล้องหลังที่ทรงพลัง การันตีด้วยคะแนนรวม 152 และติด TOP 3 จากการจัดอันดับของเว็บไซต์ชั้นนำของโลกอย่าง DXOMARK โดยเซตกล้องจะประกอบด้วยเลนส์หลัก, เลนส์ Ultra Wide และเลนส์ Periscope Telephoto ที่ความละเอียดเลนส์ละ 50 MP  


สำหรับหน้าจอมีขนาด 6.81 นิ้ว ชนิด LTPO OLED ลื่นไหล 120Hz และรองรับ HDR10+ สีสันสวยงามสมจริง อีกทั้งยังขับเคลื่อนด้วย Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 ตอบสนองรวดเร็ว เล่นเกมได้สบาย ส่วนแบตเตอรี่ให้มา 5,100 mAh พร้อมชาร์จเร็ว 66W และที่สำคัญคือมีประสิทธิภาพกันฝุ่นและน้ำถึงระดับ IP68 สายลุยใช้งานได้หายห่วง

ขนาดจอ6.81 นิ้ว
น้ำหนัก0.22 กก.
ขนาดตัวเครื่อง7.67 x 0.88 x 16.29 ซม.
ชิปเซ็ตSnapdragon 8 Gen 2
RAM12 GB
ROM512 GB
ความละเอียดกล้องหน้า12 MP
ความละเอียดกล้องหลัง50 + 50 + 50 MP
เวอร์ชันบลูทูธ5.2
Refresh Rate120 Hz
แบตเตอรี่5,100 mAh
การเชื่อมต่อไร้สาย802.11 a/b/g/n/ac/ax
ระบบปฏิบัติการMagic OS 7.1 based on Android 13
เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป, ถ่ายภาพ, เล่นเกม
การรับประกันสินค้า1 ปี
สีBlack, Purple, Meadow Green
ระดับการกันน้ำกันฝุ่นIP68
จำนวนซิมที่รองรับ2
รองรับการชาร์จไว
No.4

SAMSUNGโทรศัพท์ 5G รุ่น Galaxy Z Flip5

ราคาอ้างอิง
39,900 บาท
ราคาค่อนข้างสูง

ที่สุดของมือถือจอพับ มีทั้งจอด้านในและนอก กันน้ำระดับ IPX8

แม้ในท้องตลาดจะมีมือถือจอพับวางขายจากหลายแบรนด์ แต่ถ้าพูดถึงมือถือจอพับที่ดีที่สุด เชื่อว่าหลายคนต้องยกให้ SAMSUNG โดย Galaxy Z Filp5 เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดของทางแบรนด์ ที่มีการปรับปรุงดีไซน์เล็กน้อย โดยเฉพาะในส่วนของหน้าจอด้านนอก ที่เพิ่มขนาดมาให้ใหญ่ถึง 3.4 นิ้ว และเป็นชนิด Super AMOLED คุณภาพดี เพื่อให้ใช้งานได้หลากหลายขึ้น


สำหรับหน้าจอด้านในมีขนาด 6.7 นิ้ว ชนิด Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด FHD+ ลื่นไหลระดับ 120 Hz พร้อมกล้องหลังคู่ ความละเอียดกล้องละ 12 MP ส่วนกล้องหน้า 10 MP นอกจากนี้ ยังมีประสิทธิภาพที่ทรงพลัง ด้วยชิปเซตระดับเรือธงตัวล่าสุดจาก Qualcomm อย่าง Snapdragon 8 Gen 2 และกันน้ำได้ถึงระดับ IPX8 เลยทีเดียวครับ

ขนาดจอ6.70 นิ้ว
น้ำหนัก0.19 กก.
ขนาดตัวเครื่อง16.5 x 0.69 x 7.19 ซม.
ชิปเซ็ตSnapdragon 8 Gen 2
RAM8 GB
ROM256, 512 GB
ความละเอียดกล้องหน้า10 MP
ความละเอียดกล้องหลัง12 + 12 MP
เวอร์ชันบลูทูธ5.3
Refresh Rate120 Hz
แบตเตอรี่3,700 mAh
การเชื่อมต่อไร้สาย802.11 a/b/g/n/ac/ax 2.4G+5GHz+6GHz
ระบบปฏิบัติการOne UI 5.1.1 based on Android 13
เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป, ถ่ายภาพ
การรับประกันสินค้า1 ปี
สีLavender, Cream, Graphite, Mint
ระดับการกันน้ำกันฝุ่นIPX8
จำนวนซิมที่รองรับ2
รองรับการชาร์จไว
No.5

OnePlusโทรศัพท์ 5G รุ่น Nord 3

ราคาอ้างอิง
19,990 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ

รุ่นรองเรือธงที่แรงไม่แพ้ใคร หน้าจอลื่นไหล กล้องหลักคุณภาพ

แม้จะไม่ใช่โทรศัพท์ 5G รุ่นเรือธงของทางแบรนด์ แต่ก็มีความแรงไม่แพ้ใคร ด้วยขุมพลัง MediaTek Dimensity 9000 ที่ความแรงอยู่ในระดับเดียวกันกับ Snapdragon 8 Gen 1 อีกทั้งยังมาพร้อมกับ RAM ที่ให้มาถึง 16GB LPDDR5X ผสานเทคโนโลยี RAM-Vita เพื่อจัดการหน่วยความจำได้ดียิ่งขึ้น ให้เครื่องทำงานด้วยประสิทธิภาพสูงสุดรอบด้าน


ในส่วนของหน้าจอมีขนาด 6.74 นิ้ว ชนิด Super Fluid AMOLED ความละเอียด FHD+ 120 Hz ที่รองรับ Dolby Atmos และมีความสว่างสูงสุดถึง 1,450nits สู้แสงสบาย ใช้งานกลางแจ้งในวันที่มีแดดจ้าได้ นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งไฮไลต์อย่างกล้องหลังความละเอียด 50MP เซนเซอร์ IMX890 ระดับเรือธง พร้อมกันสั่น OIS ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้สวยงาม 

ขนาดจอ6.74 นิ้ว
น้ำหนัก0.19 กก.
ขนาดตัวเครื่อง7.50 x 0.81 x 16.26 ซม.
ชิปเซ็ตMediaTek Dimensity 9000
RAM16 GB
ROM256 GB
ความละเอียดกล้องหน้า16 MP
ความละเอียดกล้องหลัง50 + 8 + 2 MP
เวอร์ชันบลูทูธ5.2
Refresh Rate120 Hz
แบตเตอรี่4800 mAh
การเชื่อมต่อไร้สายWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6
ระบบปฏิบัติการOxygenOS 13.1 based on Android 13
เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป, ถ่ายภาพ, เล่นเกม
การรับประกันสินค้า1 ปี
สีMisty Green
ระดับการกันน้ำกันฝุ่นIP54
จำนวนซิมที่รองรับ2
รองรับการชาร์จไว
No.6

REDMAGICโทรศัพท์ 5G รุ่น 8S Pro

ราคาอ้างอิง
26,990 บาท
ราคาปานกลาง

ที่สุดของมือถือเกมมิ่ง หน้าจอลื่น 165Hz แบตฯอึด 6,000 mAh

นี่คือหนึ่งในโทรศัพท์ 5G สำหรับใช้เล่นเกมที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่ง โดยมาจากแบรนด์อย่าง REDMAGIC ที่ผลิตมือถือเกมมิ่งโดยเฉพาะ มาพร้อมกับชิปเซตที่ทรงพลังที่สุดของ Qualcomm อย่าง Snapdragon 8 Gen 2 พร้อม RAM 12GB  LPDDR5X และ ROM 256GB UFS4.0 ดาวน์โหลดเกมลงเครื่องได้เยอะ สตรีมเกมหรืออัดวิดีโอหน้าจอก็ไม่มีกระตุก 


ในส่วนของหน้าจอมีขนาดใหญ่ถึง 6.8 นิ้ว ชนิด AMOLED FHD+ มี Refresh Rate 120Hz และ Touch Sampling Rate 960Hz ที่สำคัญคือมาพร้อมกับกล้องหน้าแบบใต้หน้าจอ พร้อมปุ่ม Dual Wing Triggers ระบบสัมผัส สามารถตั้งค่าได้ เพื่อช่วยให้เล่นเกมได้สะดวกขึ้น สำหรับแบตเตอรี่ก็ให้มามากถึง 6,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็วสูงสุด 65W 

ขนาดจอ6.80 นิ้ว
น้ำหนัก0.23 กก.
ขนาดตัวเครื่อง7.63 x 0.94 x 16.39 ซม.
ชิปเซ็ตSnapdragon 8 Gen 2
RAM12GB, 16 GB
ROM256 GB, 512 GB
ความละเอียดกล้องหน้า16 MP
ความละเอียดกล้องหลัง50 + 8 + 2 MP
เวอร์ชันบลูทูธ5.3
Refresh Rate120 Hz
แบตเตอรี่6,000 mAh
การเชื่อมต่อไร้สายWi-Fi 7 802.11b/g/n/ac/ax/be
ระบบปฏิบัติการREDMAGIC OS 8.0 based on Android 13.0
เหมาะสำหรับเล่นเกม
การรับประกันสินค้า1 ปี
สีMidnight, Platinum, Aurora
ระดับการกันน้ำกันฝุ่นไม่ระบุ
จำนวนซิมที่รองรับ2
รองรับการชาร์จไว
ราคาอ้างอิง
27,990 บาท
ราคาปานกลาง

ดีไซน์หรูหรา หน้าจอคุณภาพดี ถ่ายภาพบุคคลได้อย่างยอดเยี่ยม

ซีรีส์ Reno จาก OPPO จะถูกจัดให้เป็นโทรศัพท์ระดับรองเรือธงของทางแบรนด์ แต่สำหรับ Reno 10 Pro+ นี้ มีสเปกเทียบเท่ากับโทรศัพท์เรือธงเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นชิปประมวลผลอย่าง Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 ที่เป็นรองแค่เพียง Gen 2 ให้ใช้งานได้ลื่นไหลรอบด้าน ไม่ว่าจะเล่นเกม เล่นโซเชียล หรือประมวลผลภาพถ่ายครับ


คนที่ชื่นชอบการถ่ายรูปจะต้องถูกใจเป็นพิเศษ ด้วยกล้องหลัง 3 ตัว มีทั้งกล้องหลัก 50MP สำหรับถ่ายภาพทั่วไป ต่อมาคือ Periscope Telephoto 64MP ความละเอียดสูง เพื่อการถ่ายภาพบุคคลโดยเฉพาะ และ Ultra Wide 8MP ถ่ายภาพมุมกว้าง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับหน้าจอ 3D AMOLED สีสันเที่ยงตรง ความสว่างสูงสุดถึง 1,100nits เลยทีเดียว

ขนาดจอ6.74 นิ้ว
น้ำหนัก0.19 กก.
ขนาดตัวเครื่อง7.45 x 0.82 x 16.29 ซม.
ชิปเซ็ตSnapdragon 8+ Gen 1
RAM12 GB
ROM256 GB
ความละเอียดกล้องหน้า32 MP
ความละเอียดกล้องหลัง50 + 64 + 8 MP
เวอร์ชันบลูทูธ5.3
Refresh Rate120 Hz
แบตเตอรี่4,700 mAh
การเชื่อมต่อไร้สายWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e
ระบบปฏิบัติการColorOS 13.1 based on Android 13
เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป, ถ่ายภาพ, เล่นเกม
การรับประกันสินค้า1 ปี
สีGlossy Purple, Silvery Grey
ระดับการกันน้ำกันฝุ่นIPX4
จำนวนซิมที่รองรับ2
รองรับการชาร์จไว
No.8

POCOโทรศัพท์ 5G รุ่น F5 Pro

โทรศัพท์ 5G รุ่น F5 Pro 1
อ้างอิง:mi.com
ราคาอ้างอิง
15,990 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ

สัมผัสกับประสบการณ์มือถือเรือธง ในราคาที่ถูกกว่าครึ่งหนึ่ง

หากคุณมีงบประมาณที่จำกัดในช่วงระหว่าง 15,000 บาท และต้องการใช้งานโทรศัพท์ 5G ประสิทธิภาพสูงระดับเรือธง ไม่มีรุ่นไหนตอบโจทย์ได้ดีไปกว่า POCO F5 Pro เครื่องนี้แล้วครับ เพราะขับเคลื่อนด้วยชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 นวัตกรรม 4nm สุดแรง สามารถเล่นเกมมือถือทุกเกมแบบปรับกราฟิกสูงสุดได้สบาย


มาพร้อมระบบระบายความร้อน LiquidCool VC ที่ช่วยให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ แม้จะมีการใช้งานหนักหรือเล่นเกมติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ในส่วนของหน้าจอมีขนาด 6.67 นิ้ว ชนิด Flow AMOLED FHD+ 120Hz พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,160 mAh ที่รองรับระบบชาร์จเร็ว 67W มีหัวชาร์จแถมมาให้พร้อมใช้งานไม่ต้องซื้อเพิ่มครับ

ขนาดจอ6.67 นิ้ว
น้ำหนัก0.20 กก.
ขนาดตัวเครื่อง7.54 x 0.86 x 16.27 ซม.
ชิปเซ็ตSnapdragon 8+ Gen 1
RAM12 GB
ROM256 GB, 512 GB
ความละเอียดกล้องหน้า16 MP
ความละเอียดกล้องหลัง64 + 8 + 2 MP
เวอร์ชันบลูทูธ5.3
Refresh Rate120 Hz
แบตเตอรี่5,160 mAh
การเชื่อมต่อไร้สายWi-Fi 802.11a/b/g/n/ac/ax
ระบบปฏิบัติการMIUI 14 for POCO based on Android 13
เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป, เล่นเกม
การรับประกันสินค้า1 ปี
สีBlack, White
ระดับการกันน้ำกันฝุ่นIP53
จำนวนซิมที่รองรับ2
รองรับการชาร์จไว
No.9

realmeโทรศัพท์ 5G รุ่น 11 Pro+

ราคาอ้างอิง
16,990 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ

ดีไซน์หรูหรา ถ่ายรูปสนุก ด้วยกล้องหลังความละเอียด 200MP

โทรศัพท์ 5G จาก realme รุ่นนี้ เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีความน่าสนใจตั้งแต่ดีไซน์ โดยเฉพาะการออกแบบฝาหลังของตัวเครื่องด้วยการใช้วัสดุหนังวีแกนเกรดพรีเมียม พร้อมเลวดลายเลียนแบบหนังแท้ เพื่อเพิ่มดีเทลให้ดูสวยงาม เสริมด้วยสีสันที่มีให้เลือก 2 สี คือ Sunrise Beige และ Oasis Green ที่มีการไล่เฉดสีได้อย่าลงตัว สวยงามมีระดับครับ


กล้องหลังมีความละเอียดสูงถึง 200MP เซนเซอร์ SAMSUNG ISOCELL HP3 SuperZoom พร้อม OIS ภายในตัว ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K 30fps ในส่วนของเลนส์เสริมก็จะมี Ultra Wide 8MP และมาโคร 2MP ส่วนกล้องหน้าก็ละเอียดถึง 32MP ส่วนชิปประมวลผลที่ใช้จะเป็น Dimensity 7050 ประสิทธิภาพระดับกลาง เหมาะกับการใช้งานทั่วไปครับ

ขนาดจอ6.70 นิ้ว
น้ำหนัก0.19 กก.
ขนาดตัวเครื่อง7.39 x 0.87 x 16.16 ซม.
ชิปเซ็ตMediaTek Dimensity 7050
RAM12 GB
ROM512 GB
ความละเอียดกล้องหน้า32 MP
ความละเอียดกล้องหลัง200 + 8 + 2 MP
เวอร์ชันบลูทูธ5.2
Refresh Rate120 Hz
แบตเตอรี่5000 mAh
การเชื่อมต่อไร้สายWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax
ระบบปฏิบัติการRealme UI 4.0 based on Android 13
เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป, ถ่ายรูป
การรับประกันสินค้า1 ปี
สีSunrise Beige, Oasis Green
ระดับการกันน้ำกันฝุ่นไม่ระบุ
จำนวนซิมที่รองรับ2
รองรับการชาร์จไว
No.10

iQOOโทรศัพท์ 5G รุ่น Z7x

ราคาอ้างอิง
7,592 บาท
ราคาต่ำ

รุ่นคุ้มค่าราคาย่อมเยา แบตเตอรี่อึด รองรับชาร์จไวถึง 80W

โทรศัพท์ 5G รุ่นนี้ เหมาะสำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัด เพราะเป็นรุ่นคุ้มค่าที่มาพร้อมกับราคาเบา ๆ เพึยงไม่ถึง 8,000 บาท แต่ฟังก์ชันการทำงานพื้นฐานครบถ้วน แถมยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงามน่าใช้งาน โดยเฉพาะในส่วนของกล้องหน้าที่เป็นแบบเจาะรู เสริมด้วยดีไซน์กล้องหลังทันสมัย และมีให้เลือก 2 สีสัน คือสีฟ้าและสีเทาเมทัลลิกครับ


หน้าจอเป็นชนิด LCD ขนาด 6.64 นิ้ว ลื่นไหล 120 Hz ความละเอียด FHD+ ส่วนชิปประมวลผลจะเป็น Qualcomm Snapdragon 695 5G ใช้เล่นเกมกราฟิกระดับกลางได้ ในส่วนของรุ่นเริ่มต้นจะให้ RAM/ROM มาที่ 8/128GB ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ที่สำคัญคือรุ่นนี้มีแบตเตอรี่อึดถึง 6,000 mAh และรองรับชาร์จไว 80W เลยทีเดียวครับ

ขนาดจอ6.64 นิ้ว
น้ำหนัก0.20 กก.
ขนาดตัวเครื่อง7.98 x 0.75 x 16.30 ซม.
ชิปเซ็ตSnapdragon 695
RAM8 GB
ROM128 GB, 256 GB
ความละเอียดกล้องหน้า8 MP
ความละเอียดกล้องหลัง50 + 2 MP
เวอร์ชันบลูทูธ5.1
Refresh Rate120 Hz
แบตเตอรี่6,000 mAh
การเชื่อมต่อไร้สายWi-Fi 802.11 a/b/g/n
ระบบปฏิบัติการAndroid 13
เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป, เล่นเกม
การรับประกันสินค้า1 ปี
สีMetallic Grey, Tropical Blue
ระดับการกันน้ำกันฝุ่นไม่ระบุ
จำนวนซิมที่รองรับ2
รองรับการชาร์จไว

บทส่งท้าย

จะเห็นได้ว่าโทรศัพท์ 5G เริ่มมีสเปกและราคาที่หลากหลายขึ้น ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังทรัพย์แตกต่างกันได้ครอบคลุมกว่าเดิม อีกทั้งเครือข่าย 5G ในปัจจุบันยังได้เริ่มขยายพื้นที่และครอบคลุมเกือบทั่วประเทศแล้ว จึงเป็นไอเดียที่ดีหากคุณต้องการซื้อโทรศัพท์ที่สามารถรองรับสัญญาณ 5G ในช่วงนี้ เพื่อเตรียมตัวต้อนรับประสบการณ์การใช้อินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วขึ้นภายในอนาคตอันใกล้นั่นเองครับ

TOP 5 โทรศัพท์ 5G แนะนำ

อันดับที่ 1: Appleโทรศัพท์ 5G รุ่น 14 Pro Max

อันดับที่ 2: vivoโทรศัพท์ 5G รุ่น X90 Pro

อันดับที่ 3: HONORโทรศัพท์ 5G รุ่น Magic 5 Pro

อันดับที่ 4: SAMSUNGโทรศัพท์ 5G รุ่น Galaxy Z Flip5

อันดับที่ 5: OnePlusโทรศัพท์ 5G รุ่น Nord 3

คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับ
คำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
  1. TOP
  2. สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
  3. โทรศัพท์มือถือ
  4. 10 อันดับ โทรศัพท์ 5G รุ่นไหนดี ปี 2024 เร็ว แรง รับสัญญาณดี

บทความยอดนิยม

สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม > โทรศัพท์มือถือ >
โทรศัพท์บ้าน
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม > โทรศัพท์มือถือ >
มือถือเล่นเกม ราคาไม่เกิน 10,000 บาท
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม > โทรศัพท์มือถือ >
โทรศัพท์ OPPO
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม > โทรศัพท์มือถือ >
OPPO ราคาไม่เกิน 10,000 บาท
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม > โทรศัพท์มือถือ >
โทรศัพท์ Sony Xperia
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม > โทรศัพท์มือถือ >
มือถือ ราคาไม่เกิน 6,000 บาท
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม > โทรศัพท์มือถือ >
โทรศัพท์ Vivo
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม > โทรศัพท์มือถือ >
iPhone
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม > โทรศัพท์มือถือ >
โทรศัพท์ Android
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม > โทรศัพท์มือถือ >
โทรศัพท์มือถือ ราคาไม่เกิน 3,000 บาท

ค้นหาตามหมวดหมู่