ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
หลายคนคงรู้สึกเบื่อกับคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปที่คัดลอกหรือเขียนไฟล์ได้อย่างเชื่องช้า โดยเฉพาะกับไฟล์ขนาดใหญ่หรือมีจำนวนมาก ซึ่งต้องใช้เวลานานจึงจะจัดการงานเหล่านั้นได้เสร็จสิ้น โดยสาเหตุอาจเป็นเพราะคอมพิวเตอร์หรือแล็บท็อปเหล่านั้นยังใช้ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk Drive : HDD) ที่เป็นแบบจานหมุนทำให้มีประสิทธิภาพในการอ่าน-เขียนข้อมูลที่จำกัด แตกต่างจาก Solid-state Drive หรือ SSD ที่สามารถอ่าน-เขียนไฟล์หรือข้อมูลต่าง ๆ บนคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็ว
แต่ด้วยความที่ SSD มีหลายชนิดและมีแบรนด์ผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก ในครั้งนี้เราจึงจะมานำเสนอวิธีการเลือก SSD ประกอบคำแนะนำของ IT Support นอกจากนี้ เรายังมาพร้อมกับการแนะนำ 10 อันดับ SSD ที่ได้รับความนิยมจากหลากหลายยี่ห้อ ทั้ง Seagate, WD, SAMSUNG, Kingston
คุณมี่จบการศึกษาจากสาขาวิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจักรพงษภูวนารถ หลังจากนั้นได้มีโอกาสเข้าทำงานในแวดวงไอที โดยเริ่มจากการเป็น Network Engineer ที่วางระบบเครือข่ายให้กับสถาบันและองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่หลายแห่ง เช่น โรงพยาบาล โรงงาน สนามบิน เป็นต้น ปัจจุบันทำงานเป็น IT Infrastructure Engineer หรือวิศวกรโครงสร้างด้านไอทีอยู่ในบริษัท System Integrator ที่ออกแบบและดูแลระบบโครงสร้างเทคโนโลยีและเครือข่าย ด้วยพื้นฐานทั้งด้านการศึกษาบวกกับประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้องกับด้านไอทีที่สั่งสมมามากกว่า 10 ปี ประกอบกับความสนใจส่วนตัวที่หมั่นอัปเดตข้อมูลและความรู้เรื่องเทคโนโลยีอยู่เสมอ ทำให้คุณมี่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีรวมไปถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับทางไอทีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์การทำงานภายในคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ และสามารถแนะนำให้กับผู้ที่สนใจเพื่อให้ได้เลือกคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องทื่เหมาะกับความต้องการของแต่ละคนมากที่สุด
คุณเคย์จบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยศรีปทุมและมีประสบการณ์ทำงานด้านการออกแบบมาหลายปี แต่ด้วยความชื่นชอบในการเล่นเกม รวมทั้งมีความสนใจเรื่องเทคโนโลยีใหม่ ๆ จึงได้ศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจเกมและการแข่งขันอย่างจริงจัง จนมีโอกาสได้เข้าสู่วงการ E-sports และได้เป็นหนึ่งในทีมผู้จัดงานเกมระดับประเทศ ได้แก่ Thailand Game Expo, Predator League และ Thailand Mobile Expo ปัจจุบันคุณเคย์ได้ผันตัวมาเป็นสตรีมเมอร์และทำเพจของตัวเองที่มีชื่อว่า Blackkat Gamer โดยมีความถนัดเป็นพิเศษในเรื่องของเกมมือถือ, Nintendo Switch และเกม PC รวมทั้งยังคอยติดตามข่าวสารในวงการเกมและเทคโนโลยีอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นด้าน Gadgets, Application หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกี่ยวกับสายเกมทั้งหมด
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
ทั้ง SSD และ HDD นั้นต่างเป็นอุปกรณ์ใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูลภายในคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปเหมือนกัน แต่แตกต่างกันที่ SSD จะจัดเก็บข้อมูลในหน่วยความจำแฟลช ในขณะที่ HDD เก็บข้อมูลในจานแม่เหล็ก ซึ่ง SSD จะมีขนาดเล็กกว่า โดยเฉพาะแบบพกพาที่มีขนาดเล็กกว่าและเบากว่า HDD ถึง 2 เท่า นอกจากนี้ SSD ยังมีความเร็วในการประมวลผล และโอนถ่ายข้อมูลที่เร็วกว่า HDD ซึ่ง HDD จะเน้นสำหรับผู้ต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ในการจัดเก็บไฟล์ข้อมูลจำนวนมาก แต่ SSD จะเน้นเรื่องของความเร็วในการประมวลผลในขณะใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ เข้ามาด้วย
SSD เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าหากคุณให้ความสำคัญกับการถ่ายโอนที่เร็วกว่า เนื่องจากใช้หน่วยความจำแฟลชในการจัดเก็บข้อมูล SSD จึงสามารถถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วมากกว่า HDD ถึง 2 เท่า แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีราคาแพงกว่า แต่หากเน้นเรื่องความจุมากกว่าความเร็วในการโอนข้อมูล คุณสามารถซื้อ HDD ได้ที่ความจุสูงกว่าในราคาที่ต่ำกว่า โดยจะเขียนข้อมูลลงดิสก์โดยตรง ซึ่งทำให้ความเร็วการถ่ายโอนช้าลง โดยทั่วไป SSD จะมาพร้อมกับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาด 1 TB หรือ 2 TB ในขณะที่ HDD มักมาพร้อมกับความจุที่สูงกว่า เช่น 4 TB และ 5 TB เป็นต้น
ประเภทของอินเทอร์เฟซของ SSD แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1. SATA III 2.5" จะมีลักษณะคล้ายกับตลับสี่เหลี่ยมขนาด 2.5" มีรูปร่างคล้ายกับ HDD มีน้ำหนักเบา สามารถเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือแล็บท็อปได้ทันทีโดยผ่านสล็อตการเชื่อมต่อแบบ SATA ส่วนความเร็วในการอ่าน-เขียนสูงสุดจะอยู่ที่ 600 MB/s
2. M.2 SATA จะถูกลดความหนาลงให้มีลักษณะคล้ายกับ RAM โดยมีหลากหลายขนาดให้เลือกใช้ สามารถเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือแล็บท็อปได้โดยต่อเข้าที่อินเตอร์เฟซ PCIe สำหรับ SSD บนเมนบอร์ด ก็สามารถใช้งานได้เลย ขนาดของ M.2 SATA ที่นิยมในปัจจุบันจะมีความกว้าง 22 mm และความยาว 80 mm และสำหรับความเร็วในการอ่าน-เขียนสูงสุดนั้นจะเท่ากับ SSD ชนิด SATA III 2.5" ที่ 600 MB/s แต่แตกต่างกันที่ขนาด
3. M.2 NVMe PCIe คือเทคโนโลยีที่ใหม่ที่สุดของ SSD รูปร่างหน้าตาและขนาดเหมือนกับ SATA III M.2 ทุกประการ แต่มีวิธีการเชื่อมต่อที่แตกต่างกัน เพราะใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ออกแบบมาเพื่อ SSD ชนิดนี้โดยเฉพาะอย่าง NVM Express (NVMe) โดยอาศัยการรับส่งข้อมูลผ่านทางสล็อตเชื่อมต่อแบบ PCIe สิ่งที่จะบอกถึงความเร็วสูงสุดของตัว SSD คือ เลน หรือเป็นสัญลักษณ์ตัวคูณที่ตามหลัง PCle มีตั้งแต่ x1 , x2 , x4 , x8 และ x16 ส่งผลให้มีความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลที่สูงกว่าสองชนิดแรกเป็นอย่างมาก
ปัจจุบัน M.2 NVMe PCIe ที่วางจำหน่ายจะแบ่งเป็น Gen2, Gen3, Gen4, Gen5 แบบ x4 ความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลตามข้อมูลด้านล่าง
NVMe Gen2 x4 ความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูล อยู่ที่ประมาณ 2,200 MB/s
NVMe Gen3 x4 ความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูล อยู่ที่ประมาณ 4,000 MB/s
NVMe Gen4 x4 ความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูล อยู่ที่ประมาณ 8,000 MB/s
NVMe Gen5 x4 ความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูล อยู่ที่ประมาณ 15,000 MB/s
แต่ละแบบก็จะมีความเร็วสูงสุดแตกต่างกันไป หากใครติดตั้ง OS บน SSD ประเภทนี้จะเห็นความแตกต่างของความเร็วตอนเริ่มเปิดใช้งานคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อป รวมถึงการเปิดโปรแกรมหนัก ๆ ที่ต้องใช้เวลาในการโหลด อย่างชัดเจน การเลือกชนิดของ SSD จึงขึ้นอยู่กับว่าคุณจะนำไปใช้กับงานลักษณะใด หากเป็นการใช้งานโดยทั่วไป ชนิด SATA III ก็อาจจะเพียงพอแล้ว แต่ถ้าคุณต้องการใช้งานเพื่อต้องการอ่าน-เขียนข้อมูลหรือไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ หรือต้องการเริ่มการทำงาน OS อย่างรวดเร็ว เราขอแนะนำชนิด PCIe NVMe. M.2
ก่อนนำ SSD ไปติดตั้ง ควรตรวจสอบคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปของเราก่อนว่ารองรับ SSD แบบใดบ้าง รวมทั้งคำนึงถึงความจุสำหรับการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ดังนั้น เพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกซื้อ SSD ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของตนเองมากที่สุด
สำหรับคนที่ต้องการ SSD เพื่อเล่นเกมที่ใช้คอมพิวเตอร์สเปกสูง เช่น เกม Action ครับ เกมประเภทนี้จะมีใช้กราฟิกที่สูงมากเป็นพิเศษ หากสเปคคอมไม่แรงพอ จะทำให้ไม่สามารถเล่นเกมได้ หรือเกิดอาการกระตุกอย่างแน่นอน แต่ปัจจุบันไม่ได้มีเพียงเกม Action เกมประเภทนี้จะแฝงในเกมประเภทอื่นด้วย อย่างเช่น เกม ARPG ไปจนถึงเกมแนวแข่งรถ อีกแนวหนึ่งคือ เกมแนวยิงเกือบทุกประเภท (FPS, Battle Royals) เกมประเภทนี้จะค่อนข้างกินสเปกคอมที่ค่อนข้างสูง เพราะแผนที่ค่อนข้างกว้าง ไฟล์ใหญ่ รายละเอียดเยอะ รวมไปถึงเกม MMORPG หรือเกม RPG ที่มีเนื้อเรื่องเยอะ ๆ มีคัทซีนประกอบฉากหรือมีเสียงพากษ์แบบฟูลวอยส์ เกมประเภทนี้จะใช้พื้นที่ค่อนข้างเยอะ ขั้นต่ำจะใช้พื้นที่เริ่มต้นประมาณ 6GB และอาจจะมีดาวน์โหลดทรัพยากรเพิ่มเติมหรือแพทช์เสริมหลังจากติดตั้งเสร็จ หลาย ๆ เกมใช้พื้นที่เกินกว่า 20GB ทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการโหลด
เราแนะนำให้เลือก SSD M.2 NVMe PCIe 4.0 หรือ 5.0 พร้อมความเร็วการอ่านข้อมูล 5,000 MB/s และเขียนข้อมูลที่ 3,000 MB/s เพื่อให้ดาวน์โหลดเกมได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มอรรถรส และประสิทธิภาพในระหว่างการเล่นเกม หรือ Streaming เกม ได้อย่างไม่มีสะดุด
สำหรับความจุ SSD สำหรับเล่นเกมหรือ Streaming เกมเป็นหลัก เราแนะนำว่า ให้เลือก SSD ขนาด 1TB-2TB มาใช้งานเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับจำนวนเกมที่เล่น หรือหากต้องใช้พื้นที่สำหรับดาวน์โหลดเกมลงเครื่อง ซึ่งขนาดของเกมจะอยู่ที่ 10GB-100GB ต่อ 1 เกม ก็จำเป็นจะต้องใช้ความจุในการเก็บไฟล์ค่อนข้างเยอะ หากไม่ต้องการบริหารพื้นที่ในการจัดเก็บโดยการลบเกมทิ้งบ่อย ๆ เราแนะนำให้เลือกความจุขนาด 2TB มาใช้งาน
1. ขนาดของเกมจะอยู่ที่ 10GB-100GB ต่อ 1 เกม สามารถจัดเก็บเกมได้ประมาณ 10-100 เกม
2. สำหรับสตรีมเมอร์ที่ต้องการจัดเก็บไฟล์วิดิโอเพื่อใช้งานภายหลัง ไฟล์ 4K 60FPS ความยาว 1 นาที จะใช้พื้นที่ประมาณ 0.9GB ดังนั้น สามารถจัดเก็บไฟล์วิดิโอได้ความยาวประมาณ 17 ชม. 20 นาที
สำหรับคนที่ทำงานด้านกราฟิก ตัดต่อ ต้องการพื้นที่ในการเก็บไฟล์งานวิดีโอที่มีขนาดใหญ่ และมีใช้งานแอปพลิเคชันตัดต่อที่หลากหลาย เราแนะนำให้เลือก SSD M.2 NVMe PCIe 3 ขึ้นไป พร้อมความเร็วการอ่านข้อมูล 2,000 MB/s และเขียนข้อมูลที่ 1,000 MB/s ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพระหว่างการตัดต่อ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถเปิดแอปพลิเคชันหนัก ๆ ที่ต้องใช้เวลาในการประมวลผลได้ทันที ช่วยลดเวลาแฝง และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบประมวลผลโดยรวมสำหรับการใช้งานทั่วไปโดยไม่ติดขัด
สำหรับความจุ SSD สำหรับสำหรับงานกราฟฟิก หรือตัดต่อเป็นหลัก เราแนะนำว่า ให้เลือก SSD ขนาด 500GB-1TB มาใช้งานเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับจำนวนโปรแกรมตัดต่อที่ต้องใช้งาน หรือหากต้องใช้พื้นที่สำหรับโปรแกรมตัดต่อต่าง ๆ หรือมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ความจุในการจัดเก็บไฟล์ภาพหรือไฟล์วิดีโอค่อนข้างเยอะ เราแนะนำให้เลือก SSD ขนาด 1TB มาใช้งาน
1. ไฟล์รูปจากกล้องดิจิตอล 20 ล้านพิกเซล มีขนาดสูงสุด 10 MB ดังนั้น สามารถจัดเก็บภาพถ่ายได้ประมาณ 100,000 รูป
2. ไฟล์วิดิโอ 4K 60FPS ความยาว 1 นาที จะใช้พื้นที่ประมาณ 0.9GB ดังนั้น สามารถจัดเก็บไฟล์วิดิโอได้ความยาวประมาณ 17 ชม. 20 นาที
จากการคำนวณคร่าว ๆ หากคุณต้องการลงโปรแกรมสำหรับตัดต่อ ควรตรวจสอบเพิ่มเติมว่า โปรแกรมนั้น ๆ ต้องการพื้นที่จัดเก็บขนาดเท่าไหร่ เพื่อที่จะคำนวณขนาด SSD ให้พอเหมาะกับการใช้งาน
สำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น ใช้ในการเรียน ดูหนัง ฟังเพลง ทำงานทั่วไป จัดเก็บข้อมูล ที่ไม่ต้องการประสิทธิภาพของเครื่องมาก โดยถ้าคุณเพียงแค่ต้องการเพิ่มความเร็วในการใช้งานทั่วไป เช่น เปิด Windows หรือเปิดและบันทึกไฟล์ต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น เราแนะนำให้ใช้ SSD SATA III 2.5" หรือ M.2 SATA NVMe พร้อมความเร็วการอ่านข้อมูล 500 MB/s และเขียนข้อมูลที่ 500 MB/s
สำหรับคนที่ต้องการใช้ SSD เพื่อเก็บไฟล์เพิ่มจากไฟล์หรือโปรแกรมที่อยู่ในตัวเครื่อง เราแนะนำให้เริ่มจากความจุที่ 500GB สำหรับใช้งานทั่วไป เช่น จัดเก็บข้อมูลทั่วไป File Microsoft Word /Excel รูปภาพจำนวนไม่มาก แต่ไม่เน้นเก็บ File Vdo หรือ File ที่มีขนาดใหญ่มาก แต่หากต้องการ SSD สำหรับเก็บไฟล์หนัง หรือไฟล์วิดีโอจำนวนมาก เราแนะนำให้ใช้ SSD ความจุ 1TB ขึ้นไป เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ
สำหรับความจุ 500GB สามารถเก็บไฟล์ได้ดังต่อไปนี้
1. ไฟล์ภาพยนตร์ Full HD 1 เรื่อง จะใช้พื้นที่จัดเก็บประมาณ 6GB ความยาวของหนังเฉลี่ย 1.5 ชม./ เรื่อง จะสามารถจัดเก็บได้ประมาณ 80 เรื่อง ส่วนไฟล์วิดีโอระดับ 4K จะสามารถจัดเก็บได้เฉลี่ยเพียง 5 เรื่องเท่านั้น
2. ไฟล์ MP3 ที่มีคุณภาพเสียงปานกลาง (128 kbps) และไฟล์เพลงมีขนาดเฉลี่ยประมาณ 4 MB ต่อเพลง
จะสามารถจัดเก็บได้ประมาณ 125,000 เพลง
3. ไฟล์รูปภาพ หากใช้รูปภาพขนาดใหญ่สุดเป็น 10MB ต่อรูป จะสามารถจัดเก็บประมาณ 50,000 รูปภาพ
สำหรับคนที่ต้องการใช้วิธีการเก็บข้อมูลแบบลง External เป็นประจำ จะรู้สึกถึงความช้าในการนำข้อมูลลง HDD หรือถ่ายข้อมูลจาก HDD ลงคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อป หากจะใช้ Flash Drive ก็เก็บข้อมูลได้ไม่เยอะและไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไรสำหรับการนำไปเก็บข้อมูลในปัจจุบัน แถมยังมีโอกาสที่ไฟล์จะเสียหายง่าย
เราขอแนะนำให้เลือก External SSD หรือ SSD แบบพกพา ที่สามารถเชื่อมต่อภายนอกโดยใช้สาย USB ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน เนื่องจากสามารถเริ่มต้นใช้งานได้อย่างง่ายดาย ไม่จำเป็นต้องติดตั้งให้ยุ่งยาก เพียงต่อเข้ากับพอร์ต USB ก็สามารถเริ่มใช้งานได้ทันที และมีขนาดและน้ำหนักที่ลดลงจาก External HDD กว่าสองเท่า พกพาสะดวก แถมยังอ่าน-เขียนข้อมูลได้รวดเร็วสูงสุดถึง5,000MB/s ซึ่งเรียกได้ว่าทิ้งห่าง External HDD อย่างขาดลอย แต่ก็มีข้อพิจารณาในเรื่องของราคาที่ค่อนข้างสูง ซึ่งจะมีราคาที่สูงไปตามความจุ หากยิ่งมีความจุได้มากราคาก็จะแพงตามไป เราควรเลือกความจุให้เหมาะสมสำหรับการนำไปใช้งาน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด
อีกหนึ่งจุดสำคัญก่อนซื้อ SSD มาใช้งานคือ ตรวจสอบเมนบอร์ดของ PC หรือแล็ปท็อปว่า รองรับ SSD ประเภทนั้น ๆ หรือไม่ เพราะถ้าเมนบอร์ดของเครื่องไม่รองรับ SSD ประเภทนั้น ๆ ก็จะไม่สามารถใช้งานได้ และหากเมนบอร์ดสามารถใช้งานได้ ควรเลือก Gen ไหนมาใช้ วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ดูที่ Device Manager ว่า SSD ของเดิมใช้อะไร แล้วนำรุ่นของเดิมไป Search หาว่าเป็นประเภทไหน
ถ้าเราอยากรู้ว่า เราจะสามารถอัพเกรดได้ไหม ให้นำรุ่นเมนบอร์ดไปค้นหาใน Datasheet ซึ่งจะบอกถึงรายละเอียดที่รองรับการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ โดยปกติแล้ว ใน Datasheet นั้นจะระบุมาเลย เช่น 1 x M.2 connector Socket 3, M key, type 2260/2280/22110 PCIe 4.0 x4 หมายถึง มีช่องเชื่อมต่อ SSD M.2 PCle 4.0 x4 รองรับขนาด 2260, 2280, 22110
อีกจุดที่ควรระวังคือ ในเมนบอร์ดรุ่นใหม่ ๆ ในส่วนของการต่อ M.2 ช่อง CPU ให้ดูด้วยว่า มีเงื่อนไขไหมว่า SSD ประเภทนี้ต้องใช้กับ CPU รุ่นอะไร เป็นต้น
ปกติผู้ผลิตจะประเมินอายุการใช้งานเอาไว้ที่หลักล้านชั่วโมง ถ้าคำนวนเป็นเวลาราว ๆ 190 ปี แต่อย่างไรก็ตามการประเมินนี้จะเป็นการคำนวณจากระบบและอัลกอริธึ่มของผู้ผลิต ซึ่งถ้าใช้งานจริงอาจจะมีตัวแปรอื่น ๆ ทำให้อายุการใช้งานสั้นลงได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องการจ่ายไฟฟ้าไม่เสถียร สภาพอากาศ และอื่น ๆ เราแนะนำให้ตรวจสอบระยะเวลาประกันก่อนตัดสินใจซื้อ โดยทั่วไป ประกันจะมีให้เลือกแบบ 3 ปี หรือ 5 ปี โดยจะมีราคาเพิ่มขึ้นมา ในบางรุ่นอาจจะมีกำหนดค่า TBW เช่น ประกัน 5 ปี หรือ 1200 TBW หมายความว่า ประกัน 5 ปี หรือเขียนข้อมูลไม่เกิน 1200 TB และอาจจะคำนึงถึงชื่อแบรนด์ของอุปกรณ์ร่วมด้วย
ทั้งนี้การมีประกันมีไว้เพื่อเคลมอุปกรณ์เท่านั้น ไม่ได้เป็นการรับประกันว่าอุปกรณ์จะไม่มีวันเสียหาย และข้อมูลจะไม่หายไป จึงแปลได้ว่า เรามีประกัน SSD 5 ปี ถ้าเกิดความเสียหาย แปลว่า เราสามารถนำไปเคลมได้ แต่ข้อมูลภายใน SSD ก็จะหายทั้งหมดอยู่ดี ฉะนั้นการเก็บข้อมูลใน SSD อาจจะต้องคำนึงถึงความสำคัญของข้อมูลที่จะเก็บด้วย
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | ราคา | คะแนน | รายละเอียด | ||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ประเภทอินเตอร์เฟซ | ความจุ | ความเร็วในการอ่านข้อมูล | ความเร็วในการเขียนข้อมูล | อุณหภูมิในการทำงาน | อุณหภูมิในการจัดเก็บ | ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | ระยะเวลาการรับประกัน | ||||||
1 | Transcend SSD รุ่น 250S | 7,699 บาท ราคาค่อนข้างสูง | SSD สำหรับเกมเมอร์ ความจุเยอะ 2TB อ่านเร็วถึง 7,200 MB/s | M.2 NVMe PCIe Gen 4X4 | 2TB | 7,100 Mbps | 6,500 Mbps | 0 - 70°C | Windows, Linux | 5 ปี | |||
2 | SAMSUNG SSD รุ่น 980 PRO | 10,799 บาท ราคาสูง | ตัวท็อปของแบรนด์ ปรับแต่งการทำงานได้ จัดการกับความร้อนได้ดี | M.2 NVMe PCIe Gen 4X4 | 2TB | 6,900 Mbps | 5,000 Mbps | 0 - 70 °C | Windows, Linux | 5 ปี | |||
3 | Kingston FURY SSD รุ่น Renegade | 6,390 บาท ราคาค่อนข้างสูง | เทคโนโลยีใหม่ อ่าน/เขียนข้อมูลได้เร็วสูงสุดถึง 7,300MB/s | M.2 NVMe PCIe Gen 4 | 1TB | 7,300 Mbps | 6,000 Mbps | 0 - 70 °C | -40 - 85 °C | 5 ปี | |||
4 | SanDisk SSD รุ่น Extreme Portable SSD V2 | 3,990 บาท ราคาปานกลาง | อ่าน-เขียน เร็วกว่าเดิม พกพาสะดวก กันน้ำและฝุ่นระดับ IP55 | USB-C 3.2 Gen 2 | 500GB | 1,050 Mbps | 1,000 Mbps | 5 ปี | |||||
5 | Kingston SSD รุ่น XS2000 | 3,090 บาท ราคาปานกลาง | ขนาดกะทัดรัด ออกแบบมาให้พกพาสะดวก ความเร็วไม่แพ้รุ่นปกติ | USB-C 3.2 Gen 2x2 | 500GB | 2,000 Mbps | 2,000 Mbps | 0 - 40 °C | -20 - 85 °C | Windows, macOS, Linux, Chrome OS | 5 ปี | ||
6 | WD SSD รุ่น WD Blue WDS100T2B0A | 3,830 บาท ราคาปานกลาง | SSD SATA 2.5" เหมาะสำหรับแทน HDD ใช้งานกับโน้ตบุ๊กได้ | SATA III 2.5" | 1TB | 560 Mbps | 530 Mbps | 5 ปี | |||||
7 | PNY SSD รุ่น CS2241 | 3,088 บาท ราคาปานกลาง | ความจุเยอะ 1TB พร้อม MTBF ยาวนาน 1.5 ล้านชั่วโมง ราคาเบา | M.2 NVMe PCIe Gen 4X4 | 1TB | 5,100 Mbps | 3,200 Mbps | 0 - 70 °C | -40 - 85 °C | 5 ปี | |||
8 | COLORFUL SSD รุ่น CN600 PRO | 1,280 บาท ราคาต่ำ | ราคาสุดคุ้ม อ่าน/เขียนข้อมูลได้รวดเร็ว รับประกันนาน 3 ปี | M.2 NVMe PCIe Gen 3 | 512GB | 3,300 Mbps | 2,600 Mbps | 3 ปี | |||||
9 | Seagate SSD รุ่น One Touch SSD | 4,590 บาท ราคาปานกลาง | SSD สำหรับพกพา ขนาดใหญ่จุใจ เชื่อมต่อง่ายด้วย Type-C | USB-C 3.2 Gen 2 | 1TB | 1,030 Mbps | 1,030 Mbps | Windows, Linux, macOS, Android, Chrome OS | 3 ปี | ||||
10 | Transcend SSD รุ่น MSA230S | 1,490 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | SSD น้องเล็ก ประหยัดพื้นที่ เหมาะกับคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปรุ่นเก่า | M.2 SATA | 256GB | 530 Mbps | 400 Mbps | Windows, Linux | 3 ปี |
สำหรับเหล่าเกมเมอร์ที่กำลังมองหา SSD ชนิด M.2 NVMe สักตัว เพื่อไปอัพเกรดคอมพิวเตอร์ให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้น เราขอแนะนำรุ่นนี้เลยครับ เพราะเป็น PCIe Gen 4x4 M.2 2280 แบบ 3D NAND ที่มีความเร็วในการอ่านสูงถึง 7,100MB/s และเขียนที่ 6,500MB/s เร็วเป็นอันดับต้น ๆ ในท้องตลาด แต่สิ่งที่น่าประทับใจอีกหนึ่งข้อก็คือราคาที่ไม่ถึง 8,000 บาท เท่านั้นครับ
มาพร้อมกับ 780 TBW ในส่วนของค่า IOPS นั้นการอ่านอยู่ที่ 530,000 และการเขียน 420,000 สำหรับ MTBF ก็ยาวนานถึง 3 ล้านชั่วโมงเลยทีเดียว และสิ่งที่พิเศษของรุ่นนี้ก็คือ ด้านบนของ SSD ที่ดูเหมือนว่าเป็นสติกเกอร์ แต่ความจริงแล้วคือแผ่นกราฟีน (Graphene) คุณภาพสูง ที่ใช้สำหรับระบายความร้อน ช่วยให้ SSD ทำงานได้เสถียรและราบรื่นนั่นเองครับ
ประเภทอินเตอร์เฟซ | M.2 NVMe PCIe Gen 4X4 |
---|---|
ความจุ | 2TB |
ความเร็วในการอ่านข้อมูล | 7,100 Mbps |
ความเร็วในการเขียนข้อมูล | 6,500 Mbps |
อุณหภูมิในการทำงาน | 0 - 70°C |
อุณหภูมิในการจัดเก็บ | |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | Windows, Linux |
ระยะเวลาการรับประกัน | 5 ปี |
SSD จาก SAMSUNG รุ่นนี้เป็นรุ่นท็อปสุดที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี PCIe Gen.4 ทำให้มีความเร็วในการอ่าน/เขียน ข้อมูลเพิ่มขึ้นเป็น อ่าน 6,900 MB/s และเขียน 5,000 MB/s โดยมากกว่า Gen.3 ของรุ่นเดิม ถึง 2 เท่า แถมยังจัดการกับความร้อนในขณะทำงานได้ดีขึ้นด้วยการคลือบนิกเกิล เสริมด้วยอัลกอริทึมควบคุมอุณหภูมิอีกหนึ่งชั้น จึงปกป้องได้ถึงขั้นสุด
นอกจากนี้ ยังสามารถปรับแต่งการทำงานของ SSD ด้วยซอฟต์แวร์ Samsung Magician ได้ เพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานของคุณ ในส่วนของความจุเริ่มต้นจะอยู่ที่ 250GB และสูงสุดที่ 2TB มีเทคโนโลยีย้อนกลับให้สามารถใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดที่รองรับเพียง PCIe Gen.3 ได้ พร้อมรองรับฟีเจอร์ TRIM และ S.M.A.R.T รวมถึงการเข้ารหัสแบบ AES 256-bit ครับ
ประเภทอินเตอร์เฟซ | M.2 NVMe PCIe Gen 4X4 |
---|---|
ความจุ | 2TB |
ความเร็วในการอ่านข้อมูล | 6,900 Mbps |
ความเร็วในการเขียนข้อมูล | 5,000 Mbps |
อุณหภูมิในการทำงาน | 0 - 70 °C |
อุณหภูมิในการจัดเก็บ | |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | Windows, Linux |
ระยะเวลาการรับประกัน | 5 ปี |
หลังจากที่ไม่ได้รับการดูแล HyperX ต่อแล้ว ทาง Kingston ก็ได้ก่อตั้งแบรนด์เกมมิ่งเกียร์ของตัวเองขึ้นมาใหม่ในชื่อ "FURY" ซึ่งมีจุดเด่นอย่างดีไซน์ที่ดูเท่และโฉบเฉี่ยวเพื่อบ่งบอกถึงความเป็นเกมเมอร์ตั้งแต่แรกเห็น เช่นเดียวกันกับ SSD NVMe M.2 รุ่นนี้ ที่มีความจุให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น 500GB, 1TB และสูงสุด 2TB เหมาะสำหรับการเก็บข้อมูลทุกรูปแบบครับ
รุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง PCIe 4.0 Gen 4x4 ส่วนเทคโนโลยี NAND ที่ใช้จะเป็นแบบ 3D TLC สำหรับขนาด 1TB รองรับความเร็วในการอ่านข้อมูลสูงสุดถึง 7,300 MB/s และเขียนข้อมูลสูงสุด 6,000 MB/s เลยทีเดียว มี MTBF ยาวนาน 1.8 ล้านชั่วโมง และค่า IOPS สูงสุดถึง 1 ล้าน ในรุ่น 1TB ขึ้นไป อีกทั้งยังออกแบบมาให้รองรับการใช้งานร่วมกับ PS5 ได้อีกด้วยครับ
ประเภทอินเตอร์เฟซ | M.2 NVMe PCIe Gen 4 |
---|---|
ความจุ | 1TB |
ความเร็วในการอ่านข้อมูล | 7,300 Mbps |
ความเร็วในการเขียนข้อมูล | 6,000 Mbps |
อุณหภูมิในการทำงาน | 0 - 70 °C |
อุณหภูมิในการจัดเก็บ | -40 - 85 °C |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | |
ระยะเวลาการรับประกัน | 5 ปี |
SSD แบบพกพารุ่นนี้ เป็นรุ่นที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่นแรกที่ทำยอดขายได้อย่างถล่มทลาย ซึ่งสิ่งที่ถูกอัปเกรดมาในรุ่นนี้คือความเร็วในการ อ่าน-เขียนข้อมูล จากรุ่นเดิมที่ทำได้สูงสุด 550 MB/s เพิ่มเป็น 1,050 MB/s โดยรองรับอินเทอร์เฟซ USB 3.2 Gen 2 ทั้ง Type-A และ Type-C ทำให้ใช้งานได้กับหลากหลายอุปกรณ์มากขึ้น ในส่วนของความจุจะมีให้เลือกตั้งแต่ 500GB - 4TB ครับ
อีกทั้งยังมาพร้อมกับมาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำระดับ IP55 ช่วยให้มีความแข็งแรงทนทานขึ้น แม้เผลอโดนน้ำหกใส่หรือละอองฝนก็ไม่เป็นปัญหา เสริมด้วยเคสซิลิโคนรอบด้านอีกชั้นหนึ่ง ทนทานต่อแรงกระแทกได้ในระดับหนึ่งครับ นอกจากนี้ ยังมีความปลอดภัยสูง เพราะสามารถสร้างรหัสผ่านได้ถึงระดับฮาร์ดแวร์ 256-bit ส่วนน้ำหนักของ SSD เริ่มต้นที่ 57 g เท่านั้นครับ
ประเภทอินเตอร์เฟซ | USB-C 3.2 Gen 2 |
---|---|
ความจุ | 500GB |
ความเร็วในการอ่านข้อมูล | 1,050 Mbps |
ความเร็วในการเขียนข้อมูล | 1,000 Mbps |
อุณหภูมิในการทำงาน | |
อุณหภูมิในการจัดเก็บ | |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | |
ระยะเวลาการรับประกัน | 5 ปี |
นี่คือ SSD แบบพกพา ที่มาพร้อมกับรูปทรงและขนาดกะทัดรัด อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบาเพียง 28.9 g เท่านั้น โดยมีให้เลือก 3 ความจุ ไม่ว่าจะเป็น 500GB, 1TB และ 2TB จุดเด่นคือมีความเร็วสูงทั้งอ่านและเขียนที่ 2,000 MB/s แรงไม่แพ้ SSD PCIe NVME M.2 หลาย ๆ รุ่นที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ทั่วไป แถมยังเชื่อมต่อง่ายด้วยอินเทอร์เฟซ USB 3.2 Type-C Gen 2x2 ทันสมัย
หน่วยความจำใช้เทคโนโลยีแฟลช NAND และในเรื่องของความทนทานก็ไม่แพ้ใคร โดยเฉพาะเคสของ SSD ที่ใช้วัสดุโลหะ สามารถใส่ปลอกยางนิรภัยเพื่อเสริมการกันกระแทกได้ รวมถึงมีประสิทธิภาพกันฝุ่นและน้ำระดับ IP55 หรือก็คือโดนละอองน้ำและฝนปรอย ๆ ได้ แต่ไม่สามารถนำไปจุ่มหรือแช่ในน้ำได้ อีกทั้งยังทนทานต่ออุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20°C ~ 85°C เลยทีเดียว
ประเภทอินเตอร์เฟซ | USB-C 3.2 Gen 2x2 |
---|---|
ความจุ | 500GB |
ความเร็วในการอ่านข้อมูล | 2,000 Mbps |
ความเร็วในการเขียนข้อมูล | 2,000 Mbps |
อุณหภูมิในการทำงาน | 0 - 40 °C |
อุณหภูมิในการจัดเก็บ | -20 - 85 °C |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | Windows, macOS, Linux, Chrome OS |
ระยะเวลาการรับประกัน | 5 ปี |
ขนาดเล็กและน้ำหนักเบากว่า HDD ด้วย SSD SATA III 2.5" รุ่นนี้ ที่ใช้งานได้กับทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและแล็บท็อป อีกทั้งยังมีความเร็วมากกว่า HDD ถึง 5 เท่า หรือก็คือเพิ่มขึ้นจากความเร็วในการเขียนอ่าน 100 MB/s ของ HDD เป็นสูงสุดถึง 560 MB/s และ 530 MB/s ช่วยให้คุณไม่ต้องรอบูสต์เข้าหน้า Windows รวมถึงถ่ายโอนไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ เป็นระยะเวลานานอีกต่อไป
ส่วนความจุที่เรานำมาเสนอนั้นคือ 1TB ชนิด 3D NAND มีความทนทานและประหยัดพลังงานยิ่งขึ้นถึง 25% เลยทีเดียว เก็บไฟล์ได้ทุกประเภท หรือจะลงเกมก็ยิ่งดี ช่วยอ่านข้อมูลต่าง ๆ ในเกมได้รวดเร็ว มีค่า MTTF ที่ 1.75 ล้านครั้ง และ 500 TBW ส่วนอินเทอร์เฟซเป็น SATA III แบบมาตรฐาน มีอยู่ในคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องแน่นอน พร้อมการรับประกันยาวนานถึง 5 ปีครับ
ประเภทอินเตอร์เฟซ | SATA III 2.5" |
---|---|
ความจุ | 1TB |
ความเร็วในการอ่านข้อมูล | 560 Mbps |
ความเร็วในการเขียนข้อมูล | 530 Mbps |
อุณหภูมิในการทำงาน | |
อุณหภูมิในการจัดเก็บ | |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | |
ระยะเวลาการรับประกัน | 5 ปี |
นอกจาก COLORFUL แล้ว ก็มีแบรนด์ทางเลือกอย่าง PNY ที่มักจะจำหน่ายฮาร์ดแวร์ราคาสบายกระเป๋า ซึ่ง SSD รุ่นนี้ก็เช่นเดียวกัน โดยมีความจุถึง 1TB ชนิด 3D NAND อินเทอร์เฟซแบบ PCIe Gen4x 4 M.2 2280 มีความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 5,100 MB/s และความเร็วในการเขียน 3,200 MB/s ใช้ลงเกมหรือถ่ายโอนไฟล์สำคัญได้สบาย พร้อมรับประกันยาวนานถึง 5 ปี
ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็วกว่า SSD SATA ถึง 8 เท่า นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับ MTBF ถึง 1.5 ล้านชั่วโมง รองรับ TRIM และมีฟังก์ชัน LDPC ให้ SSD ทำงานได้เสถียรยิ่งขึ้น สามารถอ่าน-เขียนไฟล์ได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด รองรับการใช้งานได้กับหลากหลายอุปกรณ์ที่รองรับอินเทอร์เฟซชนิดเดียวกัน อีกทั้งยังใช้พลังงานต่ำและทนอุณหภูมิได้สูงครับ
ประเภทอินเตอร์เฟซ | M.2 NVMe PCIe Gen 4X4 |
---|---|
ความจุ | 1TB |
ความเร็วในการอ่านข้อมูล | 5,100 Mbps |
ความเร็วในการเขียนข้อมูล | 3,200 Mbps |
อุณหภูมิในการทำงาน | 0 - 70 °C |
อุณหภูมิในการจัดเก็บ | -40 - 85 °C |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | |
ระยะเวลาการรับประกัน | 5 ปี |
เชื่อว่าเหล่าเกมเมอร์คงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วกับแบรนด์เกมมิ่งเกียร์ราคาประหยัดอย่าง COLORFUL ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้มีดีเพียงแค่ราคาเท่านั้น เพราะสินค้ามีคุณภาพและมาตรฐานสูงไม่แพ้แบรนด์ดังแต่ราคาถูกกว่า โดยเฉพาะในปัจจุบันที่จับมือกับแบรนด์ไทยอย่าง Devas IPASON ทำให้ในเรื่องของบริการหลังการขายจึงไว้วางใจได้ โดยรุ่นนี้ก็รับประกันยาวนานถึง 3 ปี เลยทีเดียวครับ
โดย SSD รุ่นนี้มาพร้อมกับความจุ 512GB ชนิด 3D NAND อินเทอร์เฟซ M.2 NVMe Gen 3 มีความเร็วในการอ่าน 3,300 MB/s และความเร็วในการเขียนอยู่ที่ 2,600 MB/s เร็วและแรง ในราคาที่ถูกกว่าลหลายร้อยบาท แต่น่าเสียดายที่มีเพียงความจุเดียวให้เลือกเท่านั้น หากต้องการนำไปลงเกมหรือสำรองไฟล์ข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ ซื้อเพียงอันเดียวอาจจะไม่เพียงพอต่อการใช้งานครับ
ประเภทอินเตอร์เฟซ | M.2 NVMe PCIe Gen 3 |
---|---|
ความจุ | 512GB |
ความเร็วในการอ่านข้อมูล | 3,300 Mbps |
ความเร็วในการเขียนข้อมูล | 2,600 Mbps |
อุณหภูมิในการทำงาน | |
อุณหภูมิในการจัดเก็บ | |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | |
ระยะเวลาการรับประกัน | 3 ปี |
นี่คือ SSD สำหรับพกพาที่ได้นับความนิยมมากอีกรุ่นหนึ่ง โดยมีจุดเด่นคือความจุที่มากถึง 1TB ในราคาที่ใครก็เอื้อมถึง เชื่อมต่อง่ายด้วย USB-C 3.2 Gen 2 ส่วนความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลสูงสุดอยู่ที่ 1,030 MB/s อีกทั้งยังมาพร้อมกับดีไซน์โมเดิร์นน่าใช้งาน รวมถึงมีขนาดกะทัดรัด โดยกว้างเพียง 5 cm พร้อมน้ำหนักเบาเพียง 74 g ใส่กระเป๋ากางเกงยังได้เลยครับ
นอกจากนี้ วัสดุหลักของ SSD ยังเป็นโลหะ จึงช่วยในเรื่องของการระบายความร้อน สามารถใช้งานได้กับหลากหลายระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็น Windows, Mac รวมไปถึงสมาร์ตโฟนระบบ Android อีกทั้งยังมีฟังก์ชัน Backup ข้อมูล ที่ต้องทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ หรือในกรณีที่ข้อมูลสูญหาย ทางแบรนด์ก็มีบริการกู้คืนข้อมูลให้อีกต่างหาก แถมยังมีรับประกันอีก 3 ปีเต็มครับ
ประเภทอินเตอร์เฟซ | USB-C 3.2 Gen 2 |
---|---|
ความจุ | 1TB |
ความเร็วในการอ่านข้อมูล | 1,030 Mbps |
ความเร็วในการเขียนข้อมูล | 1,030 Mbps |
อุณหภูมิในการทำงาน | |
อุณหภูมิในการจัดเก็บ | |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | Windows, Linux, macOS, Android, Chrome OS |
ระยะเวลาการรับประกัน | 3 ปี |
หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับหน้าตาของ SSD รุ่นนี้เท่าไรนัก เพราะเป็น SSD ประเภท mSATA ที่ออกแบบมาให้ใช้กับคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กรุ่นเก่า ๆ โดยใช้หน่วยความจำชนิด 3D NAND พร้อม DDR3 DRAM อีกทั้งยังมาพร้อมขนาดกะทัดรัด ติดตั้งง่ายไม่เปลืองพื้นที่เมนบอร์ด มีเทคโนโลยีการเข้ารหัส LDPC ECC ลดการ Error ของการเข้าถึงไฟล์ข้อมูลให้น้อยลง ทำงานได้อย่างรวดเร็ว
รุ่นนี้มีความจุ 256GB อ่านข้อมูลได้เร็วสูงสุด 530 MB/s และเขียนข้อมูลได้เร็วสูงสุด 400 MB/s เหมาะสำหรับใช้เป็นไดร์ฟสำหรับลง Windows หรือเก็บไฟล์ข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ และสามารถใช้งานได้กับ Windows 7 ขึ้นไป รองรับชุดคำสั่ง TRIM และ NCQ มีค่า MTBF อยู่ที่ 2 ล้านชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีการรับประกันจากทางแบรนด์ยาวนานถึง 3 ปี เลยทีเดียวครับ
ประเภทอินเตอร์เฟซ | M.2 SATA |
---|---|
ความจุ | 256GB |
ความเร็วในการอ่านข้อมูล | 530 Mbps |
ความเร็วในการเขียนข้อมูล | 400 Mbps |
อุณหภูมิในการทำงาน | |
อุณหภูมิในการจัดเก็บ | |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | Windows, Linux |
ระยะเวลาการรับประกัน | 3 ปี |
ถึงแม้ว่าคุณจะได้ SSD ที่ตรงตามความต้องการใช้งานแล้ว ก็ไม่ควรที่จะลืมมองหาซอฟต์แวร์ที่ช่วยปกป้องคอมพิวเตอร์ให้ห่างไกลจากไวรัส, มัลแวร์ หรือสปายแวร์ต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน เพราะแม้การใช้ SSD จะทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณเร็วขึ้นสักเพียงใด แต่ถ้าหากไม่ป้องกันภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ตหรือจากการก็อปปี้ไฟล์ที่ติดไวรัส คอมพิวเตอร์ของคุณก็อาจจะกลับมาช้าเหมือนเดิมหรือทำให้ SSD เกิดความเสียหายได้ครับ
อันดับที่ 1: Transcend|SSD รุ่น 250S
อันดับที่ 2: SAMSUNG|SSD รุ่น 980 PRO
อันดับที่ 3: Kingston FURY|SSD รุ่น Renegade
อันดับที่ 4: SanDisk|SSD รุ่น Extreme Portable SSD V2
อันดับที่ 5: Kingston|SSD รุ่น XS2000
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ