ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
ในแต่ละปีมีคนไทยที่ต้องเจ็บป่วยจากเชื้อโรคที่มองไม่เห็นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียและไวรัสสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่มักแฝงตัวอยู่บนวัตถุหรือสิ่งของรอบตัวซึ่งเรามักจะเผลอสัมผัสและนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายแบบไม่รู้ตัว หลายคนจึงได้มองหาอุปกรณ์สำหรับการฆ่าเชื้อโรคโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ล้างมือ น้ำยาฆ่าเชื้อโรค รวมไปถึงสิ่งที่กำลังได้รับความสนใจในขณะนี้อย่าง "เครื่องฆ่าเชื้อ UV" ที่หากใช้อย่างถูกวิธี จะสามารถฆ่าเชื้อโรคทั้งแบคทีเรียและไวรัสทุกชนิดได้ถึง 99.99 % เลยทีเดียวครับ
ซึ่งในท้องตลาดก็มีเครื่องฆ่าเชื้อ UV วางจำหน่ายอยู่หลากหลายแบรนด์ อาทิ PHILIPS, 59S, LAMPTON รวมไปถึงแบรนด์ในเครือ Xiaomi ที่เป็นผู้นำในตลาด ทั้งยังมีหลายประเภทให้เลือกซื้อ ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกเครื่องฆ่าเชื้อ UV พร้อมทั้งแนะนำ 10 อันดับ เครื่องฆ่าเชื้อ UV จากแบรนด์คุณภาพและได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งานจริง ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยครับ !
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
สารบัญ
เครื่องฆ่าเชื้อ UV (UV Sterilizer) เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะสามารถกำจัดเชื้อโรคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรียหรือไวรัสที่มักอาศัยและเจริญเติบโตอยู่บนพื้นผิวของวัตถุหรือสิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงเชื้อโรคที่ลอยปะปนอยู่ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคุณอาจจะสัมผัสผ่านมือหรืออวัยวะอื่น ๆ และนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว
โดยหลักการทำงานของเครื่องฆ่าเชื้อ UV คือ การใช้รังสี Ultraviolet ชนิด C (UV-C) จากแหล่งกำเนิดแสงอย่างหลอดไฟ UV-C ที่ผลิตมาโดยเฉพาะ ซึ่งมีช่วงคลื่นแสงอยู่ที่ 100 - 280 นาโนเมตร มาใช้ในการยับยั้งการเจริญเติบโตและกำจัดเชื้อโรค โดยการนำแสงจากหลอดไฟ UV-C หรือเครื่องฆ่าเชื้อ/เครื่องอบ UV กระทบไปที่วัตถุเป็นระยะเวลาหนึ่งเพื่อทำการกำจัดเชื้อ ซึ่งวิธีการนี้มีประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคสูงถึง 99.9 % เลยทีเดียวครับ
เพื่อที่จะได้รับเครื่องฆ่าเชื้อ UV ที่ตรงตามลักษณะความต้องการใช้งานมากที่สุด เราจะมาแนะนำให้คุณได้รู้จักกับวิธีการเลือกเครื่องฆ่าเชื้อ UV ด้วยตนเองที่ถูกต้องและเหมาะสมกันครับ
หลัก ๆ แล้วเครื่องฆ่าเชื้อ UV จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เครื่องฆ่าเชื้อ UV แบบปิดมิดชิดและแบบโคมไฟ ซึ่งแต่ละประเภทจะมีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันไปดังนี้ครับ
หากคุณกำลังมองหาเครื่องฆ่าเชื้อ UV แบบปิดมิดชิดที่ไม่ว่าจะมีรูปทรงแบบเป็นตู้ กล่องหรือกระเป๋า เราขอแนะนำให้ตรวจสอบพื้นที่ภายในของเครื่องก่อนครับว่า หลอดไฟ UV-C ถูกติดตั้งไว้อย่างไร และมีจำนวนกี่หลอด ซึ่งถ้ามีน้อยเกินไปก็อาจทำให้กระจายแสง UV ได้ไม่ทั่วถึงและส่งผลต่อประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคโดยรวมได้
และนอกจากจะต้องพิจารณาในเรื่องของจำนวนหลอดไฟแล้ว เราขอแนะนำให้ตรวจสอบผนังของเครื่องฆ่าเชื้อ UV ด้วย เพราะในหลาย ๆ รุ่นมักจะมาพร้อมกับผนังที่เป็นกระจกหรือโลหะที่สะท้อนแสงได้ ซึ่งจะช่วยให้กระจายแสง UV ได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้นโดยที่ไม่ส่งผลเสียหรือเป็นอันตรายต่อสิ่งของหรืออุปกรณ์ที่อยู่ภายในแต่อย่างใดครับ
ส่วนเครื่องฆ่าเชื้อ UV แบบโคมไฟนั้นให้ตรวจสอบกำลังวัตต์ของหลอดไฟ UV-C ว่ามีจำนวนเท่าไร ซึ่งถ้ามีกำลังวัตต์น้อยก็ใช่ว่าจะไม่มีประสิทธิภาพ แต่จะเหมาะกับการฆ่าเชื้อภายในพื้นที่ที่มีขนาดเล็กเสียมากกว่า ส่วนเครื่องที่มีหลอดไฟกำลังวัตต์มากก็จะเหมาะกับห้องที่มีขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ
เครื่องฆ่าเชื้อ UV หลาย ๆ รุ่นมักจะมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่ทำให้แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันก็คือ "ฟังก์ชันเสริม" นอกเหนือจากการฆ่าเชื้อด้วยแสง UV โดยเฉพาะฟังก์ชันเป่าลมด้วยความร้อน ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการนำอุปกรณ์หรือสิ่งของที่เพิ่งล้างทำความสะอาดเสร็จและยังไม่แห้งสนิทมาใช้งานร่วมกับการฆ่าเชื้อโรคด้วยเครื่องฆ่าเชื้อ UV นั่นเอง
ซึ่งนอกจากฟังก์ชันในการฆ่าเชื้อโรคแล้ว ก็ยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น เช่น ฟังก์ชันตั้งเวลาฆ่าเชื้อโรคให้เหมาะสมกับสิ่งของ ฟังก์ชันจัดเก็บ (Storage) ที่จะช่วยฆ่าเชื้อโรคทุก ๆ 1 - 2 ชั่วโมง จนกว่าจะนำสิ่งของหรืออุปกรณ์นั้นออกมาใช้งาน รวมไปถึงหน้าจอดิจิทัลแสดงสถานะการทำงานของเครื่องที่มักเป็นตัวเลขหรือสัญลักษณ์ให้สามารถใช้งานได้ง่ายมากขึ้น เป็นต้น
อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้แล้วครับว่า เราไม่ควรสัมผัสกับแสง UV โดยตรง เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพและร่างกายได้ ดังนั้น เราจึงขอแนะนำให้คุณตรวจสอบก่อนว่า รุ่นที่คุณกำลังพิจารณาเลือกซื้ออยู่นั้นมีระบบความปลอดภัยหรือไม่ อาทิ ระบบตัดการทำงานเมื่อเครื่องไม่ได้ถูกปิดฝาอย่างมิดชิด เซนเซอร์จับการเคลื่อนไหว หรือระบบตั้งเวลาการทำงาน ซึ่งจะช่วยทำให้คุณสามารถใช้งานเครื่องฆ่าเชื้อ UV ได้อย่างมั่นใจและไม่เป็นอันตรายครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | ราคา | คะแนน | |
---|---|---|---|---|---|
1 | PHILIPS เครื่องฆ่าเชื้อ UV รุ่น UV-C Disinfection Mini Box | 999 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | สำหรับของชิ้นเล็ก ใส่สมาร์ตโฟนได้ เชื่อมต่อด้วย Type-C | ||
2 | 59S เครื่องฆ่าเชื้อ UV รุ่น P55 | 3,990 บาท ราคาปานกลาง | กระเป๋าฆ่าเชื้อ พกพาง่าย ภายในกว้าง มีหลอด UV ถึง 24 ดวง | ||
3 | UPANG เครื่องฆ่าเชื้อ UV รุ่น 802 | 13,500 บาท ราคาค่อนข้างสูง | หลอด UV-C หมุนได้ กระจายทั่วถึง มีจอแสดงผลแบบ Dot Matrix | ||
4 | Fico เครื่องฆ่าเชื้อ UV รุ่น FUV02 | 2,690 บาท ราคาปานกลาง | เพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกน้อย มี 4 ฟังก์ชัน พร้อมจอแสดงผล | ||
5 | PHILIPS เครื่องฆ่าเชื้อ UV รุ่น UV-C Disinfection Desk Lamp | 2,490 บาท ราคาปานกลาง | กระจายแสง UV ได้ทั่วทิศทาง ให้ภายในห้องปลอดภัยจากเชื้อโรค | ||
6 | Toshino เครื่องฆ่าเชื้อ UV รุ่น UV-01 | 2,190 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | รุ่นยอดฮิต ความจุ 7L วัสดุคุณภาพ ใช้งานง่าย ราคาย่อมเยา | ||
7 | HOMEMATE เครื่องฆ่าเชื้อ UV รุ่น HOM-272620 | 4,790 บาท ราคาปานกลาง | อบด้วยความร้อนและ UV ให้ภาชนะใส่อาหารของคุณสะอาดปลอดภัย | ||
8 | PRINCE & PRINCESS เครื่องฆ่าเชื้อ UV รุ่น Baby UV Sterilizer Gen 3 | 12,000 บาท ราคาค่อนข้างสูง | ฆ่าเชื้อโรคแบบ 2-in-1 ทั้งอบแห้งและ UV วัสดุคุณภาพดี | ||
9 | UV CARE เครื่องฆ่าเชื้อ UV รุ่น Ultra Germ Zapper | 8,990 บาท ราคาค่อนข้างสูง | สำหรับฆ่าเชื้อโรคในห้อง ปรับองศาของหลอด UV ได้ 180 องศา | ||
10 | UV CARE เครื่องฆ่าเชื้อ UVรุ่น Pocket Sterilizer | 999 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | ไซซ์กะทัดรัด พกพาติดตัวสะดวก ฆ่าเชื้อโรคได้กับทุกอย่าง |
หากคุณคิดว่าเครื่องฆ่าเชื้อ UV ที่นำเสนอไปหลาย ๆ รุ่น มีราคาสูงและขนาดใหญ่จนเกินความจำเป็นในการใช้งาน เราขอแนะนำรุ่นนี้เลยครับ เพราะมาพร้อมกับขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับใช้ฆ่าเชื้อโรคกับสิ่งของชิ้นเล็ก ๆ เช่น สร้อย แหวน นาฬิกาข้อมือ รวมไปถึงสมาร์ตโฟน โดยภายในจะมีหลอดไฟ UV-C LED จำนวน 4 หลอด และใช้เวลาฆ่าเชื้อโรคทั้งหมด 8 นาที อีกทั้งยังมีระบบตัดการทำงานอัตโนมัติหากฝาปิดไม่สนิท จึงใช้งานได้ปลอดภัยยิ่งขึ้นครับ
ตัวกล่องผลิตจากวัสดุพลาสติกคุณภาพดี มีความแข็งแรงทนทาน ส่วนหลอดไฟมีอายุการใช้งานสูงสุดถึง 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว ข้อดีอีกหนึ่งอย่างของรุ่นนี้ก็คือ ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียง 4.5W และใช้พอร์ต Type-C ในการเชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟฟ้า โดยคุณสามารถใช้ร่วมกับอะแดปเตอร์ชาร์จสมาร์ตโฟนทั่วไป หรือจะใช้ Power Bank เป็นแหล่งจ่ายไฟให้ตัวเครื่องก็ได้เช่นกันครับ
พกพาได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยเครื่องฆ่าเชื้อ UV รูปทรงกระเป๋าถือพร้อมหูจับ จะใช้งานภายในบ้านก็ได้ หรือจะติดรถเมื่อต้องเดินทางไปต่างจังหวัดก็ดี โดยกระเป๋ามีขนาด 24 x 19.5 x 15 cm มีน้ำหนัก 620 g ภายในมีความกว้างขวาง ใส่สิ่งของหรืออุปกรณ์ได้หลากหลายขนาดและหลายชิ้น มีการบุด้วยวัสดุที่ช่วยสะท้อนแสง ส่วนฐานของกระเป๋าเป็นสเตนเลสและมีตะแกรงยกสูง เพิ่มความแข็งแรงทนทานและให้แสง UV กระจายได้อย่างทั่วถึง
ความพิเศษของรุ่นนี้คือใช้หลอดไฟ UV-C LED มากถึง 24 หลอด เพื่อให้มั่นใจว่าจะกระจายแสงได้อย่างทั่วถึงและเข้มข้นมากพอ อีกทั้งยังผ่านการทดสอบจากสถาบันทางการแพทย์ว่าสามารถฆ่าเชื้อโรคได้จริง ที่สำคัญคือใช้เวลาในการฆ่าเชื้อโรคเพียง 180 วินาที หรือ 3 นาที เท่านั้น แต่รุ่นนี้ก็มีข้อพิจารณาคือไม่มีแบตเตอรี่ในตัว ต้องใช้ปลั๊กไฟในการรับพลังงานไฟฟ้าเข้าเครื่องครับ
เครื่องฆ่าเชื้อ UV รุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์สไตล์มินิมอลที่เรียบหรู แถมยังมีสีสันโทนพาสเทลสุดน่ารัก เพิ่มความน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น โดยด้านหน้าของตัวเครื่องมาพร้อมกับไฟ LED แสดงผลการทำงานแบบ Dot Matrix สุดล้ำสมัยและเข้าใจง่าย ส่วนภายในประกอบด้วยหลอดไฟ UV-C 2 หลอด พร้อมระบบ 3D Sterilization ที่จะทำให้หลอดหมุนเป็นวงกลมขณะทำงาน ผสานกับแผ่นกระจกสะท้อนแสง Super Mirror วัสดุสเตนเลส จึงช่วยให้แสงกระจายได้ทั่วถึงครับ
ส่วนระบบการทำงานมีด้วยกันทั้งหมด 4 รูปแบบ ได้แก่ ระบบอัตโนมัติ ที่คุณไม่จำเป็นต้องตั้งค่าเพิ่มเติม โดยใช้เวลาในการทำงานทั้งหมด 38 นาที ต่อมาคือระบบฆ่าเชื้อด้วยแสง UV สำหรับสิ่งของที่แห้งแล้ว ใช้เวลา 10 นาที รูปแบบที่สามจะเป็นระบบระบายอากาศเพื่อใช้สำหรับลดกลิ่นอับชื้นหรือทำให้ภาชนะแห้งเร็วขึ้น และสุดท้ายคือ ระบบจัดเก็บ ที่จะฆ่าเชื้อโรคอัตโนมัติเป็นเวลา 2 นาที ทุก ๆ 3 ชั่วโมงครับ
เครื่องฆ่าเชื้อ UV รุ่นนี้จะออกแบบมาให้ใช้งานกับสิ่งของหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเด็กเล็กโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นขวดนม แก้วน้ำ ภาชนะใส่อาหาร รวมไปถึงของเล่น ตุ๊กตา และอื่น ๆ แต่ก็สามารถใช้ฆ่าเชื้อโรคสิ่งของทั่วไปได้เช่นเดียวกัน รุ่นนี้มีจุดเด่นคือด้านบนฝาของตัวเครื่องจะมาพร้อมแผงปุ่มกดควบคุมและมีหน้าจอ LCD แสดงผลการทำงานของตัวเครื่อง อีกทั้งยังมีระบบเปิด-ปิดฝาที่มิดชิดด้วยการออกแรงกด เพื่อป้องกันเด็กเล็กมาเล่นเครื่องนั่นเองครับ
ส่วนภายในเครื่องจะมีหลอดไฟ UV-C จำนวน 2 หลอด วัสดุภายในจะใช้สเตนเลส เพื่อสะท้อนแสง UV ได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งยังมีชั้นตะแกรงสำหรับใส่อุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ แยกต่างหากอีกด้วย โดยมีฟังก์ชันการทำงาน 4 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโหมด Auto ผสมระหว่างการอบด้วยความร้อนต่ำและแสง UV หรือจะเป็นโหมดที่เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ รวมไปถึงโหมด Storage ที่จะฆ่าเชื้อโรคทุก ๆ 2 ชั่วโมงโดยอัตโนมัติครับ
แม้จะเป็นเครื่องฆ่าเชื้อ UV ที่มีขนาดเล็ก แต่ประสิทธิภาพก็ไม่ได้เล็กตามไปด้วย เพราะรุ่นนี้สามารถฆ่าเชื้อโรคภายในห้องกว้างสูงสุดถึง 28 ตร.ม. เลยทีเดียว โดยมาพร้อมหลอดไฟ UV-C ชนิด TUC PL-L 18W ความยาวคลื่น 253.7nm ที่ปราศจากการปล่อยโอโซน จึงปลอดภัยในการใช้งานมากยิ่งขึ้น แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 9,000 ชั่วโมง ส่วนวิธีการใช้งานก็ง่าย เพียงแค่นำเครื่องไปตั้งไว้กลางห้องแล้วกดปุ่มตามคู่มือแนะนำเพียงเท่านั้น
ซึ่งเครื่องจะไม่ทำงานทันทีหลังจากกดปุ่มใช้งาน แต่จะทำงานเมื่อเซนเซอร์ตรวจสอบระยะ 5m ไม่พบว่ามีสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหว ขนาดห้องที่เหมาะสมกับการใช้งานก็มีตั้งแต่ห้องน้ำ 13 ตร.ม. โดยใช้เวลาฆ่าเชื้อโรคประมาณ 15 นาที ต่อมาคือห้องนอนขนาด 20 ตร.ม. จะใช้เวลา 30 นาที และขนาดห้องใหญ่สุดที่รองรับคือ 28 ตร.ม. ใช้เวลาสูงสุดที่ 45 นาทีครับ
เครื่องฆ่าเชื้อ UV ดีไซน์แบบกล่องจาก Toshino รุ่นนี้ เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีราคาย่อมเยา อีกทั้งยังผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ แข็งแรงทนทาน ไม่ว่าจะเป็นด้านนอกและด้านใน ที่สำคัญคือใช้งานง่าย ด้วยปุ่มกดพร้อมสัญลักษณ์เมนูต่าง ๆ ที่เข้าใจง่าย โดยภายในตัวเครื่องมีความจุ 7L วัสดุภายในเป็นสเตนเลสเพื่อช่วยในกากระจายแสง ส่วนหลอดไฟ UV-C มาจากแบรนด์คุณภาพอย่าง PHILIPS โดยมีกำลังอยู่ที่ 4W ครับ
รุ่นนี้มีฟังก์ชันการทำงาน 4 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโหมด Auto ที่คุณไม่ต้องตั้งค่า เครื่องก็จะอบแห้งและฆ่าเชื้อ UV ให้โดยอัตโนมัติ ต่อมาคือโหมด Dry ที่จะอบแห้งเพียงอย่างเดียว และ Sterilizer ที่จะใช้แสง UV-C ในการกำจัดเชื้อโรค ส่วนโหมดสุดท้ายคือ Storage สำหรับเก็บรักษาอุปกรณ์ให้ปลอดเชื้ออยู่ตลอดเวลา โดยจะกำจัดเชื้อโรคด้วย UV-C เรื่อย ๆ เป็นเวลา 72 ชั่วโมงครับ
เครื่องฆ่าเชื้อ UV รุ่นนี้ ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรคบนภาชนะใส่อาหาร เช่น จาน ชาม ช้อน ส้อม แก้วน้ำ โดยเฉพาะ ซึ่งสามารถฆ่าเชื้อโรคได้แบบ 2-in-1 คือการอบด้วยความร้อนสูง 65 องศาเซลเซียส เสริมด้วยการใช้แสง UV ฆ่าเชื้อโรคไปพร้อม ๆ กัน ส่วนปริมาณจานที่อบได้ต่อครั้งรองรับสูงสุดที่ 6 คน และมีช่องใส่ช้อนและส้อมต่างหาก โดยเครื่องจะทำงานก็ต่อเมื่อปิดฝาครอบสนิท และจะหยุดการทำงานอัตโนมัติเมื่อเปิดฝาครอบครับ
วัสดุของตัวเครื่องผลิตจากพลาสติกที่ทนความร้อนสูง จึงมีความแข็งแรงทนทาน ส่วนฐานเครื่องเป็นสเตนเลส ช่วยรับน้ำหนักได้เยอะและกระจายแสง UV ได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น รุ่นนี้ตั้งเวลาการทำงานได้สูงสุด 60 นาที เมื่อครบแล้วจะตัดการทำงานอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีถาดรองน้ำที่ระเหยออกมาจากการอบจานโดยเฉพาะ ช่วยให้ดูแลรักษาเครื่องได้ง่ายขึ้นครับ
มาพร้อมกับรูปทรงแบบตู้อบที่คุ้นตา แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือวัสดุทั้งภายในและภายนอกของตัวเครื่อง เพราะรุ่นนี้ผลิตจากวัสดุระดับพรีเมียม ทำให้มีความแข็งแรงทนทาน อีกทั้งยังออกแบบมาให้มีความเรียบหรูน่าใช้งาน ซึ่งภายในจะใช้วัสดุสเตนเลสระดับพรีเมียมที่มีมีความจุมากถึง 20L ฆ่าเชื้อโรคแบบ 2 ระบบ คือทั้งอบแห้งและใช้แสง UV โดยหลอดไฟ UV จะให้มาทั้งหมด 2 หลอด อาศัยการสะท้อนของสเตนเลสภายใน ทำให้กระจายลำแสงได้ทั่วทั้งเครื่อง กำจัดเชื้อโรคได้หมดจดแน่นอนครับ
ส่วนการอบแห้งจะใช้อุณหภูมิความร้อนสูงสุดที่ 50 องศาเซลเซียส โดยคุณจะเลือกใช้งานพร้อมกันทั้งอบแห้งและ UV โดยมีให้เลือก 3 โหมดย่อย ใช้เวลานานสุด 70 นาที หรือจะเลือกใช้งานเพียงโหมดใดโหมดหนึ่งก็ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าคุณเลือกใช้โหมดอบแห้งไม่ว่าจะเป็นแบบใดก็ตาม จะมีการระบายอากาศควบคู่ไปด้วย เพื่อไม่ให้ความร้อนสะสมภายในและช่วยให้ขวดนมแห้งได้รวดเร็วขึ้นนั่นเองครับ
สำหรับเครื่องฆ่าเชื้อ UV อาจจะมีดีไซน์แปลกตาไปจากรุ่นอื่น ๆ สักเล็กน้อย เพราะถูกออกแบบมาให้ใช้งานสำหรับฆ่าเชื้อโรคเป็นบริเวณกว้าง เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องปิดลักษณะอื่น ๆ โดยมาพร้อมกับหลอด UV-C ขนาดใหญ่ถึง 2 หลอด ที่สามารถหมุนเพื่อปรับองศาของหลอดได้ 180 องศา ให้เหมาะสมกับลักษณะห้องที่นำไปใช้งานมากที่สุด โดยครอบคลุมพื้นที่การใช้งานสูงสุด 55 ตร.ม. เลยทีเดียวครับ
ที่สำคัญคือหลอดไฟ UV-C ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอนามัยของสหรัฐอเมริกา จึงมั่นใจได้ว่าสามารถฆ่าเชื้อโรคได้จริง โดยก็มีข้อควรระวังก็คือ เมื่อเปิดใช้จะมีการปล่อยโอโซนจึงห้ามไม่ให้มีสัตว์เลี้ยงหรือสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ อยู่ภายในห้องขณะใช้งาน แต่ก็ยังดีที่ตัวเครื่องมีเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ที่จะตัดการทำงานทันทีหากตรวจจับสิ่งมีชีวิตในระยะ 3m ได้ครับ
สะดวกไปอีกขั้น ด้วยเครื่องฆ่าเชื้อ UV แบบพกพา ที่มาพร้อมขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา เสริมด้วยดีไซน์แบบด้ามจับถนัดมือและพับเก็บได้ ช่วยให้คุณนำใส่กระเป๋าติดตัวเพื่อใช้ฆ่าเชื้อโรคสิ่งของต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวคุณได้ทุกที่ทุกเวลา ส่วนพลังงานไฟฟ้าที่ใช้จะเป็นถ่าน AAA 4 ก้อน หรือจะเชื่อมต่อกับ Power Bank ด้วยพอร์ต Micro USB ก็ทำได้เช่นเดียวกัน อีกทั้งยังผ่านการทดสอบจากองค์กรรัฐฯ ในการรับรองความปลอดภัยในการใช้งานครับ
ส่วนหลอดไฟที่ใช้จะเป็นหลอด UV-C ระยะคลื่น 253.7 nm ขนาด 3W จำนวน 1 หลอด ผ่านการทดสอบแล้วว่ามีความเข้มข้นเพียงพอที่จะฆ่าเชื้อโรคบนพื้นผิวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกบิดประตู ข้าวของเครื่องใช้ทั่วไป รวมไปถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้งานร่วมกันแบบสาธารณะ โดยมีข้อดีกว่าสเปรย์หรือเจลแอลกอฮอล์ตรงที่ไม่ทิ้งคราบต่าง ๆ หรือทำลายพื้นผิวบนสิ่งของนั่นเองครับ
จากเรื่องราวของเครื่องฆ่าเชื้อ/เครื่องอบ UV ที่เราได้นำมาเสนอในครั้งนี้ จะเห็นได้ว่า มีให้เลือกซื้อกันหลากหลายประเภทและรูปทรงให้เลือกซื้อเลยใช่ไหมล่ะครับ ซึ่งเครื่องฆ่าเชื้อ/เครื่องอบ UV แต่ละประเภทนั้นก็เหมาะกับจุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันไป แต่ถ้าคุณติดตามบทความของเราตั้งแต่ต้นจนจบ โดยเฉพาะในส่วนของวิธีการเลือก คุณก็จะสามารถเลือกซื้อเครื่องฆ่าเชื้อ/เครื่องอบ UV ได้อย่างไร้ความกังวลแน่นอนครับ
และก่อนจากกันไป เราขอฝากข้อควรระวังในการใช้งานเครื่องฆ่าเชื้อ/เครื่องอบ UV ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ รังสี UV-C นั้นเป็นอันตรายต่อผิวหนังและดวงตาของมนุษย์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับเครื่องฆ่าเชื้อ/เครื่องอบ UV ประเภทโคมไฟ ดังนั้น ในขณะที่เครื่องกำลังทำงานหรือมีการฆ่าเชื้ออยู่ คุณไม่ควรเข้าไปใกล้หรือมองแสงจากหลอดไฟ UV-C ด้วยตาเปล่าครับ
อันดับที่ 1: PHILIPS|เครื่องฆ่าเชื้อ UV รุ่น UV-C Disinfection Mini Box
อันดับที่ 2: 59S|เครื่องฆ่าเชื้อ UV รุ่น P55
อันดับที่ 3: UPANG|เครื่องฆ่าเชื้อ UV รุ่น 802
อันดับที่ 4: Fico|เครื่องฆ่าเชื้อ UV รุ่น FUV02
อันดับที่ 5: PHILIPS|เครื่องฆ่าเชื้อ UV รุ่น UV-C Disinfection Desk Lamp
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ