10 อันดับ มีดพับ ยี่ห้อไหนดี ปี 2022 ใบมีดคมกริบ พกพาสะดวก สายเดินป่าห้ามพลาด

มีดพับจากแบรนด์ต่าง ๆ ที่วางจำหน่ายกันอยู่นั้น มีให้เลือกอย่างหลากหลายทั้งในด้านดีไซน์และคุณสมบัติ แต่หากจะเลือกซื้อมีดพับที่ถูกใจสักเล่ม จะมีองค์ประกอบใดที่เราต้องให้ความสำคัญบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ 

อันดับแรกเรามาทำความรู้จักกับมีดพับในแต่ละสไตล์กันก่อนดีกว่าค่ะว่า สไตล์มีดพับแบบใดที่จะเหมาะกับลักษณะในการใช้งานและตรงกับความชื่นชอบของเรามากที่สุด

มีดพับแบบใบมีดเดียว เหมาะสำหรับการใช้งานที่หนักและต้องการแรงตัดมาก เพราะนอกจากใบมีดจะมีความคมสูงและแข็งแรงทนทานแล้ว ยังมักมีระบบล็อกใบมีดเพื่อป้องกันไม่ให้ใบมีดพับปิดลงมาถูกมือในขณะที่ใช้งาน นอกจากนี้ มีดพับชนิดนี้ยังมีใบมีดให้เลือกกันอย่างหลากหลายทั้งขนาดและรูปทรง ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกันไป เช่น ใบมีดสำหรับงานตัด ใบมีดสำหรับแล่เนื้อ และใบมีดสำหรับงานที่ต้องการความละเอียด ส่วนด้านข้อเสียนั้นก็คงเป็นในแง่ของการใช้งานที่ไม่หลากหลายเท่ามีดพับชนิดอื่นค่ะ

มีดพับแบบหลายใบมีดอาจพบเห็นได้ไม่บ่อยนักเมื่อเทียบกับมีดพับอีกสองชนิด โดยมีดพับชนิดนี้มีให้เลือกใช้งานตั้งแต่ 2 - 4 ใบมีด จึงทำให้มีข้อดี คือ สามารถใช้งานได้หลากหลายกว่ามีดพับแบบใบมีดเดียว อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบาและมีขนาดที่เล็กกว่า แต่ข้อดีเหล่านี้ก็ต้องแลกมาด้วยประสิทธิภาพของใบมีดที่ถูกจำกัดทั้งในแง่ของความคมและความแข็งแรงทนทาน จึงทำให้มีดพับแบบหลายใบมีดนี้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ไม่หนักมากนักค่ะ

หากใครกำลังมองหามีดพับที่เหมาะสำหรับพกพาติดกระเป๋าเป็นประจำ มีดพับแบบ Multi-Tools ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุดค่ะ เพราะนอกจากจะมีหน้าตาที่ดูเป็นมิตรกว่ามีดพับแบบอื่น ๆ แล้ว ภายในด้ามจับยังซ่อนเอาไว้ทั้งใบมีดและอุปกรณ์นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น ที่เปิดขวด ที่เปิดจุกไวน์ และกรรไกร หรืออุปกรณ์สำหรับงานช่างอย่างไขควงขนาดต่าง ๆ ที่นอกจากจะใช้สำหรับไขน็อตแล้ว ยังอาจกลายเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ช่วยชีวิตของเราในยามเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เป็นได้ค่ะ 

ระบบล็อกใบมีดเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถใช้งานมีดพับที่คมกริบได้อย่างปลอดภัย โดยในขณะที่ใบมีดเปิดออกจนสุด กลไกของระบบล็อกจะทำงานโดยการเข้าไปดันหรือขัดกับใบมีด เพื่อป้องกันไม่ให้ปิดพับลงมาถูกมือของเราในขณะที่ใช้งาน ส่วนระบบล็อกใบมีดที่ได้รับความนิยมนั้นจะมีชนิดใดบ้าง ไปดูกันต่อเลยค่ะ 

• Lock Back เป็นระบบล็อกที่ต้องใช้สองมือในการปิดใบมีด โดยอาศัยการใช้มือข้างหนึ่งกดคานบนด้ามจับลงเพื่อปลดล็อก แล้วจึงใช้มืออีกข้างพับเก็บใบมีดลง 

• Liner Lock ระบบล็อกชนิดนี้พบเห็นได้บ่อย เนื่องจากแข็งแรงและใช้งานได้ด้วยมือเดียว โดยกลไกในการล็อกนั้น เป็นการที่แผ่นโลหะภายในด้ามจับเคลื่อนเข้าไปขัดกับใบมีด เพื่อป้องกันไม่ให้ปิดพับลงในขณะที่ใช้งาน ส่วนการปลดล็อกนั้นทำได้โดยใช้นิ้วโป้งกดแผ่นโลหะให้กลับเข้าไปอยู่ในตำแหน่งเดิมแล้วจึงพับใบมีดลง

• Frame Lock มีกลไกการทำงานที่คล้ายคลึงกับ Liner Lock โดยต่างกันแค่เพียงชิ้นส่วนที่ทำหน้าที่ล็อกใบมีดนั้นเป็นส่วนเดียวกับด้ามจับ ซึ่งเมื่อดันส่วนดังกล่าวกลับไปในตำแหน่งเดิมจะเป็นการปลดล็อกให้สามารถพับใบมีดได้นั่นเองค่ะ ระบบล็อกชนิดนอกจากจะมีข้อดีที่สามารถเปิด-ปิดได้ด้วยมือเดียวแล้ว ยังปลดล็อกง่ายและสะดวกกว่าแบบ Liner Lock อีกด้วยค่ะ 

• Ring Lock เป็นระบบล็อกใบมีดที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน เพียงแค่หมุนวงแหวนที่อยู่ระหว่างใบมีดและด้ามจับ เพื่อทำการล็อกหรือปลดล็อกใบมีด 

การเลือกรูปทรงของใบมีดที่เหมาะกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน จะช่วยให้เราสามารถใช้มีดพับได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากขึ้น โดยหากใครกำลังมองหามีดพับที่ใช้งานได้หลากหลาย แนะนำให้เลือกใบมีดทรง Drop Point, Clip หรือ Pen ที่ใช้งานได้ทั้งตัด เฉือน และแล่เนื้อเพื่อประกอบอาหาร ส่วนใครที่ชื่นชอบมีดพับสไตล์มีดต่อสู้ แน่นอนว่าต้องเป็นใบมีดทรง Tanto และ Spear ที่นอกจากจะดูสวยงามแล้ว ปลายใบมีดที่หนาและแหลมคมยังเหมาะสำหรับใช้เจาะหรืองัดวัตถุต่าง ๆ แต่หากต้องการตัดวัตถุที่มีความหนา เช่น กิ่งไม้หรือเชือก แนะนำให้เลือกเป็นใบมีดที่มีบางส่วนเป็นฟันเลื่อยค่ะ 

นอกจากรูปทรงของใบมีดจะมีความสำคัญต่อการใช้งานแล้ว วัสดุของใบมีดก็มีความสำคัญไม่แพ้กันค่ะ โดยใบมีดที่ทำมาจาก Stainless Steel ซึ่งทนทานต่อการเกิดสนิมและการกัดกร่อน จะมีอายุในการใช้งานที่นานและไม่ผุพัง ทั้งยังดูแลรักษาให้เงางามได้ง่ายกว่าใบมีดที่ทำจากเหล็กคาร์บอน โดย Stainless Steel ชนิดที่นิยมนำมาผลิตใบมีดสำหรับมีดพับมีอยู่หลายชนิดทีเดียวค่ะ เช่น เหล็ก 420HC หรือเหล็ก High Carbon, เหล็ก Sandvik 12C27 ที่รักษาคมได้นาน และเหล็กคุณภาพสูงอย่าง S30V ที่ทั้งแข็งแรงทนทานและรักษาคมได้ดีเยี่ยม แต่มีราคาที่สูงและลับคมได้ยากกว่าเหล็กชนิดอื่น ๆ ค่ะ 

เพื่อให้สามารถใช้งานมีดพับได้อย่างคล่องแคล่ว นอกจากการเลือกซื้อมีดพับที่มีขนาดและรูปร่างกระชับเข้ากับมือของเราแล้ว วัสดุของด้ามจับเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกันค่ะ โดยด้ามจับที่ทำจากโลหะ เช่น อะลูมิเนียมและสเตนเลส แม้จะมีข้อดีในแง่ของความทนทาน แต่หากใช้ในงานที่มีแรงกระแทกมาก ๆ ก็อาจทำให้เจ็บมือได้ ส่วนด้ามจับไม้เหมาะสำหรับใครที่ชอบมีดพับแบบคลาสสิก ซึ่งนอกจากลายของเนื้อไม้จะดูสวยงามแล้ว ยังแข็งแรงทนทานและใช้งานได้นานอีกด้วยค่ะ 

แต่หากใครชอบมีดพับที่ดูทันสมัย แนะนำให้เลือกเป็นด้ามจับพลาสติกหรือยาง ซึ่งมีสีสันและลวดลายให้เลือกหลากหลาย และที่น่าสนใจเป็นพิเศษนั้น ต้องเป็นด้ามจับที่ทำมาจากวัสดุ G10 ค่ะ เพราะเป็นเส้นใย Fiber Glass ที่ทนทานต่อแรงกระแทกเป็นพิเศษ อีกทั้งไม่ลื่นมือเมื่อเปียกน้ำหรือเหงื่อ จึงเหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหามีดพับสำหรับกิจกรรมอย่างการเดินป่าหรือการประกอบอาหารในขณะแคมป์ปิ้ง 

หลังจากที่ได้ทราบถึงคุณสมบัติที่สำคัญและจำเป็นสำหรับการเลือกซื้อมีดพับกันไปแล้ว เรามาดูกันต่อเลยดีกว่าค่ะว่าใน 10 อันดับนี้ จะมีมีดพับรุ่นใดบ้างที่น่ามีเอาไว้ในครอบครอง 

• Victorinox - มีดพับ Swiss Army Knives รุ่น SPARTAN
• Leatherman - มีดพับ รุ่น Leatherman Free K4x
• Buck - มีดพับ รุ่น Vantage Pro Large
• Victorinox - มีดพับ Swiss Army Knives รุ่น HUNTSMAN
• OPINEL - มีดพับ รุ่น No.8

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับไอเดียในการเลือกซื้อมีดพับ ที่แม้จะมีรายละเอียดให้เราต้องพิจารณากันหลายอย่าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดใช่ไหมคะ เพียงแค่เริ่มจากการเลือกสไตล์ของมีดพับที่ถูกใจ, ใบมีดที่เหมาะกับการใช้งาน, วัสดุของด้ามจับ และระบบล็อกใบมีดที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้มีดพับ โดยเฉพาะในงานที่ต้องการใช้แรงตัดหรือกดที่มาก 

นอกจากนี้ แม้ว่ามีดพับส่วนใหญ่จะผลิตมาจากเหล็กคุณภาพสูง แต่การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญค่ะ เนื่องจากวัสดุ Stainless Steel ที่ใช้ผลิตใบมีดนั้นมักผสมด้วยคาร์บอนเพื่อเสริมความแกร่ง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการทำให้ใบมีดมีโอกาสเกิดสนิมได้มากขึ้น ดังนั้น ในขณะที่ล้างทำความสะอาดคราบต่าง ๆ บนมีดพับ แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำเข้าไปถูกบริเวณข้อต่อซึ่งซับให้แห้งได้ยาก อีกทั้งควรหมั่นฉีดสเปรย์กันสนิมหลังการทำความสะอาดทุกครั้งค่ะ