20 อันดับ หนังอินเดีย สนุก ๆ ปี 2022 หนังบอลลีวูด พากย์ไทย ซับไทย

เรื่องนี้ว่าด้วยมนุษย์ต่างดาวที่เดินทางมายังโลก แต่ดันทำของสำคัญหายจึงต้องออกตามหา ซึ่งถึงจะโชคดีได้รับความช่วยเหลือจากนักข่าวสาว แต่ยิ่งหาไปเรื่อย ๆ อันตรายก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหนังก็สร้างเสียงหัวเราะให้เราผ่านคาแรกเตอร์สุดเป๋อและงงงวยของเจ้าเอเลี่ยนตัวเอก แต่ในขณะเดียวกัน ความเป๋อของเขาก็นำพาให้คนดูได้ไปสำรวจสังคมและวัฒนธรรม พร้อมตั้งคำถามถึงเรื่องศาสนาและความเชื่อของชาวอินเดียที่นับเป็นประเด็นละเอียดอ่อนมาก ๆ ถือเป็นหนังสะท้อนสังคมที่ใจกล้าบ้าบิ่นจริง ๆ ค่ะ 

หนังที่อิงมาจากบุคคลที่มีตัวตนจริงอย่าง Arunachalam Muruganantham ผู้คิดค้นผ้าอนามัยสำหรับชาวบ้านรายได้น้อยในอินเดีย โดยหนังจะเล่าถึงชายที่ชื่อ Laxmi ผู้คอยสังเกตความยากลำบากของภรรยา เมื่อเธอต้องทนใช้ผ้าขี้ริ้วสกปรกตอนมีประจำเดือนทุกครั้ง ซึ่งถ้าจะให้ซื้อผ้าอนามัยใช้ทุกเดือนก็ราคาสูงไป เขาจึงพยายามประดิษฐ์ผ้าอนามัยที่เหล่าคนรายได้น้อยสามารถซื้อใช้ได้ เป็นอีกหนึ่งหนังที่กล้าเข้าไปแตะประเด็นต้องห้ามอย่างการใช้ผ้าอนามัยและการมีประจำเดือน เรียกได้ว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่ทำให้เรารู้จักสังคมอินเดียมากขึ้นในอีกมุมค่ะ

หนังที่ได้แรงบันดาลใจจากตำนานพื้นบ้าน Naale Baa ที่ว่ากันว่าเป็นวิญญาณสาวที่จะเคาะประตูบ้านตอนกลางคืนเพื่อตามหาสามี โดยหนังนำมาดัดแปลงเป็นชื่อ Stree (สตรี) ผีสาวที่จะออกมาลักพาตัวผู้ชายตอนตกดึก โดยตัวเอก วิคกี้ ได้พบกับสาวงามคนหนึ่ง แต่เธอกลับทำตัวแปลก ๆ วิคกี้และเพื่อน ๆ จึงปฏิบัติภารกิจค้นหาความจริง ซึ่งหนังก็มีโมเมนต์ฮา ๆ ให้เราขำจนท้องแข็ง แต่ก็ยังมีความน่ากลัวที่สร้างบรรยากาศจริงจัง ใครที่ไม่อยากดูหนังผีที่เครียดจนเกินไป เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ

เรื่องนี้เป็นหนังแนวอาชญากรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริงของ Jessica Lal นางแบบสาวที่ถูกลูกชายของนักการเมืองยิงเสียชีวิต โดยหนังได้ดัดแปลงให้ Jessica เป็นบาร์เทนเดอร์สาว ที่ถูกลูกชายของผู้มีอิทธิพลยิงเสียชีวิต แต่เพราะฆาตกรดันเป็นคนใหญ่คนโต จึงทำให้คดีนี้ไม่ได้ปิดง่าย ๆ เหมือนคดีทั่วไป งานนี้น้องสาวเธอจึงพยายามจับคนผิดเข้าคุกให้ได้เพื่อทวงความยุติธรรม เรียกได้ว่าเป็นหนังที่สะท้อนสังคมการเมืองและตำรวจของอินเดียได้เจ็บแสบไม่น้อยเลยค่ะ 

ต่อกันกับอีกหนึ่งหนังอาชญากรรม ว่าด้วยสารวัตรเก็บกดคนหนึ่งที่ชีวิตครอบครัวกำลังมีปัญหาหนัก ซึ่งเขาได้รับงานให้ไปสืบคดีอุบัติเหตุที่ดูเผิน ๆ เหมือนจะเป็นคดีทั่วไป แต่พอสืบไปสืบมา คดีมันกลับใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้คุณสารวัตรต้องเข้าไปพัวพันแบบถอนตัวไม่ได้ ในขณะที่สภาพจิตใจของเขาเองก็เริ่มจะดำดิ่งลงไปเรื่อย ๆ จากปัญหาส่วนตัว นี่คือหนังสืบสวนที่ออกแนวดาร์ก เล่นกับจิตใจคนดูที่จะพาให้เราไปเจอกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงตั้งแต่ต้นจนจบ ใครที่เป็นคอหนังแนวสืบสวนผสมจิตวิทยาหน่อย ๆ ห้ามพลาดเรื่องนี้เลยค่ะ 

มาเปลี่ยนบรรยากาศกันหน่อย ด้วยหนังดราม่าผสมคอเมดี้นิด ๆ เรื่องนี้ที่ว่าด้วย ซู สาวชาวอังกฤษ เธอเดินทางมาประเทศอินเดียเพื่อทำสารคดีเกี่ยวกับเหล่าผู้กล้า ที่ลุกขึ้นมาต่อต้านประเทศอังกฤษเพื่อทวงคืนอิสรภาพให้ชาวอินเดียในสมัยก่อน ซึ่งการมาอินเดียครั้งนี้ทำให้เธอได้สนุกสนานไปกับเพื่อนและสังคมใหม่ ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เธอได้เรียนรู้ปัญหาการเมือง จนเธอลุกขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน เป็นหนังที่ถ่ายทอดเรื่องการเมืองและอุดมการณ์อันแรงกล้าของเหล่าวัยรุ่น ถึงหนังจะค่อนข้างเก่า แต่เนื้อเรื่องก็ถือว่าตามเหตุการณ์ปัจจุบันมาติด ๆ เลยค่ะ 

มาที่แนวรอมคอมกันบ้างค่ะ โดยหนังเล่าเรื่องของ Barfi ชายผู้เป็นใบ้และหูหนวกแต่กำเนิด ซึ่งโชคชะตาก็ดันเล่นตลก พาให้เขาไปเจอกับสาวสองคนในเวลาเดียวกัน คนหนึ่งเป็นสาวสวยหน้าตาดี อีกคนคือสาวออทิสติกผู้เป็นเพื่อนสมัยเด็ก ซึ่งทั้งคู่ต่างก็เข้ามาทำให้หัวใจ Barfi หวั่นไหวและสับสน โดยหนังจะทำให้เรายิ้มไปกับความน่ารักของทั้งสาม และซึ้งไปกับนิยามความรักของพวกเขาที่ถ่ายทอดออกมาให้เราได้เห็น ใครเป็นคอหนังแนวโรแมนติก หรืออยากดูหนังรักแบบฟีลกู๊ด นี่เป็นอีกเรื่องที่อยากแนะนำมาก ๆ ค่ะ 

กลับเข้ามาแนวซีเรียสกันอีกหน่อย กับ Haider ซึ่งดัดแปลงมาจากผลงานดังอย่าง Hamlet ของ William Shakespeare โดยฉากหลังเป็นปี ค.ศ. 1995 ที่มีเหตุการณ์แคว้นแคชเมียร์ต่อต้านรัฐบาลอินเดีย ซึ่งตัวเอก Haider ที่เรียนมหาลัยอยู่ในอินเดียได้ตัดสินใจเดินทางกลับบ้านที่แคชเมียร์ เพื่อสืบหาความจริงเรื่องการหายตัวไปของผู้เป็นพ่อ เราเห็น Hamlet กันไปหลายเวอร์ชันแล้ว คราวนี้ก็มาถึงเวอร์ชันอินเดียกันบ้าง บอกเลยว่าหนังโชว์ความสวยงามของแคชเมียร์ให้เราได้เห็นแบบเต็มตากันเลยทีเดียว เรียกว่างานโปรดักชั่นไม่แพ้ Hollywood เลยค่ะ 

อีกหนึ่งหนังกีฬาที่เป็นแนวชีวประวัติของนักมวยปล้ำหญิงซึ่งมีตัวตนอยู่จริง ๆ ของอินเดียนั่นเอง โดยหนังจะเล่าถึงสองสาว Geeta กับ Babita ที่ได้รับการฝึกหนักจากพ่อของพวกเธอ จนพวกเธอกลายเป็นนักกีฬามวยปล้ำหญิงเหรียญทองสองคนแรกในอินเดีย โดยเราจะได้เห็นการเติบโตและการฝึกฝนอย่างยากลำบากของพวกเธอ ที่ต้องแบกความคาดหวังของพ่อไว้และทำมันให้สำเร็จ ใครที่กำลังหมดไฟ หรืออยากหาแรงบันดาลใจให้ชีวิตก็ต้องหนังเรื่องนี้เลยค่ะ รับรองว่าถ้าดูจบแล้ว ไฟฮึกเหิมในตัวคุณจะกลับมาแบบเต็มเปี่ยมเลยทีเดียว

กลับมาตื่นเต้นกันต่อด้วยหนังแนวสืบสวนระทึกขวัญ โดยหนังเป็นเรื่องราวความหลังของนายตำรวจที่เกษียณงานไปแล้ว ที่ในวันพุธหนึ่งเขาต้องเข้าไปรับผิดชอบคดีสุดหินอย่างการต่อกรกับผู้ร้ายวางระเบิด อันเป็นคดีที่เปลี่ยนวันพุธธรรมดาให้กลายเป็นวันพุธที่เขาลืมไม่ลงไปตลอดชีวิต ซึ่งยืนยันความลุ้นระทึกแล้วจากปากของนักวิจารณ์หลาย ๆ คน ที่เปรียบเรื่องนี้ว่าทำได้สนุกและลุ้นระทึกพอ ๆ กับแฟรนไชส์หนังบู๊ในตำนานอย่าง Die Hard เลยทีเดียว คอหนังระทึกขวัญพลาดไม่ได้แล้วนะคะ 

ต่อเนื่องกันด้วยอีกหนึ่งผลงานของผู้กำกับและคนเขียนบทจาก A Wednesday ! ที่เราเพิ่งแนะนำไป เรื่องนี้เองก็ยังคงเป็นแนวทริลเลอร์ไม่ต่างกัน ว่าด้วยเรื่องราวของแก๊งโจรที่บุกปล้นเพชรในโรงละครโอเปร่าที่มุมไบ โดยพวกเขาใช้วิธีอันชาญฉลาดด้วยการปลอมตัวเป็นตำรวจ และอ้างว่าต้องมาตรวจสอบเรื่องภาษีเงินได้ของเครื่องเพชรในโรงละคร ซึ่งนี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในปี ค.ศ. 1987 แถมยังเป็นคดีที่ปิดไม่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ด้วย ใครเป็นคอหนังแนวทริลเลอร์แบบปล้นชิงทรัพย์ เรื่องนี้แนะนำมาก ๆ เลยค่ะ 

อีกหนึ่งหนังที่สร้างอิงจากบุคคลที่มีตัวตนจริง ๆ โดยหนังเล่าเรื่องราวของ Paan Singh Tomar นายทหารคนหนึ่งที่ค้นพบว่าตัวเองมีความสามารถด้านการวิ่งข้ามสิ่งกีดขวาง เขาจึงฝึกฝนและลงแข่ง จนสามารถคว้าเหรียญทองกลับมาได้หลายครั้ง แต่แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นกับคนในครอบครัว ที่ทำให้เขาได้เห็นความโหดร้ายของสังคม เขาจึงตัดสินใจลาออกจากการเป็นทหาร และผันตัวเองไปเป็นโจรเพื่อแก้แค้นให้ครอบครัว นับเป็นหนังสะท้อนสังคมอีกเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ ที่กล้าโชว์ด้านโหดร้ายของอินเดียให้ผู้ชมได้เห็นกัน 

เรื่องนี้เป็นหนังที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังชื่อเดียวกันในปี ค.ศ. 1969 แต่ก็เหมือนกันแค่ชื่อหนัง เพราะเนื้อเรื่องไม่ได้มีความเกี่ยวข้องและต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยเวอร์ชันใหม่ว่าด้วย 2 คดีฆาตกรรม ที่เกิดขึ้นไล่เลี่ยกัน ซึ่งทางนักสืบก็ได้ตัวผู้ต้องสงสัยมา 2 คน ที่เหมือนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกัน แต่ทั้งคู่ดันให้การขัดแย้งกันไปมา จนทำให้เรื่องราวมันยิ่งลึกลับและสลับซับซ้อนกันไปหมด ยิ่งดูก็ยิ่งไว้ใจใครไม่ได้ อะไรที่คิดว่าใช่ จริง ๆ แล้วก็อาจจะไม่ใช่แบบนั้น เรียกได้ว่าเป็นหนังสืบสวนที่ลองเชิงทั้งนักสืบในเรื่อง รวมไปถึงคนดูด้วยเลยค่ะ

เรามาเปลี่ยนบรรยากาศ ลดความเครียดด้วยหนังแนวคอมเมดี้กันบ้างค่ะ โดยเรื่องนี้ว่าด้วย Rani หญิงสาวเงียบ ๆ ชอบเก็บตัว ที่พรุ่งนี้กำลังจะแต่งงาน แต่แล้วคู่หมั้นของเธอกลับขอยกเลิกงานแต่งไปเสียดื้อ ๆ เธอเองก็ไม่อยากทิ้งตั๋วฮันนีมูนที่จองไปปารีสกับอัมสเตอร์ดัมไว้ล่วงหน้า เลยตัดสินใจออกเดินทางไปเผชิญกับโลกกว้างด้วยตัวของเธอเอง ซึ่งระว่างเดินทาง เธอก็ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ทั้งยังพบเจอกับทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายปนกันไป ทำให้เธอค้นพบและเรียนรู้ตัวเองมากขึ้น ใครที่ยังหาตัวเองไม่พบ ก็ลองมาออกเดินทางไปพร้อมกับ Rani ดูนะคะ

กลับเข้าเรื่องหนัก ๆ กันอีกรอบ กับหนังแนวสืบสวนสอบสวนที่สร้างอิงมาจากเหตุการณ์จริงในปี ค.ศ. 2008 นั่นก็คือ คดีฆาตกรรมเด็กสาวอายุ 14 ปี และคนใช้ของเธอ ที่ตอนนี้คดีก็ยังคงไม่สามารถปิดได้ ซึ่งหนังจะเล่าให้เราเห็นการสืบสวนใน 3 มุมมอง คือ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วไป และเจ้าหน้าที่สืบสวนกองบัญชาการกลาง 2 ทีม ซึ่งความพีคก็คือ ยิ่งสืบไปก็ยิ่งเจอกับความน่าสงสัยที่ไม่มีสิ้นสุด เรื่องนี้แนะนำเลยค่ะ สำหรับแฟน ๆ หนังสืบสวน รับรองว่าได้ฝึกสมอง ดูไปคิดไปตลอดเรื่องแน่นอน

นี่เป็นหนังใหม่ที่เพิ่งมาเมื่อต้นปี ค.ศ. 2021 ที่ผ่านมา โดยหนังดัดแปลงจากนิยายในชื่อเดียวกัน ว่าด้วย Balram หนุ่มบ้านนอกฐานะยากจนที่ใฝ่ฝันอยากร่ำรวยเงินทอง ซึ่งเขาก็พยายามดันตัวเองให้ได้ไปอยู่ใกล้ชิดกับคนร่ำรวย เพื่อไปให้ถึงฝัน โดยความพิเศษของหนังก็คือ เจ้าหนุ่มตัวเอกของเราดันเป็นคนมีเหลี่ยมคม จึงทำให้การเข้าใกล้ความฝันในแต่ละครั้งของเขาเป็นผลมาจากการหลอกลวงและความเจ้าเล่ห์นั่นเอง ซึ่งเรื่องนี้เลือกสะท้อนเรื่องระบบชนชั้นของอินเดียที่ถือว่าเป็นระบบอันเข้มงวดที่มีมานานผ่านการเล่าออกมาแนวตลกร้าย เป็นหนังดราม่าที่ไม่ได้เครียดจนเกินไป แถมยังให้ข้อคิดกับเราไม่น้อยเลยค่ะ 

เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนสนิทสามคนที่มีคนหนึ่งกำลังจะแต่งงาน พวกเขาเลยตกลงจัดงานสละโสดให้เพื่อน ด้วยการไปเที่ยวแบบโร้ดทริปที่ประเทศสเปน ซึ่งพวกเขาก็ต้องเจอปัญหาชวนปวดหัวตลอดทาง เรียกได้ว่าเป็นการไปโร้ดทริปที่วุ่นวายสุด ๆ แต่ในความวุ่นวายนี้ก็สะท้อนให้เราได้เห็นถึงปัญหาชีวิตต่าง ๆ ของแต่ละคน ที่พวกเขาต้องพยายามแก้ไขและก้าวผ่านมันไปให้ได้ เป็นอีกหนึ่งหนังแนวฟีลกู๊ดที่ให้ข้อคิดเรื่องการใช้ชีวิตได้ดี นอกจากนี้ หนังยังพาให้เราไปเห็นสถานที่สวย ๐ มากมาย ดูไปก็รู้สึกเหมือนได้เที่ยวไปด้วยจริง ๆ เลยค่ะ 

ปลุกความตื่นเต้นกันอีกรอบด้วยเรื่องนี้ค่ะ ว่าด้วยหญิงท้องแก่ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศกับสามี ซึ่งตัวสามีก็มีเหตุให้ต้องกลับมาทำงานที่อินเดียอยู่ระยะหนึ่ง แต่แล้วเขากลับเงียบหายไปอย่างไร้ร่องรอย หญิงสาวจึงตัดสินใจบินกลับมาอินเดีย เพื่อตามหาสามีด้วยตัวเอง ซึ่งพอตามหาไปเรื่อย ๆ เรื่องราวก็ยิ่งวุ่นวาย ความลับต่าง ๆ ก็เริ่มเผยออกมา เรียกได้ว่ามีการหักมุมแบบคาดไม่ถึงตลอดทั้งเรื่อง อีกทั้งหนังยังแตะประเด็นเรื่องเพศ ด้วยการเล่าผ่านตัวละครหลักผู้หญิง แถมยังเป็นสาวท้องแก่ใกล้คลอดอีก ถือเป็นหนังที่สะท้อนเรื่อง Feminism ที่แปลกใหม่มาก ๆ ค่ะ

อีกหนึ่งหนังแนวสืบสวนทริลเลอร์ ว่าด้วยนักเปียโนตาบอดผู้มีพรสวรรค์ที่ฝีมือไปเข้าตาอดีตนักแสดงดัง เขาจึงถูกขอให้ไปเล่นโชว์ในงานครบรอบแต่งงานของคุณนักแสดงกับภรรยา แต่พอวันงาน ผู้ว่าจ้างเขากลับกลายเป็นศพซะอย่างนั้น หนุ่มนักเปียโนจึงต้องเข้าไปพัวพันกับคดีนี้อย่างช่วยไม่ได้ ซึ่งจุดเด่นของหนัง คือ การใช้ดนตรีประกอบแนวเพลงคลาสสิกอันแสนไพเราะ ให้เข้ากับอาชีพของตัวเอกผู้เป็นนักเปียโน แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า เรื่องราวนั้นไม่ได้ไพเราะตาม เพราะผู้ชมจะได้เจอกับความลับสุดหักมุมแบบร้อยตลบ เรียกได้ว่าเดาตอนจบกันไม่ออกแน่นอน 

หนังแนวคอมเมดี้ดราม่าที่เล่าถึงเพื่อนสามคน ซึ่งตกลงจะกลับมาเจอกันในอีก 10 ปีข้างหน้า เพื่อดูกันว่าใครจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมากที่สุด และพอวันนั้นมาถึง เพื่อนคนหนึ่งกลับไม่มาตามนัด จึงทำให้เพื่อน ๆ ที่เหลือพากันตามหาตัว ด้วยความอยากรู้ว่า ตอนนี้เพื่อนอีกคนประกอบอาชีพอะไร และประสบความสำเร็จขนาดไหน ซึ่งหนังจะพาเราไปดูบรรยากาศการเรียนของอินเดีย ที่บอกเลยว่าสะท้อนระบบการศึกษาได้อย่างเจ็บแสบ พร้อมตั้งคำถามถึงเป้าหมายที่แท้จริงของการศึกษาในห้องเรียน เป็นหนังอีกเรื่องที่มาพร้อมข้อคิดดี ๆ มากมายเลยค่ะ