20 อันดับ หนังอวกาศ แนะนำ เรื่องไหนน่าดู ฉบับล่าสุดปี 2021 รวมภารกิจผจญภัยนอกโลก การันตีความสนุก ตื่นเต้น

ปรากฏการณ์ที่จะนำไปสู่มหันตภัยครั้งใหญ่มีแนวโน้มว่าจะเกี่ยวข้องกับโครงการลับ "รอย แม็คไบรด์" จึงรับภารกิจออกเดินทางตามหาพ่อของเขาซึ่งเป็นนักบินอวกาศที่มีส่วนร่วมกับโครงการนั้น และหายตัวไปกว่า 30 ปี โดยไม่รู้เลยว่ามีอันตรายอะไรรอคอยเขาอยู่ สำหรับหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังแอ็กชัน Sci-fi ขายฉากต่อสู้ แต่เป็นหนังดราม่าที่จะพาคนดูดำดิ่งไปในห้วงอารมณ์ของตัวละคร และบรรยากาศของเรื่อง ประกอบกับปรัชญาความเป็นมนุษย์ที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างลึกล้ำ ใครที่สนใจหนังเรื่องนี้เราขอแนะนำว่าให้พยายามทำความเข้าใจสารที่หนังจะสื่อออกมา แล้วคุณจะได้พบกับหนังดี ๆ อีกเรื่องหนึ่งค่ะ

สำหรับผู้ที่ชื่อชอบหนังอวกาศระทึกขวัญแนวหนีตายจากเอเลี่ยน หนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย ว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มนักบินอวกาศที่เก็บตัวอย่างสิ่งมีชีวิตได้จากพื้นผิวของดาวอังคาร ก่อนจะนำมาวิเคราะห์บนสถานีอวกาศ ทว่าเมื่อสิ่งมีชีวิตปริศนานั้นตื่นจากการหลับใหล เหล่านักบินอวกาศก็ต้องพบกับหายนะครั้งใหญ่ และต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากมันให้ได้ ในเรื่องบรรยากาศของหนังนั้นสร้างความกดดันได้ดีมากเสียจนคนดูต่างก็ลุ้นระทึก และเผลอหยุดหายใจอยู่หลายฉาก แม้จะเป็นหนังเกี่ยวกับเอเลี่ยน แต่ก็มีสิ่งน่าสนใจหลายสิ่งที่แตกต่างจากหนังเอเลี่ยนเรื่องอื่น ๆ อยู่ไม่น้อยค่ะ

หากถึงคราวดวงอาทิตย์ดับสูญก็คงถึงกาลอวสานของโลกไปด้วย และเพื่อไม่ให้มวลมนุษย์สูญพันธุ์จนหมดสิ้น ทีมลูกเรือยานอิคารัส 2 จึงต้องออกเดินทางทำภารกิจจุดระเบิดนิวเคลียร์ที่แกนกลางของดวงอาทิตย์ให้มันกลับมาลุกโชนอีกครั้ง ทว่าในการเดินทางครั้งนี้กลับต้องพบกับอุปสรรคจนภารกิจส่อแววจะล้มเหลว ลูกเรือทั้งหลายจึงต้องหาวิธีแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่จะเผยให้เห็นธาตุแท้ของจิตใจมนุษย์ คุณจะได้ร่วมลุ้นระทึกไปกับทุกเหตุการณ์ในหนังตลอดจนจบเรื่องที่ทั้งสนุกตื่นเต้นชวนติดตามสุด ๆ ใครที่อยากดูหนังอวกาศที่แบบเน้นหลักการหรือทฤษฎีวิทยาศาสตร์น่าจะถูกใจไม่น้อยเลยค่ะ

เมื่อดาวหางยักษ์ขนาดเท่ารัฐเท็กซัสกำลังจะพุ่งชนโลกในอีก 18 วัน วิธีเดียวที่จะหยุดหายนะครั้งนี้ได้คือการฝังหัวระเบิดนิวเคลียร์ไว้ที่แกนกลางของดาวหาง ด้วยเหตุนี้ ทีมนักขุดเจาะมืออาชีพจึงถูกส่งไปทำภารกิจเสี่ยงตายในอวกาศเพื่อช่วยโลกให้ปลอดภัย หนังเรื่องนี้มีความผสมผสานกันระหว่างหนังอวกาศ กับหนังวันสิ้นโลก และอัดแน่นไปด้วยข้อคิดดี ๆ หลายประเด็น ไม่ว่าจะเรื่องความรับผิดชอบในหน้าที่ ความสัมพันธ์ และความรัก พร้อมเพลงประกอบอันแสนไพเราะที่กลายเป็นเพลงอมตะในปัจจุบันมาช่วยดึงอารมณ์ผู้ชมให้อินไปกับหนัง เรียกได้ว่าเป็นหนังดีที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ

เรื่องราวในจักรวาลเดียวกันกับ Alien ที่ว่าด้วยการตามหาต้นกำเนิดของมนุษย์ และผู้สร้าง โดยลูกเรือทีมสำรวจของยานโพรมีธีอุสได้เดินทางไปสู่ดวงดาวอันแสนห่างไกลตามสิ่งที่เรียกว่า คำเชิญจากพระเจ้า ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าจะให้คำตอบแก่คำถามของมนุษยชาติได้ โดยไม่รู้เลยว่าจะต้องพบเจอกับเรื่องราวสุดลึกลับและน่าสะพรึงกลัว สำหรับใครที่เคยดู Alien มาก่อนน่าจะทำความเข้าใจเนื้อหาได้พอสมควร แต่ใครที่ยังไม่เคยดูอาจจะรู้สึกว่าหนังเข้าใจยากในบางช่วง ทว่าหลังจากที่ดำเนินเรื่องไปสักระยะหนึ่งแล้ว คุณจะได้พบกับความตื่นเต้นสไตล์หนัง Sci-fi สยองขวัญ ที่จะทำให้ขนลุกชันไปทั้งตัวเลยค่ะ

ความสงสัยที่ว่าในจักรวาลนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นอาศัยอยู่อีกหรือไม่ นำไปสู่โครงการค้นหามนุษย์ต่างดาวด้วยสัญญาณวิทยุ โดย "ดร. แอโรเวย์" ก่อนจะนำไปสู่การเดินทางผ่านรูหนอน และค้นพบความลับอันยิ่งใหญ่แห่งจักรวาล ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้คือ คุณจะได้เห็นความพยายามในการติดต่อสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตนอกโลก เช่น การแปลคลื่นสัญญาณจากมนุษย์ต่างดาว และได้ร่วมลุ้นไปกับทุกเหตุการณ์ในเรื่อง นอกจากนี้ หนังยังทิ้งประเด็นให้คนดูได้ขบคิดและถกเถียงกันหลังดูจบอีกด้วย ใครที่ชื่นชอบหนังอวกาศที่นำเสนอเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกน่าจะถูกใจหนังเรื่องนี้ไม่น้อยเลยค่ะ

เรื่องราวของชายคนแรกผู้ได้เหยียบเท้าลงบนพื้นผิวดวงจันทร์อย่าง "นีล อาร์มสตรอง" ในมุมมองที่คนทั่วไปไม่เคยได้รับรู้ โดยแสดงให้เห็นอีกด้านที่เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง และบอกเล่าขั้นตอนกว่าจะเป็นภารกิจสำรวจดวงจันทร์ครั้งประวัติศาสตร์ จนกลายเป็นที่จดจำมาถึงปัจจุบันผ่านชีวิตของเขา แม้ทุกคนจะรู้อยู่แล้วว่าสุดท้ายคนที่จะได้ไปเหยียบดวงจันทร์ก็คือนีล แต่การดำเนินเรื่องอย่างมีชั้นเชิง และค่อย ๆ ไต่ระดับความเข้มข้นของอารมณ์ขึ้นไปก็ทำให้ผู้ชมต่างร่วมลุ้นไปกับทุกเหตุการณ์ได้จนจบเรื่อง ถือเป็นหนังที่น่าดูมากสำหรับผู้ที่ชอบหนังสารคดี และไม่ได้ต้องการหนังอวกาศที่หวือหวาเต็มไปด้วยฉากแอ็กชันค่ะ

"วอลล์-อี" หุ่นยนต์กำจัดขยะซึ่งถูกทิ้งเอาไว้บนโลกที่ปราศจากมนุษย์ แต่ก็ยังคงทำหน้าที่ของตนเองในทุก ๆ วัน จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้พบกับ "อีฟ" หุ่นยนต์สำรวจที่เดินทางมาทำภารกิจบนโลก และเรื่องราวความรักของหุ่นยนต์ทั้งสองก็ได้ถือกำเนิดขึ้น นอกจากความน่ารักของทั้งสองแล้ว หนังยังแฝงประเด็นที่ให้ข้อคิดดี ๆ อย่างเรื่องการสร้างขยะจนกระทบกับปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่กลับไม่ใส่ใจจะแก้ไข แล้วเลือกที่จะย้ายไปอาศัยอยู่ที่อื่นแทน การนำเสนอเป็นแอนิเมชันทำให้หนังเรื่องนี้ดูง่าย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย มีครบทั้งความสนุก และเนื้อหาที่กินใจ สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมมานับไม่ถ้วนเลยค่ะ

ในโลกอนาคตที่พลังงานบนโลกถูกใช้จนใกล้จะหมดลง มนุษย์ได้ค้นพบแหล่งพลังงานใหม่คือแร่ธาตุบนดวงจันทร์ จึงได้มีการตั้งเหมืองแร่ที่นั่น และให้ "แซม เบล" เป็นคนดูแลระบบทั้งหมดเพียงคนเดียว ในขณะที่ใกล้จะครบระยะเวลาการทำงาน แซมกลับได้พบกับเรื่องราวสุดพิศวงเกินจะคาดคิด และเปลี่ยนชีวิตเขาไปโดยสิ้นเชิง หนังเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของชายผู้ซึ่งใช้ชีวิตอยู่คนเดียวบนดวงจันทร์เป็นเวลา 3 ปี ทำให้มีบรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบเหงาและอ้างว้าง แต่ก็ดำเนินเรื่องได้เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน น่าติดตาม จนเมื่อใครหลายคนดูจนจบแล้วก็ยกให้เป็นหนังอวกาศในดวงใจอีกเรื่องหนึ่งไปเลยค่ะ 

ในหนังเรื่องนี้คุณจะไม่ได้ไปท่องจักรวาล แต่จะได้พบกับเหล่าผู้มาเยือนจากต่างดาวซึ่งจอดยานอวกาศบน 12 พื้นที่ทั่วโลก และมี ดร.หลุยส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์พร้อมกับกองทัพสหรัฐมาทำภารกิจหาคำตอบจากเหล่าเอเลี่ยนถึงสาเหตุของการมาเยือนในครั้งนี้ หนังหยิบยกประเด็นเกี่ยวกับภาษาศาสตร์ การแปลภาษา และการสื่อสารระหว่างเอเลี่ยนกับมนุษย์ ซึ่งล้วนเป็นประเด็นที่น่าสนใจ อีกทั้งยังไม่ค่อยถูกหยิบยกมานำเสนออย่างจริงจังเท่าไรนัก ดังนั้น หนังจึงไม่ได้มีฉากแอ็กชันหรือผจญภัยที่หวือหวา และมีบรรยากาศที่ค่อนข้างเนิบนาบสักเล็กน้อย แต่เป็นหนังที่เนื้อหาดี เหมาะสำหรับคนเรียนสายภาษามาก ๆ ค่ะ

เชื่อว่าเกือบทุกคนจะต้องเคยได้ยินชื่อเรื่อง Avatar หนังที่เป็นกระแสโด่งดังมากในปี 2008 และยังคงได้รับการยอมรับมาจนถึงปัจจุบันว่าเป็นหนังที่ยอดเยี่ยมในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะเทคนิค CG และพล็อตเรื่องแปลกใหม่ ซึ่งเกี่ยวกับโลกอนาคตที่มนุษย์ใช้ทรัพยากรบนโลกจนหมดสิ้น จึงต้องออกเดินทางไปยังดาวแพนดอราเพื่อหวังจะสูบทรัพยากรของดาวมาใช้แทน โดยเจค ซัลลี ได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจนี้ และต้องเข้าไปอยู่ในร่างอวตารชาวนาวีผิวฟ้าของดาวแพนดอรา ทว่าหลังจากได้ใช้ชีวิตด้วยกันกับชาวนาวี เจคก็เกิดความผูกพันและความรัก สุดท้ายแล้วเขาจะเลือกสิ่งใด สามารถหาคำตอบในหนังเรื่องนี้เลยค่ะ 

หนังที่สร้างจากเรื่องจริงของ 3 สาวผิวสีผู้เป็นเบื้องหลังความสำเร็จขององค์กรนาซาในช่วงยุค 60s ซึ่งเป็นยุคที่สหรัฐมีปัญหาการเหยียดสีผิวอย่างรุนแรง เหล่าตัวละครหลักต้องพบอุปสรรคในการทำงานมากมายทั้งถูกดูถูก กดขี่ และแบ่งแยก กว่าจะสามารถพิสูจน์ความสามารถจนกลายเป็นที่ยอมรับในองค์กรได้ ตัวหนังนำเสนอได้สนุกสนาน ไม่เครียด อีกทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจได้ดี แม้ว่าหนังจะไม่ได้พาผู้ชมไปผจญภัยในห้วงอวกาศนอกโลก แต่มันจะพาไปชมการทำงานของนาซาในยุคเริ่มต้นกว่าจะมาเป็นองค์กรแบบที่เห็นกันในปัจจุบัน หากคุณสนใจประวัติศาสตร์เกี่ยวกับนาซา ห้ามพลาดหนังเรื่องนี้เลยค่ะ

The Empire Strikes Back เป็นหนังภาคที่ 2 ของแฟรนไชส์หนังอวกาศชื่อดังที่ทุกคนน่าจะเคยได้ยินชื่อมาก่อนอย่าง Star Wars โดยในภาคนี้เป็นเหตุการณ์หลังการทำลายดาวมรณะ ฝ่ายกบฏจึงต้องหาที่ตั้งฐานทัพใหม่ พร้อมกับหนีการตามล่าของกองทัพของจักรวรรดิซึ่งนำโดย ดาร์ธ เวเดอร์ คุณจะได้พบกับเรื่องราวการต่อสู้แบบเข้มข้นสุดมัน อีกทั้งยังมีความเป็นแอ็กชันแฟนตาซีสูง ด้วย CG ที่ถือว่ายอดเยี่ยมมาก ๆ สำหรับยุคสมัยนั้น หากคุณยังไม่เคยดูมหากาพย์สงครามจักรวาลเรื่องนี้ เราขอแนะนำให้คุณมาพิสูจน์ความยิ่งใหญ่อลังการที่ทำให้กลายเป็นหนังในตำนานอีกเรื่องหนึ่งด้วยตัวเองค่ะ

พบกับเรื่องราวการเอาชีวิตรอดในห้วงอวกาศอันแสนเวิ้งว้าง มืดมิด และเงียบสงัด ของ 2 นักบินอวกาศที่ประสบอุบัติเหตุจากขยะอวกาศจนหลุดจากวงโคจร ตัวหนังดำเนินเรื่องได้น่าติดตามจนอดไม่ได้ที่จะเอาใจช่วยให้ทั้งสองสามารถหาหนทางกลับสู่โลกให้ได้ จุดเด่นของหนังคือการเล่นกับอารมณ์และสถานการณ์อันเลวร้ายที่จะดึงผู้ชมให้รู้สึกกดดันและอึดอัดตามไปกับตัวละคร นำเสนอด้วยเทคนิคการถ่ายแบบ Long Take รวมถึงมุมกล้องเหมือนกำลังลอยอยู่ในอวกาศที่ไร้แรงดึงดูดอยู่จริง ๆ และความเงียบหลายช่วงของเรื่องก็ยิ่งทำให้ดำดิ่งไปกับหนัง หากได้ดูเรื่องนี้แล้วคุณจะได้รับความตื่นเต้นตลอดชั่วโมงครึ่งเลยค่ะ

หนังภาคต่อของ Star Trek ปี 2009 ที่จะพากัปตันเคิร์ก และสป็อก พร้อมเหล่าลูกเรือแห่งยานสำรวจเอ็นเตอร์ไพรส์มุ่งหน้าสู่อวกาศอีกครั้งเพื่อไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย เนื้อหาในภาคนี้จะเกี่ยวกับการไล่ล่า และต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายสุดแข็งแกร่งที่สร้างความเสียหายให้กับโลกอย่างใหญ่หลวง คุณจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับงานภาพสุดอลังการสมเป็นหนังฟอร์มยักษ์ และฉากแอ็กชันที่มีทั้งฉากต่อสู้ในอวกาศ และบนพื้นโลก ซึ่งล้วนดุดันสมจริงจนละสายตาไปไม่ได้ อีกทั้งมีเนื้อเรื่องที่ดำเนินไปอย่างเข้มข้น และผูกปมเอาไว้อย่างดี บอกได้เลยว่าหนัง Star Trek ภาคนี้ทั้งสนุกและน่าตื่นเต้นจนพลาดไม่ได้เลยค่ะ 

หนังเรื่องนี้สร้างจากเหตุการณ์จริงทางประวัติศาสตร์ของยานอวกาศ "อะพอลโล 13" ซึ่งถูกส่งไปลงจอดที่ดวงจันทร์ ทว่ากลับเกิดเหตุขัดข้องทำให้ไปไม่ถึงที่หมาย และต้องเปลี่ยนภารกิจมาเป็นหาทางกลับโลกแทน หนังเล่าเรื่องราวได้น่าตื่นเต้นตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะความกดดันจากสถานการณ์เลวร้ายมืดแปดด้านบนยานอวกาศ และทีมงานที่คอยให้ความช่วยเหลืออยู่บนโลก ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเข้มข้นจนคนดูต่างลุ้นระทึกตามไปด้วย นอกจากนี้ ยังนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับครอบครัวของนักบินอวกาศที่แม้จะเป็นอาชีพที่มีเกียรติ น่าภูมิใจ แต่ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยง เป็นเรื่องที่คอหนังอวกาศไม่ควรพลาดเลยค่ะ

นี่คือหนัง Sci-fi อวกาศที่เป็นต้นแบบให้กับหนังอวกาศเรื่องอื่น ๆ เรื่อยมาแม้หนังเรื่องนี้จะไม่ได้นำเสนอการผจญภัยในอวกาศอย่างหวือหวา แต่นำเสนอปรัชญาและสัญลักษณ์ให้ต้องคอยตีความตาม โดยเล่าเรื่องย้อนไปตั้งแต่ยุคหินซึ่งปราศจากมนุษย์ มาถึงยุคปัจจุบันที่มีการเดินทางออกไปทำภารกิจสำรวจนอกโลก จนได้พบกับความลับของจักรวาล เนื่องจากเป็นการนำเสนอเนื้อหาเชิงปรัชญา จึงมีบรรยากาศค่อนข้างเนิบนาบ ในส่วนของ CG เมื่อดูจากปีที่หนังฉายก็นับว่าสุดยอดมาก ๆ แล้วสำหรับหนังในยุคนั้น และบางฉากก็ดูสมจริงเทียบเท่าหนังอวกาศในยุคปัจจุบันเลยทีเดียว ถ้าอยากรู้ว่าหนังดีขนาดไหน ต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วค่ะ

หนังซูเปอร์ฮีโร่จาก Marvel ที่มีฉากการดำเนินเรื่องอยู่ในอวกาศนอกโลก เป็นเรื่องราวของกลุ่ม 5 อาชญากรที่ร่วมมือกันปกป้องจักรวาลให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของวายร้ายตัวฉกาจ นี่ไม่ใช่หนัง Sci-fi อวกาศที่นำเสนอทฤษฎีวิทยาศาสตร์ล้ำ ๆ แต่เป็นหนังที่จะพาคุณไปท่องจักรวาลอันน่าตื่นตาตื่นใจเหนือจินตนาการ และได้พบเจอกับเหล่ามนุษย์ต่างดาวหลากเผ่าพันธุ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเอฟเฟกต์ CG ยิ่งใหญ่อลังการ อีกทั้งยังมีฉากต่อสู้สุดมัน และมุกตลกขบขันชวนหัวเราะทั้งเรื่อง ใครชื่นชอบหนังการต่อสู้ในอวกาศ เราขอแนะนำให้หาหนังเรื่องนี้มาดูเลยค่ะ

หนังแนว Sci-fi อวกาศที่เล่าเรื่องราวของ มาร์ก วัทนีย์ หนึ่งในลูกเรือยานเอรีส III ที่ทำภารกิจสำรวจดาวอังคาร แต่กลับต้องยกเลิกภารกิจเนื่องจากพายุฝุ่น ทว่ามาร์กกลับประสบอุบัติเหตุจนพลัดกับทีมที่กำลังเดินทางกลับโลก กลายเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่ต้องหาทางเอาชีวิตรอดบนดาวอังคาร บรรยากาศของเรื่องไม่ได้เน้นนำเสนอความเดียวดายว้าเหว่ แต่เน้นไปที่การหาหนทางต่าง ๆ เพื่อช่วยชีวิตมาร์กให้กลับมายังโลกไม่ว่าจะต้องใช้เทคโนโลยีหรือทรัพยากรใด ๆ ก็ตาม หนังถ่ายทอดเรื่องราวออกมาอย่างสนุกสนานน่าติดตาม มีอารมณ์ขัน และยังอุดมไปด้วยสาระความรู้ ถือเป็นหนังอวกาศที่พลาดไม่ได้เลยค่ะ

หากพูดถึงหนัง Sci-fi อวกาศ ไม่ว่าจะเป็นคอหนังแนวนี้หรือไม่ก็คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อหนังมากฝีมือจากผู้กำกับคนดังอย่าง Christopher Nolan เรื่องนี้ ในหนังเรื่องนี้ คุณจะได้พบกับโลกที่ใกล้ล่มสลาย มนุษย์ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก หนทางเดียวที่มนุษยชาติจะเอาชีวิตรอดต่อไปได้ก็คือ การส่งทีมสำรวจออกเดินทางผ่านรูหนอนเพื่อค้นหาโลกใบใหม่ ซึ่งคุณจะได้พบกับการผจญภัยในจักรวาลอันยิ่งใหญ่ พร้อมทฤษฎีวิทยาศาสตร์สุดล้ำและเรื่องราวครบรสทั้งความตื่นเต้นในการทำภารกิจ รวมทั้งดราม่าเกี่ยวกับครอบครัว ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังของผู้กำกับคนนี้ รับรองว่าคุณจะได้ชมเรื่องราวที่สนุกสนานน่าตื่นเต้นตลอดเวลาเกือบ 3 ชั่วโมงอย่างแน่นอนค่ะ