ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
หากคุณคือหนึ่งในกลุ่มผู้ที่ต้องขับขี่รถในช่วงเวลากลางคืนบ่อย ๆ ก็คงจะต้องเคยสัมผัสความมืดสลัวหรือมืดสนิทจากท้องถนนที่ไม่ค่อยมีไฟส่องทางหรือบางช่วงก็ไม่มีไฟข้างทางเลย ซึ่งเมื่อถึงจุดนี้คุณก็จะได้เห็นประสิทธิภาพการส่องสว่างของหลอดไฟหน้ารถยนต์ (Head Lamp) ของตัวเองอย่างเต็มที่ แต่แน่นอนว่าไม่ใช่รถทุกคันที่จะมีไฟสว่างเหมือนกันหมด เพราะหลายคนอาจพบกับปัญหาไฟที่ติดตั้งมานั้นสว่าง แต่ไม่เพียงพอต่อการมองผ่านฟิล์มกรองแสง ทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดจนอาจเกิดอุบัติเหตุได้
นี่อาจเป็นหนึ่งเหตุผลที่หลาย ๆ คนต้องมองหาหลอดไฟหน้ารถยนต์ชุดใหม่เพื่อมาเพิ่มความสว่างแทนที่ของเดิม ดังนั้น เราจึงได้รวบรวมข้อมูลการเลือกซื้อหลอดไฟหน้ารถยนต์ที่เป็นประโยชน์มาไว้ให้บทความนี้พร้อมคำแนะนำจากเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ เพื่อให้คุณเลือกหลอดไฟหน้ารถยนต์ได้อย่างความคุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานที่สุด และเรายังมี 10 อันดับ หลอดไฟหน้ารถยนต์ คุณภาพดีและมีรีวิวจากผู้ใช้งานมาไว้ให้เป็นแนวทางการประกอบการตัดสินใจอีกด้วย
คุณเอ๊ะจบการศึกษาปริญญาตรีและโท คณะวิศวกรรมศาสตร์ไฟฟ้า จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปัจจุบันประกอบธุรกิจอู่ซ่อมรถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจต่อเนื่องมาจากครอบครัว คุณเอ๊ะจึงมีประสบการณ์ทั้งในวงการซ่อมรถยนต์และประกันภัยรถยนต์มากว่า 10 ปี ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมสีตัวถังรถยนต์ ช่วงล่าง ล้อยาง เครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้า ถุงลมนิรภัย รวมทั้งยานยานต์ไฟฟ้าก็กำลังติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากงานซ่อมรถยนต์มีหลากหลายรูปแบบ โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่ารถยนต์ที่ผลิตออกมาจากโรงงานได้ผ่านการคิดวิเคราะห์จากวิศวกรผู้ออกแบบอย่างดีแล้ว จึงไม่ควรที่ผู้ใช้หรือช่างซ่อมรถยนต์จะไปดัดแปลงเปลี่ยนสเปกที่แตกต่างไปจากเดิม ดังนั้นงานซ่อมหรือคำแนะนำของคุณเอ๊ะจะเป็นไปในลักษณะซ่อมหรือเปลี่ยนให้อยู่ในสเปกดั้งเดิมของโรงงานผลิตมากกว่าดัดแปลงรถยนต์ นอกจากนี้แนวคิดงานซ่อมของคุณเอ๊ะยังคำนึงถึงราคาค่าซ่อมที่สมเหตุสมผล คุณภาพอะไหล่ที่ได้มาตรฐาน และความปลอดภัยในการใช้งานรถยนต์ต่อไปด้วย
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
สำหรับขั้นตอนในการเลือกหลอดไฟหน้ารถยนต์ มีจุดสำคัญที่จะต้องใช้พิจารณาอยู่ 4 เรื่องด้วยกันคือประเภทของหลอดไฟ ประเภทของโคมไฟ ค่าความสว่างที่มาพร้อมกับค่าอุณหภูมิของแสง และรุ่นของขั้วหลอดไฟ ซึ่งมีรายละเอียดแต่ละหัวข้อดังนี้
ในตลาดอะไหล่รถยนต์มีประเภทของหลอดไฟค่อนข้างหลากหลาย โดยมีมากถึง 4 แบบ เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้เลือกเปลี่ยนตามความเหมาะสม ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีลักษณะการทำงานที่ต่างกัน รวมถึงมีประสิทธิภาพและข้อดีเฉพาะที่น่าสนใจทีเดียว
หลอดแบบฮาโลเจน (Halogen Lamp) คือ หลอดไฟรุ่นแรกที่พัฒนามาจากหลอดไส้ทั่วไปที่ใช้กันในอดีตและยังคงใช้กันต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน มีระบบการทำงานที่ต้องอาศัยไส้ทังสเตนเพื่อให้แสงสว่างและใช้แก๊สฮาโลเจนเพื่อช่วยเพิ่มความสว่าง ซึ่งจะมีมีอดีอยู่มากมาย ทั้งราคาถูก หาเปลี่ยนได้ทั่วไปและมีเกรดแบ่งตามการเก็บประจุให้เลือก รวมถึงให้แสงไฟส่องสว่างบนพื้นถนนได้ดีแม้อยู่ในสภาพอากาศที่ไม่ดีหรือในขณะที่ฝนตกก็ตาม แต่ทั้งนี้ข้อจำกัดของหลอดประเภทนี้ก็มีมากเช่นเดียวกัน เพราะมีความสว่างน้อยกว่าแบบอื่น มีอายุการใช้งานสั้นทำให้ต้องเปลี่ยนบ่อย ที่สำคัญคือมีความร้อนสูงและความทนทานต่ำ จึงอาจพังเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนได้ง่าย
โดยส่วนใหญ่รถยนต์ที่ออกมาจากโรงงานผลิตจะใช้หลอดประเภทนี้โดยแสงไฟจะออกลักษณะเหลือง ๆ หากรถยนต์ของคุณใช้หลอดประเภทนี้ เมื่อหลอดเสียก็ควรจะเปลี่ยนใช้หลอดที่มีสเปกเดิมของผู้ผลิต โดยดูจากขั้วหลอด รวมถึงวัตต์ของหลอดเก่าด้วย เหตุผลคือถ้าผู้ใช้รถเปลี่ยนหลอดเป็นสเปกเดิมก็ไม่ต้องดัดแปลงระบบไฟฟ้ารถยนต์ และไม่ส่งปัญหาเรื่องระบบไฟฟ้าตามมาในภายหลัง ที่สำคัญ หลอดไฟฮาโลเจนนี้ ราคาถูก หาซื้อได้ทั่วไป และสามารถเปลี่ยนเองได้ไม่ยากอีกด้วย
หลอดไฟหน้ารถยนต์ประเภทหลอดซีนอน (Xenon) หรือที่ถูกเรียกว่า HID (High Intensity Discharge) เคยได้รับความนิยมอย่างมากอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนที่จะมีหลอด LED ออกมา เพราะเป็นหลอดที่ให้ความเข้มของแสงมากกว่าหลอดฮาโลเจน มีค่าอุณหภูมิสีที่ให้ความสว่างสูงสุดอยู่ที่ 4300K แต่หากมากกว่านี้ความสว่างก็จะลดลงและค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีอมฟ้ามากขึ้น ซึ่งในแง่ของการประหยัดพลังงาน หลอดซีนอนนั้นถือได้ว่ากินไฟน้อยมากเมื่อเทียบกับประเภทอื่น แต่ก็มีข้อเสียที่ราคาสูง บำรุงรักษายาก และหากติดตั้งไม่ได้มาตรฐาน ก็จะทำให้ไม่สามารถควบคุมการกระจายของแสงสว่างได้ จนไปรบกวนการมองเห็นของผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่นและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุด้วย
ไฟซีนอลได้ชื่อว่าเป็นไฟเห็นชัดที่สุดในตอนกลางคืน เนื่องจากสีของไฟที่ออกมาเป็นสีฟ้า หากรถยนต์ที่ไม่ได้ใช้หลอดไฟหน้าซีนอลเป็นมาตรฐาน แล้วต้องการแปลงเปลี่ยนมาใช้หลอดซีนอลจะค่อนข้างยุ่งยากแถมราคาสูง นอกจากนี้ กล่องไฟซีนอล (บาราจหลอดไฟหน้า) ซึ่งบริเวณใต้โคมไฟหน้าของบางยี่ห้อยังเสียง่ายอีกด้วย ปัจจุบันผู้ใช้รถจึงนิยมแปลงไฟหน้าไปใช้หลอด LED มากกว่าเพราะถูกกว่า ยุ่งยากน้อยกว่า แถมสว่างใกล้ ๆ กัน นอกจากนี้ หากไฟหน้าสว่างมากเกินไปมาก ก็อาจทำให้ผู้ใช้ถนนโดยรอบเกิดความรำคาญและอาจจะเกิดอันตรายได้อีกด้วย
หลอด LED (Light Emit Diode) คือประเภทหลอดไฟหน้ารถยนต์ที่กำลังได้รับความนิยมในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ และค่ายรถยนต์ส่วนใหญ่ยังนิยมนำไปพัฒนาเป็นเทคโนโลยีประหยัดพลังงานของตัวเอง เพราะให้แสงสว่างที่เหมาะสมคมชัด อีกทั้งยังครอบคลุมพื้นที่ในการมองเห็นมากกว่าหลอดแบบฮาโลเจนถึง 3 เท่า มีลักษณะการทำงานแบบให้กระแสไฟฟ้าผ่านไดโอดที่ให้แสงสว่างโดยตรงโดยไม่ต้องใช้แผงกระจกสะท้อนแสง ทำให้ใช้พลังงานน้อย ไม่เปลืองไฟ มีความร้อนต่ำและมีอายุการใช้งานยาวนาน แต่ข้อเสียคือมีราคาสูงพอสมควรค่ะ
หากผู้ใช้รถยนต์ประจำในเวลากลางคืนประกอบกับสถานที่ที่ไปค่อนข้างมืด อาจจะเลือกเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแบบ LED แทน เพราะข้อดีของหลอดประเภทนี้คือ แสงกระจายน้อยกว่าหลอดฮาโลเจน มีความร้อนน้อยกว่า ทนทานกว่า อีกทั้งยังสว่างกว่ามากหากใช้วัตต์เท่ากัน อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีข้อเสียอยู่บ้าง เช่น รถยนต์บางรุ่นที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้หลอด LED ต้องดัดแปลงเพื่อที่จะใส่หลอดแบบนี้เข้าไป และอาจจะทำให้มีปัญหากันระบบไฟฟ้ารถยนต์ได้ ถ้าหากเลือกวัตต์ของหลอดไฟไม่ดี อาจสว่างมากเกินไปจนทำให้เป็นที่รำคาญของทั้งรถข้างหน้าและรถที่สวนกันจนอาจเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วยครับ
หลอดแบบเลเซอร์ (Laser) เป็นเทคโนโลยีล่าสุดและถือได้ว่าล้ำหน้าที่สุดในปัจจุบัน สามารถให้ความสว่างกว่าแบบ LED มากถึง 2 - 5 เท่า แต่ยังมีใช้ในวงที่ค่อนข้างจำกัดและมีใช้ในรถยนต์บางรุ่นเท่านั้น คือ BMW i8 ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ใช้หลอดไฟหน้ารถยนต์แบบเลเซอร์ และปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2014 โดยสามารถส่องสว่างออกมาเป็นแสงสีขาวนวลได้ไกลถึง 600 เมตร และรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่ใช้ไฟประเภทนี้ก็คือ Audi A8 มีชื่อเทคโนโลยีว่า Laser High Beams ซึ่งให้ความสว่างได้ไกลมากถึง 600 - 700 เมตร ทั้งนี้จะใช้สำหรับไฟสูงเท่านั้น เนื่องจากมีความสว่างสูงมาก จึงไม่อาจใช้ส่องทางได้ตามปกติ เพราะค่าความสว่างที่มีอาจรบกวนเพื่อนร่วมทาง ทำให้สายตาพร่ามัวและอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้
หลอดประเภทนี้เป็นเทคโนโลยีใหม่อาจจะยังไม่มีการแปลงใส่รถทั่วไป แต่เทคโนโลยีนี้ก็ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเหตุผลหลัก ๆ สองข้อคือ 1. ความปลอดภัย และ 2. ความประหยัดพลังงาน เนื่องจากจะสามารถกำหนดแสงที่จะใช้ได้ในช่วงคลื่นที่สบายตากับผู้ร่วมใช้งานบนท้องถนน และสามารถกำหนดลำแสงได้อย่างแม่นยำ จึงไม่ทำให้แสงแยงตาผู้ร่วมใช้ท้องถนน จึงลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุได้ ส่วนเรื่องประหยัดพลังงานนั้น ทาง BMW บอกว่าหลอดไฟ Laser มีขนาดเล็กกว่าหลอด LED ถึงร้อยเท่าและประหยัดพลังงานมากกว่าครึ่งหนึ่งของหลอด LED ทั่วไปครับ
นอกจากนวัตกรรมการส่องสว่างจากประเภทของหลอดไฟแล้ว การเลือกไฟที่ตรงกับชุดโคมไฟของหน้ารถยนต์ก็ส่งผลต่อทิศทางของแสงด้วยเช่นกัน ซึ่งในปัจจุบันโคมไฟนั้นถูกแบ่งได้ 2 แบบคือ แบบมัลติรีเฟล็กเตอร์และแบบโปรเจกเตอร์
โคมไฟแบบสะท้อนแสง (Reflector) หรือมัลติรีเฟล็กเตอร์ (Multi-Reflector) เป็นชุดโคมที่มีราคาถูก มักใช้ในรถรุ่นทั่วไป และนิยมใช้ร่วมไปหลอดไฟฮาโลเจน มีหลักการทำงานคืออาศัยการหักเหและการสะท้อนแสง โดยด้านในจะมีการติดกระจกหรือวัสดุสะท้อนแสงเอาไว้และติดตั้งตัวให้แสงหรือหลอดไฟไว้ตรงกลาง จากนั้นเมื่อเปิดไฟแสงก็จะสะท้อนเข้าหากันและพุ่งออกไปสู่พื้นถนน โดยไม่มีการรวมแสง จึงทำให้แสงที่ได้ไม่มีความสม่ำเสมอและแสงบางส่วนอาจไปแยงตาผู้อื่นได้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังมานี้ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขโดยผู้ผลิตหลายราย ซึ่งทำการเพิ่มหมวกบังหลอดไฟมาให้ เพื่อให้การรวมตัวของแสงอยู่ในจุดที่เหมาะสมมากขึ้น ทั้งนี้ มีคำเตือนว่าไม่ควรนำโคมแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ไปใช้ร่วมกับหลอดซีนอน เพราะจะยิ่งทำให้แสงฟุ้งกระจาย ควบคุมไม่ได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างยิ่ง
โคมไฟแบบเลนส์รวมแสงหรือโปรเจคเตอร์ (Projector) เป็นชุดโคมที่มีราคาสูง ใช้ได้ทั้งหลอดแบบฮาโลเจนและหลอดซีนอน รวมถึงสามารถติดตั้งเพิ่มได้ในโคมไฟรถยนต์ได้เกือบทุกรุ่น แต่ในระยะหลังมานี้มักจะถูกแนะนำให้ใช้กับหลอดซีนอนเป็นหลัก มีลักษณะการทำงานที่ใช้เลนส์เข้ามาช่วยในการรวมแสง หรืออาจกล่าวได้ว่าถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาแสงที่ฟุ้งกระจายโดยเฉพาะ โดยตัวเลนส์จะทำมุมให้แสงสะท้อนไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้แสงที่ได้พุ่งไปข้างหน้าและมีความเข้มของแสงที่มากกว่าแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์
อีกทั้งโคมไฟแบบโปรเจคเตอร์ยังถูกแบ่งได้ 2 แบบคือ Single Xenon Projector ที่มีหน้าที่ส่องสว่างเฉพาะไฟต่ำและใช้หลอดซีนอนเท่านั้น ส่วนไฟสูงจะใช้หลอดฮาโลเจน เหมาะสำหรับการขับขี่ทั่วไป และแบบ Bi-Xenon หรือ Bi-LED, Bi-Halogen ตามแต่ชนิดของหลอดไฟ ซึ่งเป็นไฟต่ำไฟสูงในชุดเดียวกัน แต่สามารถสลับไปมาได้อย่างรวดเร็วจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นในที่มืดได้เป็นอย่างดี
ตอนเลือกซื้อรถยนต์รุ่นเดียวกันอาจจะมีราคาที่แตกต่าง หนึ่งในออฟชันที่จะได้เพิ่มขึ้นมาถ้าราคาสูงขึ้นคือ ไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์ ซึ่งพัฒนาจากแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ (แบบธรรมดา) ซึ่งเวลาใช้งานแสงไฟจะกระจายตัวทำให้สว่างกว้างแต่ไปได้ไม่ไกล นอกจากนี้ โคมไฟแบบโปรเจกเตอร์จะทำให้ไฟหน้าเป็นลักษณะลำแสงพุ่งออกไปจากไฟหน้ารถ ส่งผลให้ลำแสงไฟสว่างและส่องไปได้ไกลขึ้น ผู้ใช้รถสามารถเปลี่ยนโคมจากธรรมดาเป็นแบบโปรเจกเตอร์ได้โดยซื้อชุด KIT มาเปลี่ยนเองได้ หรือจะให้ช่างไฟฟ้ารถยนต์เปลี่ยนให้ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องระวังเรื่องสเปกของหลอดไฟหน้าด้วยนะครับ
และอีกค่าหนึ่งคือค่าอุณหภูมิของแสง มีหน่วยเป็นเคลวิน (K) ที่เมื่อค่า K ยิ่งสูงสีก็จะยิ่งขาวขึ้น ส่วนใหญ่หลอดไฟจากโรงงานจะกำหนดค่ามาให้ไม่เกิน 4,300 K ซึ่งเป็นสีขาวนวลอมเหลืองและเป็นค่าความสว่างสูงสุดตามกฎหมาย แต่หากสูงถึงจุดประมาณ 7,000 - 8,000 K ก็จะให้สีขาวนวล ถ้าเป็น 10,000 K ก็จะได้สีขาวอมฟ้า และสีจะเริ่มเปลี่ยนสีเป็นฟ้าเมื่อตัวเลขไปแตะที่ 12,000 K จากนั้นหากเพิ่มขึ้นเป็น 17,000 - 18,000 K ก็จะได้สีม่วง และหากสูงถึง 20,000 K ก็จะกลายเป็นสีชมพูตามลำดับ
ทั้ง 2 ค่านี้จะมีความเชื่อมโยงแปรผกผันกัน หากค่าเคลวินสูงขึ้นค่าลูเมนจะลดลง กล่าวคือเมื่อสียิ่งขาวหรือไต่ระดับไปจนถึงสีชมพู ก็จะยิ่งทำให้หลอดไฟสว่างน้อยลงและลดทอนประสิทธิภาพการมองเห็นลงไปด้วย แต่ในทางกลับกันถ้ามีการดัดแปลงจนทำให้มีแสงที่สว่างจ้ามากเกินไป แสงก็จะสะท้อนเข้ากระจกของผู้ขับขี่ที่อยู่ด้านหน้าหรือผู้ที่สวนทางมา ซึ่งจะไปรบกวนการมองเห็น ทำให้สายตาพร่ามัว0นอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายร้ายแรงได้
หลักในการเลือกเวลาเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ คือ เปลี่ยนให้ได้สเปกเดิมที่ผู้ผลิตแนะนำเพราะจะไม่ทำให้ระบบไฟฟ้ารถยนต์มีปัญหา ยกตัวอย่างเช่น ในคู่มือแนะนำเป็นหลอดไฟหน้าฮาโลเจน 12V 55w ชนิด HIR2 ซึ่งจะมีค่าลูเมนประมาณ 1,500 ลักซ์ และอุณหภูมิสีไฟ 3,200 K แต่ถ้าหากผู้ใช้รถเปลี่ยนไปใช้หลอดที่มีวัตต์น้อยกว่าที่แนะนำก็อาจจะไม่สว่างเท่าเดิม และหากเปลี่ยนไปใช้หลอดที่มีวัตต์มากกว่าเดิม ก็จะทำให้หลอดร้อนขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้โคมเหลือง กรอบแตกร้าว หลอดขาดง่ายไม่ทนทาน หากต้องการจะเปลี่ยนความสว่างหรือสีไฟ ควรจะปรึกษาช่างไฟฟ้ารถยนต์ที่เชื่อถือได้จะดีกว่าครับ
นอกจากนี้เพื่อความมั่นใจยังสามารถตรวจสอบได้จากคู่มือรถยนต์ หรือจะนำรายละเอียดรุ่นรถ ยี่ห้อ ปี ไปค้นหาทางอินเทอร์เน็ตก็ได้เช่นกัน หรือหากมีโอกาสได้เห็นสินค้าจริง ก็สามารถเปรียบเทียบขาของหลอดไฟได้เลย เพราะแต่ละขั้วจะถูกออกแบบมาให้มีขาที่ต่างกัน เพื่อให้แยกรูปแบบขั้วออกจากกันได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
ขั้วหลอดแต่ละประเภทจะไม่สามารถใส่กันได้ เพราะฉะนั้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องซื้อหลอดมาทำการเปลี่ยน หลัก ๆ ต้องดูสีไฟหน้า ประเภทขั้วหลอดและจำนวนวัตต์ หากดูไม่ดี เผลอซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้อาจจะเสียเงินและเสียเวลาเปล่า ๆ ถ้าอยากจะให้แน่นอนให้ถอดตัวอย่างไปเทียบที่ร้านอะไหล่รถยนต์ก็จะแน่นอนมากขึ้น และหากไม่อยากเปลี่ยนเอง ก็สามารถให้ช่างไฟฟ้ารถยนต์หรือร้านอะไหล่รถยนต์เปลี่ยนให้ครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | ราคา | คะแนน | |
---|---|---|---|---|---|
1 | Osram ไฟหน้ารถยนต์ XLZ Classic LED | 1,379 บาท ราคาค่อนข้างสูง | ประสิทธิภาพคุ้มราคา เทคโนโลยีสุดล้ำ สว่างไกลขึ้น 115 เมตร | ||
2 | Philips ไฟหน้ารถยนต์ Ultinon Essential LED | 1,425 บาท ราคาค่อนข้างสูง | หลอดเล็ก ระบายความร้อนเร็ว วัสดุใช้ทนนาน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย | ||
3 | NovSight ไฟหน้ารถยนต์รุ่น A500-N39 | 499 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | หลอดไฟกันน้ำ มีเทคโนโลยีระบายความร้อน ทนทาน ใช้ได้นาน | ||
4 | Narva ไฟหน้ารถยนต์ Range Performance LED 6500K | 1,550 บาท ราคาค่อนข้างสูง | ใช้ได้ทั้งไฟหน้าและไฟตัดหมอก ให้สีขาว สว่างกว่าเดิม 150 % | ||
5 | Osram ไฟหน้ารถยนต์ Cool Blue Advance | 1,435 บาท ราคาค่อนข้างสูง | หลอดฮาโลเจนสไตล์ซีนอน สว่างขึ้น ส่องไกลขึ้น มาตรฐาน ECE | ||
6 | Philips ไฟหน้ารถยนต์ Xenon X-tremeVision gen2 | 5,500 บาท ราคาสูง | ให้ความสว่างมากขึ้น แต่ลดแสงรบกวนสายตา ส่องไฟทำมุมตรงจุด | ||
7 | Anmingpu ไฟหน้ารถยนต์ 2x MI2 8000lm H11 | 537 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | ชิป CSP ทนต่อแรงกระแทก เป็นได้ทั้งไฟหน้าและไฟตัดหมอก | ||
8 | Philips ไฟหน้ารถยนต์ X-tremeVision | 599 บาท ราคาปานกลาง | ผลิตจากแก้วควอทซ์ กันรังสียูวี ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ | ||
9 | MaxGTRS ไฟหน้ารถยนต์ ซีนอนสำรอง 3900 K | 225 บาท ราคาต่ำ | หลอดไฟซีนอนตัดหมอก รวมแสงได้ดี สว่างยิ่งขึ้น มองเห็นชัดขึ้น | ||
10 | KONIG H4 ไฟหน้ารถยนต์ LED 12000LM F2 PLUS | 423 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | ชิป LED COB กระจายความร้อนได้ดี อายุการใช้งานนานกว่า 3 ปี |
หลอดไฟยอดนิยมของ Osram รุ่นนี้ผ่านการรับรองจาก ECE เหมาะสำหรับรถยนต์ทั่วไป ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มาจากเยอรมนี โดยถือได้ว่ายังคงความพรีเมียม ให้คุณภาพสมราคา และให้ประสิทธิภาพที่เหนือชั้นได้เป็นอย่างดี มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ความสว่างเพิ่มขึ้นจากเดิมมากถึง 120 % เมื่อเทียบกับ ECE R12 และลดความสว่างจ้าลง แต่ยังคงให้แสงสีขาวนวลถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงช่วยให้มองเห็นได้ไกลขึ้นอีก 115 เมตรเมื่อเทียบกับหลอดแบบฮาโลเจน ทำให้คุณขับขี่ได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
อีกหนึ่งหลอดไฟหน้ารถยนต์ LED จากแบรนด์ชั้นนำที่ให้รัศมีแสงกระจายเป็นวงกว้างกว่าหลอดไฟทั่วไป ให้สีขาวนวลสบายตา มีน้ำหนักสีที่สม่ำเสมอ และถูกต้องตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ตัวหลอดทำจากวัสดุคุณภาพดี ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อความร้อนสูง และยังมีเทคโนโลยีกระจายความร้อน Thermal Cool เอกสิทธิ์ของ Philips ที่เป็นแผ่นระบายความร้อนพร้อมลวดทองแดง และแผ่นอะลูมิเนียมที่ช่วยระบายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีอายุการใช้งานนานสูงสุด 5 ปี ที่สำคัญยังมีขนาดเล็กกะทัดรัด ง่ายต่อการติดตั้งอย่างยิ่ง
ใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมเกรด 6063 ทั้งหมด ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการสึกกร่อนได้ดีเยี่ยม ทำให้หลอดไฟสามารถทำงานได้ในสภาวะแวดล้อมที่มีอุณหภูมิระหว่าง -40 °C ถึง 80 °C สามารถกันน้ำได้ในระดับ IP68 มีจุดเด่นที่การใช้ทองแดงเป็นตัวนำความร้อน ทำให้เกิดการกระจายความร้อนสม่ำเสมอ ทั้งนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Silent Hydraulic Oil Fan ที่เป็นส่วนสำคัญให้เกิดการถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ทางแบรนด์เคลมว่า เป็นหลอดไฟมีอายุการใช้งานนานสูงสุดถึง 100,000 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว
หลอดไฟหน้ารถยนต์ขนาดกะทัดรัดรุ่นนี้ คือหลอดไฟที่ยืนหนึ่งในเรื่องความทนทานจริง ๆ ค่ะ เพราะผลิตด้วยวัสดุที่มีคุณภาพ ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 5 ปี โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีระบายความร้อนแบบ Air Cool ที่ใช้การระบายความร้อนด้วยฮีทซิงค์และใช้พัดลม ทำให้ไม่สิ้นเปลืองพลังงาน แถมยังให้ความสว่างโทนสีขาว (White light) มีลำแสงคม ไม่รบกวนสายตา มีค่าความสว่างกว่าหลอดเดิมที่ติดรถมาถึง 150 % ช่วยให้มองเห็นได้ชัดขึ้น และแสงไม่ฟุ้งกระจายค่ะ
สำหรับใครที่ต้องการหลอดฮาโลเจน แต่ไม่อยากเปลี่ยนหลอดที่เสียหายเพราะความร้อนบ่อย ๆ แนะนำเป็นหลอด Cool Blue Advance ที่ออกแบบส่งตรงมาจากเยอรมนีรุ่นนี้เลยค่ะ เพราะเป็นหลอดฮาโลเจนที่ให้แสงสีขาว Mega White ใกล้เคียงกีบแสงสไตล์ซีนอน ช่วยลดการสะสมความร้อนได้ดี โดยให้ความสว่างมากกว่าหลอดแบบฮาโลเจนธรรมดามากขึ้นอีก 50 % และให้แสงส่องได้ไกลขึ้นกว่าแบบเดิมอีก 20 % ถึงแม้จะเป็นสีขาวนวลอมฟ้าแต่ก็มีค่าสีที่ตรงตามกฎหมายกำหนด ซึ่งใช้ได้ทั้งไฟต่ำ ไฟสูง และไฟตัดหมอกค่ะ
สำหรับหลอดไฟ Xenon HID (High Intensity Discharge) นี้เป็นอีกหนึ่งหลอดไฟที่ทำจากแก้วควอทซ์กัน UV ของ Philips ค่ะ มีความน่าสนใจอยู่ที่การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มแสงสว่างให้มากกว่าเดิมถึง 2 เท่า เพื่อเพิ่มวิสัยทัศน์ในการมองเห็น ไปพร้อมกับการลดองค์ประกอบสเปกตรัมของแสง ให้มีสีที่เข้ากับความไวของจอประสาทตา เพื่อให้ไม่แสงแยงตามากไป รวมถึงใช้เทคโนโลยีการดัดโค้งซึ่งแม่นยำที่สุดที่ 150 - 350 ไมโครเมตร ทำให้แสงส่องตรงจุดและปลอดภัย ไม่รบกวนผู้ขับขี่คนอื่นหากขับขี่ในเวลากลางคืนนั่นเอง
รุ่นนี้ถือว่าออกแบบมาสำหรับรถทั่วไปตั้งแต่ออดี้, BMW, ฟอร์ด, ฮอนด้า, โตโยต้า, โฟล์คสวาเก้น, เชฟโรเลต, มิตซูบิชิ, นิสสัน ใช้แผ่นอะลูมิเนียมคุณภาพสูง ทำงานแบบ All in one คือเป็นทั้งตัวพาความร้อนและเป็นผู่ช่วยระบายความร้อนไปพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้ยังใช้ชิป CSP ซึ่งไม่เพียงแค่เพิ่มความสว่างเท่านั้น แต่ยังทนต่อแรงกระแทก ทำให้ช่วยถนอมโคมและยืดอายุของไฟหน้าได้นานขึ้น มีระดับการกันน้ำอยู่ที่ IP65 และมีอายุการใช้งานนานสูงสุด 30,000 ชั่วโมง
ถ้าจะพูดถึงอีกหนึ่งหลอดไฟหน้ารถยนต์ที่จัดเต็มนวัตกรรม ก็ต้องยกให้แบรนด์ Philips ที่มีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 100 ปีไปเลยค่ะ ซึ่งหลอดฮาโลเจนชุดนี้มอบความเหนือชั้นให้ด้วย ตัวหลอดที่ผลิตจากแก้วควอทซ์คุณภาพสูง มีคุณสมบัติทนต่อความร้อน การสั่นสะเทือน และทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิแบบฉับพลันรุนแรง จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการระเบิดเสียหายได้ สามารถให้แสงไกลขึ้น 35 เมตร นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีการเคลือบป้องกัน UV และมีคุณสมบัติอื่นครบถ้วน ซึ่งการันตีได้จากการรับรองจาก ECE ค่ะ
หลอดไฟทรง Golden Tip ที่มาพร้อมนวัตกรรมสุดล้ำจากประเทศเยอรมนีรุ่นนี้ ให้สีขาวนวลและให้แสงสว่างที่มากขึ้นกว่าเดิมถึง 130 % เมื่อเทียบกับหลอดฮาโลเจนมาตรฐาน ถูกพัฒนาให้สามารถกรองแสง UV ได้ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของไฟและช่วยลดความร้อนไปในตัว รวมถึงออกแบบมาให้ทนต่อแรงสั่นสะเทือน เพื่อป้องกันความเสียหายจากแรงดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ยังให้ความเข้มแสงสูง มีการรวมจุดสะท้อนแสงได้ดี ทำให้ไฟที่ออกมาสู่พื้นถนนสว่างชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย
หลอดไฟหน้ารถยนต์รุ่นนี้ใช้ชิป LED COB (Chip On Board) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในชิปที่มีคุณภาพดีที่สุด เพราะเป็นการนำชิปหลาย ๆ ตัวมารวมไว้ในแผ่นเดียว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่องสว่างมากขึ้น แถมยังเป็นโครงสร้างที่ช่วยให้ถ่ายเทความร้อนได้มากขึ้น และยังมาพร้อมระบบการนำความร้อนอะลูมิเนียม ที่มีช่องระบายความร้อนเพิ่มมาให้อีก 2 ช่องทำให้กระจายความร้อนไดดียิ่งขึ้นไปอีก 360 องศา ส่วนระดับกันน้ำอยู่ที่ IP67 ที่สำคัญคือมีอายุการใช้งานมากกว่า 3 ปีหรือเทียบได้ 30,000 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว
สำหรับใครที่พึ่งมีรถยนต์คันแรกแล้วเกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนหลอดไฟหน้ารถยนต์อยู่ ในวันนี้ เรามีคำแนะนำและคำตอบเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกันค่ะ
หลอดไฟหน้ารถยนต์ไม่สว่างหรือสว่างไม่เท่ากันในบริเวณซ้าย-ขวามีด้วยกันหลายสาเหตุ โดยให้ทำการตรวจสอบตามนี้
1. ตรวจสอบหลอดไฟ เพราะอาจจะจะเป็นหลอดที่ใกล้หมดสภาพแล้ว ให้ทำการเปลี่ยนหลอดไฟทั้งซ้าย-ขวาเสียก่อน
2. บาราจไฟหน้า บาราจในระบบไฟฟ้ารถยนต์จะมีหน้าที่ควบคุมปริมาณกระแสไฟฟ้าให้คงที่ ส่งผลให้หลอดไฟหน้ารถยนต์มีความสว่างที่คงที่ หากบาราจเริ่มเสื่อมสภาพก็อาจจะทำให้ไฟหน้าเกิดอาการสว่างไม่เท่ากัน
3. เลนส์ไฟหน้าที่เป็นพลาสติก เมื่อใช้งานมานาน ๆ ก็อาจจะหมองได้ ให้ลองทำความสะอาดหรือเปลี่ยนเลนส์ไฟหน้าดูครับ
ไฟหน้าไม่ติดมีหลายสาเหตุ ผู้ใช้รถยนต์ต้องเริ่มต้นตรวจสอบจากง่ายไปหายาก
1. ตรวจสอบหลอดไฟ ลองถอดออกมาดูว่า หลอดขาดหรือเปล่าหรือสลับเอาหลอดที่ใช้การได้มาลองติดดูว่าใช้ได้ไหม หากหลอดที่ใช้การได้ติด แสดงว่าหลอดเดิมน่าจะมีปัญหา แค่เปลี่ยนหลอดก็น่าจะใช้การได้
2. ตรวจสอบขั้วหลอด หากดูแล้วหลอดไม่ขาดหรือสลับหลอดแล้วก็ยังไม่ติด ให้ลองขยับบริเวณขั้วหลอดดูหลาย ๆ มุม หากไฟติดขึ้นมาแสดงว่าขั้วหลอดอาจจะมีปัญหา
3. ตรวจสอบสายไฟ อาจจะไม่เรียบร้อย สายไฟขาด ช็อตกัน หรือโดนหนูแทะ
4. ตรวจสอบฟิวส์หลอดไฟหน้า (ในกล่องฟิวส์จะเขียนบอกว่าตำแหน่งไหน) อาจจะฟิวส์ขาดจึงทำให้หลอดไม่ติด
หากตรวจสอบ 5 อย่างแล้วยังไม่พบสาเหตุ อาจจะต้องเข้าหาช่างไฟฟ้ารถยนต์เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมครับ
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าหลอดไฟหน้ารถยนต์มีความสำคัญอย่างมาก เพราะส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยในการมองเห็น ดังนั้น ไม่ว่าจะคุณต้องการปรับเปลี่ยนชุดหลอดไฟหน้ารถยนต์ด้วยเหตุผลต้องการทดแทนของเดิมที่ชำรุด หรือต้องการเพิ่มสไตล์การขับขี่ก็ตาม ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณารายละเอียดต่าง ๆ อย่างรอบคอบ ไม่ผิดไปจากที่กฎหมายกำหนด เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็นของตัวคุณเอง และเพื่อความปลอดภัยต่อผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นด้วยนะคะ
อันดับที่ 1: Osram|ไฟหน้ารถยนต์ XLZ Classic LED
อันดับที่ 2: Philips|ไฟหน้ารถยนต์ Ultinon Essential LED
อันดับที่ 3: NovSight |ไฟหน้ารถยนต์รุ่น A500-N39
อันดับที่ 4: Narva|ไฟหน้ารถยนต์ Range Performance LED 6500K
อันดับที่ 5: Osram|ไฟหน้ารถยนต์ Cool Blue Advance
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ