ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
ด้วยสถานการณ์ที่ผ่านมาอาจทำให้หลายคนเริ่มชินกับการทำงานที่บ้าน (Work From Home) หรือเรียนออนไลน์ ทำให้แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5,000 ซึ่งเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย แถมยังเป็นขนาดที่พอดีและน้ำหนักเบา จึงทำให้แท็บเล็ตเป็นที่นิยมกันอย่างมากในปัจจุบัน
โดยปัจจุบันแท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5,000 มีจำหน่ายหลายยี่ห้อด้วยกัน และถ้าหากว่าคุณกำลังมองหาแท็บเล็ตคุณภาพดี ๆ สักเครื่อง ในบทความนี้เราจึงอยากจะมาแนะนำ 10 อันดับ แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5,000 อีกทั้งยังมีข้อมูลวิธีการเลือกแท็บเล็ตมาฝากกัน พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ไอทีเพิ่มเติมให้อีกด้วยครับ
คุณต้าได้เข้าสู่วงการ IT โดยมีจุดเริ่มต้นจากงานอดิเรกที่เป็นคนชอบเทคโนโลยีและชอบศึกษาข้อมูลใหม่ ๆ รวมถึงหาความรู้เกี่ยวกับ Gadget มากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน หรืออุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ สม่ำเสมอ และด้วยความชื่นชอบของตัวเอง คุณต้าก็เริ่มมีความคิดที่อยากจะถ่ายทอดประสบการณ์การใช้งานของ Gadget ต่าง ๆ และได้เริ่มต้นการทำคลิปในช่อง YouTube ในชื่อ Thamtamjai ปัจจุบัน คุณต้าได้มีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์สินค้าชั้นนำของประเทศไทยมากมาย เช่น Xiaomi, Realme, OnePlus หรือ Roborock อีกทั้งยังมีสินค้ามากมายที่รีวิวผ่านช่องของตัวเองมากกว่า 100 สินค้าจนได้รับการไว้ใจจากแบรนด์ต่าง ๆ มากมายที่ได้ร่วมการทำรีวิวด้วย โดยยึดหลักการรีวิวที่เข้าใจง่ายเพื่อให้สมาชิกหลายคนได้กลับมาดูช่องตนเองอีกเรื่อย ๆ ครับ
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
แท็บเล็ตราคาที่ไม่เกิน 5,000 ส่วนใหญ่จะเป็นแท็บเล็ตที่มีระบบปฏิบัติการในระบบ Android ดังนั้นวิธีการเลือกซื้อแท็บเล็ต จึงควรเลือกจากประสิทธิภาพในการทำงาน และการใช้งานที่ตอบโจทย์กับผู้ใช้ ซึ่งวันนี้เราก็มีวิธีการเลือกแบบง่าย ๆ มาฝากกันดังนี้ครับ
RAM (หน่วยความจำชั่วคราว) นับเป็นส่วนสำคัญในการทำงานของกลุ่มสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตเลยก็ว่าได้ โดยจะมีกลไกคล้ายกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความสำคัญต่อความเร็วและลื่นไหลในการทำงานมาก ๆ ยิ่งหากแท็บเล็ตมี RAM มากก็จะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีขึ้นนั่นเอง สำหรับขนาด RAM ในกลุ่มแท็บเล็ตราคานี้จะอยู่ที่ 2GB - 4GB โดย RAM2GB จะพอเปิดแอปพลิเคชันทับซ้อนกันได้ไม่เยอะจึงเหมาะกับคนที่ใช้งานทั่วไปจริง ๆ แต่ถ้าต้องการเสพสื่อบันเทิงหรือเล่นเกมด้วย การเลือก RAM3GB หรือ 4GB จะเหมาะสมกว่า
ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มคนที่เล่นเกมด้วยอาจจะต้องตรวจสอบตัวชิปเซตเพิ่มเติมเข้าไปอีก โดยอาจใช้เป็น Helio จาก Mediatek หรือ Unisoc รุ่น T Series เช่น T616 หรือ T618 ก็จะทำให้การใช้งานลื่นไหลมากขึ้นครับ
พื้นที่จัดเจ็บข้อมูลถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามเพราะจะส่งผลต่อการใช้งานได้ โดยในปี 2022 - 2023 นี้ แท็บเล็ตในช่วงราคาไม่เกิน 5000 บาทจะได้ความจำที่ 32GB - 64GB แต่บางรุ่นอาจใส่ microSD Card เพิ่มเติมได้ สำหรับใครที่ใช้งานทั่วไปนั้น ความจำที่ 32GB ก็นับว่าเพียงพอ แต่ถ้ามีเรื่องของการเรียนที่ต้องดาวน์โหลดไฟล์เอกสารเยอะหรือคนที่เล่นเกมนั้น การเลือกความจำที่ 64GB ก็จะตอบโจทย์ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันก็มีบริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลออนไลน์อย่าง iCloud หรือ Google Drive ด้วย ทำให้เราเพิ่มพื้นที่การใช้งานได้มากขึ้นกว่าเดิมครับ
นอกจากนี้ การเชื่อมต่อก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน อย่างการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือบลูทูธก็ถือเป็นฟังก์ชันพื้นฐานที่พบได้ในแท็บเล็ตทุกตัวอยู่แล้ว แต่บางรุ่นอาจเพิ่มฟีเจอร์การใส่ซิมทำให้เราใช้งานนอกบ้านได้ด้วย เพียงแต่อินเทอร์เน็ตที่ได้จะยังคงเป็น 4G ครับ ส่วนเรื่องของพอร์ตการเชื่อมต่อจะเป็นแบบ USB-C กันหมดแล้วจึงเชื่อมต่อได้แบบ Universal เลย แม้ว่าแบบ micro USB ยังคงพบได้อยู่บ้างแต่ก็นับว่าน้อยลงกว่าเดิมมาก ๆ แล้วครับ
สำหรับแท็บเล็ตในกลุ่มราคาไม่เกิน 5000 บาทนั้น ขนาดหน้าจอที่สามารถหาได้จะอยู่ที่ 7, 8 และ 10 นิ้ว แม้ว่าจะมีบางตัวอยู่ที่ 10.X นิ้ว แต่จะไม่ถึง 11 นิ้วครับ ซึ่งขนาดหน้าจอนั้นก็ส่งผลต่อการใช้งานมากทีเดียว โดยกลุ่มคนที่ต้องการใช้ดูหนัง เสพสื่อบันเทิง รวมถึงจดโน้ตเพื่อการเรียนออนไลน์ต่าง ๆ ขนาดที่ใหญ่แบบ 10 นิ้วก็จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า ส่วนคนที่เน้นการใช้งานทั่วไป เน้นอ่านข้อมูลมากกว่าขนาดที่ 7 หรือ 8 นิ้วก็ถือว่าเพียงพอครับ
ส่วนความละเอียดของหน้าจอนั้น ในราคานี้ก็จะได้ตั้งแต่ระดับความละเอียด WXGA, HD และ Full-HD ในบางรุ่น ซึ่งจริง ๆ แล้วแบบ WXGA ก็ค่อนข้างเพียงพอแล้ว แต่หลายแบรนด์ก็จะเลือกใช้เป็นแบบ HD หรือ Full-HD ที่เพิ่มประสบการณ์การใช้งานได้ดีมากขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ ในกลุ่มราคานี้มักจะได้หน้าจอแบบ LCD มากกว่า OLED เพราะแบบ OLED มักจะเจอในกลุ่มแท็บเล็ตที่ราคาสูงกว่าครับ
ระบบปฏิบัติการก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลย เพราะจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่เชื่อมการทำงานระหว่างตัวเครื่องกับแอปพลิเคชัน แต่ในปี 2023 นี้ จะเป็นระบบปฏิบัติการ Android ส่วนมาก จะไม่พบในกลุ่ม iOS หรือ Windows เลยเพราะ iOS จะอยู่ใน iPad และ Windows จะอยู่ใน Microsoft Surface มากกว่าซึ่งราคาสองตัวนี้ก็จะอยู่ในระดับหลักหมื่นไปแล้วนั่นเอง
ส่วนเรื่องของเวอร์ชัน Android นั้น ปัจจุบันจะได้เป็น Version 12 เสียส่วนใหญ่ และถ้าเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วก็อาจจะได้รับการอัปเดตแน่นอนอย่างน้อย 1 - 2 เวอร์ชันเข้าไปด้วย ส่วนคำถามที่คนสงสัยอีกอย่างก็คือ การอัปเดตของ Android มีประโยชน์อย่างไร สำหรับการอัปเดตในฝั่ง Android นั้นจะไม่ได้มีลูกเล่นอะไรมากนัก เพียงแต่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวแท็บเล็ตจาก Malware ได้ครับ
ปัจจุบันแท็บเล็ตหลายยี่ห้อได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้แทนคอมพิวเตอร์ก็จริง แต่รูปแบบการใช้งานของแต่ละกลุ่มก็จะแตกต่างกันออกไป เราจึงขอแบ่งเป็นกลุ่มแบบง่าย ๆ ดังนี้
- แท็บเล็ตสำหรับการเรียน/งานเอกสาร : สำหรับกลุ่มนี้ควรหาฟังก์ชันที่รองรับปากกาและคีย์บอร์ด เพราะการทำงานเอกสารอาจจะต้องป้อนข้อมูลด้วยการพิมพ์หรือจดเข้าไป แต่สำหรับกลุ่มราคานี้อาจจะต้องซื้อปากกา Stylus จาก Third Party อย่าง Microsoft หรือ GOOJODOQ ใช้ร่วมด้วยเพราะไม่มีปากกาเฉพาะมาให้ ส่วน RAM ควรอยู่ที่ 3GB หรือ 4GB ROM 64GB ครับ
- แท็บเล็ตสำหรับเล่นเกมและโซเชียล : ให้เน้นไปที่ CPU เป็นหลัก โดยชิปเซตที่พอจะหาได้จะเป็น UNISOC Tiger T618 ที่เพียงพอต่อการเล่นเกมทั่วไปอย่าง ROV ได้และใช้งาน SNS ไม่ติดขัด และพยายามให้ความใส่ใจในเรื่องของ RAM ซึ่งถ้าเล่นเกมด้วยแล้วก็ควรใช้เป็น 4GB ไปเลย ส่วน ROM ก็ต้องเป็น 64GB เช่นกันครับ
- แท็บเล็ตสำหรับถ่ายรูปและอัดวิดีโอ : กล้องในแท็บเล็ตกลุ่มนี้จะมีความละเอียดกล้องหลังอยู่ที่ 5MP และ 8MP ใครที่ต้องการไว้ใช้ถ่ายรูปจริง ๆ ก็ควรมองรุ่น 8MP ไปเลยจึงจะดีที่สุด ในขณะเดียวกัน ใครที่ต้องใช้กล้องหน้าบ่อย ๆ ก็ให้เลือกเป็นความละเอียด 5MP เพื่อความคมชัด นอกจากนี้ ในส่วนของ RAM และ ROM ให้เลือกเป็น RAM 3GB + ROM 64GB และซื้อ microSD Card เพื่อเพิ่มหน่วยความจำก็ได้ครับ
- แท็บเล็ตสำหรับฝึกพัฒนาการเด็ก : ส่วนใหญ่แท็บเล็ตในกลุ่มราคานี้ เราสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติมจาก Google Playstore ได้เลย และในหลาย ๆ รุ่นก็จะมีโหมดสำหรับเด็กมา ซึ่งอาจจะเป็นการล็อกแอปพลิเคชันที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ให้เข้าเว็บที่ตั้งค่าไว้ เป็นต้น ในเรื่องของ RAM นั้น ขนาด 3GB ก็เพียงพอ แต่ ROM อาจจะต้องดูด้วยว่าคุณพ่อคุณแม่ใช้แท็บเล็ตร่วมกับลูกไหม ถ้าไม่ได้ใช้ ความจำที่ 32GB ก็เพียงพอแล้วครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | ราคา | คะแนน | รายละเอียด | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ขนาดหน้าจอ | น้ำหนัก | ขนาดตัวเครื่อง | CPU | RAM | ROM | GPU | การ์ดจอ | แบตเตอรี่ | ความละเอียดกล้องหน้า | ความละเอียดกล้องหลัง | เวอร์ชันบลูทูธ | ใส่ซิมการ์ดได้ | ระบบเสียง | การเชื่อมต่อไร้สาย | พอร์ตการเชื่อมต่อ | ระบบปฏิบัติการ | การรับประกันสินค้า | ||||||
1 | SAMSUNG SAMSUNG Galaxy Tab A7 Lite LTE | 5,450 บาท ราคาค่อนข้างสูง | มาพร้อมกล้องคู่ หน้า-หลัง หน้าจอสวย รองรับชาร์จไว 15W | 8.70 นิ้ว | 0.37 กก. | 124.70 x 212.50 x 8.0 มม. | MediaTek MT8768T Helio P22T | 3 GB | 32 GB | PowerVR GE8320 | PowerVR GE8320 | - | 2 MP | 8 MP | 5.0 | Dolby Atmos | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac | USB Type-C 2.0 | Android 11 | 1 ปี | |||
2 | Alldocube Alldocube iPlay 50 | 4,280 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | ใส่ซิมได้เหมือนโทรศัพท์ ลำโพงคู่ มีความจุให้เลือกหลายขนาด | 10.4 นิ้ว | 0.48 กก. | 246.70 x 156.50 x 8.2 มม. | Unisoc T618 | 4 GB | 64 GB | Mali G52 | Mali G52 | 6,000 mAh | 5 MP | 8 MP | 5.0 | Stereo | Wi-Fi Dual Band | Type-C | Android 12 | 1 ปี | |||
3 | HUAWEI MatePad SE | 5,490 บาท ราคาค่อนข้างสูง | หน้าจอถนอมสายตา ขนาดใหญ่ 10.4" ลำโพงระบบเสียงรอบทิศทาง | 10.4 นิ้ว | 0.44 กก. | 156.70 x 246.94 x 7.85 มม. | Qualcomm Snapdragon™ 680 | 4 GB | 64 GB | Qualcomm® Adreno™ 610 | Qualcomm® Adreno™ 610 | 5,100 mAh | 2 MP | 5 MP | 5.0 | Stereo | Wi-Fi Dual Band | Type-C | HarmonyOS 3 | 1 ปี | |||
4 | realme realme Pad Wi-Fi | 4,990 บาท ราคาปานกลาง | ลำโพง 4 ตัว Dolby Atmos เหมาะกับคอหนัง ตัวเครื่องบางเบา | 10.4 นิ้ว | 0.44 กก. | 155.90 x 246.10 x 6.9 มม. | MediaTek Helio G80 | 4 GB | 64 GB | Mali G52 | Mali G52 | 7,100 mAh | 8 MP | 8 MP | 5.0 | Stereo | Wi-Fi Dual Band | Type-C | Android 11 | 1 ปี | |||
5 | Alldocube Alldocube iPlay 50 Mini Pro | 4,999 บาท ราคาปานกลาง | รุ่นอัปเกรด ไซซ์เล็กกะทัดรัดพกพาง่าย ชิปเซตเล่นเกมได้ดี | 8.4 นิ้ว | 0.31 กก. | 126.00 x 202.70 x 7.5 มม. | MediaTek Helio G99 | 8 GB | 256 GB | Mali G57 | Mali G57 | 5,000 mAh | 5 MP | 13 MP | 5.2 | Stereo | Wi-Fi Dual Band | Type-C | Android 13 | 1 ปี | |||
6 | BMAX BMAX MaxPad I10 Pro | 3,999 บาท ราคาต่ำ | ใส่ซิม 4G LTE ได้ มีเทคโนโลยีเพิ่ม RAM พร้อมราคาย่อมเยา | 10.1 นิ้ว | 0.46 กก. | 164.00 x 242.00 x 8.9 มม. | Unisoc T606 | 4 GB | 64 GB | Mali-G57 | Mali-G57 | 7,000 mAh | 5 MP | 13 MP | 5.0 | Stereo | Wi-Fi Dual Band | Type-C | Android 13 | 1 ปี | |||
7 | CHUWI CHUWI Hi10 XPro | 4,790 บาท ราคาปานกลาง | ลำโพงคู่ระบบสเตอริโอ พื้นที่เก็บข้อมูลเยอะ มาพร้อม Android 13 | 10.1 นิ้ว | 0.52 กก. | 225.17 x 138.96 x 2.78 มม. | Unisoc T606 | 4 GB | 128 GB | Mali-G57 | Mali-G57 | 5,000 mAh | 5 MP | 8 MP | 5.0 | Stereo | Wi-Fi Dual Band | Type-C | Android 13 | 1 ปี | |||
8 | Lenovo Lenovo Tab M9 ZAC50168TH | 5,490 บาท ราคาค่อนข้างสูง | ลำโพงระบบ Dolby Atmos หน้าจอ 9" พกพาสะดวกขึ้น | 9.0 นิ้ว | 0.34 กก. | 215.40 x 136.80 x 8.00 มม. | MediaTek Helio G80 | 4 GB | 64 GB | Mali-G52 | Mali-G52 | 5,100 mAh | 2 MP | 8 MP | 5.1 | Stereo | Wi-Fi Dual Band | Type-C | Android 12 | 1 ปี | |||
9 | Xiaomi Xiaomi Redmi Pad SE | 5,990 บาท ราคาสูง | หน้าจอใหญ่ 11" ลื่นไหล 90Hz | 11.0 นิ้ว | - | 255.53 x 167.08 x 7.36 มม. | Qualcomm® Snapdragon 680 | 6 GB | 128 GB | Qualcomm® Adreno™ | Qualcomm® Adreno™ | 8,000 mAh | 5 MP | 8 MP | 5.0 | Stereo | Wi-Fi Dual Band | Type-C | Android 13 | 1 ปี | |||
10 | Teclast Teclast P40HD | 4,497 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | 10.1 นิ้ว | 0.52 กก. | 160.10 x 242.00 x 8.40 มม. | Unisoc T606 | 8 GB | 128 GB | Mali-G57 | Mali-G57 | 6,000 mAh | 2 MP | 5 MP | 5.0 | Stereo | Wi-Fi Dual Band | Type-C | Android 13 | 1 ปี |
รุ่นนี้มาพร้อมกับ RAM/ROM 3/32GB เพิ่ม microSD ได้สูงสุด 1TB และขับเคลื่อนด้วยชิปเซต MediaTek Helio P22T ส่วนหน้าจอเป็นชนิด TFT 8.7" ความละเอียด WXGA+ (1340 x 800) สีสันสวยงามสไตล์ SAMSUNG ที่สำคัญคือรุ่นนี้มีฝาหลังเป็นวัสดุโลหะ เพิ่มความทนทานและหรูหรา โดยน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 371 g เท่านั้น แต่ด้วยความที่ RAM ให้มาในระดับพื้นฐาน รุ่นนี้จึงเหมาะกับการใช้งานทั่วไป เช่น เล่นโซเชียล ดูหนัง ฟังเพลง หรือเรียนออนไลน์ ไม่เหมาะสำหรับเล่นเกม
ขนาดหน้าจอ | 8.70 นิ้ว |
---|---|
น้ำหนัก | 0.37 กก. |
ขนาดตัวเครื่อง | 124.70 x 212.50 x 8.0 มม. |
CPU | MediaTek MT8768T Helio P22T |
RAM | 3 GB |
ROM | 32 GB |
GPU | PowerVR GE8320 |
การ์ดจอ | PowerVR GE8320 |
แบตเตอรี่ | - |
ความละเอียดกล้องหน้า | 2 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 8 MP |
เวอร์ชันบลูทูธ | 5.0 |
ใส่ซิมการ์ดได้ | |
ระบบเสียง | Dolby Atmos |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | USB Type-C 2.0 |
ระบบปฏิบัติการ | Android 11 |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
Alldocube iPlay 50 เป็นแท็บเล็ตที่สามารถใส่ซิม 4G LTE ได้ถึง 2 ซิม สามารถใช้เล่นอินเทอร์เน็ต รับสาย และโทรออกได้เหมือนโทรศัพท์ทั่วไป มาพร้อมกับหน้าจอ IPS ขนาด 10.4" ความละเอียด 2K เทคโนโลยี In-Cell เสริมด้วยลำโพงคู่ ระบบสเตอริโอ ดูหนัง วิดีโอ หรือฟังเพลงได้ดี สำหรับชิปประมวลผลเป็น Unisoc T618 ใช้เล่นเกมระดับกลางได้ นอกจากนี้ ยังมีความจุให้เลือกหลากหลาย เช่น 4/64GB, 6/64GB และ 6/128GB
ขนาดหน้าจอ | 10.4 นิ้ว |
---|---|
น้ำหนัก | 0.48 กก. |
ขนาดตัวเครื่อง | 246.70 x 156.50 x 8.2 มม. |
CPU | Unisoc T618 |
RAM | 4 GB |
ROM | 64 GB |
GPU | Mali G52 |
การ์ดจอ | Mali G52 |
แบตเตอรี่ | 6,000 mAh |
ความละเอียดกล้องหน้า | 5 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 8 MP |
เวอร์ชันบลูทูธ | 5.0 |
ใส่ซิมการ์ดได้ | |
ระบบเสียง | Stereo |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi Dual Band |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | Type-C |
ระบบปฏิบัติการ | Android 12 |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
จุดเด่นของ HUAWEI MatePad SE คือมาพร้อมกับหน้าจอถนอมสายตาที่มีขนาดใหญ่ 10.4" และมีความละเอียดระดับ 2K ในสเปกเริ่มต้นนี้จะมาพร้อมกับ RAM/ROM 4/64GB และชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon™ 680 พร้อมระบบเสียง Histen 8.0 รอบทิศทาง ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเล่นโซเชียลมีเดีย ดูวิดีโอ ดูซีรีส์ หรือเรียนออนไลน์ รวมถึงเล่นเกมกราฟิกเบา ๆ ได้ ไม่รองรับซิมการ์ด ใช้ได้เพียง Wi-Fi
ขนาดหน้าจอ | 10.4 นิ้ว |
---|---|
น้ำหนัก | 0.44 กก. |
ขนาดตัวเครื่อง | 156.70 x 246.94 x 7.85 มม. |
CPU | Qualcomm Snapdragon™ 680 |
RAM | 4 GB |
ROM | 64 GB |
GPU | Qualcomm® Adreno™ 610 |
การ์ดจอ | Qualcomm® Adreno™ 610 |
แบตเตอรี่ | 5,100 mAh |
ความละเอียดกล้องหน้า | 2 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 5 MP |
เวอร์ชันบลูทูธ | 5.0 |
ใส่ซิมการ์ดได้ | |
ระบบเสียง | Stereo |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi Dual Band |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | Type-C |
ระบบปฏิบัติการ | HarmonyOS 3 |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
มีตัวเครื่องบางเพียง 6.9 mm วัสดุพลาสติกและอะลูมิเนียมเงางาม มีน้ำหนักเบา ช่วยให้พกพาสะดวกยิ่งขึ้น และที่สำคัญคือมาพร้อมกับลำโพงถึง 4 ตัว และระบบเสียง Dolby Atmos แบบเดียวกับโรงหนัง หน้าจอ LCD 10.4" WUXGA+ (2000 x 1200) ตอบโจทย์สายดูหนังและซีรีส์ รวมไปถึงคอนเทนต์วิดีโอต่าง ๆ ได้อย่างเต็มอรรถรส ส่วน RAM ให้มาที่ 4GB และ ROM 64GB พร้อมชิปประมวลผล MediaTek Helio G80 ใช้งานทั่วไปได้ลื่นไหล
ขนาดหน้าจอ | 10.4 นิ้ว |
---|---|
น้ำหนัก | 0.44 กก. |
ขนาดตัวเครื่อง | 155.90 x 246.10 x 6.9 มม. |
CPU | MediaTek Helio G80 |
RAM | 4 GB |
ROM | 64 GB |
GPU | Mali G52 |
การ์ดจอ | Mali G52 |
แบตเตอรี่ | 7,100 mAh |
ความละเอียดกล้องหน้า | 8 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 8 MP |
เวอร์ชันบลูทูธ | 5.0 |
ใส่ซิมการ์ดได้ | |
ระบบเสียง | Stereo |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi Dual Band |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | Type-C |
ระบบปฏิบัติการ | Android 11 |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
ใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ต ราคาไม่เกิน 5000 บาท ที่มาพร้อมกับความกะทัดรัด ต้องรุ่นนี้เลย เพราะใช้หน้าจอ IPS ขนาด 8.4" ความละเอียด FHD+ และมีน้ำหนักเบาเพียง 306 กรัม ช่วยให้พกพาได้สะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเล่นเกมกราฟิกระดับกลางได้ดี ด้วยชิปเซตประมวลผล MediaTek Helio G99 เสริมด้วย RAM/ROM 8/256GB ใช้งานทั่วไปได้อย่างราบรื่น เก็บข้อมูลได้เยอะ ส่วนแบตเตอรี่อยู่ที่ 5,000 mAh ชาร์จไว 18W อีกทั้งยังรองรับซิมการ์ด 4G ได้อีกด้วย
ขนาดหน้าจอ | 8.4 นิ้ว |
---|---|
น้ำหนัก | 0.31 กก. |
ขนาดตัวเครื่อง | 126.00 x 202.70 x 7.5 มม. |
CPU | MediaTek Helio G99 |
RAM | 8 GB |
ROM | 256 GB |
GPU | Mali G57 |
การ์ดจอ | Mali G57 |
แบตเตอรี่ | 5,000 mAh |
ความละเอียดกล้องหน้า | 5 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 13 MP |
เวอร์ชันบลูทูธ | 5.2 |
ใส่ซิมการ์ดได้ | |
ระบบเสียง | Stereo |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi Dual Band |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | Type-C |
ระบบปฏิบัติการ | Android 13 |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
เมื่อเทียบสเปกกับราคาแล้ว แท็บเล็ต ราคาไม่เกิน 5000 บาท รุ่นนี้ ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่า โดยใช้ชิปประมวลผล Unisoc T606 และมาพร้อมกับ RAM/ROM 4/64GB เสริมด้วยเทคโนโลยีเพิ่ม RAM ด้วยการดึงเอาพื้นที่จาก ROM มาใช้ ให้มี RAM เพิ่มเป็น 8GB ในส่วนของหน้าจอมีขนาด 10.1" เทคโนโลยี In-Cell ให้สีสันที่สวยงามยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือรุ่นนี้มีแบตเตอรี่ความจุถึง 7,000 mAh ช่วยให้ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น และรองรับการใส่ซิม 4G LTE อีกด้วย
ขนาดหน้าจอ | 10.1 นิ้ว |
---|---|
น้ำหนัก | 0.46 กก. |
ขนาดตัวเครื่อง | 164.00 x 242.00 x 8.9 มม. |
CPU | Unisoc T606 |
RAM | 4 GB |
ROM | 64 GB |
GPU | Mali-G57 |
การ์ดจอ | Mali-G57 |
แบตเตอรี่ | 7,000 mAh |
ความละเอียดกล้องหน้า | 5 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 13 MP |
เวอร์ชันบลูทูธ | 5.0 |
ใส่ซิมการ์ดได้ | |
ระบบเสียง | Stereo |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi Dual Band |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | Type-C |
ระบบปฏิบัติการ | Android 13 |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
CHUWI Hi10 XPro ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Unisoc T606 ที่ประสิทธิภาพอยู่ในระดับกลาง และมี RAM/ROM 4/128GB ช่วยให้เก็บข้อมูลได้เยอะขึ้น เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเป็นหลัก หน้าจอมีขนาด 10.1" ความละเอียด HD+ ชนิด IPS ความสว่างสูงสุด 400nits พร้อมลำโพงคู่ระบบสเตอริโอ และข้อดีของรุ่นนี้คือมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 13 รุ่นใหม่ล่าสุด ทำให้ใช้งานแอปพลิเคชันใหม่ ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา
ขนาดหน้าจอ | 10.1 นิ้ว |
---|---|
น้ำหนัก | 0.52 กก. |
ขนาดตัวเครื่อง | 225.17 x 138.96 x 2.78 มม. |
CPU | Unisoc T606 |
RAM | 4 GB |
ROM | 128 GB |
GPU | Mali-G57 |
การ์ดจอ | Mali-G57 |
แบตเตอรี่ | 5,000 mAh |
ความละเอียดกล้องหน้า | 5 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 8 MP |
เวอร์ชันบลูทูธ | 5.0 |
ใส่ซิมการ์ดได้ | |
ระบบเสียง | Stereo |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi Dual Band |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | Type-C |
ระบบปฏิบัติการ | Android 13 |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สำหรับแท็บเล็ต ราคาไม่เกิน 5000 บาท รุ่นนี้ มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 9" ความละเอียด HD ที่หลายคนอาจจะมองว่าเล็ก แต่ก็มีข้อดีที่ช่วยให้พกพาและจัดเก็บได้สะดวกยิ่งขึ้น ส่วนชิปประมวลผลที่ใช้จะเป็น MediaTek Helio G80 เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไปเป็นหลัก พร้อมลำโพงคู่ระบบ Dolby Atmos ให้ดูหนังหรือวิดีโอได้เพลิดเพลินขึ้น และข้อดีอีกหนึ่งอย่างของรุ่นนี้ก็คือ มีระบบปลดล็อกด้วยการตรวจจับใบหน้า ที่ประหยัดเวลากว่าการปลดล็อกด้วยพาสเวิร์ด
ขนาดหน้าจอ | 9.0 นิ้ว |
---|---|
น้ำหนัก | 0.34 กก. |
ขนาดตัวเครื่อง | 215.40 x 136.80 x 8.00 มม. |
CPU | MediaTek Helio G80 |
RAM | 4 GB |
ROM | 64 GB |
GPU | Mali-G52 |
การ์ดจอ | Mali-G52 |
แบตเตอรี่ | 5,100 mAh |
ความละเอียดกล้องหน้า | 2 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 8 MP |
เวอร์ชันบลูทูธ | 5.1 |
ใส่ซิมการ์ดได้ | |
ระบบเสียง | Stereo |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi Dual Band |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | Type-C |
ระบบปฏิบัติการ | Android 12 |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
นี่คือแท็บเล็ต ราคาไม่เกิน 5000 บาท รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Xiaomi ที่มาพร้อมกับดีไซน์สวยงามทันสมัย และมีให้เลือกด้วยกัน 3 สีสัน ทั้งสีเทา สีม่วง และสีมิ้นต์ ที่สำคัญคือใช้หน้าจอ IPS ขนาดใหญ่ 11" พร้อม Refresh Rate 90Hz ช่วยให้ใช้งานได้อย่างลื่นไหลยิ่งขึ้น ในส่วนของชิปประมวลผลเป็น Qualcomm Snapdragon 680 ใช้เล่นเกมในระดับกลางได้ดี และมี RAM/ROM 6/128GB พร้อมแบตเตอรี่อึดถึง 8,000 mAh เลยทีเดียว
ขนาดหน้าจอ | 11.0 นิ้ว |
---|---|
น้ำหนัก | - |
ขนาดตัวเครื่อง | 255.53 x 167.08 x 7.36 มม. |
CPU | Qualcomm® Snapdragon 680 |
RAM | 6 GB |
ROM | 128 GB |
GPU | Qualcomm® Adreno™ |
การ์ดจอ | Qualcomm® Adreno™ |
แบตเตอรี่ | 8,000 mAh |
ความละเอียดกล้องหน้า | 5 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 8 MP |
เวอร์ชันบลูทูธ | 5.0 |
ใส่ซิมการ์ดได้ | |
ระบบเสียง | Stereo |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi Dual Band |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | Type-C |
ระบบปฏิบัติการ | Android 13 |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
Teclast เป็นอีกหนึ่งแบรนด์แท็บเล็ตคุ้มค่าคุ้มราคาจากจีน โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 13 ใช้ชิปประมวลผล Unisoc T606 พร้อมกับ RAM/ROM 8/128GB ที่เสริม microSD Card ได้สูงสุดถึง 1TB ในส่วนของหน้าจอมีขนาด 10.1" ชนิด IPS 60Hz ความละเอียด FHD+ อัตราส่วน 12:10 นอกจากนี้ ยังให้แบตเตอรี่มาที่ 6,000 mAh ชาร์จด้วย Type-C และสามารถใส่ซิมการ์ดเครือข่าย 4G LTE ได้ 2 ซิม เพื่อใช้แทนโทรศัพท์มือถือ
ขนาดหน้าจอ | 10.1 นิ้ว |
---|---|
น้ำหนัก | 0.52 กก. |
ขนาดตัวเครื่อง | 160.10 x 242.00 x 8.40 มม. |
CPU | Unisoc T606 |
RAM | 8 GB |
ROM | 128 GB |
GPU | Mali-G57 |
การ์ดจอ | Mali-G57 |
แบตเตอรี่ | 6,000 mAh |
ความละเอียดกล้องหน้า | 2 MP |
ความละเอียดกล้องหลัง | 5 MP |
เวอร์ชันบลูทูธ | 5.0 |
ใส่ซิมการ์ดได้ | |
ระบบเสียง | Stereo |
การเชื่อมต่อไร้สาย | Wi-Fi Dual Band |
พอร์ตการเชื่อมต่อ | Type-C |
ระบบปฏิบัติการ | Android 13 |
การรับประกันสินค้า | 1 ปี |
สำหรับคนที่อยากลงทุนซื้อแท็บเล็ตแต่ยังคงมีข้อสงสัยต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือวิธีป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่เสื่อม ในวันนี้ เรามีคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากแล้วครับ
แน่นอนว่าสามารถเปลี่ยนได้ครับ ทั้งนี้แบตเตอรี่ส่วนใหญ่ของแท็บเล็ตในยุคปัจจุบันจะเป็นแบบ Build-in ซึ่งเราไม่สามารถเปลี่ยนเองได้ ถ้ารู้สึกว่าแบตเตอรี่เสื่อมหรือมีปัญหา อาจจะต้องนำไปที่ศูนย์บริการหรือให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเป็นคนเปลี่ยนให้ครับ
1. ไม่ควรเล่นแท็บเล็ตขณะชาร์จ เพราะการเล่นไปชาร์จไปจะทำให้ตัวเครื่องเกิดความร้อนทำให้ไม่สามารถชาร์จเข้าได้เต็มประสิทธิภาพและยังทำให้แบตเสื่อมไวได้
2. อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่หมดบ่อย ๆ เพราะการที่แบตหมดบ่อย ๆ จะทำให้แบตเตอรี่ไม่สามารถเก็บประจุได้จึงทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไว
3. ถ้าไม่ได้ใช้เครื่องเป็นเวลานาน ให้นำมาชาร์จแบตเตอรี่ไว้บ้างเพื่อกระตุ้นแบตเตอรี่ครับ
อีกหนึ่งอย่างที่เราอยากจะแนะนำนั่นก็คือบริการหลังการขาย เพราะถ้าหากแท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5,000 ของเราชำรุดหรือมีปัญหาขึ้นมา เราจะต้องหาศูนย์ซ่อมบำรุงเพื่อนำเครื่องไปซ่อม ดังนั้น เราขอแนะนำให้คุณเลือกซื้อแบรนด์ที่มีศูนย์บริการหลังการขายที่เราเข้าถึงได้สะดวก อีกข้อก็คือ แม้แท็บเล็ตจะเป็นอุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี่อึด ใช้งานได้ทั้งวัน แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้แบตหมดหรือเหลือน้อยจนเกินไป เมื่อเหลือสัก 20 - 30% ก็สามารถชาร์จได้เลยครับ
อันดับที่ 1: SAMSUNG|SAMSUNG Galaxy Tab A7 Lite LTE
อันดับที่ 2: Alldocube|Alldocube iPlay 50
อันดับที่ 3: |HUAWEI MatePad SE
อันดับที่ 4: realme|realme Pad Wi-Fi
อันดับที่ 5: Alldocube|Alldocube iPlay 50 Mini Pro
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ