ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
ถ้าพูดถึงโลกปัจจุบันและอนาคต เทคโนโลยีถือเป็นสิ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อมวลมนุษยชาติมากที่สุด ดังนั้น คนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะนำเงินไปลงทุนในธุรกิจหรือกิจการที่มีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เพราะมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนสูง อย่างกองทุนเทคโนโลยีนั้นก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากกองทุนจะมีผู้เชี่ยวชาญที่คอยจัดการและบริหารพอร์ตหุ้นเทคโนโลยีให้โดยเฉพาะนั่นเอง
กองทุนเทคโนโลยีมีให้เลือกลงทุนกันหลายกองกันเลยทีเดียว แต่ละกองทุนก็จะมีทั้งกลยุทธ์และแนวทางในการบริหารจัดการที่แตกต่างกันไป ทำให้มีทั้งผลตอบแทนและความเสี่ยงที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย ดังนั้นวันนี้เราจึงจะนำวิธีการเลือกกองทุนเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้คุณรู้และเข้าใจว่าจะต้องพิจารณาเลือกกันอย่างไรพร้อมคำแนะนำจากนักวางแผนการเงินโดยเฉพาะ อีกทั้งยังได้รวบรวม 10 กองทุนเทคโนโลยี ที่มีผลตอบแทนโดดเด่นและมีความน่าสนใจมาให้คุณได้เก็บไว้เป็นตัวเลือกกันอีกด้วย
คุณปอยเรียนจบปริญญาตรีสาขาบริหารธุรกิจ จาก Assumption University และปริญญาโทจาก Northumbria University สาขา Design Management จากประเทศอังกฤษ หลังจากเริ่มทำงานคุณปอยเริ่มมีความสนใจเกี่ยวกับการเงิน การวางแผนภาษี รวมไปถึงการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมและประกันชีวิต จึงเริ่มศึกษาหาประสบการณ์ด้านนี้โดยตรงผ่านการเรียนคอร์สต่าง ๆ และเข้าอบรม รวมทั้งสั่งสมประสบการณ์ในการทำงานเป็นนักวางแผนการเงินมืออาชีพอิสระมามากว่า 4 ปี ปัจจุบันคุณปอยมีใบอนุญาตเป็นผู้แนะนำการลงทุนในประเทศไทยและมีลูกค้าภายใต้การดูแลไม่ต่ำกว่า 50 คน สำหรับประเภทของแผนการเงินที่คุณปอยมีความชำนาญเป็นพิเศษ ได้แก่ แผนการออมเพื่อการเกษียณอายุ แผนการออมเพื่อการลดหย่อนภาษี แผนการออมเพื่อการศึกษาบุตรและแผนการเงินเพื่อการส่งต่อมรดก
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
กองทุนเทคโนโลยีโดยส่วนใหญ่จะมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากกระจุกตัวอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ดังนั้นก่อนจะเริ่มลงทุนคุณจึงควรมีความรู้ความเข้าใจทั้งกลยุทธ์และเงื่อนไขในการถือหน่วยลงทุนสำหรับแต่ละกองทุนอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่ากองทุนเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายในการลงทุนได้
กองทุนเทคโนโลยีก็เหมือนกับกองทุนทั่วไป คือต้องมีผู้ดูแลและบริหารกองทุน ซึ่งแต่ละกองทุนนั้นอาจจะเลือกใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกันไปในการจัดการกองทุน กลยุทธ์ที่ต่างกันนี้เองที่จะทำให้เกิดความเสี่ยง ผลตอบแทนและมีค่าธรรมเนียมไม่เท่ากัน
Active Management หรือการบริหารกองทุนแบบเชิงรุก เป็นกลยุทธ์ในการบริหารกองทุนที่ผู้จัดการของแต่ละกองทุนนั้นจะทำการคัดเลือกหุ้นเข้ามาในพอร์ตของกองทุนเอง โดยพิจารณาจากการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับหุ้นเหล่านั้น เพื่อให้มีผลตอบแทนที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดแต่ก็ต้องมีการกำหนด Benchmark ซึ่งก็คือดัชนีของกลุ่มหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มาเป็นเป้าหมายเพื่อที่จะสร้างผลตอบแทนให้ได้มูลค่าสูงกว่า Benchmark เหล่านั้น กองทุนประเภทนี้มีความยืดหยุ่นสูงจึงปรับเปลี่ยนได้เร็วตามสถานการณ์ แต่ก็จะมีความผันผวนมาก อีกทั้งค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายกองทุนก็สูงขึ้นไปด้วยเช่นกัน
Passive Management หรือการบริหารกองทุนเชิงรับนั้นแม้จะมีหลักการบริหารที่คล้ายกันแต่ไม่ได้หมายความว่าจะสร้างผลตอบแทนที่เท่ากัน กองทุนประเภทนี้เป็นกลยุทธ์ในการบริหารที่เน้นอ้างอิงตามดัชนีของตลาดหลักทรัพย์เป็นหลัก ดังนั้นผู้จัดการกองทุนจะเลือกลงทุนตามดัชนีที่เกี่ยวข้อง และเมื่อลดบทบาทของผู้จัดการกองทุนลงจึงทำให้มีค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกองทุนที่ต่ำลงไปด้วย จึงมีโอกาสที่คุณจะได้รับผลตอบแทนสูงขึ้น แต่กองทุนประเภทนี้จะมีความยืดหยุ่นต่ำ ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำมาว่าให้ลองศึกษา Fund Fact Sheet ด้วยเพื่อที่จะได้เปรียบเทียบกันก่อนลงทุนจริงนั่นเอง
เพราะแทบทุกวงการต้องอาศัยเทคโนโลยี จึงทำให้เทรนด์เทคโนโลยีกระจายไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งเราสามารถจัดแบ่งเป็นกลุ่มตามประเภทของอุตสาหกรรมได้เพื่อให้ง่ายต่อการพิจารณาลงทุน
ปัจจุบันโลกเราได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนและเริ่มส่งผลอย่างชัดเจนต่อผู้คนทั่วโลก เราจึงเริ่มเห็นว่าผู้คนเริ่มให้ความสนใจกับ Sustainability กันเพิ่มมากขึ้น เทคโนโลยีที่ถูกคิดค้นที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาดจึงน่าจับตามมองมาก ๆ เนื่องจากว่าจะเป็นสิ่งที่มาทนทดพลังงานในปัจจุบันได้ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว
Green Energy เป็นกลุ่มเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับพลังงานพลังงานสีเขียวหรือพลังงานสะอาด ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อทดแทนการใช้ทรัพยากรประเภทฟอสซิลแบบดั้งเดิมที่ใช้แล้วหมดไป อันได้แก่ พลังงานจากแสงอาทิตย์ ชีวมวล ลมหรือน้ำ นอกจากจะเป็นพลังงานหมุนเวียนแล้วยังไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม กลุ่มเทคโนโลยีประเภทนี้มักจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ รวมไปถึงโรงงานผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานสะอาด
สำหรับเทคโนโลยี หรือธุรกิจที่เกี่ยวกับ E-commerce นั้นมีมาซักระยะนึงและเริ่มอยู่ในจุดที่เริ่มคงที่แล้ว แต่ตอนนี้ก็เริ่มมีกระแสเกี่ยวกับ E-commerce 3.0 ที่จะมี AI เข้ามาสร้างประสบการณ์ในการซื้อของให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละบุคคลมากขึ้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบอกว่า E-commerce 3.0 จะเริ่มส่งผลกระทบกับเราในอนาคตอันใกล้นี้และควรจับตามองอย่างใกล้ชิด
ตัวอย่าง E-Commerce ที่หลายคนรู้จักกันดีก็คือ แหล่งชอปปิงออนไลน์ต่าง ๆ อย่าง Shopee หรือ Lazada อีกทั้งยังมีความเกี่ยวพันไปถึงขั้นตอนการทำการตลาดเพื่อโปรโมทธุรกิจหรือสินค้าและการส่งมอบสินค้าหรือบริการ ซึ่งต้องมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมด้วยครับ
กลุ่มนี้เป็นกลุ่มเทคโนโลยีที่เพิ่งเริ่มเข้ามามีความสำคัญและมีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดมาก ๆ ในปัจจุบัน โดยทั้ง AI และ Robotics ไม่ใช่สิ่งเดียวกันแต่อย่างใด สำหรับ Robotics นั้นหมายถึงการพัฒนาเครื่องจักรอัตโนมัติให้มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยลดภาระงานที่ต้องใช้คนทำ จึงมีความสำคัญกับกลุ่มโรงงานที่ต้องผลิตสินค้า ในขณะที่ AI หรือปัญญาประดิษฐ์นั้นถูกพัฒนาเพื่อเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจหรือวิเคราะห์แทนมนุษย์ที่บางครั้งอาจจะมีอคติจึงทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน
ในยุคปัจจุบัน อินเทอร์เน็ตนั้นมีความเร็วที่สูงมาก ทำให้การส่งข้อมูลระหว่าง User นั้นทำกันได้แบบ Real-Time ส่งผลให้เราไม่จำเป็นที่จะต้องมี Hard-disk หรือ Server ขนาดใหญ่ในการเก็บข้อมูลกันอีกต่อไป ซึ่งเทคโนโลยี Cloud Computing เป็นสิ่งที่ได้เข้ามารองรับ นอกจากนี้ ระบบปัจจุบันยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูลด้วย ตัวอย่างของ Cloud Computing ที่โด่งดังคือ ระบบ Email อย่าง Gmail หรือ Outlook รวมไปถึงโปรแกรมสำรองข้อมูลอย่าง Google Cloud หรือ Microsoft Azure นั่นเอง
เทคโนโลยีก็เข้ามาเปลี่ยนแปลงภาคการเงินและการธนาคารด้วยเช่นกัน สังเกตได้ว่าปัจจุบันคนเริ่มถือเงินสดกันน้อยลงและหันมาใช้จ่ายผ่าน Online Transaction กันเยอะขึ้น อย่างธนาคารต่าง ๆ ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาระบบ Online Banking กันทั้งหมดแล้ว ทำให้คุณสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้สะดวกมากขึ้น ระบบการจ่ายเงินที่เปลี่ยนการถือเงินสดธรรมดาให้คุณสามารถจ่ายผ่าน QR Code ง่าย ๆ รวมไปถึง Cryptocurrency หรือสกุลเงินดิจิทัล ที่เกิดขึ้นเพื่อเปลี่ยนระบบแลกเปลี่ยนเงินตราดั้งเดิมของโลก ซึ่งในอนาคตเราอาจจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่านี้และผู้บริโภคก็น่าจะได้รับประโยชน์กันกว่าเดิมแน่นอนครับ
บางคนอาจจะอยากเลือกถือหน่วยลงทุนในกองทุนเทคโนโลยีตามเทรนด์เทคโนโลยี แต่เชื่อว่าบางคนก็อาจจะอยากถือหน่วยลงทุนตามหุ้นของบริษัทชั้นนำแห่งวงการเทคโนโลยี ดังนั้น คุณอาจจะพิจารณาเลือกกองทุนเทคโนโลยีจากสัดส่วนของหุ้นที่อยู่ในพอร์ตการลงทุนก็ได้ด้วยเช่นกัน โดยบริษัทชั้นนำทางด้านเทคโนโลยีระดับโลกที่หลายคนรู้จักกันดีนั้นได้แก่ Google, Microsoft, Amazon, Tesla, Alibaba, Tencent และ Facebook เป็นต้น นอกจากนี้ ถ้าใครไม่มั่นใจก็สามารถตรวจสอบได้จาก Fund Fact Sheet เพิ่มเติมก็ได้เช่นกันครับ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | คะแนน | |
---|---|---|---|---|
BBLAM กองทุนเทคโนโลยี บัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH) | คัดเลือกหุ้นบริษัทชั้นนำทางด้านเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในอนาคต | |||
Kasikorn Asset Management กองทุนเทคโนโลยี เค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว 100-A ชนิดจ่ายเงินปันผล (K-USXNDQ-A(D)) | ลงทุนตาม NASDAQ-100 ดัชนีหุ้นรวมดาว IT ชั้นนำจากอเมริกา | |||
Phillip Asset Management กองทุนเทคโนโลยี ฟิลลิปเวิลด์อินโนเวชั่น (PWIN) | จัดสรรลงทุนอย่างยืดหยุ่นผ่านการวิเคราะห์จากทีม ARK Research | |||
Krungsri Asset Management กองทุนเทคโนโลยี กรุงศรีโกลบอลเทคโนโลยีอิควิตี้-สะสมมูลค่า (KFGTECH-A) | กระจายการลงทุนเพื่อเจาะกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากทั่วโลก | |||
Krungthai Asset Management กองทุนเทคโนโลยี เคแทม เวิลด์ เทคโนโลยี อาร์ทิฟิเชียล อินเทลลิเจนซ์ อิควิตี้ ฟันด์ ชนิดสะสมมูลค่า (KT-WTAI-A) | สร้างผลตอบแทนจากหุ้นกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ | |||
One Asset Management กองทุนเทคโนโลยี วรรณ โกลบอล อีคอมเมิร์ซ (ONE-GECOM) | เน้นเจาะกลุ่มธุรกิจ E-Commerce ให้ผลตอบแทนโดดเด่นหลายปี | |||
Kiatnakin Phatra Bank กองทุนเทคโนโลยี เคเคพี EXPANDED TECH - HEDGED ชนิดทั่วไป (KKP TECH-H) | กระจายการลงทุนตามดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกา | |||
MFC Asset Management กองทุนเทคโนโลยี เอ็มเอฟซี รีนิวเอเบิล เอนเนอร์จี (MRENEW-D) | เก็บเกี่ยวทั้งผลตอบแทนและช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโลกไปด้วยกัน | |||
Tisco Asset Management กองทุนเทคโนโลยี ทิสโก้ Cloud Computing อิควิตี้ (TCLOUD) | โฟกัสกลุ่มธุรกิจ Cloud เหมาะสำหรับคนที่อยากลงทุนระยะยาว | |||
TMBAM Eastspring กองทุนเทคโนโลยี ทีเอ็มบี อีสท์สปริง Fintech Innovation (TMB-ES-FINTECH) | ลงทุนใน Fintech Innovation ซึ่งเน้นนวัตกรรมทางการเงิน |
นี่เป็นกองทุนเทคโนโลยีที่ไม่ได้เจาะเทรนด์เทคโนโลยีใด ๆ เป็นพิเศษ แต่เลือกประเมินจากศักยภาพของบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้โดยเฉพาะ เพื่อดูว่ามีพื้นฐานแข็งแกร่งและมั่นคงแค่ไหน อีกทั้งยังต้องเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต ดังนั้นในพอร์ตของกองทุนนี้จึงมีหุ้นจาก Microsoft, Apple และ VISA ซึ่งเป็นบริษัทระดับท็อปที่จะยืนหนึ่งได้ยาวนาน โดยมีผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นในหลายปี ในช่วงที่ขาดทุนก็ถือว่าขาดทุนน้อยกว่า Benchmark จึงเป็นกองทุนที่บริหารความเสี่ยงได้ดีครับ
สำหรับผู้ที่สนใจธุรกิจเทคโนโลยีต้องทราบกันเป็นอย่างดีว่า NASDAQ-100 นั้นถือเป็นดัชนีหุ้นของตลาด NASDAQ ซึ่งรวมดาวบริษัทชั้นนำทางด้านเทคโนโลยีจากสหรัฐอเมริกา ทั้ง Apple, Microsoft, Facebook หรือ Amazon ต่างก็จดทะเบียนอยู่ในตลาดแห่งนี้ ดังนั้นกองทุนเทคโนโลยีกองนี้จึงเลือกบริหารพอร์ตแบบ Passive Management อ้างอิงดัชนีดังกล่าว ซึ่งผลการดำเนินงานของกองทุนก็มีความสอดคล้องกับมูลค่าของดัชนี อีกทั้งยังติดอันดับกองทุนผลตอบแทนโดดเด่นหลายปีด้วยครับ
กองทุนเทคโนโลยีกองนี้มีความโดดเด่นตรงที่มีความยืดหยุ่นเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะไม่ได้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการบริหารปรับเปลี่ยนทิศทางอยู่เสมอโดยอาศัยการวิเคราะห์จากทีม ARK Research ซึ่งเป็นทีมกองทุนชั้นนำที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ทำให้สามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสมและมีผลการดำเนินงานที่เหนือกว่าค่า Benchmark ในรอบ 3 ปี อีกทั้งยังมีมูลค่าที่สูงสุดเมื่อเทียบกับกองทุนอื่นในกลุ่มเดียวกันด้วย
กองทุนเทคโนโลยีกองนี้จะถือหน่วยลงทุนผ่านกองทุนหลักในต่างประเทศอย่าง T. Rowe Price Funds SICAV - Global Technology Equity Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นกระจายการลงทุนไปยังกลุ่มธุรกิจชั้นนำทางด้านเทคโนโลยีจากทั่วโลก โดยกองทุนนี้จะไม่ได้โฟกัสแค่เทรนด์เทคโนโลยีเดียว แต่จะดูจากศักยภาพในการเป็นผู้นำตลาด ผลการดำเนินงานที่ผ่านมานั้นเหนือกว่าค่า Benchmark ในหลาย ๆ ปีและยังอยู่ในระดับดีเยี่ยมเมื่อเทียบกับกองทุนอื่นในรอบ 5 ปีครับ
อยากมีหุ้นในบริษัท Tesla ก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เนื่องจากกองทุนเทคโนโลยีนี้จะเน้นลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Artificial Intelligence หรือปัญญาประดิษฐ์โดยเฉพาะ ช่วยให้คุณสร้างผลตอบแทนแบบก้าวกระโดดในอนาคตเนื่องจากเป็นเทรนด์เทคโนโลยีที่กำลังวางรากฐาน ผลการดำเนินงานของกองทุนหลักนั้นเหนือกว่าค่า Benchmark มาหลายปี อีกทั้งมูลค่าของหน่วยลงทุนก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 70% ในรอบ 3 ปี ซึ่งนับว่าดีในระดับต้น ๆ เลยทีเดียว
กองทุนเทคโนโลยีกองนี้ให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นมานานหลายปี เนื่องจากลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ E-Commerce ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะบริหารกองทุนแบบ Active Management แต่ก็มีการลงทุนใน Amplify Online Retail ETF ซึ่งเป็นกองทุนรวมดัชนีกลุ่มธุรกิจค้าปลีกระดับท็อปจากทั่วโลก และยังมีการลงทุนในหุ้นของบางธุรกิจโดยตรง ที่สำคัญ ผลการดำเนินงานของกองทุนนั้นอยู่เหนือ Benchmark มานานหลายปีแล้วด้วยครับ
อย่างที่ทราบกันดีว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาถือเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีของโลก ดังนั้น จึงมีดัชนี S&P North American Expanded Technology Sector Index ที่สะท้อนการดำเนินงานของธุรกิจเทคโนโลยี กองทุนนี้จึงเลือกลงทุนในบริษัทเหล่านั้นที่อยู่ในดัชนีดังกล่าว ดังนั้นหากใครที่อยากถือหุ้น Apple หรือ Microsoft ก็ไม่ควรพลาดกองทุนนี้ โดยในปัจจุบันกองทุนนี้มีมูลค่าสูงกว่าช่วงที่จัดตั้งกองทุน และยังมีผลการดำเนินงานที่สูงติดลำดับต้น ๆ เมื่อเทียบกับกองทุนประเภทเดียวกัน
กองทุนเทคโนโลยีกองนี้เลือกถือหน่วยลงทุนใน BGF Sustainable Energy Fund ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นสนับสนุนกลุ่มธุรกิจพลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือกที่จะช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เนื่องจากนโยบายทางเศรษฐกิจโลกจากนานาประเทศต่างก็สนับสนุนแนวคิดนี้เป็นหลักในอนาคต ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของกองทุนแม้จะไม่สามารถเอาชนะ Benchmark แต่ก็มีมูลค่าสูงกว่าตอนที่จัดตั้งกองทุน อีกทั้งยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในมูลค่าที่สูงด้วยครับ
สำหรับกลุ่มธุรกิจ Cloud Computing จะมีดัชนี Indxx Global Cloud Computing เป็นตัวชี้วัด ดังนั้นกองทุนเทคโนโลยีนี้จึงเลือกลงทุนในหุ้นที่ถูกจัดลำดับอยู่ในดัชนีดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูล ผลการดำเนินงานของกองทุนนี้ยังไม่ถือว่าสูง เนื่องจากเพิ่งก่อตั้งและยังเน้นลงทุนแบบกระจุกตัวในธุรกิจที่จะได้รับความนิยมในอนาคต ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งใจจะลงทุนระยะยาวครับ
กองทุนนี้เน้นลงทุนในกองทุน ARK Fintech Innovation ETF ซึ่งบริหารกองทุนแบบ Active Management โดยเน้นกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวกับนวัตกรรมทางด้านการเงิน จึงเหมาะสำหรับคนที่สนใจลงทุนทางด้าน E-Wallet สกุลเงินดิจิทัลอย่าง Cryptocurrency และเทคโนโลยี Blockchain ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของกองทุนนั้นยังไม่สูงมากและไม่สามารถเอาชนะค่า Benchmark ได้ แต่ Fintech นั้นถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่จะต้องใช้เวลาเพื่อเก็บเกี่ยวผลตอบแทนในอนาคต
นักลงทุนมือใหม่หลายคนก็อาจจะมีข้อสงสัยและคำถามต่าง ๆ เกี่ยวกับกองทุนเทคโนโลยีอยู่บ้าง ในวันนี้ เราจึงมีคำแนะนำและคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกันเพิ่มเติมครับ
เทคโนโลยีจะถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของทุกคนทั้งในปัจจุบันและอนาคต ดังนั้นถ้าหากคุณเลือกลงทุนในกองทุนเทคโนโลยีตั้งแต่วันนี้ก็จะช่วยให้คุณเก็บเกี่ยวผลตอบแทนที่คุ้มค่าในอนาคตได้ แต่ต้องเข้าใจว่าเทคโนโลยีบางอย่างนั้นอาจจะอยู่ในช่วงสร้างรากฐาน ต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะเห็นผลสำเร็จ ดังนั้นกองทุนเทคโนโลยีจึงเป็นทางเลือกในการลงทุนที่เหมาะสำหรับคนที่มีเงินสำรองที่ไม่ต้องถอนออกมาใช้ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ 3 ปีเป็นต้นไป และไม่เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ผลตอบแทนมาก ๆ ในระยะสั้นครับ
คำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ