10 อันดับ มอเตอร์ไซค์ สำหรับเดินทางไกล ปี 2022 รุ่นยอดนิยม ขับขี่ง่าย

สำหรับรถมอเตอร์ไซค์เดินทางไกลรุ่นนี้จาก BMW เป็นมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตทัวร์ริ่งที่เหมาะกับคนที่ชอบความเร็วสูง โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์บ็อกเซอร์รุ่นใหม่ เครื่องยนต์กำลัง136 แรงม้า พร้อมความจุถึง 1,254 ซีซี อีกทั้งยังมีระบบควบคุมเพลาลูกเบี้ยวแบบแปรผัน BMW Shift Cam ที่ช่วยรับประกันการส่งต่อกำลังได้อย่างเหนือชั้น ทั้งในช่วงความเร็วรอบสูงและความเร็วรอบต่ำ ไม่ว่าคุณจะขับขี่ในเมือง บนทางหลวง หรือแม้แต่ออฟโรด ก็ยังขับได้สนุกไม่มีสะดุดทุกเส้นทาง

BENELLI TRK502 มีเครื่องยนต์เป็นแบบ 4 จังหวะ 2 สูบ DOHC 4 วาล์ว 499.6 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ มาพร้อมกับเกียร์ 6 สปีด คลัทช์เปียก สตาร์ทเครื่องด้วยระบบไฟฟ้า รุ่นนี้ยังมีถังน้ำมันเชื้อเพลิงความจุถึง 20 ลิตร พร้อมถังสำรองอีก 3 ลิตร เรียกได้ว่าเหมาะกับสายเดินทางอย่างแท้จริง ซึ่งทางค่ายยังได้มีการออกแบบมอเตอร์ไซค์ให้สมบูรณ์มากขึ้นตามหลักการยศาสตร์ ทำให้ขับขี่ได้สะดวกสบาย ไม่เมื่อย อีกทั้งยังช่วยป้องกันลม รวมไปถึงระบบกันสะเทือนที่สมบุกสมบันเมื่อขับขี่บนถนนขรุขระได้อีกด้วย

TIGER 800 XRT เป็นมอเตอร์ไซค์เดินทางไกลสัญชาติอังกฤษ ที่มีการเน้นรูปแบบ Dual Sport สามารถใช้ขับขี่ได้ทั้งเส้นทางเรียบและเส้นทางแบบ Off Road เครื่องยนต์ 3 สูบ พร้อมมอบพละกำลังและความแรงถึง 800 ซีซี ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 94 แรงม้า ส่วนเรื่องระบบความปลอดภัยนั้นยังใช้ระบบ ABS ที่สามารถเลือกเปิดปิดได้ด้วยตนเอง ซึ่งรุ่นนี้ยังถือว่าเป็นตัว Top ของรุ่นใหม่ที่มีการผสมผสานความสะดวกสบายระดับพรีเมียมและความสามารถในการผจญภัยอย่างเต็มรูปแบบ ช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

Kawasaki Versys-X 300 รุ่นนี้เป็นมอเตอร์ไซค์สไตล์ทัวร์ริ่งแอดเวนเจอร์ไบค์ เน้นการขับขี่แบบคล่องตัว สามารถลุยได้ทุกเส้นทาง สำหรับรุ่นนี้ยังมาพร้อมแร็คหลังที่เหมาะกับสายเดินทางที่ต้องการรัดบรรทุกสัมภาระในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางระยะใกล้หรือไกล อีกทั้งยังมีออปชันเสริมกระเป๋าข้างแบบแข็งจุข้างที่สามารถจุได้ถึง 17 ลิตร สามารถรับน้ำหนักสูงสุดถึง 3 กิโลกรัม และยังมาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำอีกด้วย ใครที่เดินทางบ่อย ๆ และมีสัมภาระจุกจิกเยอะ รุ่นนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจเช่นกันค่ะ

Honda NT1100 รุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ทรงพลัง 2 สูบเรียง 1,100 ซีซี และเทคโนโลยี Dual Clutch Transmission (DCT) ช่วยให้การขับขี่ของคุณสามารถโลดแล่นได้ทุกเส้นทาง จุดเด่นของรุ่นนี้ยังมีดีไซน์สปอร์ตทัวร์ริ่งที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การขับขี่ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเข้าโค้งไหนก็สามารถควบคุมรถได้ดั่งใจ ขับขี่ได้สนุก ไม่มีสะดุด อีกทั้งยังมีรูปแบบการขับขี่ที่สามารถปรับได้ถึง 5 โหมด เพื่อให้คุณสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันหรือเดินทางไกลได้อย่างคล่องตัว

TRACER 9GT รุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์สามลูกสูบที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมไปถึงพละกำลังแรงบิดขนาด 889 ซีซี และแรงม้าสูงสุด 119 แรงม้าที่ 10,000 รอบต่อนาที สำหรับรุ่นนี้ยังมีโครงสร้างแบบ Deltabox ทำให้รถมีน้ำหนักเบา สามารถควบคุมการขับขี่ได้อย่างมั่นใจ และคล่องตัวมากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีระบบ Cruise Control ช่วยควบคุมความเร็ว และยังสามารถปรับตำแหน่งเบาะเพื่อให้ได้ท่าทางในการขับขี่ที่เหมาะสม ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้ตำแหน่งขับขี่ที่เข้ากับทุกสรีระ

สำหรับรุ่นนี้จะเน้นรูปแบบการขับขี่ที่สะดวกสบาย เพราะมีแฮนเดิ้ลบาร์ขนาดใหญ่ทำให้ง่ายต่อการควบคุม และยังมีระบบความปลอดภัยมาตรฐาน Traction Control สามารถสั่งงานผ่านกล่อง ECU ที่ประมวลผลด้วยเซนเซอร์ 5 จุด ทำให้สามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ โครงสร้างตัวของรถยังเป็นแบบ Aluminum Twin – Spar ทำให้ที่มีน้ำหนักเบาควบคุมรถได้ง่าย ไม่เมื่อยหากต้องเดินทางไกล นอกจากนี้ยังมีการใช้วงล้อแบบซี่ลวดที่ผลิตจากอะลูมิเนียมและยางแบบ Tubeless ทำให้ขับขี่ได้นุ่มนวลทุกสภาพถนน

FJR13000 รุ่นนี้มาในรูปแบบของสปอร์ตทัวร์ริ่ง มีแฮนเดิ้ลบาร์แบบยกสูง เหมาะสำหรับคนที่ชอบรถสไตล์ Big Bike อีกทั้งรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับพลังแรงม้าที่สูงถึง 146 แรงม้า ทำให้เร่งเครื่องได้ดีไม่มีตก จะทางลาดชันหรือขึ้นเขาก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย ให้ความคล่องตัวได้ดี รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัย ABS และระบบ UBS สามารถช่วยกระจายแรงเบรกไปยังล้อทั้งสองข้างให้เท่ากัน ทำให้ขับขี่ได้อย่างมั่นใจ รวมไปถึงถังน้ำมันที่สามารถจุได้ถึง 25 ลิตร หมดกังวลเรื่องการแวะเติมน้ำมันไปได้เลย

Z250 พร้อมรูปลักษณ์แบบเฉียบคม ดุดัน โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากสไตล์ Sugomi ของรถรุ่นเรือธงในตระกูล Z สื่อให้เห็นถึงความคล่องแคล่ว ดุดันและแข็งแรงทรงพลังในตัว รุ่นนี้สามารถขับขี่ได้ทุกเส้นทางไม่ว่าจะเส้นทางในเมืองหรือเข้าป่าก็เอาอยู่ ซึ่งตัวถังของรุ่นนี้ยังมีน้ำหนักเบา ช่วยให้การควบคุมทำได้อย่างมั่นใจ ระบบโช้คอัพหน้ายังเป็นแบบเทเลสโคปิค ทำให้ช่วยเพิ่มศักยภาพในการซับแรงตอบสนองต่อการขับขี่ได้ดีขึ้น ช่วยเสริมความมั่นคงในการยึดเกาะถนน อีกทั้งยังเป็นมอเตอร์ไซค์เดินทางไกลที่เหมาะกับมือใหม่ด้วย

สำหรับ BMW C 400 GT รุ่นนี้อาจมีความแตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ เนื่องจากเป็นมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์ขนาดกลางที่สามารถรองรับทั้งการเดินทางทั่วไปในเมืองและการเดินทางระยะไกล อีกทั้งรุ่นนี้ยังมีระบบ Navigator ที่คอยช่วยเหลือให้คุณไปยังจุดหมายได้อย่างสะดวกสบาย เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินทางระยะไกลแบบชิว ๆ ที่ไม่ต้องลุยเส้นทางสมบุกสมบันมากนัก ซึ่งรุ่นนี้ยังมีการออกแบบเบาะตามหลักสรีรศาสตร์ ช่วยให้คุณนั่งได้อย่างสบายและมั่นใจในทุกการเดินทาง