ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
คุณอีฟจบคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมีความสนใจในเรื่องเครื่องสำอางและการแต่งหน้าเป็นพิเศษตั้งแต่สมัยเรียน จึงเข้าคอร์สอบรม Beauty Makeup จากสถาบัน International Makeup Center (IMC) จนได้รับรางวัล The Best Makeup Artist of the Class จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นในสายงานนี้ นอกเหนือจากการแต่งหน้าแล้ว คุณอีฟยังสนใจด้านการทำเล็บและขนตา จึงสมัครเข้ารับการอบรบ Nail Care & Art Gel Training Program ของสถาบัน Nail It! Tokyo Academy Education และ YUMI Lashes Training Course จาก YUMI LASHES เพิ่มเติม ปัจจุบันคุณอีฟทำงานเป็น Freelance Makeup and Hair Artist, Lashes Technician, Nail Artist พร้อมทั้งศึกษาต่ออยู่ที่ประเทศเยอรมนี โดยยังคอยติดตามเทรนด์การแต่งหน้า รวมถึงเครื่องสำอางใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพราะส่วนตัวแล้วคุณอีฟมองว่าก่อนการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ความงาม ผู้ใช้งานควรทำการศึกษาข้อมูลทั้งจากเว็บไซด์หลักของแบรนด์ เว็บไซด์แนะนำ รีวิวผลิตภัณฑ์ หรือรีวิวจากผู้ใช้อื่น ๆ เพื่อช่วยให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตัวเอง สามารถเนรมิตแต่งหน้าให้ออกมาได้อย่างสวยงามและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมากที่สุด
มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
กาวทำตาสองชั้นเองก็มีอยู่หลายประเภทเช่นกัน ดังนั้น สาว ๆ ควรรู้จักข้อดี-ข้อเสียของแต่ละประเภทและใช้เปรียบเทียบดูนะคะว่า ตัวเองเหมาะกับแบบไหน เพื่อที่จะไดเลือกซื้อกาวทำตาสองชั้นให้เหมาะกับตัวเองค่ะ
เนื่องจากผลิตภัณฑ์นี้มีหน้าที่เสริมให้ลุคของสาว ๆ ดูดีขึ้น ดังนั้น การทำความรู้จักกับความแตกต่างของกาวทำตาสองชั้นแต่ละประเภทเสียก่อนจึงถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะแต่ละประเภทของกาวนั้นมีผลต่อฟินิชลุคที่ต่างกันค่ะ
คนที่มีเปลือกตาหนาเสียจนทำให้เป็นสองชั้นได้ยาก ขอแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อกาวค่ะ เพราะจะเหนียวเกาะติดบนเปลือกตาได้ดี จึงสามารถทำให้ตาเป็นสองชั้นได้ง่ายกว่า แต่อีกด้านหนึ่งด้วยความเหนียวของกาวอาจจะทำให้เปลือกตาตึง พอกะพริบตาแล้วอาจจะความแตกได้ว่าติดกาวทำตาสองชั้นเอาไว้อยู่ นอกจากนี้ เมื่อเปลือกตาตึงเกินไปก็จะทำหลับตาไม่สะดวกจนท้ายสุดอาจทำให้ต้องลืมตานาน ๆ จนตาแห้งเลยทีเดียว ดังนั้น เวลาทากาวจะต้องระวังเรื่องของปริมาณด้วยนะคะ
กาวทำตาสองชั้นแบบเนื้อกาวมีข้อดีคือติดทนนานตลอดวัน เหมาะกับคนที่หนังตาหนา ทำตาสองชั้นได้ยาก แต่ข้อเสียคือเวลามองต่ำหนังตาจะเหลือกและล้างออกได้ยาก ถ้าล้างไม่ระวังและรุนแรงเกินไปก็อาจทำให้เกิดริ้วรอยที่ตาได้ เนื้อกาวจะมีทั้งแบบสีขาวและแบบใส โดยปกติทั้งสองแบบนั้นเมื่อกาวแห้งแล้วจะไม่เห็นสี แนะนำว่าควรใช้กาวประเภทนี้หลังแต่งหน้า เพราะถ้าแต่งหน้าก่อนพวกเครื่องสำอางจำพวกฝุ่นจะไปเกาะที่เนื้อกาวค่ะ
สำหรับคนที่เปลือกตาบางสามารถทำตาสองชั้นได้ง่าย ขอแนะนำให้เลือกแบบเนื้อฟิล์มที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าแบบเนื้อกาวค่ะ โดยเนื้อฟิล์มจะเคลือบเปลือกตาแล้วยกเปลือกตาขึ้นให้เป็นสองชั้นโดยที่ไม่เหนียวติดเปลือกตา จึงดูออกยากว่าทำชั้นตามา แต่จำเป็นต้องกะความกว้างของชั้นตาให้ดีก่อนทาซึ่งอาจต้องอาศัยความเคยชินสักหน่อย ไม่อย่างนั้นแล้วรูปร่างของตาสองชั้นอาจจะออกมาดูแปลกได้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม กาวทำตาสองชั้นแบบเนื้อฟิล์มนี้มักจะมีน้ำยางธรรมชาติ (Latex) ผสมอยู่ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะอาจทำให้เกิดการแพ้ในบางคน ดังนั้น กรณีของคนที่แพ้ยางธรรมชาติให้ตรวจสอบส่วนผสมก่อนและหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มียางธรรมชาตินะคะ
กาวทำตาสองชั้นแบบเนื้อฟิล์ม ข้อดีคือเนียนไปกับผิวเปลือกตามากกว่ากาวทำตาสองชั้นแบบเนื้อกาวค่ะ แม้หลับตาก็จะมองไม่ค่อยเห็นรอยกาว เนื้อไม่เหนียวติดเปลือกตา และล้างออกง่ายกว่าแบบเนื้อกาว แต่กาวทำตาสองชั้นชนิดนี้จะเหมาะสำหรับแค่คนที่หนังตาไม่หนา ทำตาสองชั้นง่าย สำหรับคนหนังตาหนาอาจจะเอาไม่อยู่เพราะเนื้อกาวเหนียวติดทนไม่พอ มีชั้นตาหลุดระหว่างวันอย่างแน่นอน
ในบรรดากาวทำตาสองชั้นจะมีบางผลิตภัณฑ์ที่มีสีออกขาวหรือมีความมันวาว จนเมื่อใช้แล้วทำให้ตาสองชั้นมีลักษณะผิดรูป แถมยังดูโดดเด่นเกินไปจนสะดุดตา ส่งผลให้คนรอบข้างรู้ได้ทันทีว่าไปทำอะไรกับเปลือกตาไว้ นับเป็นปัญหาใหญ่ทีเดียวสำหรับคนที่ตาชั้นเดียวหรือตาสองชั้นหลบใน อย่างไรก็ตาม วิธีการแต่งหน้าอาจจะช่วยปกปิดได้บ้าง ฉะนั้น สาว ๆ ควรเลือกกาวทำตาสองชั้นที่แต่งตาแล้วกาวไม่หลุด และแบบที่เมื่อลงอายแชโดว์บนตัวกาวแล้วจะไม่ไปกองรวมกันเป็นก้อน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้ฟินิชลุคของสาว ๆ ดูแนบเนียนเป็นธรรมชาติขึ้นค่ะ
การใช้กาวติดตาสองชั้นนั้น ถ้าจะให้ดีคือควรใช้กาวหลังจากแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพราะถ้าใช้ก่อนแต่งหน้าเครื่องอางแบบฝุ่นจะไปเกาะแล้วกองเป็นก้อนที่เปลือกตาได้โดยเราควรเลือกใช้กาวทำตาสองชั้นที่ไม่ทิ้งคราบกาว บางยี่ห้อจะทิ้งคราบกาวไว้ พอเรามองต่ำหรือหลับตาก็จะยิ่งเห็นชัดและดูไม่เป็นธรรมชาติ สำหรับบางยี่ห้อนั้นหลังกาวแห้งจะทิ้งความมันวาวไว้ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วหนังตาเราจะมีเนื้อด้านจึงทำให้เห็นได้ชัดว่าเราทาอะไรไว้ที่เปลือกตา แนะนำให้เลือกกาวที่แห้งแล้วเนื้อด้านเพื่อความเป็นธรรมชาติและดูกลืนไปกับผิวเปลือกตาค่ะ
หากจะพูดถึงช่วงเวลาที่เราจะหยิบกาวทำตาสองชั้นมาใช้ ก็คงหนีไม่พ้นช่วงเช้าที่แสนวุ่นวาย ซึ่งเวลาที่จะใช้แต่งเสริมเติมสวยก็น้อยอยู่แล้ว หากเจอกาวทำตาสองชั้นที่ใช้งานยาก ไม้กดชั้นเปลือกตาที่ใช้ลำบาก หรือกาวที่แห้งยาก การแต่งหน้าแต่งตาจากที่น่าจะเป็นเรื่องสนุกก็จะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากไปเสีย สาว ๆ จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้ง่าย เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ซึ่งแต่ละผลิตภัณฑ์ก็จะแตกต่างกันออกไปตามบริษัทผู้ผลิตอยู่แล้ว ทำให้สาว ๆ มีตัวเลือกมาช่วยตัดสินใจเพียบเลยล่ะค่ะ
สิ่งสำคัญสำหรับการใช้กาวติดขนตาให้ง่ายและรวดเร็วคือการฝึกฝนค่ะ ฝึกใช้กาวติดขนตาบ่อย ๆ เพื่อให้เรารู้และชินกับชั้นตาที่เราต้องการและมีความเหมาะสมกับรูปตาเรา หากเราชินแล้วก็จะไม่ต้องมานั่งกะชั้นตาทุกเช้า เพราะการหาชั้นตาที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนที่กินเวลามาก หากผิดพลาด ชั้นตาเราก็จะไม่เท่ากันหรือดูแปลกไปตลอดวันได้เลยค่ะ
ขึ้นชื่อว่าเป็นกาวก็จะไม่ถูกกับน้ำสักเท่าไร ดังนั้น สาว ๆ ที่มีกิจกรรมต้องโดนน้ำหรือต้องอาบเหงื่อเพราะเล่นกีฬา ต้องเลือกกาวทำตาสองชั้นที่มีคุณสมบัติกันน้ำได้ด้วยนะคะ โดยสังเกตจากตัวผลิตภัณฑ์ ถ้าหากมีการระบุว่าเป็น Waterproof ก็ถือว่าผ่านค่ะ
สาว ๆ ที่อยู่ในเมืองร้อนอย่างเรา กาวทำตาสองชั้นชนิด Waterproof ถือว่าเป็นสูตรที่เหมาะสมมากค่ะ ถ้าเลือกได้ก็ขอแนะนำให้มองหากาวทำตาสองชั้นแบบ Waterproof เพราะอากาศบ้านเราทั้งร้อนทั้งชื้น ไม่ว่าจะคราบเหงื่อหรือความมันบนผิวหน้าที่ขับออกมาระหว่างวันก็ล้วนมีผลกับควมติดทนของกาวทำตาสองชั้นทั้งนั้น การใช้กาวทำตาสองชั้นแบบนี้ย่อมมีส่วนช่วยให้กาวอยู่ทนตลอดวันกว่ากาวรุ่นปกติค่ะ
หากสาวตาชั้นเดียวหรือตาสองชั้นหลบในได้เริ่มลองใช้กาวทำตาสองชั้นแล้ว รับรองว่าจะต้องติดใจจนอยากจะใช้ทุกวัน แต่เนื่องจากผิวในส่วนเปลือกตาเป็นผิวที่บอบบาง ถ้าต้องออกแรงขัดถูเพื่อล้างทำความสะอาดเปลือกตาบ่อย ๆ คงจะไม่เป็นผลดี ดังนั้น สำหรับคนที่ใช้กาวทำตาสองชั้นบ่อย นอกจากจะเลือกแบบที่ทำตาสองชั้นให้ดูสวยได้แล้ว ยังควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ล้างออกได้ง่ายด้วยนะคะ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการทะนุถนอมเปลือกตาของตัวเราเองค่ะ
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากแต่หลายคนกลับมองข้ามเวลาใช้กาวติดขนตา คือ การหลีกเลี่ยงการจับ ถู หรือขยี้ตาระหว่างวัน เวลามีเหงื่อออกหรือหนังตาเริ่มมันเพราะน้ำมันที่ขับออกมาบนผิวระหว่างวัน การจับ ถูหรือขยี้ตาจะทำให้กาวติดขนตาหลุดได้ แถมยังเสี่ยงทำให้ผิวรอบดวงตาเกิดริ้วรอยได้อีกด้วย แนะนำให้ใช้กระดาษซับมันซับออกเบา ๆ ก่อนนะคะ กระดาษซับมันจะช่วยซับน้ำและน้ำมันออกจากเปลือกตาแถมลดความมันหรือความชื้น ทำให้กาวทำตาสองชั้นติดทนนานมากยิ่งขึ้นค่ะ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | ราคา | คะแนน | |
---|---|---|---|---|---|
1 | Etude House My Beauty Tool Double Eyelid Glue | 249 บาท ราคาปานกลาง | ติดทนนาน กาวทำตาสองชั้นและกาวติดขนตาปลอมในหนึ่งเดียว | ||
2 | D-Up Orishiki Eyelid Skin Flim | 590 บาท ราคาค่อนข้างสูง | จากเนื้อกาวเปลี่ยนเป็นเนื้อฟิล์ม ทาซ้ำระหว่างวันได้ แม้แต่งหน้าแล้ว | ||
3 | Koji Eyetalk | 490 บาท ราคาค่อนข้างสูง | เนื้อกาวเกลี่ยง่าย เปลี่ยนสีได้ อุดมไปด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ | ||
4 | Mejikaliner Night Quick Eyelid Essence Stick | 516 บาท ราคาค่อนข้างสูง | สูตรก่อนนอน ตื่นมาได้ตาสองชั้น อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ | ||
5 | Automatic Beauty Secret Clear Film | 390 บาท ราคาปานกลาง | เนื้อฟิล์มหนายกเปลือกตาอยู่หมัด กรดไฮยาลูรอนิคมอบความชุ่มชื้น | ||
6 | Dejavu Eyelid Tape | 300 บาท ราคาปานกลาง | คาโมมายล์และชาเขียวบำรุงเปลือกตา ไม่แสบตา ล้างออกง่าย | ||
7 | Automatic Beauty Secret Soft Film | 390 บาท ราคาปานกลาง | เนื้อฟิล์มจากธรรมชาติเหนียวและยืดหยุ่นสูง ได้ชั้นตาแนบเนียน | ||
8 | Daiso Double Eyelid | 60 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | สีเนื้อกาวกลืนไปกับผิวดูเป็นธรรมชาติ ผลิตในญี่ปุ่นแต่ราคาน่ารัก | ||
9 | SANUO Double Eyelid Styling Cream | 33 บาท ราคาต่ำ | กันน้ำกันเหงื่อ ติดแน่นทนนาน ทำความสะอาดได้ง่ายด้วยน้ำอุ่น | ||
10 | Pudaier Eyelid Liquid Glue | 95 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | เนื้อกาวอุดมไปด้วยส่วนผสมบำรุงผิว ปรับปริมาณการใช้ได้ง่าย |
กาวทำตาสองชั้นรุ่นนี้เป็นอีกรุ่นที่เนื้อกาวสามารถเปลี่ยนสีจากสีขาวเป็นสีใสเมื่อแห้งได้ นอกจากนี้ยังมีสัมผัสที่เรียบลื่น บางเบาและแห้งไว ทำให้ชั้นตาแนบเนียนเป็นธรรมชาติ หนังตาไม่ตกลงมา และที่สำคัญในกล่องยังมาพร้อมกับไม้กดชั้นตา ช่วยสร้างชั้นตาได้ง่ายขึ้น ระหว่างวันไม่เป็นคราบ ติดทนนานประมาณ 6 ชั่วโมง (กรณีที่เหงื่อออกไม่มาก) เหมาะสำหรับสาว ๆ ทุกคน นอกจากจะเป็นกาวทำตาสองชั้นแล้ว รุ่นนี้ยังสามารถเป็นกาวติดขนตาปลอมได้อีกด้วย สาว ๆ คนไหนที่ไม่อยากใช้อุปกรณ์เสริมสวยให้วุ่นวาย รุ่นนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่ช่วยประหยัดงบไปได้เยอะเลยค่ะ
นวัตกรรมใหม่ ๆ ดี ๆ ยังมีอีกมากมายที่เราผู้หญิงต้องลองใช้ กับกาวทำตาสองชั้นที่เมื่อทาตอนแรกจะเป็นเนื้อกาวแล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเนื้อฟิล์ม ที่แตกต่างชัดเจน คือ ต้องใช้หลังจากลงอายแชโดว์แล้ว เป็นข้อดีที่คาดไม่ถึงเพราะทำให้สามารถทาระหว่างวันได้ไม่ต้องกลัวเปลือกตาตกมาอยู่ที่เดิม ได้ลุคที่เป็นธรรมชาติ ในส่วนผสมมีลาเท็กซ์อยู่ด้วยคนที่แพ้ยางอาจจะต้องระวัง แต่ก็มี Hyaluronic Acid ผสมอยู่ช่วยลดการระคายเคืองได้ นอกจากนี้ ยังกันน้ำได้และทำความสะอาดได้ด้วยสบู่ล้างหน้า
กาวทำตาสองชั้นรุ่นยอดฮิตที่สาว ๆ หลายคนเลือกใช้ เพราะใช้ง่าย ได้ชั้นตาเป็นธรรมชาติ ติดทนนาน ระหว่างวันไม่มีหลุดลอกเป็นจุด ๆ ทำความสะอาดง่าย เพียงแค่ใช้คอตตอนบัดชุบน้ำแล้วถูออกเบา ๆ นอกจากนี้ในกล่องยังแถมไม้กดชั้นตาดีไซน์พิเศษรูปตัว Y ที่มีด้ามจับยาวเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับสาว ๆ เหมาะสำหรับสาวเปลือกตาบาง-ปานกลาง โดยเฉพาะคนที่เป็นมือใหม่ เนื้อกาวค่อนข้างเรียบลื่น มีสีขาว แต่เมื่อแห้งแล้วจะกลายเป็นสีใส อุดมไปด้วยมอยส์เจอไรเซอร์และสารสกัดจากดอกกุหลาบ แต่หากใครผิวแพ้ง่ายมากอาจต้องระวังสักนิด เพราะผสมน้ำหอมและพาราเบน
สาวไทยอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อแบรนด์นี้เท่าไร แต่ในญี่ปุ่นถือว่าได้รับความนิยมประมาณหนึ่งเลยค่ะ เพราะมีกาวทำตาสองชั้นมากมายหลายสูตร ซึ่งความน่าสนใจของรุ่นนี้อยู่ที่เนื้อกาวสูตรพิเศษ สำหรับใช้ก่อนนอน เพื่อให้ได้ตาสองชั้นในตอนเช้า ช่วยประหยัดเวลาการแต่งหน้าก่อนไปทำงานหรือไปเรียน เหมาะกับสาว ๆ มือใหม่ ผู้ที่มีเปลือกตาบางและมีผิวแพ้ง่าย อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น น้ำนมผึ้ง รากโสมเกาหลีและดอกพิโอนี่ ฯลฯ ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวตลอดการใช้งาน เนื้อกาวมีความนุ่มลื่นและมีสีค่อนข้างใสจึงเรียบเนียนกลืนไปกับทุกสีผิว
กาวทำตาสองชั้นสูตรเนื้อฟิล์มเข้มข้น มีความหนาเพียงพอที่จะเสริมให้ตาเป็นสองชั้นได้แม้ในเปลือกตารูปแบบใดก็ตาม อีกทั้งยังมีส่วนผสมดี ๆ ครบครันอย่าง Collagen เพิ่มความเฟิร์มให้เปลือกตา, Elastin เพิ่มความยืดหยุ่น และ Hyaluronic Acid ขนาดเล็กเพื่อความอิ่มเอิบของผิว วิธีการใช้ก็ง่ายเพียงทาแล้วทิ้งให้แห้งจากนั้นค่อยใช้ไม้กดสร้างชั้นตาในตำแหน่งที่ต้องการ อย่างไรก็ตามความเข้มข้นของเนื้อผลิตภัณฑ์ทำให้เกิดแวววาวขึ้นได้และอาจจะใช้เวลานานในการทำให้แห้งค่ะ
พูดถึง Dejavu ก็ต้องคิดถึงเครื่องสำอางเกี่ยวกับการแต่งแต้มดวงตาเพราะเขาดังด้านนี้ ครั้งนี้ก็เป็นกาวติดตาสองชั้นที่น่าใช้อีกตัวหนึ่ง เนื้อกาวมีส่วนผสมของคาโมมายล์และชาเขียวที่นอกจากช่วยยกกระชับผิวแล้วยังให้ความชุ่มชื่นแก่เปลือกตาขณะใช้จึงไม่ทำให้รู้สึกแห้งกร้าน เนื้อกาวใสแห้งค่อนข้างเร็ว ไม่เหลือเป็นคราบให้น่าสงสัย อีกทั้งทำความสะอาดง่ายเพียงใช้สำลีชุบน้ำชุ่ม ๆ เช็ดออก ไม่ทำให้เปลือกตาระคายเคืองแม้ใช้บ่อย ๆ มาพร้อมไม้กดชั้นตารูปร่างเหมาะมือ
กาวทำตาสองชั้นแบบเนื้อฟิล์มจาก Automatic Beauty หรือเรียกสั้น ๆ ว่า AB เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นอีกแบรนด์ที่มีชื่อเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ด้านนี้ เนื้อฟิล์มมีส่วนผสมในการเกาะติดทำจากธรรมชาติอย่างสารสกัดใบโรสแมรี่ ช่วยให้ฟิล์มเกาะติดเปลือกตาและสร้างชั้นตาได้อย่างอ่อนโยน พร้อมสารสกัดจากคาโมมายล์ช่วยให้ความนุ่มชุ่มชื้นให้ผิว เนื้อฟิล์มบาง ๆ สามารถใช้ได้ทั้งคนที่เปลือกตาบางและหนา เพียงปรับเพิ่มจำนวนครั้งในการทา อย่างไรก็ตามสูตรนี้มีส่วนผสมของลาเท็กซ์ค่ะ
กาวทำตาสองชั้นจากร้าน Daiso ที่ถ้าใครเคยไปญี่ปุ่นเป็นต้องรู้จัก แม้ไม่ใช่ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางโดยเฉพาะ แต่กาวทำตาสองชั้นตัวนี้ก็ผลิตในประเทศญี่ปุ่นซึ่งวางใจได้ในเรื่องคุณภาพและความอ่อนโยนต่อผิว ความเหนียวของกาวอาจจะไม่มากนัก เหมาะสำหรับคนที่เปลือกตาบางมากกว่า เนื้อกาวเป็นสีขาวเกลี่ยง่ายและจะเปลี่ยนเป็นสีใสเมื่อจะแห้งจึงไม่เห็นเป็นคราบ ปริมาณที่ทาก็ไม่ต้องใช้เยอะ ในราคานี้มีไม้กดชั้นตามาให้ด้วยถือว่าคุ้มมากค่ะ
กาวทำตาสองชั้นแบบปากกาปลายแปรงอีกรุ่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเว็บจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ด้วยราคาที่ซื้อหาง่ายแต่คุณภาพเกินคุ้มโดยเฉพาะคนที่ต้องใช้งานทุกวัน ใช้แล้วไม่เป็นรอยให้ใครรู้ว่าเป็นตาสองชั้นทำเอง เสียงตอบรับจากสาว ๆ ที่ใช้คอนเฟิร์มว่าเนื้อกาวมีความหนืดยึดเปลือกตาได้ทนทาน แห้งเร็วทันใจไม่ต้องรอนาน กันได้ทั้งน้ำและเหงื่อ แต่ก็ล้างออกได้ง่ายเพียงใช้สำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดถู ทากาวก่อนแล้วแต่งหน้ายิ่งทำให้ดูแนบเนียนมากขึ้นค่ะ
กาวทำตาสองชั้นแบบเนื้อกาวที่มาในรูปแบบปากกาหัวแปรง ใช้งานได้ง่ายและแสนสะดวกเพียงแค่หมุนตัวปากกาเนื้อกาวก็จะไหลออกมา โดยเราสามารถหมุนหัวปากกาย้อนเพื่อปรับปริมาณกาวที่ต้องการได้ ตัวเนื้อกาวมีสีใส ช่วยให้สร้างตาสองชั้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ อ่อนโยนต่อเปลือกตาด้วยส่วนผสมบำรุงผิวอย่าง Placenta, Collagen, Hyaluronic Acid ล้างออกได้ง่าย จากเสียงของสาว ๆ ทำให้ทราบว่า เนื้อกาวค่อนข้างติดทนนาน แต่ไม่เหมาะกับการใช้หลังแต่งหน้าค่ะ
สำหรับมือใหม่ที่พึ่งได้มีโอกาสฝึกทำตาสองชั้นนั้น อาจจะมีข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับการทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการหาตำแหน่งในการทำตาสองชั้น และเราควรใช้กาวตอนก่อนแต่งหรือหลังแต่งหน้า ในวันนี้ เรามีคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกันค่ะ
ก่อนอื่นให้ใช้ไม้รูปตัว Y ที่มักแถมมากับกาวติดตาสองชั้น กำหนดชั้นตาสองชั้นและตำแหน่งที่เราต้องทากาวก่อน โดยใช้ไม้กรีดเป็นเส้นกดไปให้เกิดชั้นตาตามที่เราต้องการ และจดจำระยะชั้นตาสองชั้นไว้ จากนั้นให้หรี่ตามองลงที่พื้นเพื่อให้เปลือกตาไม่เกิดชั้นในขณะที่ทากาวแล้วทาลงบนเส้นพับที่เรากะไว้ได้เลย
สำหรับวิธีการทากาวนั้น ให้ทาไปในบริเวณชั้นตาที่เรากำหนดไว้ตอนแรกตั้งแต่แนวเส้นขนตาไปจนถึงบริเวณเส้นโค้งของชั้นตาที่เรากำหนด รอประมาณหนึ่งนาทีหรือจนกว่ากาวจะเซ็ตตัว จนกาวขาว ๆ กลายเป็นฟิล์มใสเนียนไปกับเปลือกตา แล้วจึงนำไม้ตัว Y กดลงบนหนังตาเพื่อให้เกิดเส้นพับใหม่ที่จะเป็นตาสองชั้นของเรา ดันชั้นหนังตาล่างขึ้นไปบริเวณที่ทากาวไว้ แล้วดันชั้นให้เนียนตามต้องการค่ะ
จะทากาวทำตาสองชั้นก่อนหรือหลังขึ้นอยู่กับชนิดของกาวที่เลือกใช้มากกว่าค่ะ แนะนำให้ดูวิธีใช้บนกล่องผลิตภัณฑ์ โดยส่วนตัวแล้วเราใช้กาวทำตาสองชั้นหลังจากแต่งหน้าเสร็จค่ะ ทริคคือก่อนทากาวทำตาสองชั้น ให้ใช้คัตตอนบัตหัวแหลมหรือคัตตอนบัตขนาดเล็กชุบเมคอัพรีมูฟเวอร์แล้วลบเครื่องสำอางตรงรอบพับตาออกเพื่อให้กาวไปสัมผัสกับผิวเปลือกตาเราโดยตรงและทำให้ติดแน่นทนนานมากกว่า สาเหตุที่ให้ใช้หลังแต่งหน้าเสร็จก็เพราะว่าหากเราใช้ก่อนแต่งหน้า เครื่องสำอางจำพวกฝุ่น เช่น อายแชโดว์หรือแป้งฝุ่น อาจจะไปเกาะที่กาวทำให้เป็นคราบและเครื่องสำอางจะไปกองเป็นก้อนได้ค่ะ
การติดขนตาปลอมจะช่วยยกชั้นเปลือกตาได้ในระดับหนึ่งค่ะ เพราะความหนักของขนตาที่เพิ่มขึ้นจะดึงรั้งหนังตาเราลงมานิดหน่อย แต่ไม่ควรเลือกขนตาปลอมที่หนาและหนักเกินไปนะคะ เพราะจะยิ่งรั้งให้เปลือกตาดูหนัก แทนที่เราจะได้ดวงตาที่ดูสวยโดดเด่น อาจจะทำให้ดูตาปรือเหมือนคนง่วงนอนแทนค่ะ
เราควรเลือกซื้อกาวให้เข้ากับสภาพผิวเป็นหลักค่ะ ถ้าเป็นคนผิวแพ้ง่ายก็ควรเลือกสูตรเหมาะกับผิวแพ้ง่าย ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์จะได้ไม่เกิดระคายเคืองหรืออาการแพ้ นอกจากนี้ คุณควรเลือกซื้อกาวทำตาสองชั้นที่มีคุณภาพดี ใช้แบรนด์ที่ผ่านการตรวจสอบและรับรองว่าไม่มีอันตราย ก่อนใช้กับเปลือกตาควรลองเทสต์ดูกับท้องแขนหรือข้อมือเพื่อดูว่าแพ้หรือไม่ และสามารถเช็กได้ในขั้นตอนนี้ว่ากาวติดแน่นทนนานแค่ไหน ที่สำคัญคือ ไม่ควรซื้อกาวทำตาสองชั้นราคาถูกหรือกาวสองชั้นที่ไม่ผ่านการตรวจสอบมาใช้ เพราะอาจจะมีสารปนเปื้อนที่ทำให้ระคายเคืองหรือก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ค่ะ
กาวทำตาสองชั้นเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับสาว ๆ ตาชั้นเดียว เพราะนอกจากจะไม่ต้องเจ็บตัวแล้ว ค่าเสียหายยังน้อยกว่าอีกด้วยค่ะ แถมวิธีเลือกซื้อก็ง่ายแสนง่าย แค่ศึกษาว่ากาวประเภทไหนเหมาะกับเปลือกตาแบบใด จากนั้นก็ติดตามเคล็ดลับที่เราบอกและอาจจะแต่งแต้มอายแชโดว์เพิ่มสีสันลงไปอีกสักหน่อยสำหรับวันที่ต้องการความโดดเด่นมากเป็นพิเศษ เพียงเท่านี้ตาของสาว ๆ ก็จะสวยสดใสแล้วล่ะค่ะ อย่างไรก็ตาม สาว ๆ อย่าลืมเช็ดทำความสะอาดหรือดึงกาวออกทุกครั้งด้วยนะคะ เพราะผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่ได้ถูกผลิตมาให้ใช้คงทนหลายวัน หากสาว ๆ ลืมทำความสะอาด ผิวที่บอบบางอย่างบริเวณเปลือกตาอาจเกิดการระคายเคืองทำเอาหมดสวยได้ค่ะ
อันดับที่ 1: Etude House|My Beauty Tool Double Eyelid Glue
อันดับที่ 2: D-Up|Orishiki Eyelid Skin Flim
อันดับที่ 3: Koji |Eyetalk
อันดับที่ 4: Mejikaliner |Night Quick Eyelid Essence Stick
อันดับที่ 5: Automatic Beauty |Secret Clear Film
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ