ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ
ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ CC Cream กันว่าต่างจาก BB Cream อย่างไร พร้อมทั้งแนะนำวิธีการเลือกCC Cream ให้เหมาะกับสภาพผิวจากคำแนะนำของเมคอัพอาร์ทติสต์มืออาชีพ และยังมี 10 อันดับ CC Cream จากแบรนด์ดังที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง โดยมีทั้งสูตรสำหรับผิวแห้ง ผิวมันและผู้ที่มีปัญหาสิวมาให้ทุกคนเป็นแนวทางในการเลือกซื้อด้วย
คุณเจี๊ยบได้เริ่มเข้าสู่วงการแต่งหน้ามาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมเพราะมี Passion ในด้านการแต่งหน้าและความสวยความงามเป็นพิเศษ จึงตัดสินใจไปเรียนแต่งหน้าที่สถาบัน Makeup Techniques Inter จนเรียนจบมาในปี 1998 และเดินหน้าสู่เส้นทางช่างแต่งหน้าอาชีพมากว่า 28 ปี โดยตลอดระยะเวลาในสายอาชีพนี้ คุณเจี๊ยบได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การแต่งหน้าที่หลากหลายและนำมาพัฒนาเป็นเทคนิคแต่งหน้าของตัวเอง จนได้รับการโหวตให้เป็นหนึ่งใน 10 อันดับ สุดยอดช่างแต่งหน้าเจ้าสาวบนกระทู้และเว็บไซต์ต่าง ๆ ต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ปัจจุบันคุณเจี๊ยบเป็นทั้งช่างแต่งหน้าเจ้าสาวและเจ้าของสถาบันสอนแต่งหน้า Jeabmakeup Studio โดยรับสอนตั้งแต่การแต่งหน้าเริ่มต้นเพื่อประกอบอาชีพ ไปจนถึงการสอนแต่งหน้าเพื่อ Up Skill แต่งหน้าเจ้าสาวโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังมีทั้งเพจ Facebook ที่มีผู้ติดตามถึง 7 หมื่นกว่าคนและช่องทาง Instagram ที่โชว์ผลงานแต่งหน้า โดยมีผู้ติดตามถึง 2 หมื่นกว่าคนด้วย
คุณอีฟเรียนจบคณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้แต่งงานและย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2017 ปัจุบันทำงานเป็นพนักงานฝ่ายประสานงานให้กับคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติในจังหวัดคานะกะวะ รวมทั้งยังเป็นล่ามฟรีแลนซ์และทำงานอาสาสมัครหลายอย่าง คุณอีฟมีงานอดิเรกที่ชื่นชอบเป็นชีวิตจิตใจก็คือ การทำอาหาร โดยจะชอบคิดสูตรทำอาหารใหม่ ๆ เองและยังสอนทำอาหารไทยให้กับคนญี่ปุ่นเป็นครั้งคราวอีกด้วย นอกเหนือจากการทำอาหารแล้วยังมีความสนใจในด้านการแต่งหน้าเป็นพิเศษ โดยมักจะชอบอ่านรีวิวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งเครื่องสำอางและสกินแคร์ ด้วยใจรักในด้านนี้คุณอีฟจึงเคยรับแต่งหน้ามาแล้วหลายเคส ทั้งแต่งหน้าไปงาน รับปริญญาและแต่งหน้าเจ้าสาวทั้งที่ไทยและญี่ปุ่น
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
BB Cream (Blemish Balm Cream) เริ่มต้นมาจากในวงการแพทย์มาก่อนเพื่อใช้กับคนไข้ที่ผ่านการรักษาเลเซอร์ แล้วทิ้งร่องรอยแผลเป็นไว้ จึงถูกนำมาใช้ในการปกปิดรอย จุดด่างดำและสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งสามารถปกปิดได้ดี โดยจะใช้ปกปิดรอยกระ ฝ้า สิวและจุดด่างดำต่าง ๆ บนใบหน้าได้เรียบเนียน แต่เนื่องจากมีเฉดสีน้อย จึงอาจทำให้เกิดหน้าดรอปและหมองง่ายในระหว่างวันได้
ส่วน CC Cream (Color Correcting Cream) นั้นเกิดขึ้นหลังจาก BB Cream โดยมาจากการใช้ทฤษฎีการแก้ไขสี แถมยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีไว้เพื่อแก้ไขปัญหารอยแดง รอยดำ ที่มีส่วนผสมของการกระจายอนุภาคแสง และปรับให้ผิวดูกระจ่างผ่องใส มีจุดเด่นคือ ช่วยปรับระดับสีผิวให้ดูสว่างกระจ่างและเรียบเนียนขึ้น ช่วยอำพรางปัญหารอยแดงและรอยดำได้ดี พร้อมมีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและมีส่วนผสมป้องกันยูวี แต่มีข้อด้อยคือ ระดับการปกปิดน้อยกว่า BB Cream
โดยสรุปแล้ว BB Cream กับ CC Cream จะต่างกันในเรื่องของระดับการปกปิด ซึ่ง CC Cream จะเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีปัญหาผิว หรือรอยสิวมากนัก แต่อยากจะให้หน้าดูผ่องและเนียนแบบธรรมชาติ หรือต้องการปรับสภาพผิวได้เพียงเฉพาะจุด สำหรับคนเป็นสิวก็สามารถใช้ได้ทั้ง 2 ตัว แต่ต้องวิเคราะห์ปัญหาบนใบหน้าว่ามีปัญหามากน้อยแค่ไหน ถ้ามีปัญหาเรื่องรอยสิวจุดด่างดำมากควรใช้ BB Cream จะปกปิดได้ดีกว่า
・สูตรดั้งเดิมจะมีโทนสีหลักคือ สีชมพู สีเหลือง สีเขียว และสีเนื้อ ซึ่งช่วยเรื่องปรับสภาพผิว ลดรอยต่าง ๆ จึงส่งผลให้หน้าสว่างใสขึ้น และสามารถอำพรางรอยต่าง ๆ บนใบหน้าได้ดีในระดับหนึ่ง
แม้ CC Cream จะไม่ได้มีให้เลือกหลายประเภทมากเหมือนรองพื้น แต่เพื่อให้การแต่งหน้าออกมาดีที่สุด จึงควรเลือกฟินิชลุคและโทนสีให้เหมาะกับสภาพผิวหน้าของตนเองมากที่สุด ดังนั้น เราจึงได้รวบรวมวิธีการเลือก CC Cream มาให้พิจารณากันดังนี้ค่ะ
สำหรับสาว ๆ สายงานเมคอัพแบบเบา ๆ ที่ไม่ได้ต้องการการปกปิดมากนัก หรือคนที่ไม่ต้องการใช้รองพื้น แต่ยังสามารถแต่งหน้าให้ผิวหน้าผ่องใส ไม่หมอง และอำพรางริ้วรอยทั่วไปได้ CC Cream ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเรามีหลักในการเลือกแบบง่าย ๆ มาฝากกันดังนี้
CC Cream จะมีฟินิชลุคด้วยกัน 2 แบบ คือ แบบแมตต์และแบบโกลว์ ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องเลือกตามสภาพผิวของตนเอง โดยฟินิชแมตต์เหมาะสำหรับผิวมัน เพราะเนื้อแมตต์จะไม่ทําให้ดูผิวมัน หรือเงา ส่วนฟินิชโกลว์จะเหมาะสำหรับผิวแห้ง เพราะจะช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน
แต่เนื่องจาก CC Cream จะให้การปกปิดในระดับปานกลางถึงน้อยเท่านั้น จึงไม่เหมาะกับคนเป็นสิว มีฝ้า กระ หรือมีปัญหาผิวเยอะ และหากต้องการความเรียบเนียนมากขึ้น ขอแนะนำว่า อาจจะต้องใช้ไพรเมอร์และคอนซีลเลอร์ร่วมด้วยในการแต่งหน้า นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่มีปัญหาบนใบหน้าเด่นชัด ขอแนะนำให้ใช้การลงทีละน้อย ๆ แล้วค่อย ๆ ลงเพิ่มเติมทีละชั้นเฉพาะจุดที่ต้องการปกปิด แต่หากต้องการให้ปกปิดได้สนิทควรใช้คอนซีลเลอร์ร่วมแก้เฉพาะส่วนจะดีกว่า
อย่างไรก็ตาม หากต้องการให้เมคอัพติดทนมากยิ่งขึ้น ผู้ใช้งานจะต้องเน้นการเตรียมผิวให้ดีก่อนโดยลงสกินแคร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวและก่อนที่จะลง CC Cream ขอแนะนำให้ลงไพรเมอร์ร่วมด้วย อีกทั้งสิ่งสำคัญที่สุดคือ การทำความสะอาดผิวหน้าที่ถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงการอุดตันผิวและปัญหาสิว
・Hyaluronic Acid ช่วยในเรื่องการอุ้มน้ำของผิวและคงความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า
・วิตามิน E ช่วยให้ความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นกับผิว รวมถึงยังช่วยลดการอักเสบของผิวด้วย
นอกจากนี้ ยังมีสารสกัดจากธรรมชาติอีกมายมายที่พบได้ใน CC Cream หลาย ๆ แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นสารสกัดจากว่านหางจระเข้ สารสกัดจากน้ำมันอะโวคาโด สารสกัดจากคาโมมายล์ หรือสารสกัดจากเมือกหอยทาก เป็นต้น จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนผิวแห้ง
สำหรับคนเป็นสิวและผิวแพ้ง่าย แต่ต้องการปรับโทนสีผิวให้ผ่องใสขึ้น หรือช่วยอำพรางรอยแดงรอยดำจากปัญหาสิว โดยอยากหลีกเลี่ยงการใช้รองพื้น การเลือกใช้ CC Cream ที่มีส่วนผสมที่ช่วยในเรื่องของสิว และลดการระคายเคืองก็จะสามารถแต่งหน้าที่ให้ผลลัพธ์ของผิวดูสว่างเป็นธรรมชาติโดยที่ไม่หนักหน้าได้
ส่วนสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองที่อาจพบได้ใน CC Cream ได้แก่ ปิโตรเลียมเจลลี่ และซิลิโคนเกรดต่ำ หากมีส่วนผสมเหล่านี้จะมีโอกาสทำให้เกิดสิวเพิ่มได้ รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมของแอลกอฮอล์ พาราเบน และน้ำหอม เพราะสารเหล่านี้จะกระตุ้นทำให้เกิดการระคายเคืองได้
ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนและแดดแรงในเมืองไทย แน่นอนว่ามีทั้งรังสี UVA และ UVB ที่ทำลายผิว ดังนั้น การเลือก CC Cream ที่มีส่วนผสมของสารกันแดด ยังเป็นข้อดีที่จะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ในการใช้ชีวิตประจำวันได้ โดยปกติแล้วสารกันแดดใน CC Cream จะมีค่าเริ่มตั้งแต่ SPF25 / PA+++ จนถึง SPF50+ / PA++++ โดยการป้องกันแสงแดดนั้นก็ขึ้นอยู่กับค่า PA ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำว่าควรเลือกใช้ให้เหมาะกับกิจกรรมของตนเองจะดีกว่า เช่น ผู้ที่ต้องออกไปทำกิจกรรมเผชิญกับแสงแดดกลางแจ้งตลอดทั้งวัน ก็ไม่ควรใช้แค่สารกันแดดใน CC Cream เป็นหลัก แต่ควรทาครีมกันแดดก่อนลง CC Cream เพื่อให้การป้องกันที่มีประสิทธิภาพมากกว่า
สำหรับผู้ที่ต้องเผชิญกับแดดทั่วไปและไม่ได้อยู่กลางแจ้งตลอดทั้งวัน ขอแนะนำให้ใช้ CC Cream ที่มีค่า SPF ที่ป้องกันเพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวันจะดีกว่า และไม่มีความจำเป็นต้องเลือกค่า SPF ที่สูงเกินไป ซึ่งค่า SPF 30 PA +++ ก็อาจเพียงพอต่อการใช้แล้วค่ะ
CC Cream ที่รู้จักกันแพร่หลายจะเป็นรุ่นที่ใช้ทฤษฎีสีเข้ามาช่วยในการปรับโทนสีของผิว อำพรางรอยแดง รอยดำ และรอยคล้ำ โดยจะมีทั้งหมด 4 โทนสี ดังนี้
・โทนสีชมพู Pink, Light Beige เหมาะสำหรับผิวขาวเพื่อปรับผิวให้กระจ่างใส
・โทนสีเขียว Green เหมาะสำหรับผิวขาวที่มีปัญหารอยแดงจากสิว
・โทนสีเนื้อ Medium Beige เหมาะสำหรับผิวปานกลางถึงผิวสองสี
・โทนสีเหลือง Honey Beige เหมาะสำหรับผิวคล้ำ
ในปัจจุบัน CC Cream ไม่ได้มีเพียง 4 สีเท่านั้น แต่ยังพัฒนาให้มีเฉดสีให้เลือกใช้ใกล้เคียงกับผิวจริง เช่น บางแบรนด์มีให้เลือกถึง 12 เฉดสี และสีค่อนข้างคล้ายกับรองพื้น ซึ่งยังช่วยเรื่องของการปรับสภาพผิวด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจากจำนวนเฉดสีที่มากและใกล้เคียงกับสีผิว จึงช่วยในเรื่องของการปกปิด แต่ยังให้ผิวดูบางเบา เรียบเนียนเป็นธรรมชาติและยังช่วยให้การแต่งหน้าสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งยังเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่อยากแต่งหน้าหลายขั้นตอน
ทั้งนี้ ก่อนการเลือกใช้ควรทดสอบโทนสีของ CC Cream ให้เหมาะกับโทนสีผิวได้จากการแนะนำเรื่องเฉดสีที่กล่าวไปว่าคุณมีสีผิวแบบไหน หรืออาจไปทดลองสีที่เคาน์เตอร์ที่ขายผลิตภัณฑ์จะดีที่สุด เพราะบางแบรนด์ก็มีหลายเฉดสีให้เลือกเช่นกัน นอกจากนี้ ควรเลือกระดับความสว่างของ CC Cream ตามความเป็นจริงของสภาพผิว เพราะในกรณีคนผิวคล้ำก็ไม่สามารถทำให้ขาวเกินกว่าความเป็นจริงได้ โดยส่วนใหญ่คุณสมบัติการให้ผลลัพธ์ของ CC Cream คือ การปรับผิวให้กระจ่างใสสว่างขึ้น แต่จะไม่ได้ช่วยให้ผิวขาวขึ้นนั่นเองค่ะ
สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | ราคา | คะแนน | |
---|---|---|---|---|---|
1 | Cathy Doll CC Cream Speed White CC Cream SPF50 PA+++ | 275 บาท ราคาค่อนข้างต่ำ | โทนอัพให้กับผิว ไม่ดรอป คุมมันดี ช่วยลดการระคายเคือง | ||
2 | CHANEL CC Cream SUPER Active Complete Correction SPF50 | 2,500 บาท ราคาค่อนข้างสูง | เนื้อสีบางเบา กระจายแสงให้ผิวดูโกลว์ สว่าง สดใส ไม่แห้งตึง | ||
3 | iT COSMETICS CC Cream Your Skin But Better™ CC+™ Oil Free Matte SPF 40+ | 1,850 บาท ราคาค่อนข้างสูง | ปกปิดสูง ไม่ตกร่อง ดูดซับความมันดี ใช้แทนคอนซีลเลอร์ได้ | ||
4 | MERREZ'CA CC Cream Color Correcting CC cream | 59 บาท ราคาต่ำ | นุ่มลื่น เกลี่ยง่ายไม่เป็นคราบ กันน้ำ กันเหงื่อและมีกันแดดสูง | ||
5 | Smooth E CC Cream White Babyface | 540 บาท ราคาปานกลาง | สารกันแดดแบบออร์แกนิค กันแสงสีฟ้า ยืดหยุ่นสูง คุมมันดี | ||
6 | COSLUXE CC Cream Matte & Glow Cream Highlighters | 59 บาท ราคาต่ำ | ใช้ใน 2 แบบ เซ็ตตัวเร็ว ผิวแมตต์สบาย โดยไม่ต้องลงแป้งฝุ่น | ||
7 | 4U2 CC Cream Skin First CC Cream SPF50 / PA++++ | 499 บาท ราคาปานกลาง | ผลิตภัณฑ์วีแกน มีสีให้เลือกเยอะ ให้ผิวผ่อง ปกปิดได้สูงสุด | ||
8 | KOSE CC Cream Sekkisei White CC Cream | 850 บาท ราคาปานกลาง | เนื้อโปร่งสบายสไตล์งานผิว ผิวสว่าง เบลอรูขุมขนให้ซอฟต์ | ||
9 | FASIO CC Cream CC Liquid Touch Proof | 315 บาท ราคาปานกลาง | มีสารบำรุงผิว ทาแล้วไม่เปลี่ยนสี ผิวไม่ขาวลอยและหมองคล้ำ | ||
10 | SK-II CC Cream Atmosphere CC Cream SPF 50 PA++++ | 3,800 บาท ราคาสูง | ไมโครเพิร์ลช่วยกระจายแสง มอบฟินิชผิวที่โกลว์และชุ่มชื้น |
ผู้ที่มีปัญหารอยแดงอันเนื่องมาจากผิวเกิดการอักเสบ มีรอยแดงจากสิว ผิวหมองคล้ำ หรือต้องการให้ผิวดูสม่ำเสมอ เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ CC Cream ที่มีโทนสีให้เลือกทั้งหมด 4 เฉดสี ได้แก่ สีกรีนช่วยเรื่องรอยแดง ส่วนสีไลท์เบจ สีฮันนี่เบจ และสีมีเดียมเบจจะช่วยเรื่องสภาพผิวที่ไม่สม่ำเสมอให้มีความสดใสยิ่งขึ้น ซึ่งทั้ง 4 สีนี้ยังช่วยในการเบลอรูขุมขน ริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ ให้ดูเรียบเนียน โดยจะไม่ดรอประหว่างวันและยังช่วยควบคุมความมันได้ดี
นอกจากนี้ เมื่อทาลงบนผิวแล้วจะแตกกลายเป็นน้ำที่ทาง่าย ไม่ทิ้งคราบ และแห้งเร็วโดยไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะ พร้อมมีส่วนผสมจากไฮยาลูรอนิค สารสกัดจากโรสแมรี่ อาร์บูติน สารสกัดจากชะเอมเทศ รวมถึงคาโมมายล์ช่วยเติมความชุ่มชื้น ลดการระคายเคืองและให้ผิวแข็งแรง ทั้งนี้ สำหรับสีไลท์เบจและสีกรีนจะค่อนข้างให้เอฟเฟกต์สีที่ค่อนข้างสว่าง เพื่อไม่ให้ผิวดูลอย แนะนำให้ใช้ในปริมาณที่น้อยและทาที่กึ่งกลางหน้าแล้วเกลี่ยให้กระจาย จะช่วยให้เนื้อสีดูเบาบางลง
แบรนด์ที่สาว ๆ ต่างชื่นชอบในความหรูหรา มาพร้อมดีไซน์ของแพ็กเกจที่ไม่เหมือนแบรนด์อื่น โดยเราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ CC Cream ที่มี 3 เฉดสีให้เลือก ซึ่งมีส่วนผสมสุดยอดของผลไม้อย่างคาคาดูพลัมที่มีวิตามินซีสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน พร้อมทั้งมีวิตามินอี โซเดียมไฮยาลูโรเนตและกลีเซอรีนช่วยโอบอุ้มความชุ่มชื้นให้ผิวมีความสดใส ไม่แห้งตึง และยังช่วยให้ผลิตภัณฑ์ CC Cream มีการเกาะตัวที่ผิวหน้าได้อย่างยาวนาน
ในส่วนของเนื้อสีนั้นจะเป็นสีเบจที่ช่วยปรับสภาพผิวให้สม่ำเสมอ บางเบา เกลี่ยง่าย แนบไปกับผิว และให้การปกปิดในระดับบางเบา จึงทำให้เหมาะกับสาวผิวแห้งและผู้ที่ไม่มีปัญหาผิว รวมถึงยังให้ฟินิชที่โกลว์และวาวเล็กน้อย อีกทั้งยังช่วยให้ผิวดูสว่างขึ้น พ่วงด้วยสารกันแดด SPF50 / PA+++ ช่วยป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ดี ทั้งนี้ ด้วยเนื้อสีที่มีความบางเบาทำให้ไม่สามารถปกปิดรอยแดง หรือรอยแดงได้ทั้งหมด ดังนั้น ขอแนะนำให้ใช้คอนซีลเลอร์ร่วมด้วย
แบรนด์นี้เด่นดังในเรื่องของ CC Cream อย่างมาก โดยได้รับความนิยมจากสาว ๆ มาอย่างยาวนาน ซึ่งในปัจจุบันก็มีผลิตออกมาหลายสูตร ในครั้งนี้เราจะขอแนะนำสูตรคุมมันที่ปราศจากส่วนผสมของน้ำมัน พร้อมมีส่วนผสมของสารบำรุงที่ช่วยดูแลผิวอย่างทีทรีออยล์ คอลลาเจน ไนอะซินาไมด์ กรดไฮยาลูรอนิค วิตามินอี ผงถ่าน เป็นต้น ซึ่งช่วยให้ผิวแข็งแรง มีความชุ่มชื้นพอดี และไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง หรืออุดตัน แถมยังช่วยดูดซับความมันได้เป็นอย่างดี
โดยเนื้อสัมผัสจะเนียนนุ่ม เกลี่ยง่าย ไม่แห้งเร็วจนเกินไปและปกปิดได้สูงสุด มาพร้อมสารกันแดด SPF40 ที่ป้องกันแสงแดดได้ดี อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นคอนซีลเลอร์ที่ไม่ทำให้เกิดการตกร่อง หรือหลุดลอก จึงเหมาะกับผิวผสมและผิวมันที่มีแนวโน้มเป็นสิว หรือผิวแพ้ง่าย ทั้งนี้ ด้วยสีที่มีให้เลือกมากถึง 5 เฉดสี ขอแนะนำให้ไปลองที่เคาน์เตอร์ หรือใช้ระบบการเทียบเฉดสี Find Your Shade ของ Sephora หรือเว็บไซต์ของทางแบรนด์ก็จะช่วยให้คุณได้เฉดสีที่ตรงกับผิว
ในปัจจุบัน CC Cream ได้มีการพัฒนาปรับปรุงสูตรและเนื้อสัมผัสให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้สามารถเกาะติดผิวได้นานตลอดทั้งวัน โดย CC Cream ที่เราจะแนะนำนี้เป็นสูตรคุมมันที่มีสีเนื้อที่จะช่วยในการปรับโทนสีให้มีความสว่าง พร้อมช่วยเบลอรูขุมขน ริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ หรือแม้แต่พื้นผิวที่ไม่เรียบเนียนให้ดูสมูทขึ้น ซึ่งจะมีส่วนผสมของซิลิโคนที่ช่วยให้เกลี่ยง่าย มีความนุ่มลื่น และยังช่วยในการยึดเกาะผิวให้ผลิตภัณฑ์มีการติดทนได้ยาวนาน
นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมจากมะนาวเวอร์บีน่าและสารสกัดจากใบชาเขียวที่ช่วยรักษาสิว รวมถึงยังช่วยลดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว อีกทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยกันน้ำ กันเหงื่อ คุมมัน ไม่อุดตันรูขุมขน แถมมีสารกันแดด SPF50+ / PA+++ ช่วยป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์นี้จะมีสีที่ค่อนข้างอ่อน จึงขอแนะนำให้ทาเฉพาะบริเวณทีโซนแล้วเบลนด์ให้กระจาย จะช่วยให้เนื้อครีมเบาบางลงและไม่ทำให้ผิวดูขาวจนเกินไป
ถ้าหากพูดถึงแบรนด์นี้หลายคนคงจะนึกถึงผลิตภัณฑ์วิตามินอีที่ช่วยลดรอยสิว ในครั้งนี้ทางแบรนด์ได้พัฒนาและคิดค้นผลิตภัณฑ์เมคอัพอย่าง CC Cream ซึ่งมีส่วนผสมของวิตามินอี อนุพันธ์จากวิตามินซี และอาร์บูติน ช่วยกักเก็บความชุมชื้น ให้ผิวมีความเรียบเนียนและยืดหยุ่นสูง มาพร้อมสารกันแดด SPF25 / PA++ ที่เป็น Organic Sunscreen ที่สกัดจากอบเชยที่สามารถช่วยป้องกันแสงแดดได้อีกขั้นและมีส่วนผสมของซิลิโคนช่วยเกาะยึดผิวได้ดี
ทางด้านเนื้อสัมผัสจะเป็นสีเนื้อที่สามารถปกปิดได้ในระดับปานกลาง เกลี่ยง่ายและสามารถปกปิดรอยแดง รอยดำจาง ๆ ได้ดี อีกทั้งยังคุมมันและช่วยปรับสภาพผิวที่ไม่สม่ำเสมอให้ผิวดูเนียนกริบ จึงเหมาะสำหรับผิวมันและผู้ที่เป็นสิวง่าย รวมถึงสาวเอเชียที่มีผิวขาวเหลืองและผิวสีน้ำผึ้ง รวมทั้งยังสามารถป้องกันแสงสีฟ้า แสงจากจอคอมพิวเตอร์และหลอดไฟได้อีกด้วย แต่สำหรับใครที่มีรอยดำชัดมาก ขอแนะนำให้ใช้คอนซีลเลอร์แตะย้ำแล้วเบลนด์ให้กลมกลืน
ฟินิชผิวที่ดูแมตต์อาจทำให้ผิวดูไม่มีมิติ เราขอแนะนำ CC Cream จากแบรนด์นี้ที่เหมาะกับสาวผิวมันที่รักการแต่งหน้า โดยผลิตภัณฑ์นี้จะมีซีซีครีมเนื้อแมตต์และครีมไฮไลต์เตอร์อยู่ด้วยกัน ซึ่งจะช่วยสร้างแสงเงาให้กับผิวโดยไม่ทำให้ผิวเหนียวเหนอะหนะ พร้อมด้วยประกายละเอียดจากชิมเมอร์ที่ทำให้ผิวดูแวววาวและสวยขึ้น มาพร้อมเทคโนโลยีของเม็ดสีที่ช่วยกระจายแสง แถมช่วยเบลอรูขุมขน รวมถึงยังช่วยปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนและสม่ำเสมอ
ทางด้านเนื้อสัมผัสจะมีความหนานุ่ม ปกปิดได้ในระดับปานกลาง เซ็ตตัวเร็ว ไม่เป็นคราบ หรือเกาะกันเป็นก้อน และมีสารกันแดด SPF30 / PA++ ที่พอเหมาะ อีกทั้งยังให้ฟินิชผิวที่ดูแมตต์ เบาสบายและติดทนนานโดยไม่จำเป็นต้องลงแป้งฝุ่น อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่มีผิวแห้งขาดน้ำ ขอแนะนำให้ทาบำรุง หรือใช้ครีมไฮไลต์เตอร์ผสมกับซีซีครีมแล้วทากึ่งกลางหน้าก็จะช่วยให้ผิวดูฉ่ำวาวมากขึ้น เพราะถ้าหากทาซีซีครีมเดี่ยว ๆ อาจจะทำให้ผิวยิ่งแห้งมากขึ้นกว่าเดิม
การดูแลผิวที่แห้งนั้นไม่เพียงแต่จะใช้สกินแคร์ที่ให้ผิวมีความชุ่มชื้นแล้ว ยังต้องพิถีพิถันเลือกผลิตภัณฑ์เมคอัพที่มีส่วนผสมช่วยบำรุงผิว ทำให้ผิวดูสวยและไม่แห้ง ดังนั้น ขอแนะนำ CC Cream รุ่นนี้ที่มี SPF50 / PA++++ ที่สูง ซึ่งมีส่วนผสมของวิตามินอีและโซเดียมไฮยาลูโรเนต จึงช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น เรียบเนียนและผ่องสวย ทำให้เหมาะสำหรับคนที่มีสภาพผิวแห้ง อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์วีแกนที่ปราศจากพาราเบน แอลกอฮออล์ และน้ำหอม
สำหรับเนื้อสัมผัสจะมีความนุ่ม ละเอียด รวมไปถึงมีเม็ดสีแน่นที่สามารถเพิ่มการปกปิดได้ในระดับปานกลางจนถึงสูงสุด แถมยังกระจายตัวที่ผิวได้ดีโดยไม่ทิ้งคราบ หรือทำให้ผิวเกิดขุย พร้อมทั้งมีให้เลือกทั้งหมด 4 เฉดสีที่เหมาะกับสาวเอเชียเป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างหนา สำหรับใครที่ต้องการให้เนื้อผลิตภัณฑ์บางเบามากขึ้นกว่านี้ ขอแนะนำให้ใช้ในปริมาณเล็กน้อยแล้วเกลี่ยด้วยแปรงแบน หรือใช้ฟองน้ำเกลี่ยก็จะช่วยให้ฟินิชผิวดูบางเบาขึ้น
สาว ๆ ผิวแห้งคนไหนที่ชอบฟินิชที่ดูโปร่งสบาย แต่ยังมีการเคลือบเม็ดสีให้ผิวดูสดใสและโกลว์สวยสไตล์งานผิว เราขอแนะนำ CC Cream แบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่นที่เด่นในเรื่องของส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติที่ช่วยลดความหมองคล้ำและให้ผิวดูเรียบเนียน โดยผลิตภัณฑ์นี้จะรวมเอาเซรั่ม อีมัลชั่น ครีม กันแดด เมคอัพเบสและรองพื้นเอาไว้ด้วยกันในหลอดเดียว ซึ่งจะให้การปกปิดที่บางเบาและสบายผิว โดยจะให้ฟินิชผิวที่ดูฉ่ำโกลว์แบบ No-Makeup
ซึ่งเนื้อสัมผัสจะมีความเนียนนุ่ม เกลี่ยง่ายและไม่ทำให้เกิดคราบ อีกทั้งยังมีส่วนผสมของ Snow Crystal Powder ที่ให้เอฟเฟกต์ผิวแบบ Soft Focus จึงช่วยเบลอรูขุมขน รวมทั้งสามารถกลบรอยแดงและรอยดำจาง ๆ ได้ มาพร้อมส่วนผสมจากวิตามินอี ดอกคำฝอย สารสกัดจากใบก็มีสารกลุ่มโพลีฟีนอล เป็นต้น ที่ให้ความชุ่มชื้นและให้ผิวดูสว่างขึ้น ทั้งนี้ ซีซีครีมจะมีให้เลือกเพียงแค่ 2 เฉดสีเท่านั้น สำหรับคนที่มีผิวเข้มมาก หลังจากทาเสร็จผิวจะดูสว่างขึ้นเล็กน้อย แต่พอซีซีครีมเซ็ตตัวจะพอดีกับผิว
สาวผิวมันจะมีสภาพผิวที่ค่อนข้างมันมากกว่าผิวประเภทอื่น ขอแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์เมคอัพแบบน้ำที่มีเนื้อบางเบาและสามารถเกาะติดกับผิวได้อย่างยาวนาน สำหรับ CC Cream รุ่นนี้เป็นสูตรกันน้ำที่มีค่า SPF40 / PA+++ ที่ผสมทั้งเอสเซนส์ รองพื้น เมคอัพเบส กันแดด และมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยบำรุงผิว พร้อมปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ควบคุมความมันได้ดี ช่วยเบลอรูขุมขน รวมถึงเมื่อเวลาผ่านไป เนื้อผลิตภัณฑ์จะไม่เปลี่ยนสี หรือทำให้ผิวดรอปและหมองคล้ำ
นอกจากนี้ เนื้อสัมผัสจะมีความบางเบา แต่สามารถเพิ่มการปกปิดได้ตั้งแต่ระดับบางเบาไปจนถึงปานกลาง แถมเม็ดสียังมีความแน่นจึงสามารถกลบรอยแดงและรอยดำจาง ๆ ได้ ส่วนฟินิชผิวที่ออกมาจะมีความแมตต์กลาง ๆ ที่ไม่ทำให้ผิวดูหนา อีกทั้งหลังจากที่ผลิตภัณฑ์มีการเซ็ตตัวผิวจะค่อย ๆ ผ่องขึ้น โดยจะไม่ทำให้ผิวดูมันวาวจนเกินไป แถมยังปราศจากน้ำหอมอีกด้วย ทั้งนี้ ถึงแม้จะมีให้เลือกเพียงหนึ่งเฉดสีเท่านั้น แต่ด้วยเนื้อสีที่บาง จึงทำให้ผิวดูไม่ขาวลอย
สำหรับคนที่มีผิวแห้ง แต่อยากปรับสภาพผิวที่หมองคล้ำให้ดูกระจ่างใสและมีฟินิชผิวที่โกลว์สวย ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ CC Cream จากแบรนด์นี้ ซึ่งมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงผิว ได้แก่ ไนอะซินาไมด์ กลีเซอรีน เชียบัตเตอร์ และวิตามินอีที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว รวมถึงยังช่วยให้เนื้อผลิตภัณฑ์เกลี่ยง่าย พร้อมกับให้ผิวดูเรียบเนียนและไม่แห้งตึง อีกทั้งยังมีเม็ดสีไมโครเพิร์ลที่ช่วยกระจายแสงให้ผิวดูสว่างและสดใสมากขึ้นกว่าเดิม
ทางด้านเนื้อสัมผัสนั้นจะมีความบางเบา ให้ความเบาสบาย และจะค่อย ๆ แห้งแนบเนียนไปกับผิว โดยจะไม่ทิ้งคราบ หรือความเหนียวเหนอะหนะเอาไว้ แถมยังช่วยปรับสภาพผิวที่ไม่สม่ำเสมอและมีสารกันแดด SPF50 / PA++++ ที่สูงมาก จึงช่วยปกป้องแสงแดดได้อย่างดีเยี่ยมโดยไม่จำเป็นต้องทาครีมกันแดด ทั้งนี้ เนื่องจากมีส่วนผสมของเมทิลพาราเบนและน้ำหอม แม้ว่าจะมีปริมาณน้อย สำหรับคนที่แพ้ส่วนผสมเหล่านี้ควรหลีกเลี่ยง อีกทั้งผลิตภัณฑ์นี้ไม่สามารถปกปิดรอยต่าง ๆ ได้
สำหรับเทคนิควิธีการลง CC Cream ให้เรียบเนียนมีดังต่อไปนี้
1. เตรียมสภาพผิว ลงครีมบำรุงให้เรียบร้อย
2. ลงไพร์มเมอร์เพื่อช่วยเบลอรูขุมขน
3. ลง CC Cream โดยสามารถใช้ได้ทั้งการใช้นิ้วเกลี่ย ลงด้วยฟองน้ำ หรือแปรง อยู่ที่ว่าต้องการความปกปิดในระดับไหน แต่ถ้าอยากให้เรียบเนียนขอแนะนำว่า ควรใช้ฟองน้ำ หรือแปรงในการลงมากกว่าการเกลี่ยด้วยนิ้ว เพราะการเกลี่ยด้วยนิ้วน้ำหนักของมืออาจจะไม่สม่ำเสมอ เมื่อเทียบกับฟองน้ำและแปรง โดยลงในปริมาณที่น้อยก่อนให้ทั่วใบหน้าแล้วค่อยมาเก็บในจุดที่มีปัญหา โดยการแต้มเพิ่มเฉพาะจุดแล้วค่อย ๆ เกลี่ยให้กลืนกับส่วนแรกที่ลงไป
4. ฉีด Setting Spray เพื่อล็อกเมคอัพให้ติดทนระหว่างวัน
สิ่งที่ควรระวังเป็นพิเศษสำหรับคนเป็นสิว หรือผิวแพ้ง่ายคือ ไม่ควรลง CC Cream มากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวอุดตันได้เช่นกัน รวมทั้งควรเลือกระดับการปกปิดและส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวด้วย
จะเห็นว่าครีมรองพื้น CC นั้นเป็นเครื่องสำอางที่หาซื้อได้ง่ายและมีให้เลือกมากมายหลายแบรนด์ อย่างไรก็ตาม ครีมรองพื้น CC อาจไม่ได้ออกแบบมาให้เหมาะกับทุกคนเสมอไป ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาพผิวของผู้ใช้ เนื้อสัมผัส รวมถึงฟินิชผิว ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็ได้มีการคิดค้นสูตรและใส่ส่วนผสมที่แตกต่างกัน อีกทั้งควรเลือกเนื้อสีและเฉดสีให้เหมาะกับผิวของตนเองด้วย เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ผลิตภัณฑ์ CC Cream ที่ตรงกับความต้องการมาใช้แล้วค่ะ
อันดับที่ 1: Cathy Doll |CC Cream Speed White CC Cream SPF50 PA+++
อันดับที่ 2: CHANEL|CC Cream SUPER Active Complete Correction SPF50
อันดับที่ 3: iT COSMETICS|CC Cream Your Skin But Better™ CC+™ Oil Free Matte SPF 40+
อันดับที่ 4: MERREZ'CA |CC Cream Color Correcting CC cream
อันดับที่ 5: Smooth E |CC Cream White Babyface
คลิกที่นี่สำหรับการจัดอันดับคำบรรยายสินค้าแต่ละรายการอ้างอิงจากเนื้อหาที่แสดงในเว็บไซต์ผู้ผลิต แบรนด์ และเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
ความงาม, ของใช้ส่วนตัว
วัสดุก่อสร้าง, เครื่องมือและอุปกรณ์ช่าง
สวนและอุปกรณ์ในสวน
โน้ตบุ๊ก, PC, อุปกรณ์ไอที
ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ในบ้าน
เครื่องใช้ไฟฟ้า
กล้อง
เครื่องสำอาง, สกินแคร์
สุขภาพ
อาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องใช้ในครัว
แฟชั่น
รองเท้า
นาฬิกา, เครื่องประดับ
แม่และเด็ก
เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
งานอดิเรก
กิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, เครื่องเขียน, อุปกรณ์สำนักงาน
กีฬา
สัตว์เลี้ยง
หนังสือ
เกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
ของขวัญ, ของฝาก
ท่องเที่ยว
สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริม
เครือข่ายมือถือ
การลงทุน
เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ดนตรี, เครื่องเสียง
แอปพลิเคชัน, โปรแกรม
บริการ