10 อันดับ สกินแคร์ของญี่ปุ่นหาได้ในไทยที่ช่วยให้มั่นใจใน "หน้าสด" ! By BeamSensei

10 อันดับ สกินแคร์ของญี่ปุ่นหาได้ในไทยที่ช่วยให้มั่นใจใน "หน้าสด" ! By BeamSensei

เนื่องจากหลายๆคนรีเควสเข้ามาว่าอยากให้บีมรีวิวสกินแคร์ เพราะเวลาเห็นในไลฟ์แล้วหน้าใสจัง ! วันนี้บีมก็เลยจะมาแนะนำสกินแคร์ของญี่ปุ่นที่บีมลองผิดลองถูกตอนอยู่ญี่ปุ่นกว่า 4 ปีค่ะ แต่ก่อนตอนที่ไปญี่ปุ่นใหม่ๆบีมไม่กล้าหน้าสดออกจากห้อง ต้องแต่งหน้าทุกวัน แม้แต่เวลาอยู่ที่หอ เพราะอายสภาพผิวหน้าตัวเอง (อันนี้เรื่องจริง) คือบีมขอบตาดำมากและยังมีรอยสิวแดงๆเป็นผื่นสิวทั่วหน้าผาก บีมก็เลยลองผิดลองถูกกับสกินแคร์มาเรื่อยๆ อาศัยดูในเว็บไซต์ญี่ปุ่นว่าสกินแคร์ตัวไหนที่ได้คะแนนเยอะๆ ทดลองจนผ่านมาหลายปี วันนี้บีมมั่นใจในหน้าสดแล้ว ! มาดูกันเลยว่าบีมใช้อะไรบ้าง
Creator Image
BeamSensei
ภาษาญี่ปุ่น, การท่องเที่ยวญี่ปุ่น, วัฒนธรรมญี่ปุ่น สินค้า/ผลิตภัณฑ์ญี่ปุ่น
  • Labo Labo
    Super Keana Oil Cleansing (110 ml)


    BeamSensei

    ตัวนี้บีมรักมากเลยค่ะ ใช้มาเป็นสิบขวดแล้ว ! เป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ย่อยของ Dr.Ci:Labo ซึ่งแบรนด์ Labo Labo จะมีกลุ่มเป้าหมายที่อายุน้อยลงมาหน่อย เน้นการกระชับรูขุมขนโดยเฉพาะ

    ปกติบีมไม่ชอบใช้ที่ล้างเครื่องสำอางแบบออยล์เพราะรู้สึกว่ามันแสบตา บีมคิดว่าบริเวณรอบดวงตาบีมค่อนข้างบอบบางมากๆ แล้วอีกอย่างบีมไม่ค่อยชอบใช้สำลีในการเช็ดเครื่องสำอางด้วย อยากนวดถูเบาๆแล้วล้างออกเลย แต่ตัวนี้ตอบโจทย์มากเลยค่ะ โชคดีที่ได้เจอ กดออกมาเพียงครั้งเดียวก็สามารถลบเกลี้ยงสะอาดทั้งใบหน้าและดวงตาโดยไม่ทำให้แสบตาแม้แต่น้อย เนื้อออยล์ไม่เหนียวมาก มีกลิ่นหอมช่วยให้ผ่อนคลายสุดๆ บีมใช้มา 3 ปีแล้วแหละ !
  • Cow Brand Mutenka
    Moisturizing Facial Foam (110 g)


    BeamSensei

    無添加 Mutenka ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงการไม่ปรุงแต่งสารต่างๆ ผลิตภัณฑ์ของ Mutenka จึงเน้นความเป็นธรรมชาติ ไม่เติมแต่งด้วยสารเคมีต่างๆ ตามชื่อเขาเลยค่ะ

    โฟมล้างหน้าชิ้นนี้ก็เช่นกัน ไม่ใส่สี กลิ่น แอลกอฮอล์หรือแม้แต่สารคงรูป เหมาะสำหรับคนผิวบอบบางหรือผู้ที่ไม่อยากให้มีสารเคมีตกค้างบนใบหน้า นอกจากจะล้างหน้าได้สะอาดแล้ว หลังใช้ยังรู้สึกว่าผิวเด้งนุ่มขึ้นมากอีกด้วย นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์นี้ยังติดอันดับโฟมล้างหน้ายอดนิยมในเว็บ cosme ของญี่ปุ่นด้วยนะคะ คะแนนก็ค่อนข้างสูงทีเดียว
  • SK-II
    Facial Treatment Clear Lotion (230 ml)


    BeamSensei

    สำหรับตัวนี้บีมใช้มาได้เกือบสองปีแล้ว ใช้หลังล้างหน้าเช้าเย็น หมดไปหลายขวดเลยค่ะ เนื้อโลชั่นบางเบาสบายหน้ามาก แถมยังมีสารพิเทร่าอันโด่งดังที่ช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิวผสมอยู่ด้วย

    ตัวนี้บีมคิดว่าสามารถทำความสะอาดสิ่งตกค้างบนผิวหน้าของเราได้ดีจริงๆ เพราะวันไหนที่บีมออกจากบ้านไปทำงาน จะเห็นได้เลยว่าเช็ดออกมาสำลีมีคราบสกปรกดำๆติดมาด้วย ทั้งๆที่ดูในกระจกหน้าเราก็ไม่มีคราบอะไรเลยนะ ส่วนวันที่ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เวลาเช็ดหน้าก็จะไม่ค่อยมีคราบอะไรค่ะ เรียกได้ว่าสัมผัสถึงความสกปรกที่ตกค้างบนหน้าในแต่ละวันได้เลย !
  • SK-II
    Facial Treatment Essence (75 ml)


    BeamSensei

    ตัวนี้บีมใช้มาได้เกือบสองปีเช่นกันค่ะ เรื่องมีอยู่ว่าเคยเห็นเพื่อนหน้าใสขึ้นแตกต่างจากเดิมมาก เลยถามว่าเขาใช้อะไร เกือบทุกคนที่ถามเลยเขาบอกใช้ตัวนี้ บีมเลยซื้อตามแบบไม่ลังเล ผลปรากฎคือหน้าบีมดีขึ้นมาก จากที่มีรอยดำสิว มันก็ค่อยๆจางลงจนหายไป หน้าดูเด้งเนียนใสขึ้นจริงๆ

    ตัวนี้ผสมพิเทร่าเช่นกัน เนื้อเอสเซนส์เป็นสีใสๆ ซึมไวมาก ไม่เหนียวเหนอะหนะเลย นอกจากนี้ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีเป็นอันดับ 1 ของแบรนด์ SK-II เลยก็ว่าได้ สำหรับบีมก็คงจะซื้อใช้ต่อไปเรื่อยๆ เป็นสกินแคร์ที่ขาดไม่ได้ซะแล้วค่ะ !
  • MICCOSMO
    WHITE LABEL PREMIUM PLACENTA CREAM (60 g)


    BeamSensei

    ตัวนี้ก็เป็นอีกตัวที่บีมชอบมากๆ ใช้มาหลายกระปุกแล้วค่ะ เหมาะสำหรับคนหน้าแห้งถึงแห้งมากจนลอกเป็นขุย ทั้งที่แห้งจากอากาศหนาวหรือแห้งเพราะอยู่ในห้องแอร์นานๆ บีมเคยแนะนำไปหลายคน ทุกคนใช้แล้วก็ติดกันหนึบหนับ ราคาไม่แพงด้วย

    เนื้อครีมเข้มข้นแต่ไม่หนืดไม่เหนียวค้างบนใบหน้า สำหรับบีมแล้วทาปุ๊บคือดีขึ้นทันตาเห็น ปัจจุบันนี้บีมใช้ทาเช้าเย็น ทาก่อนแต่งหน้าแล้วรู้สึกว่าทำให้เครื่องสำอางติดหน้าดีขึ้นและหน้าไม่ลอกแห้งระหว่างวันด้วยค่ะ
  • MICCOSMO
    WHITE LABEL PREMIUM PLACENTA EYE CREAM (30 g)


    BeamSensei

    อย่างที่บอกไปว่ารอบดวงตาบีมบอบบางมาก บีมมักจะแพ้เวลาใช้ Eyecream ยี่ห้อต่างๆ โดยจะมีอาการแสบร้อนบริเวณรอบดวงตามาก แต่ตัวนี้ไม่เป็นนะ !

    ทาแล้วรู้สึกว่าชุ่มชื่นมาก เนื้อครีมเข้มข้น ไม่ใส่สี กลิ่นและแอลกอฮอล์ สะอาดปลอดภัยต่อผิวมากๆค่ะ ที่สำคัญรอยเหี่ยวย่นและรอยคล้ำต่างๆก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ใช้ทั้งก่อนนอนและก่อนแต่งหน้าเลยค่ะ
  • KOSE
    CLEAR TURN Babyish White Mask (50 pcs.)


    BeamSensei

    ตัวนี้เป็นมาส์กที่เน้นช่วยในเรื่องของการเพิ่มความชุ่มชื้น ให้ผิวสัมผัสหน้าของเราเหมือนผิวเด็กทารกค่ะ กล่าวคือเมื่อหน้าเราชุ่มชื้น รอยเหี่ยวย่นหรือสิวบางประเภทก็จะเกิดได้ยากขึ้น

    นอกจากนี้ยังสามารถช่วยในเรื่องของหน้าขาวใสได้ด้วยเพราะมีส่วนผสมของวิตามินซี ไม่ใส่สี กลิ่นและไม่มีแอลกอฮอล์ค่ะ ที่สำคัญใช้คอตตอนที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น จึงอ่อนนุ่มแนบไปกับโครงหน้า มีทั้งแบบใช้ได้ 7 ครั้งและแบบ 50 ครั้งให้เลือกค่ะ ใช้ได้ทุกวันเลย แนะนำให้ใช้ก่อนนอนจะสบายหน้ามาก แต่อย่าลืมเอาออกก่อนจะหลับไปนะคะ !
  • Taiyou no Aloe
    Hyaluronic Acid (10 ml)


    BeamSensei

    เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีมากๆที่ญี่ปุ่น บีมเลยลองซื้อมาใช้ดูค่ะ ตัวนี้เป็นหัวเชื้อไฮยาลูรอนเข้มข้น โดยเข้มข้นกว่าแบบที่ผสมอยู่ในสกินแคร์แต่ละอย่างที่เราใช้กัน ซึ่งกรดไฮยาลูโรนิคนี้เป็นกรดที่ร่างกายเราผลิตขึ้นได้เอง ช่วยในการคงความชุ่มชื่น รักษาริ้วรอย แต่เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะผลิตได้ลดลงตามลำดับ ดังนั้นหลายๆแบรนด์จึงนำมาใช้เป็นส่วนผสมหลักในครีมบำรุงผิวค่ะ

    ซึ่งตัวนี้เป็นหัวเชื้อเข้มข้น สามารถหยดลงไปผสมกับครีมบำรุงหน้าอื่นๆที่เราใช้อยู่โดยตรงได้เลย หรือจะเป็นยาสระผม, ครีมล้างหน้า, บอดี้แคร์ต่างๆก็ได้นะคะ ซึ่งปริมาณในการผสมใช้อยู่ที่ 5-10% ของปริมาณครีมที่จะผสมค่ะ
  • ANESSA
    Perfect UV sunscreen mild milk SPF50+ PA++++ (For Sensitive Skin) (60 ml)


    BeamSensei

    ครีมกันแดดในตำนานที่สำหรับคนญี่ปุ่นใครๆก็รู้จัก และตัวนี้ก็โด่งดังในหมู่ชาวต่างชาติด้วยค่ะ ใช้ได้ทั้งร่างเลยไม่ว่าจะเป็นหน้าหรือตัว เรียกว่าขวดเดียวครบครัน แต่ด้วยเนื้อครีมที่บางเบา บีมจึงชอบเอามาใช้กับหน้ามากกว่า จากประสบการณ์บีมเคยเอาไปใช้ที่บาหลีมาแล้วค่ะ แดดแรงมาก สำหรับบีมหน้าแทบไม่คล้ำลงเลย

    วิธีใช้ตัวนี้ต้องเขย่าขวดให้ครีมข้างในเข้ากันดีก่อน ใช้เป็นอันดับสุดท้ายของสกินแคร์นะคะ และเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น เวลาเราเช็ดหน้าซับเหงื่อ อย่าลืมทาซ้ำด้วยนะคะ !
  • Nivea
    Creme Care Lip Balm (7 g)


    BeamSensei

    ตัวนี้บีมใช้มาหลายปีมากแล้วค่ะ เวลาไปญี่ปุ่นจะซื้อมาตุนไว้ครั้งละ 4-5 ตลับเลยเพราะขาดตัวนี้เหมือนขาดใจ โดยเฉลี่ยใช้เดือนละ 1 ตลับค่ะเพราะว่าบีมเป็นคนติดลิปมันมาก เพิ่งรู้ว่าใน LAZADA ก็มีขาย แต่ว่ายังมีกลิ่นเดียวอยู่นะคะ คือกลิ่นธรรมชาติไม่แต่งกลิ่นเพิ่ม ส่วนของญี่ปุ่นจะมีกลิ่นน้ำผึ้งกับวานิลลาด้วย แต่เนื้อลิปเหมือนกันเลยค่ะ

    สำหรับบีมลิปมันบางยี่ห้อทาไปแล้วจะแห้งเร็ว ปากก็กลับมาแห้งเหมือนเดิม แต่ตัวนี้ทาแล้วชุ่มชื่นติดทนนาน ไม่ต้องทาบ่อยๆค่ะ ใครที่มีปัญหาปากแห้ง ปากแตกเป็นร่องๆ ปากลอก รับรองว่าตัวนี้เอาอยู่แน่นอน !