ปฏิเสธไม่ได้ว่าการดูหนังและซีรีส์ทางสตรีมมิงกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตเราไปเสียแล้ว โดยเฉพาะยุคโควิด-19 ที่เราต้องอยู่ติดบ้านมากขึ้น บริการสตรีมมิงต่าง ๆ ก็แทบจะกลายมิตรแท้ไปเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับการดูซีรีส์ต่าง ๆ ช่องทางการดูก็คงหนีไปไหนไม่พ้นกับผู้ให้บริการเจ้าดังอย่าง Netflix ที่ผู้อ่านหลายท่านอาจจะเคยดูซีรีส์ดัง ๆ อย่าง Stranger Things, The Crown, Kingdom หรือ Itaewon Class มากันบ้าง
อย่างไรก็ตาม สำหรับบทความนี้เราจะขอแนะนำซีรีส์และภาพยนตร์สารคดีที่อาจจะไม่ค่อยแมสเท่าใดนัก บรรรดาสารคดีเหล่านี้ซ่อนตัวเป็นเพชรเม็ดงามอยู่ใน Netflix พอพูดคำว่าสารคดีปุ๊บ บางคนอาจทำหน้าเบื่อหรือชิงหลับไปก่อนเลย แต่สารคดีสมัยนี้มีความสนุก โหด-มัน-ฮา และจุดหักมุมต่าง ๆ ที่น่าทึ่ง โดยวันนี้ ผู้เขียนจะขอเน้นสารคดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องฆาตกรรม ลึกลับ เหวอ เฮี้ยน เอาแบบเน้น ๆ จัดเต็มไปเลยจ้า
เตือนก่อนเลยว่าภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ค่อนข้างหนักหนาสาหัส กระทบจิตใจคนดูได้จึงควรดูเมื่อสภาพจิตใจพร้อมเท่านั้น เริ่มเรื่องด้วยอเล็กซ์ที่ประสบอุบัติเหตุจนความจำเสื่อม คนเดียวที่เขาจำได้ก็คือมาร์คัสผู้เป็นน้องชาย อเล็กซ์จึงมีน้องชายเป็นเข็มทิศนำชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวัน อะไรอยู่ตรงไหนในบ้าน ไปจนถึงการอธิบายเกี่ยวกับคนในครอบครัว
อเล็กซ์เชื่อคำบอกเล่าของมาร์คัสด้วยความเชื่อที่ว่าครอบครัวของเขามีความสุขดี แต่ก็รู้สึกแปลกใจกับหลายสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นพ่อผู้เย็นชาหรือบางห้องในบ้านที่ถูกห้ามให้เข้า อเล็กซ์พยายามหาคำตอบของปริศนาเหล่านั้น โดยที่ไม่รู้เลยว่ามันจะนำเขาไปสู่ความดำมืดที่สุดที่มนุษย์คนหนึ่งจะประสบได้ ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ไม่ใช่การย้ำเตือนถึงความทรงจำเลวร้าย หากแต่บอกเล่าถึงการก้าวต่อไปในชีวิต แม้ว่ามันจะยากลำบากเหลือทนก็ตาม
ลองจินตนาการว่าอยู่ดี ๆ คุณก็ได้พบกับฝาแฝดที่คุณไม่เคยเจอมาก่อน และไป ๆ มา ๆ คุณไม่ได้มีกันแค่สองคน แต่ยังมีอีกคนจนกลายเป็นแฝดสาม ฟังดูเป็นพล็อตหนังวายป่วง แต่นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในสหรัฐอเมริกายุค 80 ที่เล่าเกี่ยวกับการพบเจอกันของแฝดสาม
ช่วงแรกดูเป็นเรื่องชื่นมื่น พวกเขากลายเป็นคนดังทันที แต่คำถามคือทำไมพวกเขาถึงถูกแยกกันล่ะ? แล้วทำไมแต่ละคนถึงได้ไปอยู่กับครอบครัวที่ฐานะไม่เท่าเทียมกัน? ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้พาเราไปหาคำตอบอย่างใจเย็น จนกระทั่งเฉลยบทสรุปอันน่าเจ็บปวดและแทบไม่น่าเชื่อว่ามนุษย์เราจะใจร้ายต่อกันได้เพียงนี้
ปี 2010 คลิปชื่อ 1 boy 2 kittens ถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊ก หากแต่ไม่ใช่คลิปสัตว์น่ารัก แต่เป็นคลิปชายหนุ่มทรมานลูกแมวจนถึงแก่ความตาย แน่นอนว่าคนที่ทนไม่ได้ที่สุดก็คือ บรรดาคนรักแมวจากทั่วโลกที่รวมกลุ่มกันทางอินเทอร์เน็ตเพื่อตามล่าชายผู้นี้ แต่เมื่อสืบลึกเข้าไปเรื่อย ๆ กลับพบว่าเขาไม่ได้แค่ฆ่าแต่แมว แต่ยังฆ่าคนด้วย
ซีรีส์สารคดีเรื่องนี้คือหนึ่งในที่สะท้อนได้ดีว่าพลังของ "ชาวเน็ต" นั้นช่างรุนแรงและไม่ควรประเมินต่ำจนเกินไป จนระหว่างที่ดูก็ทำให้เริ่มชักไม่แน่ใจว่าฝ่ายไหนกันแน่ที่น่ากลัวกว่ากัน
ซีรีส์สารคดีที่อาจกล่าวได้ว่าทำให้คนหันมาสนใจสารคดีอย่างจริงจัง ด้วยเรื่องราวของ สตีเวน เอเวอรี ชายผู้ถูกจับกุมข้อหาข่มขืนและพยายามฆ่าจนต้องติดคุกอยู่ 18 ปี แต่เมื่อเทคโนโลยีการตรวจ DNA พัฒนา คดีก็พลิกว่าสตีเวนเป็นผู้บริสุทธิ์ เขากลายเป็นคนที่สังคมพากันเห็นอกเห็นใจ
ทว่าต่อมา สตีเวนก็ถูกจับอีกครั้งในข้อหาฆาตกรรมหญิงสาว (จนต้องอุทานออกมาว่า นี่มันอะไรกันเนี่ย!) สารคดีเรื่องนี้อาจจะดูยากสักเล็กน้อยเพราะเต็มไปด้วยฟุตเทจสัมภาษณ์และการว่าความในศาล แต่มันก็ทำให้ผู้คนหันมาใคร่ครวญถึงระบบยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว
โจ เอ็กโซติก ถือเป็นบุคคลชั้นดีสำหรับผู้กำกับสารคดี เขาทำอาชีพแปลกประหลาดอย่างการเปิดสวนสัตว์และเพาะเลี้ยงเสือ มีชีวิตสุดแซ่บ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งงานกับผู้ชายพร้อมกันสองคน ลงสมัครเป็นผู้ว่ารัฐโอคลาโฮมาด้วยการแจกถุงยางที่พิมพ์เป็นรูปหน้าตัวเอง
แต่เรื่องเด็ดที่สุดของซีรีส์นี้ก็คือ การที่เขามีคู่ปรับตลอดกาลเป็นนักสิทธิสัตว์ และมีคนสงสัยว่าโจอาจจะพยายามลอบฆ่าเธอด้วย นี่คือสารคดีที่เต็มไปด้วยคนเพี้ยน คนหิวแสง เต็มไปด้วยความพิศวงว่าคนที่เรากำลังฟังหรือดูอยู่นั้น เขากำลังพูดความจริงหรือปลิ้นปล้อนอยู่กันแน่
ซีรีส์สารคดีแนวสืบสวนรุ่นเก๋าที่ออนแอร์มาตั้งแต่ปี 1987 และเพิ่งนำกลับมาฉายอีกครั้งทาง Netflix เมื่อปี 2020 แม้ว่าสไตล์ซีรีส์สารคดีของ Unsolved Mysteries อาจจะติดเชยแบบรายการโทรทัศน์สักหน่อย ถึงกระนั้นแต่ละคดีที่นำเสนอก็ช่างหลอกหลอนและรบกวนจิตใจผู้ชมได้เป็นอย่างยิ่ง
สองตอนที่ผู้เขียนชื่นชอบเป็นพิเศษคือ คดีฆ่ายกครัวตระกูลดูปองต์ เดอ ลิกอนเนส โดยมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับผู้เป็นพ่อที่สังหารภรรยาและลูก ๆ ของตน จากนั้นก็หายตัวไปอย่างลึกลับ ส่วนอีกตอนก็คือเคสปี 1995 ที่หญิงสาวเข้าพักโรงแรมในกรุงออสโลและเธอได้ยิงตัวตาย แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเธอคือใครจนกระทั่งทุกวันนี้
โดยปกติแล้วฆาตกรต่อเนื่องมักมี "รูปแบบ" การฆ่าแบบซ้ำ ๆ หากแต่ ริชาร์ด รามิเรซ เจ้าของฉายา "นักล่ารัตติกาล" สามารถฆ่าและล่วงละเมิดทางเพศได้ทั้งชาย-หญิง, เด็ก-คนแก่, คนผิวขาว-ผิวสี-เอเชีย เขาจึงถือเป็นฆาตกรอันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์อาชญากรรม
สำหรับซีรีส์สารคดีเรื่องนี้ได้นำเสนอบทสัมภาษณ์ผู้คนหลากหลาย ทั้งตำรวจ นักข่าว ครอบครัวของเหยื่อ ไปจนถึงเหยื่อที่รอดชีวิต มันจึงไม่ใช่แค่เรื่องของคดีสยองขวัญหรือบาดแผลของผู้ถูกกระทำ แต่ยังมีประเด็นความขัดแย้งของตำรวจกับนักข่าวหรือกระทั่งตำรวจด้วยกันเอง
ครอบครัววัตต์ประกอบด้วยสามี ภรรยา และลูกน่ารักอีกสองคน มองเผิน ๆ แล้ว พวกเขาดูเป็นครอบครัวในอุดมคติที่คนอื่นอยากยึดเป็นแบบอย่าง ทว่าวันหนึ่ง ภรรยาและลูกสองคนกลับหายตัวไปอย่างลึกลับ ฝ่ายสามีก็ออกตามหาอย่างเอาเป็นเอาตาย
ตัวหนังจะค่อย ๆ เปิดเผยความลับทีละเล็กละน้อย จนนำไปสู่ความช็อกระดับทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ที่ใครต่อใครพากันพูดถึงตอนที่ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ออกฉาย นี่เป็นข้อคิดชั้นดีว่าสิ่งที่ดูสวยหรูในภายนอกนั้นอาจมีความเน่าเฟะซ่อนอยู่ภายใน จนที่ใคร ๆ ก็คาดไม่ถึง
ตัวซีรีส์สารคดีเรื่องนี้พาเราย้อนกลับไปในปี 2003 โดยเกิดเรื่องราวสุดประหลาดเมื่อชายส่งพิซซ่าเข้าบุกปล้นธนาคาร เขาขู่ว่าตัวเองมีระเบิดห้อยคออยู่ แม้ว่าเจ้าตัวจะคิดว่ามันคือของปลอม แต่ท้ายสุดก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อมันระเบิดจนทำให้เขาตายคาที่
ผู้กำกับเกิดติดใจในเรื่องราวนี้ จึงสัมภาษณ์ผู้คนมากมายที่เกี่ยวข้องกับผู้ตาย จนในที่สุดเขาก็ได้พบกับผู้ที่เกี่ยวข้องและหญิงสาวผู้อยู่เบื้องหลังที่คอยชักใยการปล้นครั้งนี้ ด้วยความที่เธอมีคาแรกเตอร์ที่จัดจ้านจึงทำให้สารคดีสนุกมากขึ้นไปอีกระดับ เชื่อได้ว่า สารคดีเรื่องนี้จะทำให้คนดูอ้าปากหวออย่างแน่นอน
หนังฮอลลีวูดบางเรื่องอาจนำเสนอภาพฆาตกรต่อเนื่องเป็นคนสังคมที่ไม่ยอมรับ น่ารังเกียจ แต่ในชีวิตจริง พวกเขามักมีหน้าตาและบุคลิกที่ดี มีเสน่ห์แพรวพราว และดูเหมือนคนทั่วไปเช่นเดียวกับ เท็ด บันดี้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในบุคคลประเภทนั้น
ตัวซีรีส์สารคดีเรื่องนี้พยายามแสดงให้เห็นถึงแง่มุมชีวิตของเขา ตั้งแต่ชีวิตวัยเด็ก ครอบครัว ช่วงเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ไปจนถึงตอนที่เริ่มฆ่าคน ผ่านเทปสัมภาษณ์ของบันดี้ที่คัดเลือกมาจากบันทึกเทปราวร้อยชั่วโมง ซีรีส์อาจดำเนินเรื่องแบบเรื่อย ๆ ไม่หวือหวา แต่จะค่อย ๆ พาเราดำดิ่งสู่ความน่าขนลุกของฆาตกรรายนี้ จนอาจจะทำให้คนดูถึงขั้นระแวงคนหน้าตาดีที่เข้ามาในชีวิตจริงเลยทีเดียว
จากสารคดีที่เลือกมา 10 เรื่อง ผู้เขียนคิดว่ามีข้อน่าสังเกต 2 ประการด้วยกัน หนึ่งคือ ผลงานเหล่านี้ล้วนเล่นกับความอยากรู้ความเห็นของมนุษย์ หลายเรื่องทำให้เราเผลอสวมบทนักสืบหรือผู้พิพากษาโดยไม่รู้ตัว สองคือ ทุกเรื่องเกี่ยวพันกับคนไม่ปกติหรือเหตุการณ์ผิดปกติ ซึ่งโลกยุคร่วมสมัย เส้นแบ่งของสิ่งที่ "ปกติ" และ "ไม่ปกติ" นั้น นับวันก็ยิ่งจะเลือนลางลงทุกที คนที่จะใช้ชีวิตรอดต่อไปได้ก็คือผู้มีทักษะการ "ครองสติ" ขั้นสูงนั่นเอง
ของใช้ในบ้าน
ผลิตภัณฑ์ซักรีด、อุปกรณ์ทำความสะอาด、ของใช้ส่วนตัวเครื่องใช้ไฟฟ้า, PC
อุปกรณ์ไอที、โน้ตบุ๊ก、หูฟังกล้อง
กล้อง、อุปกรณ์กล้องเครื่องสำอาง, สกินแคร์
ผลิตภัณฑ์ดูแลผม、ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ、น้ำหอมสุขภาพ
อุปกรณ์การแพทย์、อาหารเสริม、อุปกรณ์เพื่อสุขภาพอาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องดื่ม、อาหารสุขภาพ、อาหารเครื่องใช้ในครัว
อุปกรณ์ครัว、เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว、อุปกรณ์เบเกอรี่แฟชั่น
แว่นตา、กระเป๋า、กระเป๋าแบรนด์เนมรองเท้า
รองเท้า、อุปกรณ์เสริมรองเท้า、รองเท้ากีฬานาฬิกา, เครื่องประดับ
นาฬิกา、เครื่องประดับแม่และเด็ก
ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก、ของเล่นเด็กเล็ก、ผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน, รีโนเวท
ของตกแต่งบ้าน、เฟอร์นิเจอร์、สุขภัณฑ์ห้องน้ำงานอดิเรก
ของสะสม 、ศาสนาและความเชื่อ 、บ้านและสวนกิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, อุปกรณ์
อุปกรณ์ในบ้าน、เครื่องมือช่าง、อุปกรณ์เครื่องเขียนกีฬา
ชุดกีฬา、อุปกรณ์กีฬาสัตว์เลี้ยง
อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง、อาหารสัตว์เลี้ยง、ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพสัตว์เลี้ยงหนังสือ
หนังสือพัฒนาตนเอง、หนังสือทั่วไป、นวนิยายเกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
รถยนต์、อุปกรณ์เสริมรถยนต์、รถจักรยานยนต์ของขวัญ
ของฝากท่องเที่ยว
กระเป๋าเดินทาง、อุปกรณ์เดินทาง、โรงแรมสมาร์ทโฟน, มือถือ, อุปกรณ์เสริมมือถือ
โทรศัพท์มือถือ、อุปกรณ์เสริมมือถือเครือข่ายมือถือ
การลงทุน
กองทุน、หุ้น、คริปโตเคอเรนซี่เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ประกัน、สินเชื่อ、บัตรเครดิตดนตรี
เครื่องดนตรีสากล、เครื่องดนตรีไทยแอปพลิเคชัน
บริการ
คลินิกความงาม、สุขภาพ、เดลิเวอรี่