ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นประเทศต้น ๆ ที่คนไทยมักจะอยากกลับไปเที่ยวอีก ด้วยความงามจากธรรมชาติทั้ง 4 ฤดู วัฒนธรรมที่ชวนหลงใหล หรือแม้กระทั่งความสุภาพนอบน้อมของคนญี่ปุ่น จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมประเทศญี่ปุ่นถึงได้มีเสน่ห์ต่อคนไทยมากนั่นเองค่ะ ในวันนี้ เรามีโจทย์มาให้ผู้อ่านลองมาจินตนาการกันเล่น ๆ ดูค่ะ หากคุณต้องการวางแผนท่องเที่ยวไปญี่ปุ่นสักสัปดาห์ อุปกรณ์หรือสิ่งของอะไรที่เราควรเตรียมไปเพื่อช่วยให้การท่องเที่ยวของเราเพื่อความความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นคะ?
สำหรับหลาย ๆ ท่านที่เคยเดินทางท่องเที่ยวบ่อยครั้ง อาจเป็นเรื่องง่ายหากจะต้องลิสต์รายชื่อสิ่งของเหล่านั้น แต่สำหรับมือใหม่อาจเกิดความกังวลว่า เราเตรียมของไปพร้อมรึยัง จะลืมของไหม ควรนำไปดีหรือเปล่า? และด้วยเหตุนี้ ทางเราจึงขอแบ่งปัน 8 อุปกรณ์ที่ควรเตรียมเพื่อช่วยให้การท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นของคุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น จะเป็นอะไรบ้าง ตามมาอ่านกันด้านล่างได้เลยค่ะ
399 บาท 〜
ถึงแม้บางสถานที่ในประเทศญี่ปุ่นจะมี Free Wi-Fi ให้ใช้ก็จริง แต่หลายจุดอย่างในต่างจังหวัดนั้น ยังไม่ครอบคลุมเรื่องการบริการ Free Wi-Fi ค่ะ เพราะเหตุนี้ นักท่องเที่ยวอย่างเราที่จะไปญี่ปุ่นควรพิจารณาการซื้อซิมการ์ดที่มีอินเทอร์เน็ตไว้ก่อนเดินทางนะคะ
เราขอแนะนำซิมการ์ดที่เราใช้บ่อยที่สุดเวลาไปญี่ปุ่น คือ SIM2FLY จากเครือข่าย AIS ค่ะ มีให้เลือกจำนวนวันที่ต้องการใช้ รวมถึงความเร็วอินเทอร์เน็ตด้วย ข้อดีของเจ้าซิมตัวนี้คือ เมื่อถึงที่ญี่ปุ่น สามารถใส่ซิมการ์ดเข้าไปและใช้งานได้เลย ขอย้ำว่า ใส่แล้วใช้งานได้เลยจริง ๆ ! สะดวกสบายและดีมาก สามารถเปิดใช้หารอบรถ หาสถานที่ท่องเที่ยว หรือแปลภาษาได้ง่าย ๆ เลยค่ะ
690 บาท 〜
เนื่องจากลักษณะเต้าเสียบที่ญี่ปุ่นมักจะเป็นแบบขาแบน และกระแสไฟฟ้าจะอยู่ที่ 110 โวลต์ ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่เป็น 220 โวลต์ค่ะ แม้ตามโรงแรมจะมีเครื่องเป่าผมและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ให้ใช้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางตัวที่เรานำไปด้วยอย่าง กล้องถ่ายรูปหรือที่ชาร์จแบตสำรองนั้น หากใช้หัวแปลงไฟเข้าช่วยก็จะเพิ่มความมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาจากกำลังไฟที่แตกต่างกันนั่นเองค่ะ
เราขอแนะนำเครื่องแปลงไฟแบบ Universal Adapter ที่รองรับการใช้งานมากกว่า 150 ประเทศทั่วโลกอย่าง หัวแปลงปลั๊กไฟ PA-TA01 จาก AUKEY ที่มีรูเสียบและช่อง USB ทั้งแบบ Type A และ Type C แถมเพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบฟิวส์กันไฟกระชากมาให้ถึง 2 ชั้น ทำให้คุณมั่นใจทุกการใช้งานค่ะ
จริง ๆ แล้วยาหลาย ๆ อย่างสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปในญี่ปุ่นเหมือนประเทศไทยเลยค่ะ เพียงแต่ว่าฉลากยานั้นจะเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นหมดเลย ทำให้คนที่ไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นนั้นลำบากในการอ่านฉลากต่าง ๆ และอาจเกิดผลข้างเคียงหากไม่ระวังได้ การเตรียมยาไปเองจึงน่าจะทำให้คุณมั่นใจได้ดีกว่าค่ะ
หนึ่งในไอเทมตระกูลยาที่เราอยากจะแนะนำก็คือ พลาสเตอร์บรรเทาปวด ของ Tiger Balm ตัวนี้เลยค่ะ เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นนั้นมีการคมนาคมต่าง ๆ ที่ดี ทำให้คนนิยมใช้รถไฟและการเดินมากกว่าการขับรถ ถ้าหากมีพลาสเตอร์บรรเทาปวดตัวนี้ติดตัวไว้ ก็จะช่วยให้คุณพร้อมลุยเที่ยวในวันต่อ ๆ ไปได้แน่นอนค่ะ
329 บาท 〜
แบตเตอรี่สำรองสำหรับสมาร์ตโฟน หรือ Power Bank เป็นอุปกรณ์เสริมอีกอย่างที่ควรพกพา เพราะในแต่ละวัน เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้มือถือได้ โดยเฉพาะเวลาเราไปเที่ยวนั้น เราต้องใช้โทรศัพท์ทั้งในการดูแผนที่ ใช้เครื่องช่วยแปลภาษา หรือแม้กระทั่งการอัปโหลดรูปหรือวิดีโอลง SNS ต่าง ๆ หากแบตเตอรี่โทรศัพท์ไม่เพียงพอ ก็อาจจะทำให้เกิดความลำบากได้นั่นเองค่ะ
ส่วนตัวใช้ของยี่ห้อ Eloop รุ่น E12 รุ่นนี้ ที่มีกำลังไฟมากถึง 11,000 mAh แต่น้ำหนักเบา พร้อมไฟ LED ที่แสดงสถานะแบตเตอรี่ที่หลงเหลืออยู่ อีกทั้งยังสามารถชาร์จอุปกรณ์ได้ 2 เครื่องพร้อมกันอีกด้วย แต่อย่าเอา Power Bank โหลดใต้เครื่องเด็ดขาด เพราะอาจระเบิดได้นะคะ
899 บาท 〜
สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างสำหรับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็คือ ครีมกันแดด นั่นเองค่ะ แม้เราจะเห็นฟ้าครึ้มหรือไม่มีแดด ก็อย่าได้ชะล่าใจไปทีเดียว เพราะยังคงมีแสงยูวีหลงเหลืออยู่และเป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าหมองคล้ำได้
เราอยากจะแนะนำครีมกันแดดในดวงใจจากแบรนด์ Anessa ซึ่งอยู่ในเครือของ SHISEDO บางคนขนานนามว่าเป็น "ครีมกันแดดในตำนาน" ด้วยตัวเนื้อครีมบางเบา ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถกันน้ำได้ดี ที่สำคัญ สามารถกัน SPF50+ และ PA++++ ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าแดดแรงแค่ไหนก็เอาอยู่แน่นอน แถมทาได้ทั้งหน้าและลำตัว ซื้อมาใช้แบบคุ้ม ๆ กันไปเลยค่ะ
40 บาท 〜
แม้ว่าในอนาคต โรคระบาดจะหมดไปก็ตาม แต่สิ่งที่เราไม่ควรละเลยก็คือการรักษาความสะอาดนั่นเองค่ะ ในหนึ่งวัน มือของเราจับต้องสิ่งของต่าง ๆ มากมาย ทำให้กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ง่าย ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว หากเราไม่ทำความสะอาดก่อน ก็อาจจะทำให้เชื้อโรคเข้าร่างกายเราได้ง่ายขึ้น ดังนั้น เราจึงควรล้างมือบ่อย ๆ ค่ะ
อย่างที่เราทราบกันดีว่า ในร้านอาหารส่วนมากในญี่ปุ่นจะมีทิชชู่เปียกมาให้ แต่ก็ไม่สามารถทำความสะอาดได้ 100% ดังนั้น การใช้เจลแอลกอฮอล์ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีและสะดวก อย่างตัวที่เราใช้บ่อย ๆ ก็จะเป็น Kirei Kirei เจลล้างมือจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีกลิ่นหอม สามารถฆ่าเชื้อโรคอย่างมีประสิทธิภาพด้วยส่วนผสมของแอลกอฮอล์ถึง 70% ไม่ทำให้ระคายเคืองหรือแสบมือเลย แม้จะใช้หมดระหว่างทริป ก็สามารถหาซื้อเพิ่มเติมได้ในร้านขายยาหรือร้านสะดวกซื้อที่ญี่ปุ่นเช่นกันค่ะ
290 บาท 〜
แม้ท้องฟ้าจะวิปริตแปรปรวน ก็สามารถดึงเจ้าร่มพับคันนี้ออกมาใช้ได้ตลอดเวลาเลยค่ะ ยิ่งถ้าเราได้ไปเที่ยวในช่วงเวลาที่ไต้ฝุ่นเข้าแล้วล่ะก็ อากาศคุณเธอก็จะเปลี่ยนง่ายมาก บางครั้งก็แดดร้อนมาก หรืออยู่ดี ๆ ฝนตกก็มีค่ะ
อุปกรณ์ที่นักท่องเที่ยวอย่างเรามักจะไม่ค่อยคำนึงถึงแต่ควรควรเตรียมเอาไว้เพื่อการเดินทางที่สะดวกสบายก็คือ ร่มพับขนาดเล็ก นั่นเอง สามารถใช้ได้ทั้งกันแสงแดดและกันฝนได้ในเวลาเดียวกัน โดยยี่ห้อที่อยากแนะนำคือ ร่มพับยี่ห้อ BGG ค่ะที่มีน้ำหนักเพียง 155 กรัม ซึ่งทางแบรนด์เคลมเอาไว้ว่าเบากว่า iPhone ที่สำคัญสามารถกันรังสี UV ได้ถึง 100% พร้อมด้ามจับที่แข็งแรง ลมพัดแรงแค่ไหนก็ไม่หักง่าย ๆ ค่ะ
300 บาท 〜
อุปกรณ์ตัวสุดท้ายที่อยากแนะนำคือดินสอกดและปากกา 4 สี รุ่น MSXE5-1000-05 ของ UNI แท่งนี้เลยค่ะ แม้ว่าอุปกรณ์นี้จะเป็นสิ่งที่คนชอบลืมนำไปด้วยบ่อย ๆ แต่ส่วนตัวเราคิดว่าค่อนข้างจำเป็นและควรพกติดตัวไว้สักแท่ง อย่างตอนที่เราต้องกรอกเอกสารคนเข้าเมืองนั้น หากไม่มีปากกาอาจจะต้องเสียเวลาไปต่อแถวรอเขียนหรือยืมคนอื่น ซึ่งไม่สะดวกเอามาก ๆ เลยค่ะ
ความดีงามของปากกาแท่งนี้คือ มีด้วยกันทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ, สีน้ำเงิน, สีเขียว และสีแดง ทำให้เราสามารถจดข้อมูลหรือบันทึกรายรับรายจ่ายได้ง่ายขึ้นด้วยการจำแนกสี อีกทั้งยังสามารถหาซื้อตัวหมึกมาใส่เพิ่มเติมในภายหลังได้ แถมมีดินสอกดมาให้ ทำให้ใช้งานได้หลากหลายตามความต้องการ แม้จบทริปไปแล้ว ก็สามารถใช้กับการทำงานหรือการเรียนได้อีกด้วย เรียกว่าจบครบในแท่งเดียวเลยค่ะ
การท่องเที่ยวในแต่ละครั้งของคุณ นอกเหนือจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ช่วยทำให้การท่องเที่ยวสะดวกสบายมากขึ้นแล้ว สิ่งที่ควรทำอีกอย่างคือ การวางแผนการท่องเที่ยว เพราะจะทำให้เรามีเป้าหมายที่ชัดเจน และกำหนดเวลาได้ในแต่ละวันค่ะ นอกจากนี้ การศึกษาข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ก่อนไป ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ เพราะยิ่งเราศึกษาก็เหมือนได้เรียนรู้และเพิ่มความสนุกของทริปได้มากขึ้น เหมือนคำพูดที่ว่า ยิ่งรู้จัก ยิ่งรักเธอ นั่นเองค่ะ (ฮ่า ๆ)
ของใช้ในบ้าน
ผลิตภัณฑ์ซักรีด、อุปกรณ์ทำความสะอาด、ของใช้ส่วนตัวเครื่องใช้ไฟฟ้า, PC
อุปกรณ์ไอที、โน้ตบุ๊ก、หูฟังกล้อง
กล้อง、อุปกรณ์กล้องเครื่องสำอาง, สกินแคร์
ผลิตภัณฑ์ดูแลผม、ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ、น้ำหอมสุขภาพ
อุปกรณ์การแพทย์、อาหารเสริม、อุปกรณ์เพื่อสุขภาพอาหาร, เครื่องดื่ม
เครื่องดื่ม、อาหารสุขภาพ、อาหารเครื่องใช้ในครัว
อุปกรณ์ครัว、เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว、อุปกรณ์เบเกอรี่แฟชั่น
แว่นตา、กระเป๋า、กระเป๋าแบรนด์เนมรองเท้า
รองเท้า、อุปกรณ์เสริมรองเท้า、รองเท้ากีฬานาฬิกา, เครื่องประดับ
นาฬิกา、เครื่องประดับแม่และเด็ก
ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก、ของเล่นเด็กเล็ก、ผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน, รีโนเวท
ของตกแต่งบ้าน、เฟอร์นิเจอร์、สุขภัณฑ์ห้องน้ำงานอดิเรก
ของสะสม 、ศาสนาและความเชื่อ 、บ้านและสวนกิจกรรมกลางแจ้ง
DIY, อุปกรณ์
อุปกรณ์ในบ้าน、เครื่องมือช่าง、อุปกรณ์เครื่องเขียนกีฬา
ชุดกีฬา、อุปกรณ์กีฬาสัตว์เลี้ยง
อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง、อาหารสัตว์เลี้ยง、ยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพสัตว์เลี้ยงหนังสือ
หนังสือพัฒนาตนเอง、หนังสือทั่วไป、นวนิยายเกม
รถยนต์, รถจักรยานยนต์, อุปกรณ์เสริม
รถยนต์、อุปกรณ์เสริมรถยนต์、รถจักรยานยนต์ของขวัญ
ของฝากท่องเที่ยว
กระเป๋าเดินทาง、อุปกรณ์เดินทาง、โรงแรมสมาร์ทโฟน, มือถือ, อุปกรณ์เสริมมือถือ
โทรศัพท์มือถือ、อุปกรณ์เสริมมือถือเครือข่ายมือถือ
การลงทุน
กองทุน、หุ้น、คริปโตเคอเรนซี่เครดิตการ์ด, สินเชื่อ, ประกัน
ประกัน、สินเชื่อ、บัตรเครดิตดนตรี
เครื่องดนตรีสากล、เครื่องดนตรีไทยแอปพลิเคชัน
บริการ
คลินิกความงาม、สุขภาพ、เดลิเวอรี่